ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วาดรัก ทะเลหวาม (โรแมนติก)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : เอมมิกา

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 63



                 เสียงเพลงคลาสสิคอ่อนหวานเคล้าคลอความเร่งเร้าที่ดูมีเสน่ห์ไม่ต่างไปกับแสงพราวระยับที่ประดับประดาอยู่บนเรือนร่างของเหล่านางแบบชั้นแนวหน้าของประเทศไทยและผู้ทีเรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนรอบข้างได้มากที่สุด เห็นจะเป็นหญิงสาวที่อยู่ในชุดฟินนาเล่ ชุดราตรีสีแดงสดถูกประดับตกแต่งด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ อย่างประณีตงดงาม ผมยาวสลวยถูกรวบมัดจนตึงไว้ข้างหลัง ใบหน้าของหญิงสาวถูกแต่งแต้มเฉดสีแดงเข้ากับชุด ใบหน้าที่แทบจะหยุดให้ผู้คนตาค้างเมื่อเธอหันไปสบสายตาเข้า

    ด้วยเครื่องหน้าที่โดดเด่นชวนมอง จนช่างแต่งหน้าฝีมือดังๆ ยังต้องเอ่ยชมเพราะไม่ว่าจะจับหญิงสาวมาแต่งหน้าโทนเข้มโทนสว่าง หรือโทนไหนๆ ก็ดูเข้ากันไปหมดไม่ขัดหูขัดตาเลยสักนิด เป็นหญิงสาวที่น่าอิจฉาจนน่าหมั้นไส้ทีเดียวล่ะ

    และที่เด่นสะดุดตาเห็นจะเป็นสร้อยเพชรหลายกะรัตที่ประดับอยู่บนลำคอระหง ยิ่งยามที่หญิงสาวยืนโพสท่า มือบางแตะไปที่เครื่องเพชรเม็ดงามพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น เสียงชัตเตอร์ก็รัวจนแสบแก้วตาไปหมด

    เอมมิกา ช่อประภา ดารานางแบบสาวสวยที่กำลังขึ้นแท่นอยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่าตอนนี้เอมมิกาเป็นสาวฮอตอันดับหนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะมีงานละครออกสู่สายตาประชาชนไม่ได้ขาด ทั้งงานอีเวนต์งานเดินแบบถ่ายแบบ แถมบทสัมภาษณ์ถึงครอบครัวที่ทำเอาหลายคนถึงกับยกให้เธอเป็นสุดยอดผู้หญิงเพอเฟคแห่งปี

    “คุณพ่อคุณแม่ของเอมตอนนี้อยู่ที่ต่างประเทศค่ะ แน่นอนสิคะท่านก็เป็นห่วงเอมมากในช่วงแรกๆ ที่เอมเริ่มเข้าวงการ ท่านทั้งสองเรียกได้ว่าขอให้เอมเลิกทำงานในอาชีพนี้เลยนะคะ แต่ว่าเอมก็ลูกดื้อเหมือนกันโดยการขอพิสูจน์ตัวเอง จนถึงวันนี้ท่านก็ไม่ห่วงแล้วค่ะ ใช่ค่ะ ถ้าว่างเอมก็จะกลับไปเยี่ยมท่านบ้าง แต่คุณพ่อคุณแม่เอมยุ่งกว่าเอมอีกนะคะ แทบจะไม่มีเวลามาเมืองไทย อุ้ย...คุณพี่นักข่าว ถามอย่างนี้เลยเหรอค่ะ คือ คุณพ่อเอมเป็นท่านทูตค่ะ ส่วนประเทศไหนต้องขออุบเอาไว้นะคะ เพราะว่าท่านทั้งสองไม่ชอบเป็นข่าว”เสียงครางฮือฮาของเหล่านักข่าวสายบันเทิง เมื่อรู้ว่าหญิงสาวสวยอย่างเอมมิกา เป็นถึงลูกสาวท่านทูต เรียกได้ว่าทั้งสวย ทั้งรวยมากอีกต่างหาก

    แต่เมื่อมีเสียงชมก็ต้องมีเสียงนินทาลับลังอย่างเผ็ดร้อน โดยเฉพาะเหล่าคนบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่รู้เห็นพฤติกรรมเรื่องมากสุดๆ และขี้วีนสุดๆ ของเอมมิกา ดาราสาวเจ้าบทบาท

    แต่มันก็คงเป็นเรื่องชินชาเสียแล้วกระมังในแวดวงมายา เพราะเมื่อไหร่ที่มีชื่อเสียงเงินทองมากมายจากคนนอบน้อมไม่เรื่องมากเมื่อเข้าวงการใหม่ๆ ก็จะกลายเป็นนางฟ้านางสวรรค์มาเกิดไปในทันที

