ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Part 1
คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลชอง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงที่แวดล้อมไปด้วยความวุ่นวายต่างๆ ของเมืองใหญ่ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่สามารถย่างกรายมารบกวนบุคคลที่อาศัยอยู่ภายในคฤหาสน์หลังงามนี้ได้ เนื่องจากรอบๆ อาณาเขตที่กว้างใหญ่ ปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณ ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ยืนต้นที่ให้ความเขียวขจี สดชื่นไปทั่วบริเวณ
ตัวคฤหาสน์ที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ผสมผสานระหว่างอารยธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว สมฐานะของนักธุรกิจชื่อดังของประเทศ ภายในถูกออกแบบโดยมัณฑนากรมืออาชีพ จัดตกแต่งให้มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด พร้อมทั้งสะดวกสบายแก่ผู้พักอาศัย พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ดังๆ ที่ประดับอยู่ภายในให้ดูโอ่โถงลงตัวเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายจากสภาวะ มลภาวะข้างนอก เสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในป่าคอนกรีตอันกว้างใหญ่
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ คุณแม่ วันนี้ตื่นแต่เช้าเชียวนะครับ มีอะไรทานบ้างครับ” ชางมินลูกคนสุดท้องของตระกูลถามเมื่อเดินเข้ามาในห้องอาหาร
“ข้าวต้มกุ้งจ๊ะ พอดีแม่มีเรื่องจะต้องบอกตายุนกับตาบอมน่ะ เลยต้องมาดักรอที่โต๊ะอาหารก่อนที่พวกลูกๆ จะออกไปทำงานกันนะซิจ๊ะ” ชอง ยุนมี มารดาของลูกชายทั้งสามกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่ยังคงความสวยไว้เสมอ แม้ลูกๆ จะโตกันเป็นหนุ่มหมดแล้ว
“ใจเย็นๆ คุณ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด อดได้ลูกสะใภ้ ไม่รู้ด้วยนะ” ชอง ดงฮยอบ หัวหน้าตระกูลชอง กระซิบบอกภรรยาสุดที่รักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ คุณแม่ ว่าไงชางมิน พวกพี่ไม่เคยลงมาก่อนนายได้เลยนะเนี่ย” ยุนโฮ พี่ชายคนโตของตระกูลล้อน้องคนเล็ก วันนี้เขาว่าตื่นเช้าแล้วนะ ยังไม่ทันเจ้าตัวดีอยู่ดี ชางมินยิ้มรับคำของพี่คนโต
“อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน นี่ผมลงมาเป็นคนสุดท้านอีกแล้วเหรอเนี่ย เฮ้อ...” คิบอมลูกคนกลางของตระกูล เดินทำหน้าเซ็งเข้ามา อะไรกันคิดว่าวันนี้จะมาเป็นคนที่สองซะอีก ไงกลายมาเป็นคนสุดท้ายทุกที
“ก็ใครใช้ให้พี่มัวแต่สำอางอยู่ล่ะ ไม่รู้จะแต่งหล่อไปไหน แค่นี้สาวๆ ที่บริษัท ก็กรี๊ดกันจะสลบอยู่แล้ว” ชางมินค่อนแคะพี่คนกลาง หมั่นไส้เล็กน้อย
“ฮ่าๆ ช่วยไม่ได้นะน้องรัก คนมันหล่อ จริงไหมครับพี่ยุน” คิบอมได้ทียอตัวเองยกใหญ่ โดยมียุนโฮพยักหน้ารับ ถูกต้องที่สุด
“พอแล้วๆ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว เรื่องหล่อไม่หล่อ สรุปพ่อหล่อที่สุด ไม่งั้นไม่มีลูกหน้าตาดีอย่างนี้หรอก กินข้าวได้แล้ว ฮ่าๆๆๆ” ดงฮยอบบอกอย่างอารมณ์ดี โดยที่ภรรยาที่รักกับลูกชายนั่งส่ายหน้าในความหลงตัวเองของคนเป็นพ่อ
“ยุน ตาบอม พรุ่งนี้ทำตัวให้ว่างไว้นะจ๊ะ” หลังจากที่ทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยกเว้นชางมินที่เติมเป็นรอบที่สาม ยุนมีบอกในสิ่งที่ตนปรารถนาทันที
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ” ยุนโฮถาม
“แม่จะให้ลูกทั้งสองเข้าพิธีดูตัวนะจ๊ะ”
“อะไรนะครับ คุณแม่ !!!” ยุนโฮและคิบอมตะโกนถามเป็นเสียงเดียวด้วยความตกใจ ชางมินแทบจะทำช้อนหล่น ดีที่จับไว้ทัน ไม่งั้นเสียดายของตายเลย
