คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : FULL HOUSE ..... 9
“ทำไมอยู่กับผมมันเป็นยังไง ผมมันตัวเชื้อโรค น่ารังเกียจนักหรือยังไง ถึงได้ไม่อยากจะอยู่ด้วย”
เสียงตวาดลั่นของเจ้าบ้านเรียกความสนใจให้กับบรรดาคนงานในบ้านให้รีบออกมาดูเหตุการณ์ทันที
กึมยองรีบเข้ามาสมทบหลังจากที่สาวใช้คนหนึ่งไปตามนางให้มาห้ามทัพ ยกมือทาบอกตกใจกับภาพที่เห็น คุณชายของนางเขย่าร่างของคุณหนูดองเฮที่ขัดขืนอย่างแรง เสียงหวานของว่าที่คุณผู้หญิงของบ้านตวาดลั่นกลับไปด้วยอารมณ์ร้อนไม่แพ้กัน
“โอ๊ย...!!! เจ็บนะ!!!! เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก คุณไม่ใช่เจ้าชีวิตของผม อย่ามาบังคับผมนะ... ผมไม่ชอบ..!!! ผมไม่อยู่ร่วมกับคนบ้าอำนาจอย่างคุณหรอก”
“คุณโฮดงสั่งเสียไว้ว่ายังไง หนูด๊องจำไม่ได้หรือไง” ซีวอนเตือนความจำของคนตัวเล็กถึงคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของบิดาคนหน้าหวานที่ห้องพักฟื้นในโรงพยาบาล
“จำได้... แต่ผมมีบ้านของตัวเองให้อยู่ และวันพรุ่งนี้ผมต้องไปทำงาน ครบวันลาของผมแล้ว” ดองเฮลดเสียงลงบอกเหตุผล พยายามใจเย็นกับคนตรงหน้าให้ได้มากที่สุด
“หนูด๊องจะกลับไปที่บ้านหลังนั้นได้ยังไง ในเมื่อผมขายมันไปแล้ว ส่วนเรื่องงานผมก็ทำเรื่องขอลาออกให้แล้วเช่นกัน” ซีวอนบอกด้วยท่าทีเรียบเฉย ไม่ทุกข์ร้อนสักนิด
ดองเฮหันมามองด้วยดวงตาลุกวาว อารมณ์โกรธพุ่งปรี๊ดเหมือนภูเขาไฟกำลังปะทุลาวาออกมา มือบางทุบตีซีวอนไม่ยั้ง
“นี่แหนะๆ !!!! คุณบ้าไปแล้วหรือยังไง กล้าดียังไงถึงมาขายบ้านของผม แล้วยังลาออกจากงานให้ผมอีก” ซีวอนปัดมือเล็กๆ ที่ทุบตีเขาไม่ยั้งเป็นพัลวัน พยายามจับมือทั้งสองข้างให้เลิกประทุษร้ายตนได้แล้ว
ดองเฮดิ้นสะบัดให้หลุดพ้นจากคนตรงหน้า ดวงตาคู่สวยคลอด้วยน้ำใสอย่างอัดอั้น ที่ไม่สามารถทำอะไรคนตรงหน้าได้
“ผมบอกแล้วไงว่าให้อยู่ที่นี่ ส่วนเรื่องงานถ้าหนูด๊องอยากจะทำ ก็มาทำกับบริษัทในเครือชเวซะ ผมไม่อยากผิดคำพูดกับคุณโฮดง” ซีวอนผ่อนอารมณ์ลง เมื่อเห็นดวงตาสีชาแดงก่ำด้วยหยาดน้ำตา