    เมื่อไหร่ก็ตามที่เอมมิกากรีดกรายมารับงานได้ อันนี้ก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ดี จะต้องเอาแบบวีไอพีเท่านั้น ทั้ง

    ห้องแต่งตัววีไอพี อาหารที่ต้องหรูระดับภัตตาคาร และอีกนับไม่ถ้วนที่สาธยายกันยาวทั้งวันก็ยังไม่หมด ดีอยู่เรื่องเดียวก็ตรงที่เธอเป็นคนตรงต่อเวลา ไม่เคยมีเรื่องเสียหายเรื่องเบี้ยวงานเลยสักครั้ง เจ้าของงานถึงได้พยายามไม่เอาความเรื่องมากของหญิงสาวมาใส่ใจ

    ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่า ตอนนี้เอมมิกาเป็นดารานางแบบที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ ตอนที่กำลังดังทุกคนก็ต่างยกย่องสรรเสริญจะเอาอะไรหามาให้จนหมด แต่เชื่อเถอะว่าภายในใจก็นึกสาปแช่งให้หญิงสาวตกอับเร็วๆ จะได้พากันหัวเราะเยาะใส่อย่างสะใจ

    น่าเสียดายที่เอมมิกายังขลาดเขลาอยู่นัก ที่ยังไม่รู้ว่าวงการมายานี้ มันมายาสมชื่อในวันที่เธออับแสงลงคงไม่มีแม้แต่ใครจะหันมาใยดีเธอ

    หลังจบงานด้วยเสียงปรบมือดังเกรียวกราวพร้อมกับนางแบบสาวมอบดอกไม้ให้กับเจ้าของห้องเสื้อใบหน้ายิ้มแย้มเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้องหลายตัว พอกลับเข้ามาหลังเวทีใบหน้างามก็ขมวดมุ่น พร้อมกับอาการวีนโวยวายอย่างหงุดหงิด

    “เอมร้อนจะตายอยู่แล้ว ช่วยพัดให้แรงๆ หน่อยได้ไหมคะ” เอมมิกากรีดนิ้วสั่งเมื่อประทับองค์ลงบนเก้าอี้เพื่อให้ทีมงานมาถอดเหล่าเครื่องประดับราคาแพงระยับออกอย่างระมัดระวัง โดยมีสาวประเภทสองอย่างแต๊บแต๋วที่มาทำหน้าที่พัดหวีให้เจ้าหล่อน ที่บ่นร้อนๆ ตั้งแต่หลบเข้ามาหลังเวที

    “เอ๊ะ!! เอมบอกว่าขอน้ำส้มไม่ใช่น้ำเปล่าซะหน่อย เอาไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลยนะคะ” เอมมิกาโวยวายขึ้นมาอีกเป็นระลอกเมื่อคนที่ยกน้ำมาให้เธอไม่เอาน้ำที่เธอสั่งมาให้

    “ก็เมื่อกี้คุณเอมไม่ได้บอกพี่ซะหน่อยนี่คะ บอกว่าขอน้ำเท่านั้นเอง” ทีมงานที่ยกน้ำมาให้ก็เถียงกลับเพราะคิดว่าตนไม่ได้ทำงานบกพร่องอย่างที่หญิงสาวว่าเลยสักนิด

    “นี่พี่หาว่าเอมโกหกเหรอคะ...” เอมมิกาชายสายตาไปมองทีมงานด้วยประกายตาที่เหนือกว่า จนเจ้าของห้องเสื้ออย่างคุณผการัศต้องรีบเข้ามาห้ามทัพ

    “กลับไปเอาน้ำส้มมาให้คุณน้องเอมเถอะ เร็วๆ เข้า”

    “เอาะ ต้องเป็นน้ำส้มคั้นสดๆ ด้วยนะคะ” ทีมงานสาวคนนั้นก็ออกอาการกระฟัดกระเฟียดเดินกระแทกเท้าออกไป เมื่อเดินลับมาไกลถึงได้ทำท่าเลียนเสียงของเอมมิกาอย่างดัดจริต

    “ขอน้ำส้มคั้นสดๆ ด้วยนะคะ “ ทีมงานคนนั้นดัดเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียนอย่างหมั้นไส้เรียกเสียงฮาครืน

    “แล้วจะไปหาน้ำส้มคั้นสดๆ มาให้คุณนางฟ้านางสวรรค์ได้ที่ไหนล่ะเนี้ย” ทีมงานบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดหมั้นไส้ แต่ก็ต้องไปดั้นด้นหามาจนได้ เพราะไม่อย่างนั้นเธอเองจะเป็นคนที่ซวยเอา

