ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Evil Omen ลางร้าย ลางหายนะ

    ลำดับตอนที่ #3 : The 2nd Omen – ครอบครัวดิสก์

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 48


    The 2nd Omen – ครอบครัวดิสก์







                        ไอเย็นในอากาศส่งผลถึงสภาพภายในบ้านเรือนให้มีอากาศเย็นเยียบเช่นทุกวัน ที่อีกไม่นานคงจะไม่มีใครได้รับไอความหนาวเย็นภายในบ้านอีกแล้ว อีก 3 วัน ฟรานเซียก็จะออกไปจากหมู่บ้านกรีนวิลล์งี่เง่านี่แล้ว





                        เธอนั่งสบายอารมณ์อยู่ในห้องรับแขกบนโซฟาตัวนุ่ม มือถือแก้วเซรามิกสั่นระริกเพราะความหนาวแม้จะจุดไฟในเตผิงแล้วก็ตาม เธอไม่ค่อยอยากจะออกไปข้างนอกเท่าไหร่นัก ไม่ใช่เพราะความหนาว แต่อาจเพราะขี้เกียจ...ขี้เกียจฟังสังคมประนามมากกว่า...







                        ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเสบียงอาหารร่อยหรอล่ะก็...







                        ฟรานเซียคว้าเสื้อโค้ทเก่าๆสีน้ำตาลมาสวมก่อนจะก้าวเดินออกจากบ้าน ด้วยเงินที่แทบไม่เหลือหรอ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือฝากความหวังไว้กับญาติคนสุดท้ายที่หมู่บ้านฮอฟฟาเรลล์ ถึงแม้ความหวังจะหมายถึงส่งที่ไม่มั่นคงที่สุดก็ตาม





                        ‘ร้านขายเนื้อ’ ป้ายใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้านที่ไม่ต้อนรับเธอเอาเสียเลย ตั้งแต่เข้าไปใกล้ในรัศมี 2 เมตร คนขายก็รีบพูดตะคอกใส่หน้า “ไม่ขาย!”







                        ทำไมถึงมีร้านเนื้อร้านเดียวก็ไม่รู้…



                        แต่ไม่เป็นไรไม่กินเนื้อก็กินผักได้



                        ไม่ตายหรอกน่า…







                        แต่ไม่ว่าเดินผ่านไปร้านไหน เจ้าของร้านก็จะรีบปิดร้านหนีทันที บางรายถึงกับต่อว่าต่างๆนาๆ ไหนจะ ‘ไอ้คนฆ่าลุง’ บ้าง ‘เด็กไม่รู้จักบุญคุณ’ บ้าง แต่เธอไม่สนใจสักเท่าไหร่ ได้แต่คิดว่า ไม่สนก็คงดีเอง แต่เธอก็ยังก้าวเดินบนถนนสายนี้ต่อไปท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ







    …น่าขำ…







                        ความคิดพลันแล่นวูบเมื่อมองไปทางร้านที่ผ่านมาแต่ละร้านปิดอย่างรวดเร็วราวกับประชาชนน้อมรับราชินี หรืออาจเป็น ประชาชนเกรงกลัวโจรป่ามากกว่า แค่คิดความน่ากลัวก็ทำให้ราชินีกลายเป็นโจรป่าเสียได้





                        จะว่าไปแล้วตระกูลซัมเปอร์ก็มีอิทธิพลต่อหมู่บ้านมากอยู่ ด้วยความรวยแบบที่สุด และไฮโซแบบที่สุดเช่นกัน เมื่อปีกลายกว้านซื้อบ้านในหมู่บ้านกรีนวิลล์ได้เกือบครบทุกหลัง เหลือแต่บ้านของท่านนายกเทศมนตรี…บ้านลุงบุญธรรมของเธอ…







                        คิดแล้วก็หนักใจ



                        จะไปซื้อก็คงไม่มีที่ไหนขาย ให้ฟรีก็ยิ่งแล้วใหญ่



                        แค่เข้าใกล้ยังไม่ได้เลย…







                        ปลงได้ก็หันหลังกลับ ท่าทางจะต้องกลับบ้านมือเปล่า คงบอกไม่ได้ว่าผิดหวัง เพราะคิดอย่างงี้อยู่แล้ว





                        “เอ้อ…พี่สาวฮะ” เสียงแผ่วเบาของเด็กผู้ชายดังขึ้นด้านหลังสาวหน้าอมทุกข์







    …มาอีกแล้วสินะ โชคดีบนความโชคร้าย…







                        “ตามผมมาสิฮะ” ฟรานเซียเบิกตาขึ้นกว้างเมื่อได้ยินคำชวน หรี่ตาลงก้มหน้ามองพื้น ก่อนจะได้ยินเสียงกระเซ้า “เร็วๆสิฮะ” เด็กชายกวักมือเรียกเธอ และวิ่งนำทางไป…