“ไม่จำเป็น... คุณไม่ต้องทำตามคำรับปากซั่วๆ ของคุณหรอก คุณพ่อของผม ท่านคงไม่ฟื้นมาเอาเรื่องคุณได้หรอก... ขอบคุณมากที่ให้ผมพักที่นี่เมื่อคืนนี้... ผมขอตัว”
ดองเฮขืนตัวหลุดจากฝ่ามือหนาได้สำเร็จ ลุกขึ้นยืนกำลังจะก้าวขาออกไปจากบ้านของคนใจร้าย แต่ถูกมือของซีวอนดึงกระชากให้กลับมาอย่างแรง วาจาดูถูกหยามเหยียดเปล่งออกมาอย่างไม่ยั้งคิด
“อย่าหยิ่งให้มันมากนัก หนูด๊องจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้ยังไง บ้านก็ไม่มี งานก็ไม่มี เงินเก็บที่มีมันมากนักหรือไง จะอดตายอยู่ร่อมร่อ ยังจะหยิ่งไม่เข้าเรื่อง”
“ต่อให้ผมอดตาย ผมก็จะไม่ขอความช่วยเหลือจากคุณหรอก... คนใจยักษ์ ใจมารอย่างคุณ ผมขอพบเจอแค่นี้ก็พอแล้ว ผมมีปัญญาหาเลี้ยงตัวเอง ความรู้ของผมก็มี ผมคงไม่อดตายง่ายๆ หรอก”
ดองเฮมองซาตานในคราบเทพบุตรด้วยความเสียใจ ความรู้สึกดีๆ ที่เริ่มมีให้กลับมลายหายสิ้น
“ลี ดองเฮ อย่ามาทำเป็นอวดเก่ง คุณก็รู้ว่าผมเป็นใคร ถ้าเพียงแค่ผมบอกไม่ให้บริษัททั้งหลายรับคุณเข้าทำงาน แล้วคุณคิดว่าพวกเขายังจะกล้ารับคุณเข้าเป็นพนักงานมั๊ย... หรือว่าจะไปเร่ขายตัวเองให้กับบรรดานักธุรกิจแก่ๆ ตัณหากลับพวกนั้นแทนล่ะ... หึหึ”
..... เพี๊ยะ!!!!.....
“คนเลว... เลวอย่างหาที่ใดเปรียบไม่มี ถือว่าคุณมีอำนาจใหญ่คับฟ้า แล้วมารังแกคนที่อ่อนแอกว่าได้หรือยังไง... ความคิด ความอ่าน การกระทำทั้งหมดของคุณ มันไม่ต่างไปจากอสูรกายหยาบช้าในขุมนรกสักนิด” ดองเฮกดเสียงต่ำ น้ำตาไหลพราก อดสูกับโชคชะตาของตนเองที่ต้องมาพบเจอกับคนประเภทนี้
กึมยองมองคนตัวเล็กด้วยความสงสารในน้ำคำของคุณชายที่เปล่งออกมาโดยไม่ตั้งใจ มองดูแววตาสำนึกผิด ขอโทษขอโพยของนายตนที่พยายามจะส่งผ่านมาให้คนร่างบางรับรู้ ช่างแตกต่างกับคำพูดที่กล่าวออกมาอย่างสิ้นเชิง
ซีวอนหน้าหันจากการปะทะกับฝ่ามือเล็กเต็มแรงจนเลือดซิบ มองร่างตรงหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำใสมากมาย พยายามส่งความนัยผ่านแววตาให้อีกฝ่ายรับรู้ ไม่ได้อยากจะกลายเป็นคนร้ายกาจในสายตาของดองเฮ
..... แต่ทำไม...? คนตัวเล็กต้องคอยผลักไส หนีให้ห่างออกไปจากชีวิตของเขาด้วย .....
