ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The 1st Omen คำทำนายและลางสังหรณ์
The 1st Omen คำทำนายและลางสังหรณ์
                   
                  หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นยืนสวมเสื้อโค้ทสีน้ำตาลและพันผ้าพันคอผืนยาวที่ยาวเกินไปของลุงเธอเข้าที่คอที่สั่นให้ผู้มองเห็นรับรู้ถึงอุณหภูมิกายที่เธอรู้สึก เพราะความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น ถ้าคนขั้วโลกเหนือมาอยู่ที่กรีนวิลล์อาจบอกว่าร้อนเลยก็ได้ แต่เธอไม่ใช่คนขั้วโลกไม่ว่าเหนือหรือใต้ก็ตาม เธอเป็นสาวน้อยกำพร้าพลัดถิ่นแค่นั้นเอง
                    ‘ฟรานเซีย กรีนวิลล์’ ชื่อของเธอติดอยู่บนกระเป๋าใบพอดีมือ สกุลที่ถูกตั้งให้โดยใช้ชื่อหมู่บ้านทั้งดุ้น อายุสมมติที่ทุกคนมองเธอเป็นเด็กสาวอายุ 17 ปี เลขสวยที่จะเล่นตลกกับชะตาชีวิตของเธอ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าคนในหมู่บ้านมองเธออายุเท่านี้มากี่ปีแล้ว ฟรานเซียอาจถูกบอกว่าอายุ 17 ตั้งแต่เธออายุ 15 ก็เป็นได้ จึงไม่มีใครรู้อายุที่แท้จริงของเธอซักที ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเธอใช้ชีวิตในบ้านกลางหมู่บ้านคนเดียว เพราะลุงนายกเทศมนตรีที่เก็บเธอไว้เพิ่งจะเสียไปไม่นาน
                    การมาถึงสถานีรถไฟของเธอไม่ได้สร้างความรู้สึกอะไรกับผู้คนมากมายที่สถานีรถไฟสักนิด อาจเป็นเรื่องดีหรือไม่ใช่ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เธอร้อนใจที่ไม่มีใครคุยด้วย อาจเป็นเพราะนิสัยชอบตั้งแง่กับคนอื่นมาตั้งแต่เกิด
                    สถานีรถไฟคลาคล่ำด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาเป็นพิเศษ เนื่องจากพิธีศพของลุงบุญธรรมของเธอซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของหมู่บ้านกรีนวิลล์ทำให้บรรดาปวงชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นการตายด้วยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นน้อยครั้งในหมู่บ้านกรีนวิลล์ที่สงบสุขที่สุด
                    ฟรานเซียนั่งลงบนเก้าอี้ม้านั่งข้างๆอย่างสำนึกผิดเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน รถไฟทับลุงเธอ ภาพที่ไม่น่าเห็นซักนิด แต่ที่ทำให้รู้สึกแย่กว่านั้นคือเธอรู้ว่าตัวเองช่วยลุงได้ แต่ไม่ได้ช่วย คงบอกไม่ได้ว่าลืม มันเป็นข้ออ้างที่อยากให้เอาสารส้มไปแกว่งในโอ่งมังกรเหลือเกิน...
                    เธอเริ่มเบนความสนใจไปที่หนังสือพิมพ์ข้างกายที่ทั้งยู่ยี่และสกปรกหลังผ่านการทารุณจากมือหลายมือ หนังสือพิมพ์ถูกกางออกไปที่หน้าทำนายชะตา คอลัมน์ที่เธอเห็นว่างี่เง่าที่สุด
                    งี่เง่า...
                    ชั้นไม่เคยเชื่อดวงชะตาในนี้สักครั้ง
                    ไม่สิ...ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่เชื่อ
                    ถึงแม้เมื่อวานจะหกล้ม 3 ครั้ง ตกบันได 2 ครั้งก็เหอะ
‘คนที่เกิดราศีเมษ
                    ช่วงนี้ขอให้ระวังภัยจากรอบตัว เร็วๆนี้จะมีคนเข้ามาเปลี่ยนชีวิตคุณ โชคลาภของคุณน่าสับสนมีทีท่าว่าจะพุ่งต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะช่วงนี้ดาวอังคารกำลังเคลื่อนที่บดบังดาวพุธ’
                    เห็นได้ชัดว่าตอแหล
                    ดาวอังคารมันจะบังดาวพุธได้ไง?
