คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : FULL HOUSE ..... 10
“ฮึกๆ... ป้ากึมยองครับ ด๊องไปสร้างความแค้นเคืองอะไรให้คุณชเวหรือครับ ทำไมเขาต้องทำกับด๊องขนาดนี้ด้วย” เสียงร่ำไห้ของดองเฮยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คุณชายซีวอนเดินออกไปจากเรือนไม้แห่งนี้ คนตัวเล็กเปล่งเสียงสะอื้นออกมาอย่างไม่อายใคร
กึมยองและคนงานทั้งหลายต่างช่วยกันปลอบใจคนร่างบาง ยิ่งเสียงปลอบขวัญมีมากเท่าใด ดองเฮยิ่งร้องไห้หนักขึ้นเท่านั้น กายบางสั่นเทาอย่างน่ากลัว นางได้แต่กอดเรือนร่างของว่าที่คุณผู้หญิงด้วยความเวทนาสงสาร ไม่รู้จะช่วยให้สถานการณ์ของทั้งคู่คลี่คลายได้ยังไง
เยซองเดินมาถึงบริเวณเรือนไม้ที่ถูกปิดเสียนาน ก็ต้องส่ายหน้าเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นอย่างหนัก จากการกระทำไม่ยั้งคิดของไอ้สิงโตจอมโหด และเสียงพูดจาปลอบโยนของบรรดาคนงานที่ยอมละทิ้งงาน มานั่งให้กำลังใจคนสำคัญของคฤหาสน์ชเว อย่างไม่กลัวโดนหักเงินเดือน หรือไล่ออกแต่อย่างใด
เยซองเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เดินฝ่าคนงานในบ้านที่นั่งกันเกลื่อนเรือนที่เต็มไปด้วยคราบฝุ่น ไม่ยอมขยับเขยื้อนห่างไกลนางฟ้าร่างบาง
“คุณหนูดองเฮคะ ใจเย็นๆ นะคะ คุณชายคงไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณหนูหรอกนะคะ”
“ฮึก... ไม่ได้ตั้งใจหรือครับ ป้ากึมยองไม่ได้ยินสิ่งที่ออกมาจากปากของเขาหรือครับ คุณชเวเห็นด๊องเป็นตัวอะไรครับ ถึงได้ต้องจับด๊องมากักขังไว้อย่างนี้ด้วย ด๊องไม่เข้าใจ... ฮึก... ฮือๆๆ” เสียงหวานเอ่ยตัดพ้ออย่างอ่อนแรง ท้อใจกับตัวเอง ที่ไม่มีแรงต้านทานอำนาจของคนที่มีอิทธิพลทางธุรกิจอย่างล้นเหลือ
“นางฟ้าไงครับ ไอ้คุณชายมันคงไม่อยากให้คุณหนูดองเฮต้องบินหนีไป มันจึงต้องเด็ดปีกสวยงามของนางฟ้าทิ้งซะ” โทนเสียงนุ่มแฝงไปด้วยความอ่อนโยน อธิบายแทนเพื่อนรักให้คุณหนูตระกูลลี ว่าที่คุณนายชเวในอนาคตเข้าใจ
ดองเฮเงยหน้าจากอ้อมอกอุ่นของแม่นมของซาตานใจร้าย ส่งรอยยิ้มบางๆ ให้ เมื่อเห็นว่าเป็นเลขาและเพื่อนสนิทของคนใจร้าย เข้ามาพูดปลอบตนด้วยความจริงใจที่มีให้ตั้งแต่วันแรกที่พบเจอ
ดองเฮสามารถแยกแยะได้เสมอว่าอะไรเป็นอะไร โกรธเพื่อนเขาแต่ไม่จำเป็นต้องโกรธเยซองไปด้วย เพราะไม่ใช่คนคนเดียวกันเสียหน่อย ไม่นำมาปะปนเป็นเรื่องเดียวกันเด็ดขาด
“หึหึ... ผมน่ะเหรอครับนางฟ้า ไม่จริงหรอกครับ เขาคงจะเห็นว่าผมเป็นเพียงหนอนตัวเล็กไร้ค่า จะขยี้ให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะเลี้ยงไว้ดูเล่นก่อนแล้วค่อยฆ่าทีหลังก็คงจะยังไม่สาย เพราะผมไม่คงมีปัญญาไปสู้รบปรบมือกับผู้กุมอำนาจของประเทศได้หรอกครับ” ดองเฮเอ่ยคำประชดตัวเอง ชีวิตไม่ต่างอะไรจากหนอน แมลงไร้ค่า