“ฟังแม่ให้ชัดๆ นะ ลูกต้องเข้าพิธีดูตัว วันพรุ่งนี้”
“ไม่เอานะครับ คุณแม่ ผมไม่ไปหรอก” ยุนโฮแย้งขึ้นก่อน คิบอมจึงบอกตามมา
“ผมก็ไม่ไป คุณแม่จะให้ผมดูตัวกับใคร ผมไม่เอาด้วยหรอก”
“ไม่ได้จ๊ะ ไม่ว่ายังไงลูกก็ต้องเข้าพิธีดูตัวกับลูกของเพื่อนแม่วันพรุ่งนี้” ยุนมียื่นคำขาด
“โธ่...คุณแม่รับ อย่าบังคับพวกผมเลยนะครับ” คิบอมครวญ เขายังอยากจะเป็นโสดอยู่นะ
“ลูกฟังแม่ให้ดีนะ แม่แค่ให้ลูกทั้งสองไปเข้าพิธีดูตัวเฉยๆ ไม่ได้ให้แต่งงานซะหน่อย จะโวยวายทำไมเนี่ย หา!!!! พรุ่งนี้ไปเข้าพิธีดูตัวซะ ถ้าไม่ถูกใจลูกก็ปฏิเสธได้ แม่ไม่ได้บังคับ แม่รับปากกับฝ่ายโน้นไว้แล้ว ลูกจะให้แม่เป็นคนเสียคำพูดหรือไง ถือซะว่าแม่ขอร้อง” ยุนมีพยายามเกลี่ยกล่อมลูกทั้งสอง
ยุนโฮและคิบอมมองหน้ากัน โดยมีชางมินที่กินอิ่มแล้วนั่งลุ้นอยู่ตรงข้าม
“ก็ได้ครับ แค่ดูตัวอย่างเดียวนะครับ ไม่มีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาด” ยุนโฮรับคำพร้อมยื่นคำขาดเช่นกัน
“จ๊ะ ถ้าลูกไม่ถูกใจ ปฏิเสธได้เลย แม่ไม่บังคับ” ยุนมียิ้มสมใจที่ลูกๆ ทำตามความต้องการของตน
“ถ้างั้นพวกผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ เจอกันตอนเย็นนะครับ คุณพ่อ คุณแม่”
“จ๊ะ... ลูก... ขับรถดีๆ นะ ตอนเย็นเจอกัน”
..
..
“นี่ๆ คุณยุนมี ทำไมคุณไปบอกลูกว่าแค่ดูตัวเฉยๆ ล่ะ ทั้งที่ทางเราไปสู่ขอหนูด๊องกับซึงกิและแชยอนเรียบร้อยแล้วนะ ถ้าเกิดลูกเราปฏิเสธขึ้นมา สองคนนั้นไม่มาถอนหงอกเราแย่เหรอ” ดงฮยอบถามหลังจากที่ได้ยินเสียงรถของลูกๆ เคลื่อนออกไปแล้ว อย่างไม่เข้าใจความคิดของภรรยาเท่าใดนัก
“แหม...คุณก็ ไม่รู้จักนิสัยของลูกเราหรือยังไง ลองบอกว่าเราจะให้แต่งงานสิ รับรองพ่อเจ้าประคุณจะได้ค้านหัวชนฝา ดีไม่ดีพาใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้าบ้านมาประชดอีกต่างหาก”
“อ้าว...แล้วถ้าเกิดลูกปฏิเสธล่ะ คุณจะทำยังไง จะบอกกับซึงกิและแชยอนว่ายังไง” ดงฮยอบที่ยังหนักใจอยู่ ถามย้ำอีกครั้ง
“คุณชอง ดงฮยอบคะ คุณคิดว่าใครก็ตามที่เห็นหน้าหนูด๊องแล้วไม่หลงรักบ้าง ฉันถามหน่อย ขนาดคุณที่ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยจะถูกชะตากับใครง่ายๆ ยังหลงหนูด๊องเลย แล้วนับประสาอะไรกับพ่อคลาสโนว่าสองคนนั้น ฉันรับรองเลยนะคะว่าพอเห็นหน้าแล้วจะรีบบอกให้พวกเราไปสู่ขอแทบไม่ทัน คุณคอยดูนะ” ยุนมีบอกด้วยความมั่นใจ ใครก็ตามที่เห็นหน้าเด็กสองคนนั้นแล้วจะไม่รู้สึกอะไรให้มันรู้ไป
“ครับๆ กระผมจะรอดูนะครับ ขอให้มันเป็นอย่างที่คุณพูดเถอะ”
“คุณคอยดูก็แล้วกัน อย่างพ่อเจ้าประคุณสองหน่อนั่นน่ะ ต้องเจอกับหนู
ด๊องถึงจะเอาอยู่”
ด๊องถึงจะเอาอยู่”
“จ้าๆ งั้นผมไปออกรอบก่อนนะ ตอนเย็นเจอกันนะจ๊ะที่รัก จุ๊บ” ดงฮยอบหอมแก้มภรรยาที่รักก่อนจะออกไปร่วมก๊วนกับเพื่อนสนิท กิจกรรมของคนเกษียณตัวเอง ปล่อยกิจการให้ลูกทั้งสามดูแล และลูกทั้งสามก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังสักครั้ง หวังว่าครั้งนี้คงจะไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน
...รอฟังผลพรุ่งนี้ดีกว่า
×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø
สามหนุ่มที่เดินทางมาถึงบริษัทของตระกูล กำลังมุ่งตรงไปยังห้องทำงานของแต่ละคน ตลอดทางเดินยุนโฮและคิบอมโปรยเสน่ห์ไปตลอดทาง ทำให้สาวน้อย สาวใหญ่เคลิ้ม ตาลอยกันเป็นแถว
“พี่ยุน พี่ว่าคุณแม่จะให้เราดูตัวกับลูกเพื่อนท่านคนไหน”
“ไม่รู้สิ ถามทำไมคิบอม”
“โธ่พี่ ผมจะได้ให้เจ้าชางมินหาข้อมูลมาให้ไงพี่ เผื่อหน้าตาดูไม่ได้ จะได้เผ่นทัน”