                    “ระวังหน่อย!ไอ้หนู!” พนักงานสถานีทำเอาเธอชะงักครู่หนึ่งก่อนหันไปมองต้นเสียง เด็กผู้ชายตัวเล็กๆเดินเรี่ยไรขอเงินจากผู้คนที่เดินไปมาเดินไปสะดุดล้มทับชายวัยกลางคนร่างท้วมที่มีฐานะที่สุดในเมือง พวกคนตระกูลซัมเปอร์... ชายคนนั้นเริ่มเดือดดาลขึ้นมาทันทีทันใด
                    แย่หน่อยที่สังคมเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่เธอฆ่าลุงตาย ลุงเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองนี้หมู่บ้านกรีนวิลล์ที่วันนี้เธอต้องรีบจากไป ญาติคนสุดท้ายของเธอรออยูที่หมู่บ้านฮอฟฟาเรลล์ ฟรานเซียไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีญาติเพราะเธอถูกทิ้งไว้ที่นี่พร้อมป้ายแขวนคอว่า ‘ฟรานเซีย พุธ 17 เมษา’ ไม่รู้ว่าละเอียดขนาดนี้แล้วไม่ยอมเขียนปีเกิด...
                    เสียงเครื่องจักรแล่นและเสียงเสียดสีของรางรถไฟเป็นสัญญาณว่ารถไฟกำลังจะมา แต่ไม่ใช่คันนี้ รถไฟ 1 ใน 3 เท่านั้นที่จะหยุดสถานีกรีนวิลล์ เพราะไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไหร่นัก แต่ก็... ยกเว้นวันนี้วันนึงล่ะ
                    ไม่ใช่คันนี้...
                    ฟรานเซียรู้ดี แต่ไม่รู้ว่าอะไรดึงดูดใจเธอเหลือเกินให้ไปยืนรอรถไฟ เหมือนสังหรณ์ร้ายที่ไม่ใช่คำทำนาย แต่อาจเป็นโชคชะตา
                    ชายวัยกลางคนคนเดิมมองทางเด็กน้อยที่เดินใกล้เข้ามา ตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วที่ความโกรธเขายังคงพุ่งพล่าน ที่ไอ้เด็กสโครกบังอาจมาทับเท้าเขา เขายื่นเท้ามาขัดขาเจ้าเด็กน้อยจนหกคะมำไมเพียงแค่นั้นรองเท้าหนังโชว์ฐานะของเขายังมันเงาแม้แต่สันรองเท้ายังมันจนลื่นเขาลื่นหกล้มตามเด็กน้อยไป
                    ผู้เห็นเหตุการณ์มองตามไป ทั้งคู่ลื่นไปด้านซ้ายด้านขวาในรอยะมือเอื้อมถึงของฟรานเซีย ลื่นตกลงไปบนรางที่เครื่องจักรกำลังวิ่งพลุ่งพล่านใกล้เข้ามาทุกที ร่างมั้งสองลอยคว้างอยู่ในช่วงวินาทีที่ใกล้จะตายเต็มที
                    โอกาสนี้มาถึงแล้ว!
                    การแก้ตัวที่เธอฆ่าลุงบุญธรรม!
                    ฟรานเซียหันซ้ายทีขวาที
                    ขวา คือ ลุงตระกูลซัมเปอร์ที่ทำตัวเหมือนเด็ก
                    ซ้าย คือ เด็กน้อยยาจกที่ทำตัวสมเด็ก
                 
                    เธอเอื้อมมือขวาออกไปทันทีทันใด เพื่อ... ยื้อแขนซ้ายของเด็กยาจก
                    เด็กชายรอดตายหวุดหวิด แต่ชายอ้วนคนนั้นตกลงไปแล้วขณะรถไฟแล่นเข้ามา เขาก็แหกปากออกมาด้วยความกลัวสุดขีด
                   
                    ...บางทีสีหน้าก่อนตายของมนุษย์อาจเป็นสีหน้าที่ดีที่สุด ที่แสดงอารมณ์ออกมาโดยไม่ใส่ใจคนรอบข้าง แต่นี่เป็นกรรมตามสนองที่โหดร้ายไปหน่อยของลุงอ้วนที่คิดประมาท...