“คุณหนูดองเฮครับ อย่าประเมินค่าความเป็นคนของคุณหนูต่ำอย่างนั้นสิครับ คุณหนูลองคิดทบทวนดูให้ดีนะครับ ตั้งแต่วันที่พวกเราพบกัน เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด..... จนถึงตอนนี้ คุณหนูลองนึกทบทวนให้ดีนะครับ ว่าทำไมคนอย่างคุณชายชเว ซีวอนจึงต้องมาแคร์กับคำพูดของคนที่จากไปแล้วขนาดนั้น ลองเปิดใจให้กว้างนะครับ” เยซองพยายามกล่อมคนตัวเล็กให้นึกถึงสิ่งที่เพื่อนรักของตนทำมาทั้งหมด ให้ไตร่ตรองให้ดี ว่ามีอะไรแอบแฝงซ่อนอยู่บ้าง
บุคคลที่เหลือต่างนั่งฟังคำบอกกล่าว ข้อขบคิดของเยซองที่นานๆ จะทำตัวมีสาระกับเขาได้สักที โดยเฉพาะว่าที่คุณผู้หญิงของคุณชายปากแข็งพยายามทำใจให้เย็น คิดทบทวนตามคำบอกของหนุ่มหัวโตอย่างใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ แต่คิดยังไงก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าคนตัวเล็กนั่งขมวดคิ้ว ส่ายหน้าไปมากับการพยายามหาคำตอบให้กับตนเอง
เยซองหันมาส่งยิ้มให้กับกึมยองและบรรดาคนงานในบ้าน ที่ตอนนี้สามารถหยุดน้ำตา เสียงสะอื้นของดองเฮได้ชะงัดนัก เพราะมีเรื่องอื่นให้ขบคิดมากกว่าการมานั่งร้องไห้ น้อยใจโชคชะตาอย่างนั้น มันไม่เข้ากับร่างบอบบางที่มีรอยยิ้มสดใสสักนิด
“คุณหนูดองเฮครับ ยังไม่ต้องหาคำตอบตอนนี้ก็ได้ครับ ค่อยๆ คิดก็ได้ครับ เวลายังมีอีกมาก แต่ตอนนี้ผมว่าเรามาทำความสะอาดเรือนไม้กันก่อนดีกว่านะครับ ผมจะได้ขนข้าวของทั้งหลายของคุณหนูเข้ามาให้” เยซองเอ่ยเตือนคนร่างบางที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด คิดหนักหาคำตอบกับคำถามของเขามากเกินไป สะกิดเรียกสติของร่างบางให้มาสนใจกับเรื่องของวันนี้ก่อน
“จริงด้วยค่ะคุณหนูดองเฮ ดูสิคะเนื้อตัวเปื้อนฝุ่นไปหมดแล้ว เดี๋ยวป้าให้เด็กๆ ทำความสะอาดเรือนไม้ให้นะคะ เดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน คุณหนูไปนั่งพักทำใจให้สบายนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับป้ากึมยอง ยังไงเสีย... ด๊องก็ต้องอาศัยเรือนไม้หลังนี้ซุกหัวนอน ให้ด๊องช่วยนะครับ คนละไม้คนละมือ จะได้เสร็จเร็วๆ ไงครับ” ดองเฮบอกด้วยรอยยิ้มเพื่อให้คนที่ดีกับตนนั้นสบายใจ ยื่นมือให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
บรรดาคนงานทั้งหลายได้รับฟังคำที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากสีสดพร้อมรอยยิ้มหวาน แม้จะมีความเศร้าหมองแฝงอยู่ แต่ก็ยังเปี่ยมเสน่ห์ไม่เลือนหาย