    “ต๊าย...หล่อน ช่างกล้า ถูกใจเดี๊ยนฮ่ะ”

    “หึ...เจ้าพระคู้นนน วันไหนตกอับจนกรอบเมื่อไหร่ แม่จะสมน้ำหน้าซ้ำให้” คำพูดนั้นเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเหล่านางแบบและทีมงานอย่างเห็นด้วยเป็นที่สุด

    “จะมีเหรอย่ะ ได้ข่าวว่าชีเป็นถึงลูกสาวท่านทูตเชียวนะ”

    “จะจริงรึเปล่ายังไม่รู้เลย มีแค่ปากจะพูดเลิศหรูแค่ไหนก็ได้ ไม่เห็นในละครเหรอย่ะ ที่พวกเสแสร้งทั้งหลายก็ชอบอ้างว่าพ่อแม่รวยเพื่อยกระดับฐานะตัวเองสุดท้ายเป็นยังไง...ก็ลูกคนจนๆ” ทีมงานอีกคนแทรกขึ้นมาอย่างคนที่กำลังติดละครงอมแงมเกี่ยวกับเรื่องพวกตัวร้ายชอบโกหกว่าตัวเองมีพ่อแม่รวย

    “เออๆ มันจะเรื่องจริง หรือเสแสร้ง อิชั้นก็ต้องรีบไปหาน้ำส้มให้ชีก่อนล่ะค่ะ เพราะตอนนี้ชีมาแรงส์...” ว่าแล้วก็รีบไปหาน้ำส้มคั้นตามบัญชาของเจ้าหล่อน 

    “พี่ต้องขอโทษน้องเอมด้วยนะจ๊ะ กับเรื่องเมื่อครู่นี้ นี่ถ้างานนี้ไม่ได้น้องเอม พี่คงแย่แน่ๆเลยค่ะ” คุณผการัศบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ภายในใจก็เอือมระอากับเอมมิกาไม่ต่างกัน

    “อ๋อ...ค่ะ” เอมมิกานั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือแฟชั่นอย่างไม่ได้สนใจเพียงแค่พยักหน้าตอบรับคุณผการัศเท่านั้น จนอีกฝ่ายเดือดปุดๆ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าพร้อมกับรีบสาวเท้าหนีเพราะไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้คงมีข่าวว่าเธอตบหน้าดารานางแบบสาวชื่อดังเข้าให้

    “งั้นพี่ขอตัวนะคะ เชิญคุณน้องตามสบาย!”

    เอมมิกาชายตามองพร้อมกับยักไหล่เท่านั้น ตอนนี้เธอกำลังรอให้ทีมงานเอาเสื้อผ้าของเธอที่ไปซักอบรีดใหม่เข้ามาให้ภายในห้องแต่งตัววีไอพีหลังจากที่ทีมงานออกไปกันหมดแล้ว และพร้อมกันนั้นเสียงโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา มือบางเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดูเบอร์ก่อนจะเบิกตาโพลง สะดุ้งพรวดขึ้นมา หลุดคราบนางพญาทันที

    เอมมิการีบวิ่งไปกดล็อคประตูก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้ามาในส่วนลึกที่สุดของห้อง พร้อมกับกดรับสาย

    “ฉันบอกแม่แล้วใช่ไหม ว่าถ้าไม่จำเป็นห้ามโทรเข้ามาเบอร์มือถือ” หญิงสาวกรอกเสียงลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ปลายสายคงจะไม่สนใจคำพูดของเธอด้วยซ้ำ

    “นังเอม แกโอนเงินมาให้ฉันหน่อย ไม่งั้นนะ ไอ้เสี่ยเจ้าของบ่อนมันฆ่าฉันกับพ่อแกแน่ นะเอม ช่วยพวกฉันด้วยนะ” ปลายสายก็ร้อนรนเร่งรีบไม่ต่างกัน

    “อะไรนะ!! ฉันบอกเป็นล้านครั้ง ว่าห้ามพ่อกับแม่เข้าบ่อนอีก ไม่เคยเชื่อฉันเลยใช่ไหม ผีพนันเข้าสิงทั้งคู่”

    “เอ๊ะ.!! อีเอม มึงเป็นลูกกูนะ อย่าริอ่านมาสอน ลูกก็ต้องเลี้ยงพ่อกับแม่สิว่ะ ตอนนี้เอ็งรวยจะตายเงินแต่ไม่กี่แสนอย่ามาทำเป็นเรื่องมากได้ไหม เอ็งจะรอให้พ่อกับแม่เอ็งเป็นศพก่อนใช่ไหมหะ นังลูกเนรคุณ”ปลายสายเปลี่ยนมาเป็นเสียงเข้มของผู้เป็นพ่อ