                    “ช่วย! ชั้น! เดี๋ยว! -...” พูดไม่ทันจบรถไฟก็แล่นบรรเลงเพลงศิลป์ลงบนใบหน้าและร่างกายของชายผู้นั้นในบัดดล แสดงความตื่นตรหนกให้แก่คนรอบข้าง ศพเละด้วยรอยศิลป์รอบกาย... ที่บรรเลงด้วยสีแดงสด ผู้ชื่นชมงานศิลป์ต่างหันมาทางเด็กสาวกำพร้า คำนิยามในใจตอนนี้คือ...ซวย....
                    “ฟะ.......ฟรานเซีย กรีนวิลล์...เธอฆ่าลูกชายชั้น!” หญิงชราแต่งตัวไฮโซจนน่ากลัวหันมาพูดกับเธอด้วยเสียงสั่นเครือที่เจือด้วยความโกรธ
                    ปล๊าว
                    เสียงของตัวเธอดังขึ้นในใจอย่างฉับพลัน
                    “ทำไมเธอไม่คิดก่อนล่ะว่าจะช่วยใคร... ถ้าเป็คนอื่นที่ฉลาดหน่อยเค้าก็ช่วยแม็กซี่ของชั้นอยู่แล้ว”
                   
                    นั่นไง จะให้บอกยังไงล่ะ
                    เพราะคิดแล้วถึงได้ทำ
                    เด็กผู้หญิงอย่างเธอไม่มีทางฉุดชายอ้วนๆอย่างนั้นขึ้นมาได้แน่
                   
                    รู้อยู่ว่าชั้นไม่ใช่เด็กซูเปอร์ไฮเปอร์
                    เพราะงั้นถึงได้ช่วยเด็กไง
                    คำตอบที่เธอคิดว่าอาจไม่มีใครเข้าใจถ้าไม่พูดออกมาให้รู้เรื่องความจริงไม่ใช่เรื่องยากจะคิดแต่จิตสำนึกอันน้อยนิดมันไม่มีให้ทำ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นความรังเกียจจากฝูงชน
                 
                    “อ้อ! ใช่แล้วคราวก่อนเธอก็ฆ่าลุงเธอได้หน้าตาเฉยนี่”
                    “เด็กเนรคุณ!”
                    “ยัยเชื้อโรค!”
                    “ถามหน่อยเถอะ เธอเคยรักใครบ้างมั้ย?” คนตระกูลซัมเปอร์คาดคั้นถามต่อกันเป็นชุดที่เธอพยายามจับใจความให้สั้นที่สุด
                    อ้าว ถ้ารักม้ากมากทำไม่ไม่กระโดดไปช่วยเองเล่า
                    แต่ก็เถียงไม่ออกงั้นเธอก็คงหมายความว่าเธอไม่รักลุงบุญธรรมไปด้วย
                    ต่างคนต่างหวงชีวิต... แต่ผิดมั้ยที่เธอจะหวงบ้าง
                    ต่างคนต่างหาคนมารับผิดชอบ... แต่ผิดมั้ยที่เธอหาคนมารับผิดชอบไม่ได้
                    เพราะไม่มีใครคิดถึงคนที่รับผิดชอบน่ะสิ... เธอถึงผิดไปซะหมด!
                    แต่ไม่เป็นไรอีก 15 นาที... อีก 15 นาที รถไฟคันที่รอคอยก็จะมาถึงแลว แค่ 15 นาทีเท่านั้น ตอนนี้หูทวนลม หูทวนลม หูทวนลม...
                    แต่ดูเหมือนสิ่งที่คาดไว้มักไม่ถูกต้องเสมอ
                    “ - - รถไฟขบวนหลังจากที่จะถูกสับรางให้ผ่านไปเพื่อรักษาสภาพศพของท่านแมกซ์ ซัมเปอร์ไว้-  - “
                    ไม่นะ... ซวยซ้ำซ้อน
                    รถไฟที่จะมุ่งไปหมู่บ้านฮอฟฟาเรลล์มีแค่ 1 ขบวนต่อ สัปดาห์!
                    อาจเพราะเธอผิดที่เกิดวันพุธ...