ต่างชอบใจในความไม่ถือตัวของคุณผู้หญิงชเวในอนาคต ช่างแตกต่างจากบรรดาคนที่ผ่านมามากมายนัก ตอนนี้พวกเขายอมรับคนตัวเล็กตรงหน้าได้หมดใจ ไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น
hhhhhhhhh
หลังจากที่ทำความสะอาดเรือนไม้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความช่วยเหลือ ลงแรงคนละไม้คนละมือของคนงานทั้งหมดที่มีของคฤหาสน์หลังงาม ต่างเต็มใจมาช่วยคุณผู้หญิงของพวกตน
ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็น เยซองเป็นคนจัดการหามาให้ทุกอย่าง ยกเว้นเสื้อผ้าของนางฟ้าในใจที่กำลังจะกลายเป็นของไอ้สิงโตปากแข็งเร็วๆ นี้ ที่ตนเป็นคนนำมาจากบ้านหลังเดิมทุกตัว พร้อมด้วยของตกแต่ง ประดับประดาที่เขาเห็นว่ามันอยู่ในห้องของสองพ่อลูกตระกูลลี
ห้องนอนที่มีอยู่เพียงห้องเดียวของเรือนไม้แห่งนี้ มีขนาดกลางพอเหมาะ ภายในประกอบด้วยเตียงนุ่มหลังใหญ่และโต๊ะเขียนหนังสือเท่านั้น ส่วนตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และของชิ้นอื่นๆ ดองเฮวานให้คนงานช่วยยกไปไว้อีกห้องนึงข้างๆ กัน เพราะคนตัวเล็กชอบให้ห้องนอนโล่งโปร่งสบาย ยิ่งกับเรือนไม้แล้ว ถ้ามันอะไรมาเบียดเสียดอยู่แต่ในห้องนอน เขาคงอึดอัดจนนอนไม่หลับแน่ๆ
เยซองเห็นดังนั้นจึงเรียกช่างมาทำประตูเชื่อมต่อห้องทั้งสองเข้าด้วยกัน แล้วปิดตายประตูอีกด้าน เพื่อให้นางฟ้าประจำใจสามารถแต่งกายได้สะดวก ไม่ต้องเดินเข้า เดินออกให้วุ่นวาย
“ขอบคุณทุกคนมากนะครับ ที่เสียสละเวลามาช่วยกันทำความสะอาดให้ ด๊องขอบคุณมากนะครับ” ดองเฮก้มศีรษะเล็กๆ ขอบคุณบรรดาคนงานที่มาช่วยเหลือทั้งที่ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
คนงานทั้งหลายก้มหัวตอบคนตัวเล็กเช่นกัน เห็นการกระทำของคุณผู้หญิงแล้วซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างนี้มาก่อน ส่วนมากแล้วจะเป็นการจิกหัวใช้เสียมากกว่าการร้องขออย่างเกรงใจแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหนูดองเฮ มันเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วค่ะ ถ้าคุณหนูดองเฮต้องการอะไร เรียกใช้พวกเราทุกคนได้ตลอดเลยนะคะ พวกเรายินดีรับใช้คุณหนูดองเฮด้วยความเต็มใจค่ะ” กึมยองเป็นตัวแทนกล่าวคำให้คุณผู้หญิงรับทราบ ถ้ามีอะไรให้เรียกใช้ได้ตลอด อย่าได้เกรงใจกันแต่อย่างใด
โดยมีบรรดาเหล่าคนงานพยักหน้าเห็นด้วยกับคำกล่าวของคุณหัวหน้าแม่บ้านอย่างยิ่ง
ต่อให้กึมยองไม่กล่าววาจาอย่างนั้นออกมา พวกเขาก็ยินดีที่จะรับใช้นายหญิงผู้นี้ด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว
ดองเฮค้อมศีรษะลงอีกครั้ง เนิ่นนานกว่าครั้งแรกอย่างซึ้งใจกับความมีน้ำใจของทุกคนที่มีให้กับตน ทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน ยังได้รับความรักจากคนเหล่านี้ตั้งมากมาย ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำใสคลออยู่ เมื่อนึกถึงการกระทำของบุคคลที่รู้จักกัน มานานกว่าบรรดาคนเหล่านี้เสียด้วยซ้ำ
มือบางรีบยกขึ้น ปาดคราบน้ำตาให้หมดไป เมื่อเห็นว่าคนพวกนั้นส่งสายตาห่วงใยมาให้ จึงได้ส่งรอยยิ้มกว้างอย่างสดใส แสดงความเข้มแข็งของตนให้หายกังวลกัน ตั้งมั่นไว้แล้วว่าต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอเก็บความอ่อนแอไว้ข้างในไม่ให้ใครเห็นเป็นอันขาด
“ถ้าอย่างนั้นอาหารมื้อเย็นขอด๊องเป็นคนทำเองนะครับ ตอบแทนน้ำใจของทุกคนที่มีให้กับด๊องนะครับ แต่รสชาติอาจจะสู้ฝีมือป้ากึมยองไม่ได้นะครับ ด๊องแค่พอทำเป็นนิดหน่อยเท่านั้น” ดองเฮบอกด้วยรอยยิ้มหวาน บุคคลที่เหลือต่างทำตาโตอย่างเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“นางฟ้าของผมทำอาหารเป็นด้วยหรือครับ” เยซองถามด้วยความตื่นเต้น วันนี้มีบุญได้ชิมฝีมือการปรุงของคนงามประจำใจ คนตัวเล็กพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเห็นหนุ่มหน้ากลมทำท่าทางตื่นเต้นโอเวอร์เกินเหตุ
“ยังไงก็ได้ค่ะ แล้วคุณหนูดองเฮจะทำอะไรเป็นมื้อเย็นคะ ป้าจะได้ให้เด็กไปซื้อของมาให้ ขาดเหลืออะไรก็บอกมาได้เลยนะคะ”
“เอ่อ... คือว่า... ขอด๊องไปจ่ายตลาดเองได้มั๊ยครับ คือด๊องยังคิดเมนูที่จะทำไม่ออกน่ะครับ แฮ่ๆๆ ...” คนตัวเล็กยกมือเกาท้ายทอยแก้เขิน อาสาจะเป็นคนทำอาหารให้ทานแท้ๆ แต่กลับนึกรายการที่จะทำไม่ได้
“ได้ซิครับ... เดี๋ยวผมพาไป ป้ากึมยองไปด้วยกันนะครับ นายด้วยมินวู ไปเตรียมตัวขับรถแล้วก็ไปช่วยหิ้วของด้วย...”
เยซองตอบรับคำ บอกความนัยทางสายตาให้คุณหัวหน้าแม่บ้าน ไม่ต้องกลัวว่าไอ้คุณชายสิงโตมันจะกัด แล้วหันมาสั่งความกับมินวู คนขับรถที่ไปไหนไปด้วยกันแทบจะทุกที่ จนจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว กำลังทำอะไรบางอย่างกับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพื่อนรักซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดที่ผ่านมา
“สักครู่นะครับ... คุณหนูดองเฮครับ ได้โปรดช่วยยิ้มหวานๆ ให้มินวูคนนี้ได้บันทึกภาพแห่งความทรงจำอีกครั้งนะครับ” มินวูที่วุ่นปล้ำโทรศัพท์เครื่องหรูเสร็จแล้ว หันมาส่งสายตาอ้อนๆ ขอความเห็นใจกับคุณผู้หญิงสุดสวย
ดองเฮมองท่าทางของคนขับรถ ที่ตนเห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว รู้สึกงุนงง แต่ก็ยอมปฏิบัติตามคำร้องขอ ส่งรอยยิ้มหวานให้
... แชะ ...
