คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Part 10
ทางด้านคุณหนูเล็กตระกูลลีดื่มด่ำกับรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มจนอิ่มหนำ ดวงหน้าหวานโปรยยิ้มมหาเสน่ห์รอบทิศ ถ้าแม้จะถึงเวลาเข้างานมาแล้ว แต่พนักงานของบริษัทไม่ได้ลดลงไปจากบริเวณค๊อฟฟี่ช็อปสักนิด ต่างคิดเหมือนกันว่ายอมเข้าสายสักวัน คงไม่โดนไล่ออก ขอยลโฉมนานๆ หน่อย
“โอย...อิ่มชะมัด พุงจะออกไหมเนี่ย เดี๋ยวคุณมี้จับไปเข้าสปาตายเด็ดๆ ” เสียงหวานบ่นออกมาเบาๆ เป่าปากอย่างเบื่อหน่าย พลันดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
“โอ๊ะโอ๋ ได้เวลาไปเล่นกับหมาน้อยแล้วนี่นา นั่งซะเพลินเลย”
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณคือ ลี ดงแฮ หรือเปล่าคะ”
“ครับ ใช่ครับ...ไอ้โบ...แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่..เป็นยังไงมั่ง..ตอนนี้อยู่ที่ไหน..ทำงานหรือยัง...” ดงแฮเงยหน้าขึ้นตามเสียงของหญิงสาว รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นเมื่อเห็นคนตรงหน้า
“พอเลยไอ้คุณด๊องแด๊ง ถามยาวยังกับจรวด ใครจะไปตอบแกถูกยะ” โบอาขัดประโยคคำถามที่ยาวกว่ารถไพเสียอีก
“โห...ไม่ส่งข่าวคราวมาบ้างเลยนะแก อยู่อเมริกาสบายดีไหม”
“สบายดี ความเป็นไปของฉัน ฉันก็ส่งเมลล์มาบอกตลอดนี่หว่า แต่ฉันมีข่าวใหญ่มาบอกชางมิน ไม่รู้จะรับได้หรือเปล่า”
“เรื่องริกกี้ใช่มั้ย” โบอาพยักหน้ารับ “ไม่ต้องกังวล มินมินคงเตรียมใจไว้บ้างแล้วล่ะ เชื่อด๊องอยู่ไกลกันขนาดนี้ มันก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้างน่ะแหละ” ดงแฮให้เหตุผล
“มันก็จริงนะ ว่าแต่ด๊องมานั่งทำให้พนักงานที่นี่เขาป่วนกันทำไม... ดูสิ ได้เวลาเข้างานแล้ว ยังไม่ได้ยอมไปทำงานกันอีก”
“เฮ้ย!!! ไม่เกี่ยวกับด๊องนะ ด๊องหิวก็เลยมาหาอะไรกิน ไม่ได้มาป่วนใครสักหน่อย ว่าแต่แกเถอะมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันมายื่นใบสมัครและรอสัมภาษณ์น่ะ ได้รอบสิบโมง”
“ตำแหน่งอะไร ทำไมไม่ไปสมัครที่โรงแรมด๊อง”
“เลขานุการ แล้วที่โรงแรมด๊องมีตำแหน่งให้ฉันมั้ย”
“ไม่มี...ฮิฮิ ตำแหน่งเลขาเหรอ เดี๋ยวด๊องฝากให้ รับรองเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลย”
“หา!!!! เลขาใครวะ หวังว่าคงไม่ใช่เลขาแม่บ้านนะโว้ย”
“เออน่า...เชื่อด๊อง ว่าแต่ไม่คิดมากใช่ป่ะ ถ้าจะใช้เส้นเข้าทำงาน”
“ไม่เลยเพื่อนรัก ยิ่งตำแหน่งนี้กับบริษัทใหญ่ๆ นะ ขอแค่มีงานทำก็พอแล้ว”
“วางใจได้ ด๊องซะอย่าง สบายอยู่แล้ว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน มาคุยกันดีกว่า เหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลาสัมภาษณ์”