                    แต่สิ่งที่เรียกว่าโชคดีบนความโชคร้ายก็ยังมี เสียงเด็กน้อยดังขึ้นข้างๆตัว ก้มหน้าหาพื้นสนิท ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณที่สมควรจะให้เธอได้รับ “ขอบคุณฮะ พี่”
                    เธอยิ้มตอบคำขอบคุณเป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร เด็กชายตัวเล็กคนนั้นค่อนๆวิ่งจากไป
                    รอยยิ้มของเธอตระหนักดีว่า
                    นี่แหละที่เธอพยายามทำดีที่สุดแล้ว...
                    หากแต่ว่า...
                    “ฟรานเซีย กรีนวิลล์!!!”
                    ‘เอมิลี่ ซัมเปอร์’ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของชายผู้ตายที่โกรธเกลียดเธอนักหนาตั้งแต่ตอนเธอ 5 ขวบเพราะเพียงแค่เธอได้ช็อคโกแล็ตร้อนฟรีจากบาร์ซัมเปอร์มากกว่าเธอซัก 17 ลูกบาศก์ก์มิลลิเมตรได้
                    ขณะนี้กำลังตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดตะเกียกตะกายเรียกชื่อเธออยู่
                    “ฟรานเซีย! ฟรานเซีย! ฟรานเซีย! ชั้นเกลียดเธอที่สุด!”
                    ท่าทางเธอยากหลุดมาจาก เจเรมี่ ซัมเปอร์ ผู้เป็นพี่ชายที่พยายามยื้อยุดเธอสุดชีวิต ฟรานเซียดูแล้วอดอนาจแทนไม่ได้เพราะผมเป็นลอนๆแบบพวกไฮโซของเอมิลี่มันแยงตาเจเรมี่จนเธอดูแล้วกลัวพี่ชายเธอจะตาบอดเหลือทน
                    ไม่เป็นไร...
                    อีก 7 วัน
                    อีก 7 วันเท่านั้น!
@@@
Don Delio\'s Message
ตอนนี้ออกจะน่าเบื่อรันทดหน่อยนะครับ เพราะตัวผมยังไม่โผล่ ฮ่าๆๆๆ
ตอนแถวนี้ออกจะรันทดทรหดไปหน่อยน่ะครับ ความจริงแล้วมันก็รันทดทั้งเรื่อง
อยากเกิดวันพุธเองนี่นา...รู้สึกว่ามันลิเกจังแฮะ...
@@@
                   
                  หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นยืนสวมเสื้อโค้ทสีน้ำตาลและพันผ้าพันคอผืนยาวที่ยาวเกินไปของลุงเธอเข้าที่คอที่สั่นให้ผู้มองเห็นรับรู้ถึงอุณหภูมิกายที่เธอรู้สึก เพราะความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น ถ้าคนขั้วโลกเหนือมาอยู่ที่กรีนวิลล์อาจบอกว่าร้อนเลยก็ได้ แต่เธอไม่ใช่คนขั้วโลกไม่ว่าเหนือหรือใต้ก็ตาม เธอเป็นสาวน้อยกำพร้าพลัดถิ่นแค่นั้นเอง
                    ‘ฟรานเซีย กรีนวิลล์’ ชื่อของเธอติดอยู่บนกระเป๋าใบพอดีมือ สกุลที่ถูกตั้งให้โดยใช้ชื่อหมู่บ้านทั้งดุ้น อายุสมมติที่ทุกคนมองเธอเป็นเด็กสาวอายุ 17 ปี เลขสวยที่จะเล่นตลกกับชะตาชีวิตของเธอ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าคนในหมู่บ้านมองเธออายุเท่านี้มากี่ปีแล้ว ฟรานเซียอาจถูกบอกว่าอายุ 17 ตั้งแต่เธออายุ 15 ก็เป็นได้ จึงไม่มีใครรู้อายุที่แท้จริงของเธอซักที ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเธอใช้ชีวิตในบ้านกลางหมู่บ้านคนเดียว เพราะลุงนายกเทศมนตรีที่เก็บเธอไว้เพิ่งจะเสียไปไม่นาน
                    การมาถึงสถานีรถไฟของเธอไม่ได้สร้างความรู้สึกอะไรกับผู้คนมากมายที่สถานีรถไฟสักนิด อาจเป็นเรื่องดีหรือไม่ใช่ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เธอร้อนใจที่ไม่มีใครคุยด้วย อาจเป็นเพราะนิสัยชอบตั้งแง่กับคนอื่นมาตั้งแต่เกิด
                    สถานีรถไฟคลาคล่ำด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาเป็นพิเศษ เนื่องจากพิธีศพของลุงบุญธรรมของเธอซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของหมู่บ้านกรีนวิลล์ทำให้บรรดาปวงชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นการตายด้วยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นน้อยครั้งในหมู่บ้านกรีนวิลล์ที่สงบสุขที่สุด
                    ฟรานเซียนั่งลงบนเก้าอี้ม้านั่งข้างๆอย่างสำนึกผิดเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน รถไฟทับลุงเธอ ภาพที่ไม่น่าเห็นซักนิด แต่ที่ทำให้รู้สึกแย่กว่านั้นคือเธอรู้ว่าตัวเองช่วยลุงได้ แต่ไม่ได้ช่วย คงบอกไม่ได้ว่าลืม มันเป็นข้ออ้างที่อยากให้เอาสารส้มไปแกว่งในโอ่งมังกรเหลือเกิน...