“เกี่ยวอะไรกับผมเนี่ย ผมไม่ได้ดูตัวกับพี่สองคนซะหน่อย แล้วคุณแม่ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าแค่ดูตัวอย่างเดียว ถ้าพวกพี่ไม่พอใจก็ปฏิเสธได้ เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง”
“นี่ชางมิน น้องคิดว่าคุณแม่จะให้พวกพี่ดูตัวอย่างเดียวแน่เหรอ พี่ไม่เชื่อเด็ดขาด มันต้องมีอะไรแอบแฝงมากกว่านั้นแน่นอน” ยุนโฮบอก
“โธ่...พี่คิดมากไปได้ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด ผมว่าเรารีบไปทำงานกันดีกว่า พี่บอมพี่มีประชุมกับฝ่ายต่างประเทศไม่ใช่เหรอพี่ นี่ก็ใกล้เวลาแล้วนะ ไปได้แล้ว”
“เออ...ตกลงใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่ พี่ยุนยังไม่พูดอะไรสักคำ เจอกันตอนเย็นนะครับพี่ยุน” คิบอมบ่นก่อนจะเดินแยกออกไปพร้อมชางมิน ยุนโฮส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะกดอินเตอร์โฟนออกไปหาเลขาหน้าห้องที่เมื่อเช้ายังไม่ได้ทักทายกัน
“สเตฟานี่ครับ ผมขอกาแฟ แบบเดิมนะครับ”
“ได้ค่ะ ท่านประธาน” เสียงหวานของเลขาสาวตอบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ไม่นานนักเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ลั่นขึ้นเบาๆ
“เชิญเข้ามาได้ครับ”
“ได้แล้วค่ะ ท่านประธาน กาแฟร้อนๆ ส่งตรงถึงตักคุณ” สเตฟานี่ส่งเสียงหวานพร้อมกับถือถ้วยกาแฟมาให้ ก่อนจะนั่งลงเสริฟบนตักแกร่งของท่านประธานหนุ่ม
ยุนโฮมองหน้าขาขาวอวบที่พ้นกระโปรงออกมา พร้อมด้วยเสื้อตัวสวยที่เปิดกว้างจนเห็นร่องอกอวบ
“แล้วมีอะไรให้ผมกินกับกาแฟบ้างครับ” สเตฟานี่ยิ้มหวาน พลางวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ ก่อนจะยกมือขึ้นโอบรอบคอท่านประธาน
“ท่านประธานอยากทานอะไรล่ะคะ สเตจะได้จัดให้ถูกใจ” หญิงสาวส่งรอยยิ้มยั่วยวน ก่อนจะใช้มือเกลี่ยใบหน้าคม ค่อยๆ เลื่อนลงมาตามลำคอ อกแกร่ง แล้วไปหยุดตรงเข็มขัดของร่างข้างใต้
ยุนโฮส่งยิ้มละลายใจไปให้ ก่อนจะเชยคางมนให้มารับจุมพิตหวาน แลกลิ้นกระหวัดกันไปมา จุดไฟสวาทให้กันและกัน
×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø
เอี๊ยด.... ..
เสียงจอดรถยนต์ที่บ่งบอกอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี เรียกความสนใจให้กับผู้ที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณนั้นได้ เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาทำงาน ต่างมองมายังรถสปอร์ตสีดำคันหรูที่ตรงเข้าจอดยังตำแหน่งจอดรถผู้บริหารระดับสูง ต่างมองด้วยความสงสัย ในขณะที่ประตูรถคันหรูเปิดออก
คนร่างบางก้าวเท้าออกมา สร้างความตื่นตะลึงให้ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ด้วยดวงหน้าสวยหวาน ริมฝีปากบางสีชมพูสด ดวงตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตากันแดดอันใหญ่ ถ้าไม่ติดว่าคนร่างบางแต่งกายแบบผู้ชายแล้วล่ะก็ ใครๆ ก็ต้องคิดว่าเป็นหญิงสาวสวยแน่นอน ขาเรียวก้าวเท้าเข้าสู่ตัวอาคารสูงเสียดฟ้า
...ที่ตั้งของบริษัท ชอง คอร์ปอเรชั่น จำกัด
มุ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมถอดแว่นตาออก พนักงานตรงหน้ายืนตาโต อ้าปากค้าง ก่อนที่เรียวปากบางสีชมพูสดจะเอ่ยถาม
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าท่านประธานชองมาทำงานหรือยังครับ” คำถามที่มาพร้อมรอยยิ้มกว้าง เห็นฟันซี่เล็กๆ ทั้งสองข้าง
“มะ...มาแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ห้องทำงาน ชั้นบนสุด” พนักงานสาวก้มหน้าก้มตาตอบ ไม่กล้ามองหน้าตรงๆ เห็นแล้วใจสั่น
“ขอบคุณครับ ผมขอตัวก่อนนะครับคนสวย” ว่าจบคนร่างบางก็หันเดินไปยังลิฟท์ของผู้บริหารก่อนจะกดเรียกแล้วเดินเข้าไป โดยที่ไม่ลืมโปรยรอยยิ้มให้สาวๆ และหนุ่มๆ แถวนั้นละลายเล่น
..