การกระทำ คำพูดคำจาที่แตกต่างจากแววตาของชายหนุ่มร่างสูงไม่อาจส่งเข้าไปถึงอีกฝ่าย ที่ตอนนี้ทัศนคติที่มีให้ติดลบเกินกู้ มือบอบบางที่ประทับความเจ็บปวดบนใบหน้าคม พยายามแกะมือของอีกคนที่บีบกำข้อมือของตนแน่น ด้วยเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิด
แม้คนตรงหน้าจะไร้แรงต่อกรกับตน แต่ท่าทีขัดขืน มือขาวเล็กบิดแกะเพื่อให้เป็นอิสระจากการกุมขังของฝ่ามือใหญ่กว่าเกือบเท่าตัว สร้างความโกรธาให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
ชายผู้กุมอำนาจเกือบทั้งหมดของประเทศมองดูคนตัวเล็กก้มหน้าก้มตาแกะง้างฝ่ามือของเขาด้วยดวงตาสั่นระริก หนทางเดียวที่จะรั้งนางฟ้าองค์นี้ไว้ให้อยู่กับตนได้ จำเป็นต้องเด็ดปีกบอบบางคู่สวยทิ้งเสีย
“ผมเลวได้มากกว่านี้อีก ถ้าคุณยังดื้อรั้นจะไปจากผมให้ได้..... ป้ากึมยอง!! ป้าอยู่ที่ไหน ออกมาหาผมเดี๋ยวนี้!!!” ซีวอนตะโกนเรียกแม่นมเสียงดังลั่นบ้าน
“ป้าอยู่ที่นี่แล้วค่ะ คุณชายต้องการอะไรคะ”
กึมยองเดินออกมาจากที่เฝ้าสังเกตการณ์ตามคำร้องเรียกของผู้เป็นนาย ส่งสายตาเห็นใจให้ร่างเล็กที่น้ำตานองหน้า เจ็บปวดทั้งทางกายและทางใจอย่างมากล้น
“ป้าช่วยไปเปิดเรือนไม้ให้ผมด้วยนะครับ” ซีวอนสั่งความกับแม่นม แต่สายตามองการกระทำของคนร่างบางที่ยังปล้ำแกะมือ ไม่ยอมจำนนแก่เขาแต่อย่างใด
“เอ่อ... แต่ว่าเรือนไม้หลังนั้น มีความสำคัญ.....”
“หยุด!!! ป้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมสั่งให้ทำอะไรก็ไปทำตามนั้น เดี๋ยวนี้!!!!” ซีวอนตวาดลั่นให้กึมยองหยุดเอ่ยบางอย่างออกมา
“ค่ะคุณชาย”
กึมยองรับคำอย่างไม่อาจขัดใจคุณชายของบ้านได้ เดินตรงไปยังเรือนไม้สีขาวชั้นเดียวที่แยกตัวออกมาทางด้านหลังของตึกใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ พรรณไม้ นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมทั่วบริเวณ
hhhhhhhhh
เรือนไม้ที่ถูกปิดตายตั้งแต่คุณผู้หญิงคนก่อนจากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน เรือนไม้ที่มารดาของคุณชายชอบมากเป็นพิเศษ สถานที่ที่มีความทรงจำมากมายกับเจ้านายของนาง
ทั้งที่เคยออกปากไว้แล้วว่าไม่ให้ผู้ใดย่างกรายเข้ามายังเรือนไม้หลังนี้ นอกจากนางและสาวใช้บางคนที่มาช่วยทำความสะอาดเดือนละครั้งเท่านั้น แม้แต่คู่หมั้นของคุณชายยังไม่เคยได้ย่างเท้ามาเยือนเลยสักครั้ง
แต่วันนี้คุณชายของนางกลับให้มาเปิดเรือนไม้แห่งความทรงจำ พื้นที่ส่วนบุคคล นางไม่รู้จุดประสงค์ของคุณชายซีวอนสักนิด อะไรทำให้คุณชายกระทำกับหนูดองเฮขนาดนั้น อีกทั้งเรื่องเปิดเรือนไม้หลังนี้ด้วย.....