โบอา เพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่คนหน้าหวานทั้งหลายยอมรับให้เข้าร่วมกลุ่ม ด้วยความสดใส น่ารักเป็นกันเอง ถึงแม้ทางบ้านจะไม่ได้ร่ำรวย เป็นเพียงคนชั้นกลางที่ไม่ทะยานตัวให้เหมือนเพื่อนในกลุ่ม โบอาเป็นคนขยัน ทำงานทุกอย่างตั้งแต่สมัยเรียน เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว เรียนเก่งได้รับทุนทุกปี จนไปเรียนต่อที่เมืองนอก ผองเพื่อนรักกลับมาครบทีมแล้ว สนุกแน่ๆ
เพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน พูดคุยถามไถ่ด้วยรอยยิ้ม จวบจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาสัมภาษณ์งานของเพื่อนรัก จึงชักชวนกันออกจากค๊อฟฟี่ช๊อปแห่งนี้ ทิ้งไว้เพียงสายตาละห้อยของบริกรหนุ่มทั้งหลายที่มองอย่างเสียดายจนลับตา
“แยกกันตรงนี้นะด๊อง แล้วนัดเจอกันใหม่นะ แบบครบกลุ่ม”
“โอเค...ได้เลย แกก็เตรียมตัวเข้ามาทำงานได้เลยนะรับรอง พรุ่งนี้แกได้นั่งเก้าอี้เลขาผู้บริหารแน่ๆ”
“Thanks บายจ๊ะ” สองคนเดินแยกกันไปที่ลิฟท์คนละส่วน
ดงแฮเข้าลิฟท์สำหรับผู้บริหารไปยังชั้นบนสุด จุดหมายห้องประธานชอง
...ขอเล่นกับน้องหมาก่อนนะ น้องหมาจ๋า ด๊องแด๊งมาแล้ว...
“สวัสดีครับ ผมมาขอพบท่านประธานครับ” สเตฟานี่หันมามองคนตรงหน้าตาขวาง สะบัดเสียงตอบ
“ท่านประธานไม่ว่าง กำลังคุยกับฝ่ายการตลาดอยู่”
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้” ดงแฮยิ้มให้คนตรงหน้า เดินไปนั่งตรงโซฟารับรองแขกหน้าห้องหยิบ ไอพอดขึ้นมาฟัง ฮัมเพลงสบายอารมณ์
...ฮึฮึ หวงเจ้านายจริงๆ ด้วย...
สเตฟานี่ยิ้มเยาะถูกใจในบางอย่าง
“ไม่รู้ว่าท่านประธานจะคุยเสร็จเมื่อไร ฉันว่านายกลับไปก่อนดีกว่านะ” สเตฟานี่ยกกาแฟมาให้
“ผมบอกแล้วไงครับ ผมรอได้ เผอิญมีเรื่องสำคัญต้องพูดกับท่านประธานนะครับ เชิญคุณคู่ขา เอ๊ย เลขาไปทำงานเถอะไม่ต้องสนใจผมหรอก ผมอยู่ได้” ดงแฮไล่กรายๆ สเตฟานี่กระฟัดกระเฟียดกระแทกส้นเท้าไปนั่งหงุดหงิดที่ไม่สามารถไล่คนตรงหน้าไปได้
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...... ห้องของท่านประธานก็ยังคงปิดสนิท ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆออกมา คนหน้าหวานนั่งสบายอารมณ์ รอยยิ้มหวานแจกจ่ายให้กับพนักงานที่เดินวนไปเวียนมาไม่ขาดสาย สเตฟานี่เริ่มนั่งไม่ติดกลัวท่านประธานหนุ่มเดินออกมาเห็น จะถูกตำหนิได้
“นี่นาย ชั้นว่าวันหลังนายค่อยมาใหม่ดีกว่า แล้วนัดล่วงหน้าด้วยจะได้จัดคิวไว้ให้” ดงแฮถอดหูฟังออกเอียงคอมองสเตฟานี่ตาแป๋ว
“หืม...ต้องนัดด้วยหรอครับ ปกติผมอยากมาเมื่อไหร่ ผมก็มาไม่เห็นต้องนัดเลย ขอบคุณในความหวังดีนะครับ ผมรอได้ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ”
“สเตฟานี่ ช่วยหยิบแฟ้มงบการเงินให้ผมด้วย ขอบคุณครับ” เสียงของท่านประธานดังจากเครื่องอินเตอร์โฟน สเตฟานี่สะดุ้ง ตกใจหน้าซีด รีบขานรับ หยิบสิ่งที่เจ้านายต้องการเข้าไปให้
“...หึหึหึ คุยกับฝ่ายการตลาด แต่ขอดูงบการเงิน อืม...ไม่ค่อยเนียนเลยนะครับ คุณเลขา”
...อีกครึ่งชั่วโมงผ่านไป...