..
“นี่ๆ เธอๆ รู้จักคุณคนนั้นไหม น่ารักมากๆ เลย สวยกว่าฉันอีก เสียดายที่เป็นผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงนะ แม่จะจับส่งเข้าประกวดมิสโคเรียซะเลย”
“พอเลยหล่อน หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว นั่นน่ะคุณหนูลีนะยะ จะว่าไปก็แปลก ปกติคุณหนูลีจะไม่ออกไปไหนคนเดียวนี่นา ทำไมวันนี้มาคนเดียวได้”
“แล้วเธอไปรู้จักเขาได้ยังไง บอกมานะยะ แม่นักข่าวหัวเห็ด”
“นี่พวกแก วันๆ นึงเคยสนใจข่าวอย่างอื่น นอกจากดารานักร้องบ้างไหม ถึงได้ไม่รู้จักคุณหนูตระกูลลีผู้โด่งดัง ทายาทโรงแรมดังในเกาหลี ฉันเคยแต่ได้ยินกิตติศัพท์กับรูปถ่ายในหนังสือ มาเจอตัวจริงแล้ว สวยกว่าเยอะ น่าทะนุถนอมเป็นที่สุด”
“หยุดได้แล้วพวกหล่อน เพ้อเจ้อกันจริงๆ ทำงานกันได้แล้ว เรื่องของเจ้านาย พวกเราไม่เกี่ยว ไปประจำที่ได้ เดี๋ยวหัวหน้ามาเห็นก็เกิดเรื่องหรอก”
ในขณะที่คนข้างล่างกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น ผู้ที่เป็นหัวข้อสนทนาก็เดินทางมาถึงหน้าห้องที่ติดป้ายไว้ว่า ท่านประธาน แต่กลับไม่พบเลขาหน้าห้อง คนร่างบางมองนาฬิกาเรือนสวยบนข้อมือ แล้วพึมพำคำบางคำออกมา
“ได้เวลาทำงานแล้ว เลขาหน้าห้องไปไหนซะล่ะ ทำไมไม่มีใครอยู่ สงสัยไปเข้าประชุมมั้ง เข้าไปรอข้างในห้องดีกว่า” ว่าจบคนร่างบางก็หมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไปทันที
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างกับภาพที่เห็นตรงหน้า ก่อนจะตั้งสติ เหยียดริมฝีปากออกอย่างเย้ยหยันต่อการกระทำของคนตรงหน้า แล้วแกล้งปิดประตูห้องเสียงดังปัง เรียกความสนใจจากร่างที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงตรงโต๊ะทำงานขนาดใหญ่
“ไม่ต้องรีบนะครับ ผมรอได้ เชิญทำกิจกามให้เสร็จก่อนนะครับ” พูดพลางเคลื่อนตัวไปนั่งยังโซฟารับรองตัวหรูภายในห้องของท่านประธาน
เลขาสาวรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วมองตาขวางไปยังร่างบางที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนใดๆ ทั้งสิ้น ยุนโฮมองคนร่างบางอย่างไม่พอใจที่มาขัดจังหวะ
“สเตฟานี่ คุณออกไปก่อนนะ แล้วช่วยนำกาแฟมาต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญด้วยนะครับ”
“ค่ะ ท่านประธาน” สเตฟานี่รับคำก่อนจะเดินกระแทกส้นเท้าออกไป
“อ้าวไม่ทำให้เสร็จล่ะครับ ผมบอกแล้วไงว่าผมรอได้ ตามสบาย เดี๋ยวขาดตอน ต้องบิวท์อารมณ์กันใหม่ แล้วเสียเวลาจะมาโทษผมไม่ได้นะครับ คิดเสียว่าผมไม่ได้อยู่ที่นี่ก็แล้วกัน” คนร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย พลางมองยุนโฮด้วยสายตาจิกกัดตั้งแต่หัวจรดเท้า
ยุนโฮเดินออกจากโต๊ะทำงานมายังคนร่างบางที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วกระชากเสียงถาม
“คุณเป็นใคร มีธุระอะไร เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อน มารยาทน่ะมีบ้างไหม”
คนร่างบางยักไหล่ไม่สนใจ เหยียดริมฝีปากบางให้เบ้ออก ก่อนจะเมินหน้าหนีบางสิ่งที่มันตั้งชันจนจะทะลุเนื้อผ้าออกมา
“มารยาทน่ะมี แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นหนังสดฟรีๆ โดยไม่ต้องซื้อหรือเช่าให้เสียเงิน ตนเป็นถึงท่านประธานบริษัทใหญ่ชื่อดังของเกาหลี กลับทำตัว... หึหึหึ...อ้อ แล้วช่วยเก็บไอ้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ให้มันลงไปตามเดิมด้วยนะครับ เห็นแล้วอุจาดตา”