..... แต่แล้วความสงสัยทั้งหมดที่มีของกึมยองก็ได้รับคำตอบ เมื่อคุณชายซีวอนฉุดกระชาก ลากถูร่างเล็กๆ ที่ทั้งทุบ ทั้งตี เสียงหวานปนสะอื้นร้องบอกให้ปล่อยของคุณผู้หญิงในอนาคตมายังตัวเรือนไม้แห่งนี้
ตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่าคนร่างเล็กคนนี้จะต้องเป็นบุคคลดำรงตำแหน่งสำคัญเคียงคู่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคุณชายของนางอย่างแน่นอน .....
เหตุเพราะคุณชายได้ลั่นวาจาไว้แล้วว่า เมื่อใดที่เขาให้เปิดเรือนไม้หลังงามนี้ออกอีกครั้ง คนที่เข้ามาพำนักเรือนไม้หลังนี้คือ คุณผู้หญิงของคฤหาสน์ชเว แต่นางไม่มั่นใจว่าคุณชายของนางจะยังจำคำพูดของตัวเองได้หรือไม่
ซีวอนถูลู่ถูกังคนที่ขัดขืน ออกแรงฉุดลากคนตัวเล็ก พร้อมด้วยบรรดาคนงานในบ้านที่เป็นห่วงสวัสดิภาพของว่าที่คุณผู้หญิง เดินตามหลังมาเป็นขบวน โยนร่างเล็กๆ ลงกับพื้นไม้เปื้อนฝุ่นอย่างแรง ไม่สนใจว่าดองเฮจะเจ็บปวด บอบช้ำเพียงใดกับสิ่งที่ตนทำ
กึมยองรีบเข้าไปประคองร่างของดองเฮที่สะอื้นไห้จนตัวโยน จากแรงกระแทกเมื่อครู่คงจะสร้างความเจ็บปวดให้ไม่น้อย กอดปลอบประโลม เมื่อดองเฮสวมกอดตนเองไว้แน่นอย่างต้องการหาที่พึ่ง
“นี่คือที่อยู่ของคุณ ในเมื่อไม่อยากจะอยู่ร่วมกับผมที่ตึกใหญ่ก็อยู่ที่เรือนไม้หลังนี้ก็แล้วกัน อย่าคิดว่าผมจะปล่อยคุณไป แล้วอย่าคิดหนีด้วย อย่าให้ผมต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับคุณ.....
ส่วนเรื่องงาน... ถ้าคุณอยากจะทำจริงๆ บริษัทของผมมีตำแหน่งให้คุณเพียบเลย มีตั้งแต่ตำแหน่งเลเบอร์ จับกัง ยันผู้บริหาร แล้วแต่คุณจะเลือกตามใจชอบ ..... ป้ากึมยองครับ ผมวานให้ป้าจัดการเรื่องทำความสะอาด ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็นด้วยนะครับ ก่อนที่คุณหนูตกยากจะไม่มีที่ซุกหัวนอนในคืนนี้”
ดองเฮหลับตา เบือนหน้าหนี พยายามปิดประสาทการรับฟัง ไม่ให้ได้ยินคำพูดแสลงหูบาดใจ สองแขนเล็กโอบกอดหญิงชรา ด้วยอาการสั่นเทา เก็บกลั้นเสียงสะอื้น ไม่ให้อีกฝ่ายมาสมเพชเวทนาเห็นใจ
กึมยองเงยหน้ามองคุณชายด้วยแววตาตำหนิ ส่ายหน้าน้อยๆ เต็มไปด้วยความหนักใจให้กับอาการของซีวอนที่กระวนกระวาย ดวงตาคู่คมสั่นไหว เมื่อเห็นว่าร่างเล็กบอบบางสั่นเทาขนาดไหน ริมฝีปากของคุณชายเทพบุตรอ้าออกขยับขึ้นลง ฝากฝังให้นางดูแลคนในอ้อมกอดให้ดีแบบไร้เสียง