                    เธอเริ่มเบนความสนใจไปที่หนังสือพิมพ์ข้างกายที่ทั้งยู่ยี่และสกปรกหลังผ่านการทารุณจากมือหลายมือ หนังสือพิมพ์ถูกกางออกไปที่หน้าทำนายชะตา คอลัมน์ที่เธอเห็นว่างี่เง่าที่สุด
                    งี่เง่า...
                    ชั้นไม่เคยเชื่อดวงชะตาในนี้สักครั้ง
                    ไม่สิ...ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่เชื่อ
                    ถึงแม้เมื่อวานจะหกล้ม 3 ครั้ง ตกบันได 2 ครั้งก็เหอะ
‘คนที่เกิดราศีเมษ
                    ช่วงนี้ขอให้ระวังภัยจากรอบตัว เร็วๆนี้จะมีคนเข้ามาเปลี่ยนชีวิตคุณ โชคลาภของคุณน่าสับสนมีทีท่าว่าจะพุ่งต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะช่วงนี้ดาวอังคารกำลังเคลื่อนที่บดบังดาวพุธ’
                    เห็นได้ชัดว่าตอแหล
                    ดาวอังคารมันจะบังดาวพุธได้ไง?
                    “ระวังหน่อย!ไอ้หนู!” พนักงานสถานีทำเอาเธอชะงักครู่หนึ่งก่อนหันไปมองต้นเสียง เด็กผู้ชายตัวเล็กๆเดินเรี่ยไรขอเงินจากผู้คนที่เดินไปมาเดินไปสะดุดล้มทับชายวัยกลางคนร่างท้วมที่มีฐานะที่สุดในเมือง พวกคนตระกูลซัมเปอร์... ชายคนนั้นเริ่มเดือดดาลขึ้นมาทันทีทันใด
                    แย่หน่อยที่สังคมเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่เธอฆ่าลุงตาย ลุงเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองนี้หมู่บ้านกรีนวิลล์ที่วันนี้เธอต้องรีบจากไป ญาติคนสุดท้ายของเธอรออยูที่หมู่บ้านฮอฟฟาเรลล์ ฟรานเซียไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีญาติเพราะเธอถูกทิ้งไว้ที่นี่พร้อมป้ายแขวนคอว่า ‘ฟรานเซีย พุธ 17 เมษา’ ไม่รู้ว่าละเอียดขนาดนี้แล้วไม่ยอมเขียนปีเกิด...
                    เสียงเครื่องจักรแล่นและเสียงเสียดสีของรางรถไฟเป็นสัญญาณว่ารถไฟกำลังจะมา แต่ไม่ใช่คันนี้ รถไฟ 1 ใน 3 เท่านั้นที่จะหยุดสถานีกรีนวิลล์ เพราะไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไหร่นัก แต่ก็... ยกเว้นวันนี้วันนึงล่ะ
                    ไม่ใช่คันนี้...
