ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    worawat fantasy

    ลำดับตอนที่ #4 : ลัทธิจุล (junlism)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 56


      
    รูป จุล เจ้าลัทธิภาษาจีน



     หลังจากจุล ได้วิพากวิจารณ์มหาวรรวัษ คำพูดของเขาก็ได้ถูกแพร่กระจายไปตามสื่อต่างๆ ทั้งวารสารและวิทยุกระจายเสียงเซนต์ช่วงเที่ยง จนทำให้ความคิดของจุลทัศได้ถูกตีแผ่ออกไป ส่งผลให้ครูและนักเรียนเริ่มต่อต้านกาารกระทำของมหาวรรวัษมากขึ้น ไม่นานนักจุลได้เขียนบทความต่อต้านคนที่ปล่อยนักเรียนช้าและออกจากห้องช้า ในบทความนั้นเสียดสีมหาวรรวัษอย่างรุนแรง จากบทความนั้นทำให้คนติดตามจุลทัศมากขึ้น แนวคิดของจุลได้ถูกนำไปลงอินเตอร์เน็ต และเป็นที่นิยมแก่นักเรียนเป็นจำนวนมาก และแยกเป็นลัทธิต่างๆไป

     

       เนื่องจากจุลนับถือลัทธิภาษาจีน ทำให้ใครหลายคนไม่สามารถเข้าใจและบรรลุภาษาจีน ทำให้คนหลายคนที่มีความคิดเดียวกับจุล ไม่มีสิทธิ์เข้าภาษาจีนเพราะปรัชญาและคำสอนทุกย่างเป็นภาษาจีน แต่ต่อมาคำสอนของลัทธิภาษาจีนของจุล ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยโดย กลุ่มสภากระเทยแห่งเซนต์สุวรรณภูมิ(the lady boy council organization) 

        

         ด้วยโทสะของมหาวรรวัษ จึงสั่งให้สาวกของเขาไปทำร้ายคนที่สนับสนุนจุล และที่สำคัญให้โจมตีผู้แปลคำสอนของจุลทัศ และงานเขียนอย่างรุนแรง   ตั๋งหนึ่งในสภากระเทยผู้แปลหนังสือคำสอนและงานเขียนของจุล ได้รับจดหมายข่มขู่ และโดนลอบยิงปางตาย จากเหตุการณ์นั้นเขาจึงได้ลี้ภัยทางการศาสนาไปในประเทศสหรัฐอเมริกา

     

      จากนั้นจุลก็ได้จดหมายท้ารบจากมหาวรรวัษ โดยไม่เขียนวันท้าแต่อย่างไรเขียนเพียงว่า”สงครามจะมาถึง มึงควรรับมือ” จากมหาวรรวัษ แต่จุลไม่ได้อยากรบแต่อย่างไร ได้แต่เก็บตัวอยู่ในแคว้นแอนดูวร์ และให้พระยาสุบิน(ซุ่ยปิน) สาวกคนสนิทของจุล ออกบุญชาการรบแทน หลังจากนั้นสองสามวัน กองโจรของมหาวรรวัษก็เข้าบุกห้องกบดาลของจุล จุลสู้อย่างกล้าหาญและได้ชัยชนะกลับมา  มหาวรรวัษก็ส่งกองโจรมาเพิ่มอีกแต่โดนทับของสุบินสกัดไว้ได้ 

    และจุลก็หายไปในวันนั้น ในคืนนั้นเองห้องกบดาลภาษาจีนของจุลก็ระเบิดจนเหลือแต่เถ้าธุลี ว่ากันว่าจุลได้กลายเป็นอะตอมไปแล้ว

     

       แต่มีหลายคนยังคงเห็นจุล ในขณะที่พวกเขากำลังอ่านภาษาจีน ซึ่งใครได้เห็นจุลแล้วจะกลายเป็นผู้คงแก่เรียนในวิชาภาษาจีนทันที ทำให้จุลได้เป็นศาสดา และจิตวิญญาณของภาษาจีน แต่ชีวิตของจุลที่จริงแล้วอยู่ในผลงานของเขา และเป็นผลให้คนเกลียดมหาวรรวัษมากขึ้น และวิพากวิจารณ์อย่างรุนแรง มหาวรรวัษเริ่มขาดสติและหมดความอดทน  เขาได้ส่งกองกำลังพุทธม่า ผนึกกำลัง กับกองทับนัยนา เจ้าลัทธิหัวหน้าระดับม.3 เข้าโจมตีแคว้นแดงซึ่งเป็นที่กบดาลของสุบิน 

     

      สุบินได้เตรียมกองทัพไว้ส่วนหนึ่ง เมื่อทราบข่าว แต่เมื่อศึกนั้นมาถึงกองทัพของสุบินได้เห็นแสงยานุภาพของมหาวรรวัษ ก็ถึงกลับเข่าตกทันที

    กองทัพของสุบินไม่อาจต้านทานของทับของมหาวรรวัษได้เลยและแพ้ในเวลาถัดมา ด้วยความเหี่ยมโหดของมหาวรรวัษได้จับสุบินตัดลิ้นพร้อมกับยิงลูกสมุนของเขาตายทั้งหมด

     

         จากการตัดลิ้นของสุบินทำให้มหาวรรวัษไม่อาจล่วงรู้ว่าคำภีร์ภาษาจีนของจุลอยู่ทีไหน ทำให้วรรวัษนั่งเจ็บใจอยู่ในห้องโอเล็มปิคคณิตศาสตร์    สุบินตัดสินใจที่จะออกงานเขียนโจมตีมหาวรรวัษต่อ เขาได้แปลคำสอนจากจุลให้เป็นภาษาไทย และตีแผ่ไปทั่วเซนต์สุวรรณภูมิ ในรูปแบบใบปลิวและบทความ

     

      ผลงานของสุบินก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เมื่อมหาวรรวัษได้อ่าน ก็สั่งให้เผาผลงานสุบินทั้งหมดเท่าที่จะมีเผาได้ และตามล่าหาสุบินแต่ไม่พบ  ความศรัทธาในตัวมหาวรรวัษลดลง ตอนมหาวรรวัษออกมาทำการเสี้ยมสอน แต่น้อยคนที่จะฟังมหาวรรวัษ แถมมีคนพูดแข่งอีกต่างหาก จนมหาวรรวัษพูดว่า”ไอ้กลุ่มที่อยู่ตรงนั้นหนะ เดี๊ยวชั้นจะไปทะลายกลุ่มพวกเธอ” แต่คำขู่ไม่สามารถทำให้คนกลุ่มนั้นฟังมหาวรรวัษได้ จนมหาวรรวัษหมดความอดทน และเดินไปหาพวกนั้นและบอกว่า”นี่เธอจะเอาไง! ห่ะ เอาไง เดี๊ยวชั้นจะให้พวกเธอเกรด1” ทำให้คนเริ่มฟังมหาวรรวัษเพิ่มขึ้นบ้าง เพราะเห็นแก่คะแนน และสงบลง แต่ใครหลายคนก็เห็นในความชั่วช้าของมหาวรรวัษ ว่าเป็นพวกกดคะแนน

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×