กึมยองถอนหายใจระบายความอัดอั้น ไม่สามารถเปล่งออกมาเป็นถ้อยคำได้กับท่าทางของคนทั้งสองที่มีให้กัน แล้วจึงพยักหน้ารับคำฝากฝังให้คุณชายที่นางเลี้ยงมาสบายใจ
ซีวอนก้มลงหอมแก้มของแม่นมอย่างขอบคุณ เดินผ่านบรรดาคนงานทั้งหลายที่รีบกรู่เข้าไปหาคนตัวเล็กเอ่ยคำปลอบโยนต่างๆ นานา
ซีวอนมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม บรรดาคนงานในบ้านต่างยอมรับดองเฮในฐานะคนสำคัญของตระกูลได้ เพียงแค่วันเดียวที่คนตัวเล็กก้าวเข้ามายังคฤหาสน์แห่งนี้ สามารถมัดใจคนที่อาศัยร่วมกันมาเป็นเวลานานได้อย่างรวดเร็ว เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยฝากสายลมไปยังเจ้าของเรือนไม้คนเก่าให้รับรู้
“คุณแม่ครับ ผมพาลูกสะใภ้มาให้รู้จัก เค้าชื่อดองเฮครับ ฝากดูแลลูกสะใภ้ของคุณแม่ด้วยนะครับ ช่วยดลใจให้เค้าเข้าใจในสิ่งที่ผมทำไปทั้งหมดด้วยนะครับ”
hhhhhhhhh
“เอ็งทำรุนแรงกับนางฟ้าของข้าเกินไปหรือเปล่าวะ” เยซองพ่นคำตำหนิเพื่อนรักทันทีที่ซีวอนเดินเข้ามาภายในห้องรับแขก หลังจากที่เขาไปขนข้าวของจำเป็นของดองเฮที่หลงเหลืออยู่จากบ้านหลังเดิม ที่มีผู้มาติดต่อขอซื้อเรียบร้อยแล้ว มินวู... คนขับรถคนสนิทรีบวิ่งเข้ามาหา พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่ให้ฟัง
“หนูด๊องไม่ใช่ของเอ็ง อย่ามาขี้ตู่ซะให้มาก เอ็งคงเข้าใจความหมายของข้าดีนะ ว่าทำไมข้าจึงสั่งให้เปิดเรือนไม้อีกครั้ง” ซีวอนตวาดใส่เพื่อนรักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เยซองไม่คิดนำมาใส่ใจแต่อย่างใด รู้จักกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย กินนอน ร่วมสุขทุกข์มาด้วยกันตั้งมากมาย กับเรื่องแค่นี้ของอารมณ์คนหึงหวง ไม่คิดมากให้เปลืองเนื้อที่ในสมองหรอก
“ข้ารู้ แต่สิ่งที่เอ็งแสดงออก เอ็งมั่นใจหรือว่า นางฟ้าของข้าจะยอมรับได้”
“เฮ้ย!!!! พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ ว่าหนูด๊องเค้าไม่ใช่ของเอ็ง”
“เออ!!!! รู้แล้วโว๊ย!!!! มันติดปากจะให้ข้าเปลี่ยนคำตอนนี้คงไม่ทันแล้ว เอ็งก็ทำใจให้กว้างหน่อยซิวะ ข้าไม่ได้เป็นเจ้าข้าวเจ้าของนางฟ้าเสียหน่อย ข้าเจอเค้าก่อนเอ็งนะโว๊ย!!!! .....