เสียงกดชัตเตอร์จากเครื่องโทรศัพท์ของมินวูดังขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าตัวรีบทำการถ่ายภาพ เมื่อคุณผู้หญิงในอนาคตของคฤหาสน์หลังงามเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ประจำกายทันที
“ขอบพระคุณมากนะครับ คุณหนูดองเฮที่ยอมทำตามคำขอร้องของทาสผู้ต้อยต่ำอย่างกระผม... คุณเยซองครับ รบกวนช่วยตั้งภาพเมื่อสักครู่เป็นภาพบนหน้าจอให้ผมด้วยนะครับ ผมทำไม่เป็น” มินวูแทบน้ำตาไหล ก้มหัวเอ่ยคำขอบคุณมากมาย แล้วหันไปวอนขอให้เยซองช่วยจัดการตั้งภาพกับเครื่องสื่อสารไฮเทคตาปริบๆ
เยซองกระชากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของมินวูอย่างแรง ตาตี่ๆ ของหนุ่มหน้าซาลาเปามองอาฆาต ด้วยอารมณ์แทบอยากจะทุบหัวของไอ้คุณคนขับรถที่รู้ใจกันดีให้แบะ มีอย่างที่ไหนมาขอให้เขาตั้งภาพของนางฟ้าคนสวยบนมือถือของมัน เขารู้จักคุณหนูคนงามมาก่อนมันตั้งนาน เขายังไม่มีภาพของคนตัวเล็กสักภาพ
แต่มัน... ไอ้คุณมินวูจอมกระล่อน เพิ่งจะได้พบกับนางฟ้าของเขาเพียงแค่สองวันเท่านั้น กลับถ่ายภาพพร้อมรอยยิ้มของคุณหนูดองเฮคนงามได้ แล้วยังมาหยามให้เขาช่วยเหลือมันอีก แบบนี้น่าจะปาโทรศัพท์ทิ้งจริงๆ
บรรดาผู้ที่มองต่างหัวเราะขบขันกันยกใหญ่ ในท่าทางของทั้งสองหนุ่มที่มีให้กัน ถึงแม้ว่าคุณเลขาเพื่อนรักของคุณชายจะมองมินวูอย่างอาฆาตแค้น แต่มือเล็กๆ นั่นก็ช่วยเหลือตามคำขอร้องของคนขับรถคนสนิท
ในขณะที่มินวูช้อนสายตาออดอ้อน กระพริบตาปริบๆ ได้อย่างกวนอารมณ์และอวัยวะเบื้องล่างของเยซองเป็นอย่างมากที่สุด
“เอ้า!!! เสร็จแล้ว ระวังตัวเองไว้บ้างนะ ถ้าเกิดว่าเจ้านั่นรู้เรื่องขึ้นมาล่ะก็ เอ็งจะโดนสิงโตตะปบแบบไม่เลี้ยงให้เสียข้าวสุก” เยซองส่งโทรศัพท์กลับคืนเจ้าของหลังจากตั้งค่าให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมคำเตือน หากเพื่อนรักปากแข็งรู้เรื่องเข้า รับรองต่อให้เป็นคนสนิทกันขนาดไหน พ่อเจ้าประคุณก็ซัดไม่เลี้ยงแน่ๆ
“โอ้!!! ขอบพระคุณมากนะครับ ขอเพียงแค่ให้มีใบหน้าหวานๆ ของคุณหนูดองเฮอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ต่อให้โดนสิงโตตัวใหญ่ตะปบ มันก็คุ้มนะครับคุณเยซอง...