ยุนโฮก้มลงมองไปยังแก่นกายกลางลำตัว แล้วรีบไปนั่งยังโซฟาที่ว่างอยู่ตรงข้ามคนร่างบางทันที
พร้อมกันนั้นสเตฟานี่นำกาแฟเข้ามาเสริฟให้ด้วยอาการกระแทกกระทั้น
“เดี๋ยวครับ ช่วยเอากลับไปแล้วนำมาให้ผมใหม่ให้สุภาพด้วยนะครับ แล้วกรุณาเคาะประตูด้วยนะครับ เดี๋ยวจะถูกต่อว่า ว่าขาดสมบัติผู้ดีที่ไม่ค่อยจะมีในตัวของคุณสักเท่าไหร่” เสียงหวานที่เอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย พร้อมส่งสายตาดุดัน ดูถูกไปยังเลขาสาว
สเตฟานี่แทบกรี๊ดออกมา กำลังจะเดินออกไป ไม่ยอมทำตามคำสั่งของแขกหน้าหวาน
“หยุดอยู่ตรงนั้น!! แล้วหันกลับมาเอากาแฟไปทำตามที่ผมสั่ง เลือกเอานะครับว่าจะทำตามที่ผมบอกใหม่ หรือว่าจะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้กลับเข้ามาอีก”
“คุณมีสิทธิอะไรมาสั่งชั้น ขนาดท่านประธานยังไม่ว่าอะไรชั้นสักคำ” สเตฟานี่ทำท่าหยิ่งผยอง คิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญของท่านประธาน ไม่มีใครทำอะไรเธอได้
“ครับ ผมไม่มีสิทธิที่จะทำอะไรคุณได้หรอกครับ แต่คุณชอง ยุนมี คงจะมีสิทธิเต็มที่ เพียงแค่ผมกดโทรศัพท์ต่อสายถึงท่านเท่านั้น เลือกเอานะครับ ผมให้โอกาสคนเสมอ” ตลอดเวลาที่พูด ชายหนุ่มร่างบางไม่ได้มองคู่สนทนาแต่อย่างใด กลับมองไปยังท่านประธานที่มองตอบมาเขม็ง
...สงสัยว่าคนตรงหน้าเป็นใครกันแน่ ถึงได้รู้จักกับคุณแม่ ดูท่าแล้วจะสนิทกันพอสมควร ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าอ้างถึง
“สเตฟานี่ ทำตามที่คุณคนนี้บอก เชื่อผม” คนร่างบางยิ้มให้กับคำพูดของท่านประธานชองคนปัจจุบัน ฉลาดดีนี่ อย่างนี้สิถึงน่าสนหน่อย
สเตฟานี่เดินเข้ามาหยิบแก้วกาแฟอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะเดินมาเสริฟให้ใหม่ พร้อมปฏิบัติตามที่ชายหนุ่มร่างบางต้องการทุกประการ ด้วยอาการนุ่มนวลกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณนะครับ เชื่องดีจริงๆ สงสัยท่านประธานจะให้อาหารดีเป็นประจำ ถึงได้เชื่องนัก”
“นาย....” สเตฟานี่ชี้นิ้วไปยังคนตรงหน้า เตรียมจะด่าเต็มที่
“ออกไปก่อน สเตฟานี่ ไปทำงานของเธอได้แล้ว” ยุนโฮตวาดเมื่อเห็นกริยาที่ไม่สมควรของคู่ขาสาว ถึงยังไงคนตรงหน้าก็รู้จักกับมารดาของตน คงจะไม่ธรรมดาแน่นอน
“ค่ะ ท่านประธาน” สเตฟานี่หน้างอที่ถูกขัดใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เชื่องดีจริงๆ ให้อาหารยี่ห้ออะไรนะครับ ผมจะได้ไปซื้อมาบ้าง” ชายหนุ่มร่างบางส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้แม่เลขาสาว ที่ชอบใช้ทางลัดหวังสบาย
สเตฟานี่หันกลับมามองตาขวาง แต่ก็จำต้องเดินออกไปเมื่อเห็นสายตาของท่านประธานที่มองมา
“คุณเป็นใคร มีธุระอะไร ถึงได้มาหาผม” ยุนโฮถามทันทีที่เห็นสเตฟานี่เดินออกไปแล้ว
“ลี ทงเฮ ผมมาบอกให้คุณปฏิเสธงานตัวดูพรุ่งนี้ หวังว่าคงจะไม่ยากจนเกินไปนะครับ”
“หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ คุณเป็นแฟนกับคู่ดูตัวของผมหรือไง”
“ฮึๆๆ โง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่ ผมเป็นหนึ่งในคู่ดูตัวของคุณต่างหาก”