                        บริเวณท้ายหมู่บ้าน… เสียงหอบของเด็กชายดังมาเป็นระยะๆ ตามหลังด้วยเธอที่ไม่ได้ออกแรงวิ่งสักเท่าไหร่ ก่อนจะหยุดหน้าบ้านเล็กๆที่สร้างขึ้นแบบลูกหมูตัวที่ 2







    …บ้านไม้…







                         มันเป็นบ้านไม้ขนาดเล็กที่มีรั้วไม้เล็กๆรายล้อมและปลูกไม้เลื้อยรอบ ดูแล้วน่ารัก แต่ผิดกับบ้านคนรวย ส่วนใหญ่พวกไฮโซเดี๋ยวนี้บ้านิทานก็เลยชอบบ้านแบบลูกหมูตัวที่ 3 เป็นพิเศษ ทั้งที่เป็นหมูอวดดีอวดเก่งเอาชนะพวกพี่ๆได้ แต่ส่วนที่มันชนะคนอื่นได้มั้งคนถึงชอบกัน







                         “กลับมาแล้วฮะ” เสียงของเด็กน้อยถูกกลบด้วยเสียงโครมครามเจื้อยแจ้วของคนอื่นในบ้าน ที่เธอมั่นใจได้ว่านั่นเป็นเสียงเด็ก





                        “อ้าว! แอรอน ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ” ผู้หญิงวัยกลางคนยื่นหน้าเข้ามาทักละจากการทำอาหารก่อนจะเบิกตากว้างมองแขกผู้มาเยือนและยิงคำถาม “นั่นใครน่ะ?”





                        “พี่สาวที่ช่วยผมตรงสถานีรถไฟไงฮะ”





                        “อ้าว! ฟรานเซียใช่มั้ยจ้ะ? น้าเอมิเลียจ้ะ เอมิเลีย ดิสก์ จะเรียกว่าน้าเอมี่ก็ได้จ้ะ”







                        น้าเอมี่…

                        ไม่เรียกหรอก ชื่อมันตะหงิดเหมือนชื่อเอมิลี่ ซัมเปอร์ที่คิดว่าเธอเป็นศัตรูนี่สิ…







                        น้าเอมิเลียยกหม้อออกจากเตาจะมาวางบนโต๊ะไม้ขณะที่ลูกคนเล็กหยิบผ้ารองมาวางให้แทบจะทันที





                         “ขอบคุณจ้ะ ไบรท์” เธอหันไปปิดแก๊สก่อนจะลากเก้าอี้แล้วเอี้ยวตัวมานั่ง แอรอนถอดหมวกวางไว้บนโต๊ะและนั่งลงบ้าง ก่อนจะขยับเก้าอี้ให้ฟรานเซียนั่งข้างๆ







                        “ขอบคุณนะจ๊ะที่ช่วยลูกน้าไว้” น้าเอมิเลียส่งรอยยิ้มแสนหวานมาให้เธอ รอยยิ้มที่หาคนจะมีได้ยาก แม้กระทั่งคนรวยอย่างตระกูลซัมเปอร์ก็หาซื้อไม่ได้ เธอช่างบาปหนาที่เอาน้าคนสวยไปเปรียบกับนางมารอย่างนั้นได้ไงก็ไม่รู้





                        “ไม่เป็นไรค่ะ”





                        “น้าก็ดูออกหรอกจ้ะ ว่าหนูฉุดยักษ์อย่างทนายแมกซ์ ซัมเปอร์ไม่ไหว”







                        ปลื้ม…



                        บอกได้คำเดียวว่า…ปลื้ม



                        ปลื้มจนภายในตัวเคว้งคว้าง…



                        ปลื้มว่าเด็กคนที่ช่วยมีแม่น่ารักเหลือเกิน…ปลื้มแทน…







                        “แต่เสียดายที่พวกซัมเปอร์ไม่เข้าใจ และคงไม่คิดจะเข้าใจ” เธอพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ ดวงตาสีดำเหไปทางด้านข้างทำให้ฟรานเซียมองเธอได้ชัดขึ้น เพราะเธอไม่ชอบการถูกมอง แต่เท่าที่ดูแล้วน้าเอมิลี่สวยทีเดียว ผมสีดำหยิกตามธรรมชาติถูกม้วนง่ายๆแล้วใช้ที่หนีบผมหนีบไว้ข้างหลัง ตาสวย ขนตายาว ริมฝีปากอวบ และที่ดีที่สุดคือมีเสน่ห์