คนร่างบางนั่งอย่างสบายอารมณ์ ดูหนังฟังเพลงไปเรื่อยๆ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรทั้งสิ้น ผิดกับเลขาสาวที่นั่งกระวนกระวาย ดงแฮเหลือบมองยิ้มๆ สเตฟานี่ยิ้มเจื่อนกลับมา
“เฮ้...ด๊อง มานั่งทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่เข้าไปนั่งในห้อง “ชางมินหอบแฟ้มใบโต เห็นเพื่อนรักนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่สงสัยเลยถาม
“อ้าว...มินมิน ก็คุณเลขาบอกว่า ท่านประธานไม่ว่าง คุยกับฝ่ายการตลาดอยู่ด๊องเลยนั่งรอ จนกว่าจะคุยเสร็จ” ดงแฮด้วยรอยยิ้มหวาน ชางมินส่ายหน้า
“จะบ้าเหรอด๊อง พี่ยุนไม่ได้คุยกับใครที่ไหน เพิ่งโทรให้มินมาหาเรื่องงบเนี่ย แล้วนั่งรอนานแค่ไหนแล้ว” สิ้นคำพูดของชางมิน คนหน้าหวานหันขวับไปมองเลขาสาวที่นั่งหน้าซีดแต่เห็นชางมินเดินเข้ามา
“อืม...เหรอ มินมินมานั่งก่อน เดี๋ยวเราเข้าไปพร้อมกัน ขอด๊องคุยโทรศัพท์ก่อน” ชางมินเดินเข้ามานั่งข้างเพื่อนตัวเล็กที่หยิบโทรศัพท์โทรออกหาใครบางคน
“สวัสดีครับ คุณป้าเหรอครับ ผมด๊องแด๊งนะครับ” ดงแฮพูดเสียงเศร้าให้ปลายสายจับได้
“จ้า...ว่าไงคะหนูด๊อง ทำไมเสียงเศร้าจัง หนูด๊องอยู่ที่ไหน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะ” ยุนมีถามด้วยความห่วงใย ชางมินนั่งฟังอยู่ก็ยิ้มออกมา
“ด๊องอยู่ที่หน้าห้องของพี่ยุนนะครับ ด๊องจะมาคุยเรื่องงานนะครับ แต่คุณเลขาบอกว่าพี่ยุนไม่ว่าง กำลังคุยอยู่กับแขกนะครับ ด๊องก็นั่งรอมาสามชั่วโมงแล้วนะครับ จนมินมินเดินมาแล้วบอกว่าพี่ยุนไม่มีแขกที่ไหน
คุณป้าครับ พี่ยุนมีความสำคัญยังไงกับคุณเลขาหรอครับ เขาสองคนเป็นคู่รักกันหรือเปล่าครับ ด๊องไม่อยากแย่งของๆ ใคร ในเมื่อพี่ยุนมีเจ้าของแล้วแถมเจ้าของพี่ยุนยังหวงขนาดนี้ เรายกเลิกงานกันดีกว่านะครับ ด๊องไม่อยากทำบาป” ดงแฮบอกด้วยเสียงสลดหดหู่ ชางมินขำยกมือเขย่าหัวเพื่อนรักเบาๆ แนบหูกับโทรศัพท์ฟังมารดาแก้ต่างแทนพี่ชาย
“ใจเย็นๆนะคะ หนูด๊องไม่ต้องไปไหนนะจ๊ะ เดี๋ยวป้าจัดการให้ เมื่อเช้าเพิ่งจัดการตาบอมไป ป้ายืนยันนะคะ ว่าตายุนยังโสดไม่มีเจ้าของใดๆทั้งนั้น หนูด๊องไม่ต้องไปไหนนะจ๊ะ เดี๋ยวป้าไปจัดการให้ก่อนนะจ๊ะ