“ว่ายังไงนะ !!!!! คู่ดูตัวของผมเป็นผู้ชาย นี่คุณแม่คิดอะไรกันนี่”
“นั่นนะสิ คุณป้าคิดยังไง ผมก็ไม่เข้าใจความคิดของท่านเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าพวกคุณคงจะคิดเหมือนกันกับพวกผม
ผมบอกตรงๆ นะ ผมยังไม่อยากแต่งงาน ยิ่งมาเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามแล้ว หึหึ ให้ผมไปออกรบยังดีเสียกว่า
ผมมีเรื่องจะพูดแค่นี้ ขอตัวนะครับ และก็ต้องขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะการขึ้นสวรรค์ในสถานที่ไม่เหมาะไม่ควร ลาล่ะครับ” ทงเฮเหยียดริมฝีปากออกแนวเย้ยหยันเล็กๆ
ยุนโฮอารมณ์ขึ้นทันที ไม่เคยมีใครมองเขาด้วยสายตาดูถูกมาก่อน จึงเดินไปขวางทางคนตัวเล็กพร้อมบีบไหล่ทั้งสองข้างทันที
“ปล่อย!!! ผมเจ็บ ผมบอกให้ปล่อย อย่าหาว่าผมไม่เตือน” ทงเฮมองด้วยแววตาดุดัน ยุนโฮไม่มีทีท่าเกรงกลัวแต่อย่างใดกลับยิ่งเพิ่มแรงบีบให้มากยิ่งขึ้น
“ทำไม คุณจะทำอะไรผมได้ ตัวเล็กเท่าลูกหมาขนาดนี้”
“ก็ทำอย่างนี้ไง” ว่าจบทงเฮก็ตีเข่าเข้าจุดยุทธศาสตร์ของคนตรงหน้าทันที
ยุนโฮเกิดอาการจุก สองมือปล่อยจากไหล่บางมากุมแก่นกายกลางลำตัวของตัวเอง ทงเฮเห็นโอกาสอยู่ตรงหน้า มือบางตรงเข้าบีบคอของคนตัวโตกว่าแล้วดันไปให้ชิดกำแพง กำลังจะยกมือขึ้นชก ถ้าไม่มีเสียงดังขึ้นที่ประตูเสียก่อน
“พี่ยุนครับ...เฮ้ย!!! ด๊อง!!!”
ชางมินเดินเข้ามาเพื่อจะปรึกษางานบางอย่างต้องตกใจกับสภาพของพี่ชายคนโต ก่อนจะหันไปสนใจกับเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานพอสมควร
“มินมิน!!! นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ทงเฮที่ตกใจไม่แพ้กันที่เห็นเพื่อนรัก จึงปล่อยมือจากคอของยุนโฮ แล้วเดินเข้ามากอดชางมินอย่างคิดถึงทันที
“ก็ที่นี่คือบริษัทของตระกูลมินเอง ด๊องมาที่นี่ได้ยังไง แล้วทำไมพี่ยุนมีสภาพอย่างนั้น” ชางมินที่เห็นพี่ชายตัวเองทรุดตัวลงไปนั่งกุมส่วนสำคัญเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรหรอก มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เดี๋ยวนะ...มินมินบอกว่าที่นี่เป็นบริษัทของตระกูลมินมิน แล้วมินมินเป็นอะไรกับชอง ยุนโฮ”
“อ้าว...มินก็เป็นน้องคนสุดท้องของพี่ยุนไง อย่าบอกนะว่าลืมนามสกุลมินไปแล้ว”
“เออ..จริงด้วย ด๊องลืม ถ้าอย่างนั้นมินมินก็ช่วยพวกด๊องได้นะสิ”
“ช่วยอะไรด๊อง มีปัญหาอะไร ถ้ามินช่วยได้ มินจะช่วยเต็มที่”
“ง่ายจะตาย ช่วยล้มงานดูตัวพรุ่งนี้ที ไม่งั้นด๊องจะให้ริกกี้เลิกกับมินมิน”
“เฮ้ย!!! .... ไปคุยกันที่ห้องมิน พี่ยุนครับ เดี๋ยวผมมานะครับ” ชางมินหันไปบอกยุนโฮที่นั่งหน้าดำหน้าแดงอยู่ที่เดิม โดยที่ยุนโฮมองคนตัวเล็กตาขวาง คาดโทษไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว จึงพยักหน้าอนุญาตให้น้องออกไปนอกห้องได้
“คุณสเตฟานี่ครับ ถ้ามีใครมาติดต่องานหรือขอเข้าพบท่านประธาน แจ้งว่าให้ติดต่อมาตอนบ่ายนะครับ รวมถึงคุณด้วย แล้วอย่าขัดคำสั่งผมเป็นอันขาด ไปด๊อง ไปคุยกันที่ห้องมิน” ชางมินบอกเลขาหน้าห้องของยุนโฮ ก่อนจะพาเพื่อนตัวเล็กไปที่ห้องทำงานของตน
สเตฟานี่มองชายหนุ่มร่างบางตาขวาง คิดในใจว่าเป็นใครกัน ทำไมคุณชางมินถึงได้ให้ความสนิทสนมขนาดนั้น
..