                        แต่ไอ้พวกซัมเปอร์ก็ทำให้น้าเอมิเลียของเธอทำสีหน้าลำบากใจเสียได้







                        “เอ่อ…คุณนายดิสก์คะ…”





                        “เรียกน้าเอมี่สิจ้ะ”







                        ไม่เรียกหรอกจ้ะ…ชื่อที่คล้ายเอมิลี่อย่างง้าน…







                        “น้าเอมิเลียคะ คือว่า…” ฟรานยเซียพูดตะกุกตะกัก เพราะเธอไม่ค่อยจะพูด ยิ่งการพูดขอร้องยิ่งไม่เป็นใหญ่ สมองของเธอกำลังสั่งการ เรียงคำให้เป็นประโยคก่อนจะพูดออกไป แต่…แต่ละคำที่หลุดออกมามันไม่เป็นประโยคเนี่ยสิ







                        “เอ้อ…อาหาร…หน่อย…ขอ เอ้อ! ขอ…หน่อยอาหาร เอ้ย! หน่อยขออาหาร! หน่อยขออาหาร!”







                        หน่อยขออาหาร!?



                        บ้าเรอะ แกชื่อหน่อยตั้งกะเมื่อไหร่!







                        น้าเอมิเลียกับแอรอนหันไปมองเธอด้วยสีหน้าฉงนอย่างที่สุด การกระทำที่เธอทำออกไปทำให้ใบหน้าของเธอแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะซีดเผือดยิ่งกว่าหิมะ ความรู้สึกตอนนี้คือรู้สึกงี่เง่าที่สุด งี่เง่า งี่เง่า งี่เง่า… แต่น้าเอมิเลียก็ยังน่ารัก หัวเราะออกมาเสียงดัง ขณะที่ฟรานเซียสะดุ้งนึกว่าเธอจะหันมาถามว่า ‘หนูไปเปลี่ยนชื่อตั้งกะเมื่อไหร่’ ซะอีก







                        “หนูหมายความว่าหนูจะขออาหารใช่มั้ยจ้ะ”





                        “ค่ะ น้าเอมิเลีย”





                        “เอ่อ…ขออาหารหรอจ้ะ…” น้าเอมิเลียหลบหน้ากวาดสายตามองพื้นทำท่าทีครุ่นคิด ก่อนจะออกคำสั่ง “งั้น… แอรอนไปหยิบให้แม่ทีสิ ไป” แอรอนรับคำก่อนจะวิ่งออกไปนอกประตู นาเอมิเลียเห็นว่าแอรอนออกไปเรียบร้อยโดยไม่ปิดประตูจึงเดินไปปิดให้ แล้วแอบล็อกประตูไม่ให้ฟรานเซียเห็น “แย่จริงลูกคนนี้” เธอพึมพำ





                        “ขอบคุณมากนะคะ น้าเอมิเลีย” เอมิเลียมองสีหน้าเปื้อนยิ้มของฟรานเซียแล้วก็รู้สึกผิด รีบยกมือมาปิดหน้าก่อนจะหันหน้าหนี “อย่ามาขอบคุณอะไรน้าเลยจ้ะ”





                        “แต่ว่า…”





                        “โอ… ฟรานเซีย… เมื่อเช้าตระกูลซัมเปอร์มาเอาอาหารไปแทบหมดแล้วจ้ะ นี่แหละเหตุผลที่พวกมันมากว้านซื้อหมู่บ้าน… พวกนั้นก็ด้วยจ้ะ เกือบทุกร้านแหละจ้ะ…”





                        “ตระกูลซัมเปอร์…?” เธอพึมพำ







                        แล้วไอ้พวกซัมเปอร์มันมาเกี่ยวอะไรด้วย



                        นี่มันชักเอาใหญ่ ถึงกับจัดการชีวิตคนอื่นเลยเรอะ



                        นี่เธอเสนอหน้าหามันหรือว่ามันที่เข้ามาจุ้นจ้านกับเธอ?