หนอย...!!! มัวแต่ปากแข็งอยู่ได้ แล้วเป็นไง... ยัดเยียดตำแหน่งคุณผู้หญิงของตระกูลชเวให้เค้าซะงั้น
.. โถ่...ไอ้คุณชายปากแข็ง!!! ข้าล่ะไม่อยากจะพูด” ซีวอนส่ายหน้าให้กับเพื่อนรักเพื่อนแท้อย่างระอา ขนาดมันบอกว่าไม่อยากจะพูด มันยังบ่นยาวซะขนาดนี้ ถ้ามันอยากพูดเขาไม่ต้องหลับรอเลยหรือไง
“พอๆๆๆ เอ็งจะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมาวะ ต่อไปนี้นะเอ็งต้องช่วยข้าจับตาดูหนูด๊องไม่ให้คิดหนีไปจากข้าได้ ข้าอาจจะส่งเค้าไปเป็นผู้ช่วยของเอ็งนะ”
“ไอ้วอน เอ็งจะบังคับจิตใจคุณหนูดองเฮของข้ามากเกินไปหรือเปล่า ให้เค้าได้เลือกปฏิบัติในสิ่งที่ชอบ ที่ถนัดตามความสามารถของเค้าดีกว่า”
“เฮ่อ!!!~ ก็ได้ๆ เอ็งลองเข้าไปคุยกับหนูด๊องเองล่ะกัน ตอนนี้หนูด๊องคงไม่อยากจะเจอหน้าข้าหรอก”
“เออ!!! สมควรอยู่หรอก ทำกับเค้าซะขนาดนั้น ใครอยากจะพบเจอเอ็ง ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว..... แต่ข้าขอถามเอ็งหน่อยนะ เอ็งจะจัดการเรื่องฮโยยอนยังไง นั่นน่ะคู่หมั้นของเอ็งนะ.....
ในเมื่อเอ็งสั่งให้เปิดเรือนไม้หลังนั้นและคนงานในบ้าน ต่างก็ยอมรับนางฟ้าของข้าได้หมดใจแล้ว..... เอ็งจะแก้ปัญหาส่วนนี้ยังไง” เยซองย้ำความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ถึงสถานะปัจจุบันของเพื่อนรักกับลูกสาวของหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ถูกทาบทามหมั้นหมายกันตั้งแต่เล็กแต่น้อย
“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ตกลงกันเอง ในเมื่อพวกท่านเสียกันไปแล้ว ทุกอย่างถือว่าเป็นโมฆะ รอให้ถึงวันที่ฮโยยอนกลับมาก่อนแล้วกัน ข้าจะจบเรื่องราวทุกอย่างเอง” ซีวอนบอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย กับลูกสาวของหุ้นส่วนคนสำคัญ
..... บางทีเขาอาจจะต้องยอมสูญเสียผลประโยชน์เพียงน้อยนิด เพื่อแลกกับการมีคนตัวเล็กไว้เคียงข้างกาย .....
“อย่าทำอะไรให้มันรุนแรงนักก็แล้วกัน ยังไงเสีย... ฮโยยอนก็เป็นเพื่อนของพวกเรามาก่อน ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันล่ะ ข้าขอตัวไปหานางฟ้าของข้าก่อนนะ เผื่อนางฟ้าของข้าจะใจอ่อนยอมตกลงเป็นแฟนกับข้า .....
ในช่วงเวลาอ่อนแออย่างนี้ เทพบุตรรูปงามเยี่ยงข้า จักต้องเข้าไปปลอบประโลมให้นางฟ้าคนงามคลายความเศร้าหมอง” เยซองเอ่ยเตือนในนึกถึงความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่มีให้กันมา แล้วจึงกล่าวยั่วโมโหเพื่อนรัก ที่นั่งเป็นสิงโตหน้าเครียดอยู่
ซีวอนแทบอยากจะถอดรองเท้ามาปาใส่หน้าซาลาเปากลมๆ ของเพื่อนรักจอมกวนประสาทจริงๆ ไม่รู้ว่ามันดูออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ว่าเขาหลงรักคนตัวเล็กแสนรั้นนั้น ไว้ว่างๆ ค่อยถามมันดีกว่า
hhhhhhhhh
วันนี้อารมณ์ดีเกินเหตุ งานเยอะจนหัวปั่น อัพฟิคแก้เครียดดีกว่า เจอกันตอนหน้าจ้า
ความคิดเห็น