    “ฉันพึ่งจะโอนเงินให้พ่อกับแม่อาทิตย์ก่อนเองนะ ฉันจะหามาให้ยังไงทัน” หญิงสาวเสียงอ่อนลงเมื่อพ่อชอบยกคำว่าเนรคุณมาตราหน้าเธอ

    “ถ้าแกไม่โอนเงินมาให้ฉัน ฉันจะแฉว่าแกมันก็ลูกแม่ค้านี่ล่ะว้า...ลูกท่านทูต ทุ้ยย...พ่อเอ็งมันก็นอนกอดขวดเหล้ากับเข้าบ่อนนี่ล่ะวะ” เสียงแม่บังเกิดเกล้าของเอมมิกาขู่มาตามสาย จนหญิงสาวต้องกำโทรศัพท์ในมือแน่น เอมมิกาอยากจะสบถด่าชะตาชีวิตอันเส็งเคร็งของตัวเอง เหมือนใครบางคนได้เคยบอกว่า พระเจ้าไม่เคยสร้างมนุษย์คนไหนให้สมบูรณ์แบบเลยสักคน เธอเป็นแค่ลูกสาวของนักพนันที่ถูกผีพนันเข้าสิงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งพ่อทั้งแม่ วันๆ หาแต่เรื่องขูดรีดเอาเงินกับเธอ

    เอมมิกานึกเสียใจ ถ้าเธอไม่เชื่อคำพูดของผู้จัดการร่างใหญ่อย่างเจ๊มด ให้กุเรื่องฐานะครอบครัวของตัวเองให้ดูดีโก้หรู ทุกวันนี้เธอคงไม่เป็นพวกวัวสันหลังวะแบบนี้หรอก

    “แล้วแม่จะเอาเท่าไหร่”

    “ห้าแสน”

    “จะบ้าเหรอ!! ฉันจะหามาให้ได้ยังไงตั้งห้าแสน ฉันไม่มีให้หรอก” เอมมิกากรอกเสียงตามลงไปอย่างหงุดหงิด เพราะช่วงหลังๆ พ่อกับแม่เริ่มจะขอเงินจากเธอถี่ขึ้น จากที่แต่ก่อนหายไปหลายเดือนกว่าจะโทรมาขอเงินครั้งหนึ่ง

    “อย่ามาทำเป็นตกอกตกใจหน่อยเลยน้า แกเดินแบบ ถ่ายแบบ ก็ได้แล้ว ไอ้ห้าแสนเนี้ย รีบโอนมาเร็วๆไอ้พวกเสี่ยหน้าเลือดมันยิ่งขู่ฉันอยู่”

    “ก็ได้...ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะแม่ ฉันจะไม่ให้อีกแล้วนะ” พอได้ยินปลายสายรับคำส่งๆ เอมมิกาก็กดวางสายพร้อมกับเอามือมาขยี้ผมตัวเองอย่างหมดคราบ เป็นนางฟ้าตกสวรรค์ไปในทันที

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่หญิงสาวจะรีบจัดผมเผ้าให้เรียบร้อย พร้อมกับกระแอมกระไอสองทีถึงได้ส่งเสียงอนุญาตให้ทีมงานเข้ามาได้ ทีมงานเปิดประตูเข้ามาก่อนจะเอาชุดของเอมมิกามาส่งให้ หญิงสาวรับมาก่อนจะรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เปิดประตูสวนทางกับทีมงานที่รีบเอาน้ำส้มคั้นมาให้พอดี

    “อ้าว...คุณเอมน้ำส้มคั้นล่ะคะ” ทีมงานตะโกนตามไล่หลังโดยที่หญิงสาวร่างระหงเดินคอตรงจากไปไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามอง ทีมงานเหงื่อเกาะพราวไปทั้งหน้าเอมมิกาจะรู้ไหมว่ากว่าที่ทีมงานจะหาน้ำส้มคั้นสดๆมาให้เธอได้นั้นต้องลำบากวิ่งที่ไปซูเปอร์ที่อยู่ไกลจากที่นี้เพียงเพื่อจะทำตามที่เธอต้องการ แต่เธอกลับไม่เห็นค่ามันเลยสักนิด

    ทีมงานคนนั้นได้แต่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟตอนกลับเข้ามาทำงาน

    “ระวังไว้เถอะเอมมิกา...สักวันเธอจะกลายเป็นหงส์ที่จมลงบนกองโคลนเพราะนิสัยของเธอ” ทีมงานว่าด้วยความเดือดดาลใจ โดยไม่รู้ว่าอนาคตภาคหน้าเธอจะได้ย้อนกลับมาฟังคำพูดของตนด้วยความสะใจ...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×