..
“ไหนเล่ามาซิด๊อง ทำไมต้องให้ล้มงานด้วย แค่ดูตัวไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่พอใจก็ปฏิเสธได้นี่”
“แค่งานดูตัวบ้านมินมินสิ มินมินรู้ไหม คุณป้าสู่ขอด๊องให้กับพี่ชายของมินมินทั้งสองคนเลยนะ หนำซ้ำยังกำหนดวันแต่งไว้เรียบร้อยอีกต่างหาก แล้วจะไม่ให้ด๊องล้มเลิกงานได้ยังไง”
“เฮ้ย!!!! แต่คุณแม่บอกว่าแค่ดูตัวอย่างเดียวเท่านั้น แล้วยังบอกอีกว่าถ้าพี่ๆ ไม่ถูกใจ สามารถปฏิเสธได้เลย ไม่มีการบังคับใดๆ ทั้งสิ้น”
“ด๊องก็ไม่รู้เหมือนกัน กลุ้มจะตายแล้วเนี่ย”
“เดี๋ยวนะด๊อง แล้วด๊องแด๊งกลับมาจากอังกฤษแล้วเหรอ” ทงเฮพยักหน้ารับ “แล้วด๊องแด๊งยอม...?”
“จะไม่ให้ยอมได้ยังไง เจ้าตัวไปติดสัญญาแลกเปลี่ยนกับการได้ไปเรียนและบริหารงานที่อังกฤษ ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ แต่พวกเรายื่นคำขาดว่าขอดูตัวอย่างเดียว ไม่งั้นจะหนีออกจากบ้านไม่ให้ใครตามเจอเลย แล้วด๊องแด๊งก็คิดว่าถ้าทำให้อีกฝ่ายล้มเลิกงานได้ก็คงจะรอดตัว”
“แล้วด๊องได้ดูตัวกับพี่ยุนเหรอ ถึงได้มาป่วนถึงที่นี่”
“ใครบอก ด๊องมาดูหน้าว่าที่น้องสะใภ้ต่างหาก ด๊องแด๊งไม่ว่าง ด๊องต้องดูตัวกับคนที่ชื่อคิบอมต่างหาก”
“หา!!!! น้องสะใภ้ อย่าบอกนะว่า....”
“ถูกต้องนะครับ ไม่รู้แหละ มินมินต้องช่วยด๊องด้วย ไม่งั้นนะ หึหึหึ”
“มินไม่รับปากนะ แต่จะพยายามช่วยเต็มที่”
“Thanks งั้นด๊องกลับก่อนนะ ไม่ต้องไปส่งหรอก บริษัทนี้ด๊องเดินจนจะพรุนหมดแล้วมั้ง”
“โอเค...แล้วมินจะโทรไปหานะ ขับรถกลับดีๆ ล่ะ”
“ขอบคุณมาก เพื่อนรัก จุ๊บ” ทงเฮเอ่ยลาเพื่อนรัก ก่อนจะกระโดดหอมแก้มแล้วโบกมือบ๊ายบายเพื่อนรัก เดิมฮัมเพลงออกไปอย่างอารมณ์ดี
“ฮัลโหลด๊อง เค้าทำตามที่ตัวเองบอกแล้วนะ.... เจอแล้ว...ก็ดี หล่อใช้ได้ แต่เพลย์บอยชะมัด ตัวต้องรับมือให้ดีล่ะ รับรองสนุกแน่งานนี้....โอเค เดี๋ยวเจอกัน เค้ากำลังกลับ บาย”
×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø
“ชางมิน มาหาพี่ที่ห้อง เดี๋ยวนี้”
“ครับผม กรุณารอสักครู่นะครับ ชอง ชางมิน จะรีบไปหาทันทีครับ”
ยุนโฮที่หายจากอาการจุกเสียดแล้ว รีบโทรเรียกน้องรักทั้งสองให้มาหา โดยเฉพาะชางมินที่มีเรื่องต้องเคลียร์กันยกใหญ่
..
..