“ครับคุณป้า สวัสดีครับ” ดงแฮวางสายจากยุนมี หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ชางมิน
“ร้ายนักนะเรา เดี๋ยวพี่ยุนก็ได้วิ่งหน้าตั้งออกมาหรอก”
“หึหึ ยังไม่หมดนะ ยังไม่ได้เล่นกับน้องหมา ขอไปเล่นก่อนนะ” ชาง มินขมวดคิ้วกับคำพูดของเพื่อนรัก บริษัทเขาไม่มีใครพาน้องหมามาทำงานด้วยซะหน่อย
ดงแฮเดินไปยังโต๊ะของสเตฟานี่ รอยยิ้มร้ายครั้งแรกในรอบวันผุดขึ้นมา
“ไหนคุณเลขาบอกว่า ท่านประธานไม่ว่างไงครับ คุณรู้ไหมคุณทำแบบนี้ ทำให้คนอื่นเสียเวลานะครับ”
“แล้วไงล่ะ นายนั่งรอแค่ชั่วโมงเดียว แต่นายบอกใครว่านายนั่งรอสามชั่วโมง”
“คุณป้ายุนมีครับ คุณแม่ของท่านประธานชองน่ะครับ ผมคงต้องบอกลาคุณตรงนี้ซะแล้วล่ะครับ โชคดีนะครับ ขอให้ได้งานใหม่นะครับ” สเตฟานี่หน้าซีด เดินไปกระชากไหล่บางให้หันมาคุยกับตน เป็นจังหวะเดียวกันกับท่านประธานเปิดประตูออกมาด้วยความเร่งรีบ เมื่อทราบความจากมารดาที่โทรมาเฉ่งยกใหญ่
ดงแฮยกยิ้ม แล้วล้มลงตามแรงกระชากที่ไม่มากนักของหญิงสาว
“ด๊องแด๊ง!!! / ด๊องแด๊ง!!!!” สองหนุ่มหน้ามนรีบเข้ามาประคองคนหน้าหวาน ยุนโฮตวัดสายตามองสเตฟานี่ตาลุกวาวด้วยความโกรธในการกระทำของคู่ขาสาว
“คุณทำอะไรด๊องแด๊ง บอกผมเดี๋ยวนี้นะ!!!!” ยุนโฮตวาดถามเสียงดัง ชางมินและสเตฟานี่ตกใจไม่เคยเห็นยุนโฮอารมณ์เสียขนาดนี้มาก่อน
“ปะ..เปล่าค่ะท่านประธาน”
“ยังจะปฏิเสธอีกเหรอ แค่คุณให้คนพิเศษของผมนั่งรอตั้งสามชั่วโมงก็มีความผิดมากอยู่แล้ว นี่ยังทำร้ายร่างกายกันอีกเหรอ ถ้าคุณแม่ผมไม่โทรมาบอก ด๊องแด๊งไม่ต้องนั่งรอผมทั้งวันหรือไง ผมไล่คุณออก เก็บข้าวของๆ คุณออกไปได้แล้ว” ยุนโฮช้อนคนตัวเล็กแนบอก อุ้มเข้าไปในห้อง ดงแฮหันมายิ้มเยาะเย้ยให้ ปากบางขยับพูดไม่มีเสียงให้สเตฟานี่อ่านออก
...... ลาก่อนนะ น้องหมา .....
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องท่านประธานปิดลง ยุนโฮอุ้มแฝดคนน้องวางบนโซฟาในห้อง สอบถามอาการอย่างเป็นห่วง ชางมินสังเกตท่าทีลุกลี้ลุกลนของพี่ชายลอบขำ
.... สงสัยคลาสโนว่าจะสิ้นลายแล้วจริงๆ ......