                    ฟรานเซียรู้ดี แต่ไม่รู้ว่าอะไรดึงดูดใจเธอเหลือเกินให้ไปยืนรอรถไฟ เหมือนสังหรณ์ร้ายที่ไม่ใช่คำทำนาย แต่อาจเป็นโชคชะตา
                    ชายวัยกลางคนคนเดิมมองทางเด็กน้อยที่เดินใกล้เข้ามา ตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วที่ความโกรธเขายังคงพุ่งพล่าน ที่ไอ้เด็กสโครกบังอาจมาทับเท้าเขา เขายื่นเท้ามาขัดขาเจ้าเด็กน้อยจนหกคะมำไมเพียงแค่นั้นรองเท้าหนังโชว์ฐานะของเขายังมันเงาแม้แต่สันรองเท้ายังมันจนลื่นเขาลื่นหกล้มตามเด็กน้อยไป
                    ผู้เห็นเหตุการณ์มองตามไป ทั้งคู่ลื่นไปด้านซ้ายด้านขวาในรอยะมือเอื้อมถึงของฟรานเซีย ลื่นตกลงไปบนรางที่เครื่องจักรกำลังวิ่งพลุ่งพล่านใกล้เข้ามาทุกที ร่างมั้งสองลอยคว้างอยู่ในช่วงวินาทีที่ใกล้จะตายเต็มที
                    โอกาสนี้มาถึงแล้ว!
                    การแก้ตัวที่เธอฆ่าลุงบุญธรรม!
                    ฟรานเซียหันซ้ายทีขวาที
                    ขวา คือ ลุงตระกูลซัมเปอร์ที่ทำตัวเหมือนเด็ก
                    ซ้าย คือ เด็กน้อยยาจกที่ทำตัวสมเด็ก
                 
                    เธอเอื้อมมือขวาออกไปทันทีทันใด เพื่อ... ยื้อแขนซ้ายของเด็กยาจก
                    เด็กชายรอดตายหวุดหวิด แต่ชายอ้วนคนนั้นตกลงไปแล้วขณะรถไฟแล่นเข้ามา เขาก็แหกปากออกมาด้วยความกลัวสุดขีด
                   
                    ...บางทีสีหน้าก่อนตายของมนุษย์อาจเป็นสีหน้าที่ดีที่สุด ที่แสดงอารมณ์ออกมาโดยไม่ใส่ใจคนรอบข้าง แต่นี่เป็นกรรมตามสนองที่โหดร้ายไปหน่อยของลุงอ้วนที่คิดประมาท...
                    “ช่วย! ชั้น! เดี๋ยว! -...” พูดไม่ทันจบรถไฟก็แล่นบรรเลงเพลงศิลป์ลงบนใบหน้าและร่างกายของชายผู้นั้นในบัดดล แสดงความตื่นตรหนกให้แก่คนรอบข้าง ศพเละด้วยรอยศิลป์รอบกาย... ที่บรรเลงด้วยสีแดงสด ผู้ชื่นชมงานศิลป์ต่างหันมาทางเด็กสาวกำพร้า คำนิยามในใจตอนนี้คือ...ซวย....
                    “ฟะ.......ฟรานเซีย กรีนวิลล์...เธอฆ่าลูกชายชั้น!” หญิงชราแต่งตัวไฮโซจนน่ากลัวหันมาพูดกับเธอด้วยเสียงสั่นเครือที่เจือด้วยความโกรธ
                    ปล๊าว
                    เสียงของตัวเธอดังขึ้นในใจอย่างฉับพลัน
                    “ทำไมเธอไม่คิดก่อนล่ะว่าจะช่วยใคร... ถ้าเป็คนอื่นที่ฉลาดหน่อยเค้าก็ช่วยแม็กซี่ของชั้นอยู่แล้ว”
                   
                    นั่นไง จะให้บอกยังไงล่ะ
                    เพราะคิดแล้วถึงได้ทำ
                    เด็กผู้หญิงอย่างเธอไม่มีทางฉุดชายอ้วนๆอย่างนั้นขึ้นมาได้แน่
                   
                    รู้อยู่ว่าชั้นไม่ใช่เด็กซูเปอร์ไฮเปอร์
                    เพราะงั้นถึงได้ช่วยเด็กไง
                    คำตอบที่เธอคิดว่าอาจไม่มีใครเข้าใจถ้าไม่พูดออกมาให้รู้เรื่องความจริงไม่ใช่เรื่องยากจะคิดแต่จิตสำนึกอันน้อยนิดมันไม่มีให้ทำ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นความรังเกียจจากฝูงชน
                 
                    “อ้อ! ใช่แล้วคราวก่อนเธอก็ฆ่าลุงเธอได้หน้าตาเฉยนี่”
                    “เด็กเนรคุณ!”