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“มาแล้วครับ ชางมินรูปหล่อ พ่อรวย มาตามคำบัญชาแล้วครับ”
“มานั่งนี่เลยเจ้าตัวดี อธิบายมาด้วย ไปรู้จักกับคู่ดูตัวของพี่ได้ยังไง” ยุนโฮถามทันทีที่น้องรักเดินเข้ามาในห้อง แถมเจ้าตัวดียังล็อคประตูกันผู้อื่นเข้ามาขัดจังหวะให้เสร็จสรรพ อย่างรู้ใจคนเป็นพี่
“ครับๆ นั่งแล้วครับ แต่พี่ยุนเข้าใจผิดนะครับ ด๊อง เอ่อ ทงเฮนะครับ เป็นคู่ดูตัวของพี่บอมต่างหาก ของพี่ยุนอีกคนนึง”
“หา!!!! คนที่มาหาพี่ยุนเป็นคู่ดูตัวของพี่ ทำไมเขาไม่มาหาพี่เองล่ะ” คิบอมสงสัย จึงถามออกมา ในเมื่อจะดูตัวกับเขา แต่ทำไมถึงมาหาพี่คนโตแทนซะงั้น
“นั่นน่ะสิมิน บอกมาให้หมดนะ เรื่องมันเป็นอย่างไง” ยุนโฮคาดคั้นน้องชายคนเล็กเต็มที่
“ก็ได้ครับ คู่ดูตัวของพี่ทั้งสองมีชื่อว่า ทงเฮ กับ ดงแฮ ซึ่งพี่ยุนเคยเห็นหน้าของคู่ดูตัวของพี่บอมแล้ว ถ้าพี่ยุนอยากจะทราบถึงหน้าตาของคู่ดูตัวของพี่ ก็นึกหน้าของทงเฮไว้นะครับ เพราะเขาเป็นฝาแฝดกัน
ทงเฮเป็นพี่ ดงแฮเป็นน้อง แฝดคู่นี้เหมือนกันทุกอย่างแทบจะแยกไม่ออก ถ้าไม่สังเกตให้ดี ที่สำคัญแสบทั้งคู่ ใช่ไหมครับพี่ยุน”
“ใช่เลย บอม พี่ยืนยันได้ คู่ดูตัวของนายทำกับพี่ไว้แสบมากๆ แค้นนี้ต้องชำระ”
“อ๊ะๆ ใจเย็นๆ ครับพี่ยุน ที่พี่เจอนี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ปกติถ้าใครก็ตามที่ทำให้สองแฝดนั้นไม่พอใจล่ะก็ ไม่ตายก็หยอดน้ำข้าวต้มนะครับ
อย่างพี่ยุนถือว่าโชคดีมากๆ และถ้าพี่คิดว่าทงเฮร้ายแล้ว ดงแฮร้ายมากกว่าหลายเท่านัก เตรียมตัวรับมือให้ดีเลยนะครับ ผมบอกพี่สองคนได้แค่นี้ เพราะสองแฝดนั้นก็เป็นเพื่อนรักของผมมาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว ผมคงขายเพื่อนไปมากกว่านี้ไม่ได้ หวังว่าพวกพี่คงจะเข้าใจผมนะครับ”
“อืม...ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ แค่เราบอกให้พี่ระวังตัวก็ดีมากแล้ว พี่ยุนครับพี่เคยเห็นหน้าของทงเฮแล้ว เขาหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างครับ ดูได้ไหมพี่” คิบอมขอบใจชางมินที่ยอมบอกข้อมูลบางส่วนของเพื่อนตัวเอง แล้วจึงถามยุนโฮเพื่อจะได้คิดหาวิธีได้ทัน
“สวย น่ารัก รูปร่างบาง ดวงหน้าหวาน ดวงตาสีชา ริมฝีปากบางสีชมพูสด เป็นคนที่มีเสน่ห์มากๆ” ยุนโฮพยายามอธิบายรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นมา ถึงแม้ว่าจะมีอคติ แต่ก็ต้องยอมรับในสั่งที่เห็น
“จริงเหรอพี่ ผู้ชายที่ไหนจะสวยอย่างที่พี่บอกมา”
“จริงสิ พี่ไม่โกหกหรอก ชางมิน น้องมีรูปของเพื่อนน้องบ้างหรือเปล่า เอามาให้คิบอมดูหน่อยสิ”
“ผมว่าพวกพี่รอดูพร่งนี้เลยดีกว่านะครับ จะได้ตื่นเต้น พี่ยุนด้วยนะครับ อย่าคิดว่าเคยเห็นหน้าทงเฮแล้ว ก็จะนึกหน้าดงแฮออกทั้งหมด ผมบอกได้เลยว่าพี่คิดผิด ถึงหน้าตาจะเหมือนกัน แต่ภาพลักษณ์ต่างกันมาก และผมไม่ได้เจอหน้าแฝดคนน้องมาหลายปีแล้ว คงจะมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง” ชางมินบอก โดยที่ยุนโฮและคิบอมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“ผมว่าวันนี้เราโดดงานกันดีกว่า เพราะพวกพี่คงไม่มีสมาธิในการทำงานแล้วแน่นอน ผมว่ากลับไปพัก เตรียมตัวสำหรับงานดูตัววันพรุ่งนี้ดีกว่า ถ้าพวกพี่ไม่พอใจ ก็ปฏิเสธไปได้เลย เพราะฝ่ายนั้นก็คงไม่เต็มใจเหมือนกัน ไม่งั้นไม่มาถึงที่นี่หรอก ป่ะ พี่กลับไปกินข้าวบ้านกันดีกว่า ผมหิวจะตายแล้วเนี่ย”
×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø×Ø
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น