                        “ได้โปรดเถอะ ก่อนที่แอรอนจะมา…”





                        ฟรานเซียมองหน้าน้าเอมิเลียด้วยรอยยิ้ม สติขาดผึง ตอนนี้แม้แต่น้าเอมิเลียเธอก็อาละวาดใส่ได้ง่ายๆ เวลาที่เสียสตินี่แหละ





                        “ค่ะ หนูจะไปแล้ว คุณนายดิสก์” คำตอบสุภาพพร้อมรอยยิ้มที่น่าเหินห่างของเธอคงส่งไปถึงน้าเอมิลี่แน่นอน แต่เธอคิดผิดที่ประชดน้าเอมิเลีย ในเมื่อไม่ใช่ความผิดอะไรของน้าเค้าสักนิด





                        ฟรานเซียเปิดประตูแล้วเดินออกจากบ้านและรั้วบ้านแสนน่ารักของครอบครัวดิสก์ มือเปล่าเหมือนเดิม เดินกลับไปเส้นทางเดิม และเจอผู้คนเดิมๆ มีแต่ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมและสติที่ขาดหายไป ในใจนึกรังเกียจตระกูลซัมเปอร์เป็นที่สุดที่เอาชีวิตคนอื่นมาเล่นให้ปั่นป่วนอย่างนี้







                        เออ!



                        เอาก็เอา



                        ชั้นจะอยู่รอดให้ได้ด้วยตัวเองไม่ยืมมือคนอื่น และไปหมู้บ้านฮอฟฟาเรลล์ในวันอาทิตย์







                        “ฟรานซ์” เสียงๆหนึ่งดึงความสนใจให้เธอกลับไปมอง เสียงของเด็กผู้ชาย… คนเดิม… “เอ้า! นี่!” แอรอนตะโกนพลางขว้างของในมือส่งให้ฟรานเซียไป







                         ไอ้เด็กนี่!



                        ตั้งชื่อเล่นให้เลยเรอะ คราวก่อนยังเรียกพี่อยู่เลยไม่ใช่เรอะ



                        แล้วมาโยนของให้ผู้ใหญ่เนี่ยนะ!







    …ของ!?…







                        ฟรานเซียก้มลงไปมองวัตถุชิ้นเล็กๆบนมือ ที่เธอไม่คิดว่าจะได้รับ ไม่คิด… ไม่เคยคิด… เพราะมันคือ… ส้มเน่าๆ 1 ผล ไอ้เด็กนี่จะให้ทีให้อะไรๆที่มันกินได้หน่อยไม่ได้เรอะไง







                        “เอาไว้ทำอะไรกินเองนะ ฟรานซ์







                        หนอย! เอาใหญ่แล้วนะเด็กนี่!



                        ฟรานซ์งั้นเรอะ







                        เธอคิดพลางก้มมองส้มเน่าๆด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ถึงแม้จะเจ็บใจก็ตาม







                        เอาใหม่ดีกว่า!



                        ชั้นจะอยู่รอดด้วยส้มลูกนี้ก่อนจะไปถึงหมู่บ้านฮอฟฟาเรลล์!





                        คำปณิธานใหม่ถูกตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วเสร็จสรรพ ฟรานเซียหันไปตะโกนไล่หลังแอรอนที่วิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ







                        “ขอบคุณมาก แอรี่” ชื่อเล่นที่ถูกตั้งให้ใหม่ เน้นดังฟังชัดให้เจ้าของชื่อสะดุ้งหันมายิ้มโบกมือให้ครู่หนึ่ง ก่อนจะวิ่งหายลับตา ฟรานเซียขยับมือนำส้มเข้าไปเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทป้องกันไม่ให้มีคนเห็น เดี๋ยวน้าเอมิเลียจะเดือดร้อนขึ้นมาอีก ซึ่งเธอไม่ต้องการจะให้เกิดขึ้นแน่นอน







                        วันนี้ถือเป็นวันโชคดีรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะโชคชะตาของเธอมันไม่แน่



                        แต่ที่รู้วันต่อๆไปคงต้องฝ่าอุปสรรคใหญ่กว่านี้แน่



                        ก่อนหน้านั้นเธอจะไม่ยอมแพ้เพียงเพื่อสนองตัณหาของตระกูลซัมเปอร์หรอก







                        ผมมองผมยาวสลวยของเธอจากด้านหลัง ผมไม่เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเธอหรอก แต่ที่ผมรู้เธอต้องสวยแน่ๆ ตาคู่นั้น… ผมแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะได้เห็น







                        “คุณเกิดวันอะไรครับ?







                        ผมถามเธอเสียงดังฟังชัดเพื่อให้เธอหันมามองผมแน่นอน ในที่สุดผมก็ได้เจอเธอ… ฟรานเซีย กรีนวิลล์…







    @@@



    Don Delio\'s Message



    อ่า... ไม่รู้จะพูดอารัยดีอ่ะครับ ขอบคุณทุกคนมากที่เข้ามาอ่าน เข้ามาเม้นท์ เข้ามา... โอ๊ย แยะจัง...

    ไม่รู้จะชอบคุณยังไง แต่ดีใจที่ทุกคนเข้ามาอ่าน

    แบบว่าปลื้มง่ะส์ ปลื๊มปลื้ม



    @@@
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×