                    “ยัยเชื้อโรค!”
                    “ถามหน่อยเถอะ เธอเคยรักใครบ้างมั้ย?” คนตระกูลซัมเปอร์คาดคั้นถามต่อกันเป็นชุดที่เธอพยายามจับใจความให้สั้นที่สุด
                    อ้าว ถ้ารักม้ากมากทำไม่ไม่กระโดดไปช่วยเองเล่า
                    แต่ก็เถียงไม่ออกงั้นเธอก็คงหมายความว่าเธอไม่รักลุงบุญธรรมไปด้วย
                    ต่างคนต่างหวงชีวิต... แต่ผิดมั้ยที่เธอจะหวงบ้าง
                    ต่างคนต่างหาคนมารับผิดชอบ... แต่ผิดมั้ยที่เธอหาคนมารับผิดชอบไม่ได้
                    เพราะไม่มีใครคิดถึงคนที่รับผิดชอบน่ะสิ... เธอถึงผิดไปซะหมด!
                    แต่ไม่เป็นไรอีก 15 นาที... อีก 15 นาที รถไฟคันที่รอคอยก็จะมาถึงแลว แค่ 15 นาทีเท่านั้น ตอนนี้หูทวนลม หูทวนลม หูทวนลม...
                    แต่ดูเหมือนสิ่งที่คาดไว้มักไม่ถูกต้องเสมอ
                    “ - - รถไฟขบวนหลังจากที่จะถูกสับรางให้ผ่านไปเพื่อรักษาสภาพศพของท่านแมกซ์ ซัมเปอร์ไว้-  - “
                    ไม่นะ... ซวยซ้ำซ้อน
                    รถไฟที่จะมุ่งไปหมู่บ้านฮอฟฟาเรลล์มีแค่ 1 ขบวนต่อ สัปดาห์!
                    อาจเพราะเธอผิดที่เกิดวันพุธ...
                    แต่สิ่งที่เรียกว่าโชคดีบนความโชคร้ายก็ยังมี เสียงเด็กน้อยดังขึ้นข้างๆตัว ก้มหน้าหาพื้นสนิท ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณที่สมควรจะให้เธอได้รับ “ขอบคุณฮะ พี่”
                    เธอยิ้มตอบคำขอบคุณเป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร เด็กชายตัวเล็กคนนั้นค่อนๆวิ่งจากไป
                    รอยยิ้มของเธอตระหนักดีว่า
                    นี่แหละที่เธอพยายามทำดีที่สุดแล้ว...
                    หากแต่ว่า...
                    “ฟรานเซีย กรีนวิลล์!!!”
                    ‘เอมิลี่ ซัมเปอร์’ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของชายผู้ตายที่โกรธเกลียดเธอนักหนาตั้งแต่ตอนเธอ 5 ขวบเพราะเพียงแค่เธอได้ช็อคโกแล็ตร้อนฟรีจากบาร์ซัมเปอร์มากกว่าเธอซัก 17 ลูกบาศก์ก์มิลลิเมตรได้
                    ขณะนี้กำลังตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดตะเกียกตะกายเรียกชื่อเธออยู่
                    “ฟรานเซีย! ฟรานเซีย! ฟรานเซีย! ชั้นเกลียดเธอที่สุด!”
                    ท่าทางเธอยากหลุดมาจาก เจเรมี่ ซัมเปอร์ ผู้เป็นพี่ชายที่พยายามยื้อยุดเธอสุดชีวิต ฟรานเซียดูแล้วอดอนาจแทนไม่ได้เพราะผมเป็นลอนๆแบบพวกไฮโซของเอมิลี่มันแยงตาเจเรมี่จนเธอดูแล้วกลัวพี่ชายเธอจะตาบอดเหลือทน
                    ไม่เป็นไร...
                    อีก 7 วัน
                    อีก 7 วันเท่านั้น!
@@@
Don Delio\'s Message
ตอนนี้ออกจะน่าเบื่อรันทดหน่อยนะครับ เพราะตัวผมยังไม่โผล่ ฮ่าๆๆๆ
ตอนแถวนี้ออกจะรันทดทรหดไปหน่อยน่ะครับ ความจริงแล้วมันก็รันทดทั้งเรื่อง
อยากเกิดวันพุธเองนี่นา...รู้สึกว่ามันลิเกจังแฮะ...
@@@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น