“ด๊องแด๊งเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า” ชางมินถาม ดงแฮส่ายหน้าตอบ โดยมียุนโฮจับเนื้อนิ่มมือไปทั่ว
“มินมิน มีอะไรจะคุยกับคุณยุนโฮไม่ใช่เหรอ ไปคุยกันสิ ด๊องจะได้คุยบ้าง”
“นานนะ ด๊องแด๊งคอยไหวเหรอ”
“ได้อยู่แล้ว ขนาดนั่งเล่นอยู่หน้าห้องยังนั่งได้เลย แค่นี้ชิวๆ น่า เดี๋ยวหลับรอ ฮิฮิ”
“โอเค เสร็จแล้วเดี๋ยวปลุก”
“จ้า...จุ๊บ...อย่าลืมปลุกนะ ส่วนคุณไปไกลๆ เลย ยังไม่ได้ชำระความที่มาอุ้มผมเลยนะ เดี๋ยวคิดดอกเบี้ย” ยุนโฮกลอกตาอย่างเหนื่อยใจ ทีเจ้าชางมินนะจุ๊บเอาๆ ทีกับเขาไล่อย่างกับหมูกับหมา เดี๋ยวพ่อก็ปล้ำซะหรอก
“คร้าบ.. คร้าบ ไปแล้วครับ แต่ขอกำลังใจก่อนนะ ฟอด” ยุนโฮถือคติ ด้านได้อายอด จู่โจมคนหน้าหวานแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วรีบวิ่งไปนั่งประจำที่ทันที
ดงแฮลุกขึ้นหมายจะตามไปเอาคืน แต่โดนชางมินขวางไว้ ฉุดให้นั่งลงตามเดิม คนตัวเล็กชี้หน้าคาดโทษกระทงที่สอง
ชางมินส่ายหน้า ปวดเศียรเวียนเกล้า อีกคนก็ด้าน อีกคนก็ไม่ยอมลงให้
.... คู่นี้ ถ้าแต่งไป คงสนุกพิลึก .....
“พอแล้วด๊องแด๊ง ใจเย็นๆ หาอะไรทำไปก่อนนะ จะโทรศัพท์ ดูหนัง ฟังเพลง ทำอะไรทำไป ขออย่างเดียว อย่าลุกไปกระทืบพี่ยุนเป็นพอ โอเค๊”
“อ๊า...จริงด้วย ต้องโทรหาคุณป้า ลืมไปเลยน่ะเนี่ย ขอบใจนะจ๊ะที่เตือน .... สวัสดีครับ คุณป้าครับ ด๊องมีเรื่องจะรบกวนครับ” ชางมินส่ายหัวในการเปลี่ยนอารมณ์ของเพื่อนรัก
ยุนโฮมองด้วยความอึ้ง อารมณ์คุณเธอเปลี่ยนไวจริงๆ ไหนจะกริยาออดอ้อนผ่านสายโทรศัพท์ ถึงว่าทำไมคุณพ่อ คุณแม่ถึงได้หลงกันนัก
“จ้องเข้าไปครับพี่ จ้องให้ด๊องแด๊งทะลุไปเลยนะครับ”
“ชางมิน ถ้าพี่ถ่ายคลิปนี้ไว้ พี่จะโดนฆ่าหรือเปล่า”
“เฮ้อ...พี่ยุนครับ ผมจะบอกอะไรให้อย่าง ด๊องแด๊งมีนิสัยขี้อ้อนมาก ถึงมากที่สุด ใครเจอลูกอ้อนของด๊องแด๊งเข้านะพี่ หลงหัวปักหัวปำแน่นอน ดูได้จากคุณพ่อ คุณแม่เลยพี่”
“ก็จริงนะ นี่ถ้าด๊องแด๊งอ้อนพี่แบบนี้บ้างนะ พี่ยอมถวายหัวให้เลย”
“มองอะไร จะคุยเรื่องงานหรือจะนินทาด๊อง อย่าคิดว่าไม่ได้ยินนะ”
“เปล่าครับ กลัวแล้วครับ คุณว่าที่ภรรยา”
“ใครภรรยาคุณ อย่ามามั่ว เมียคุณโน่นโดนไล่ออกไปแล้ว หรือว่าคู่ขาล่ะ เอ๋...หรือว่าคลำดูไม่มีหาง ถึงมีหางก็ไม่เว้น”
“ด๊องแด๊ง...!!!!!!”
“รู้แล้วว่าชื่อนี้ ไม่ต้องเรียกหรอกครับ” ดงแฮลอยหน้าลอยตาตอบ
“โว้ย!!!! หยุดได้แล้ว จะเถียงกันทำไมเนี่ย ปวดหัว มินไปแหละ เชิญกัดกันให้พอใจเลย”
ชางมินอารมณ์เดือดบ้าง
“จะเถียงอะไรกันนักหนา ห้ามก็ไม่ฟัง ไม่อยู่ด้วยแล้ว ฆ่ากันให้ตายไปเลย” หุนหันเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว แต่ทว่ายังอุตส่าห์ล็อคประตูให้เสร็จสรรพ ลอบยิ้มอยู่หน้าประตู
.... ปราบให้สำเร็จนะครับพี่ยุน ผมเอาใจช่วย .....
ความคิดเห็น