เชิญที่รถได้เลยครับ ผมพร้อมปฏิบัติหน้าที่แล้วครับ” มินวูกล่าวอย่างไม่เกรงกลัว...ซะที่ไหน ในใจนั้นหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน การแสดงออกนั่น แกล้งทำไปอย่างนั้นเอง
เยซอง กึมยองและดองเฮมองท่าทางไม่หวั่นเกรงของมินวูอย่างขำๆ ทั้งๆ ที่หน้าซีดเป็นไก่ต้มยังทำปากเก่งอีก เดินตามคนเก่งขาสั่นไปยังรถที่เจ้าตัวเปิดประตูไว้รอ แต่สายตากลับเหลือบมองไปยังภายในของคฤหาสน์หลังงามว่ามีบุคคลที่กล่าวถึงเมื่อสักครู่อยู่หรือเปล่า
hhhhhhhhh
รถยนต์คันหรูแล่นด้วยความเร็วคงที่มุ่งหน้ากลับยังคฤหาสน์หลังงามหลังจากจับจ่ายซื้อของสดนำมาปรุงอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เยซองนั่งเคียงข้างกับคนขับรถจอมกะล่อน ปล่อยให้สองสาว (?) นั่งด้านหลังอย่างสบายๆ เสียงพูดคุยของแม่นมและคนตัวเล็กดังขึ้นตลอดทาง จนกระทั่งหนุ่มหน้ากลมเอ่ยถามนางฟ้าของตนเมื่อนึกบางเรื่องได้
“อ้อ!!! คุณหนูดองเฮครับ คุณหนูจบทางด้านไหนมาครับ ผมจะได้หาตำแหน่งลงให้ถูก”
“ผมจบบริหารการตลาดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาน่ะครับ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ใช้ความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา” ดองเฮบอกด้วยเสียงเศร้าเล็กน้อย
“ทำไมจะไม่ได้ใช้ล่ะครับ เดี๋ยวผมหาตำแหน่งให้....” เยซองบอกเพื่อให้คนตัวเล็กสบายใจและได้ใช้วิชาความรู้ที่มี
แม้จะต้องทำให้ใครบางคนที่ดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนต้องหมดวาระลงกะทันหันก็ตาม แต่ดูเหมือนดองเฮจะรู้ทันความคิดของเลขาหนุ่มจึงได้เอ่ยตัดคำ ตัดความคิดทั้งหลาย
“ไม่ต้องหรอกครับ ให้ผมทำตำแหน่งอะไร แผนกไหนก็ได้ครับ ขอแค่ให้ผมได้อยู่ไกลๆ อย่าให้เจอะเจอกับคนใจร้ายนั่นเลยครับ”
ดองเฮเบือนหน้าไปมองนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยเริ่มจะคลอด้วยน้ำใสๆ นึกถึงสิ่งที่ผ่านมาด้วยหลากหลายความรู้สึก ทั้งโกรธเคือง เสียใจ น้อยใจ ปะปนกันจนไม่อาจแยกได้ว่าสิ่งไหน คือความรู้สึกที่แท้จริงของตนกันแน่
คนสนิทของคุณชายปากแข็งได้แต่มองหน้ากัน ปรึกษากันทางสายตา พยายามคิดหาทางประสานรอยร้าวในใจของคนตัวเล็กว่าที่คุณผู้หญิงของตระกูลให้ดีดั่งเดิม
ถึงแม้ว่าการกระทำที่แสดงออกมาทั้งหมดของซีวอน จะตรงกันข้ามกับความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของเจ้าตัวก็ตาม
แต่ในเมื่อซีวอนไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริง ปิดบังความรู้สึกแต่กลับแสดงออกในทางทำร้ายจิตใจกันแบบนี้ คงต้องวางแผนอย่างแยบยลมากขึ้น
อีกทั้งปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่ตก คู่หมั้นของหนุ่มร่างสูงที่มีความเกี่ยวข้องกันในทุกเรื่อง และความสัมพันธ์ของทั้งสองที่มีให้กัน เหนียวแน่นเกินกว่าจะจบความสัมพันธ์ในชั่วพริบตาได้ อีกทั้งผลประโยชน์ทั้งหลายที่มีร่วมกันมาตั้งแต่ครั้งรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ของคุณชายเทพบุตร ทำให้ไม่สามารถลงมือกระทำการใดๆ ที่รุนแรงขั้นเด็ดขาดได้
<<<<< FULL HOUSE >>>>>
ความคิดเห็น