คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 12 / 6 〓 00
◊ SQWEEZ
12/6
#ฟิคสิบสองทับหก
ผมเคยได้ยินคนพูดกันว่า
‘บางทีเวลาคนเราอยู่กับตัวเอง ก็อาจจะได้เห็นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อและคิดว่าตัวเองเป็นเพียงแค่นั้น หากมีใครเป็นเหมือนกระจกสักบานที่สะท้อนตัวเราออกมา ก็จะได้เห็นตัวเราในมุมที่คนอื่นมอง’
กริ๊ก
เสียงจุดไฟแช็คดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่างโชติช่วงจากตะเกียงไฟ นิ้วมือเรียววางสิ่งของที่ให้พลังงานแสงสว่างวาบนั่นลงบนโต๊ะข้างนั้นๆ เจ้าของร่างจัดการกับเสื้อโค๊ทโดยการถอดมันออกแล้วพาดไว้กลับพนักเก้าอี้ของห้องครัว
“แย่หน่อยนะ ที่นี่ไม่มีไฟฉาย แถมระบบไฟฟ้าก็ขัดข้องอยู่ประจำ”
เสียงทุ้มกล่าวขึ้นจากมุมห้องของคนที่ยืนอยู่ภายใต้บรรยากาศความเงียบที่ปกคลุม เขายืนกอดอกพิงฝาผนั่งห้องครัวนี้ เด็กหนุ่มอีกคนที่กลับมาจากข้างนอกนั่งนิ่งบนเคาท์เตอร์มองหน้าบุคคนนั้นจากแสงไฟสลัวๆ
“ไม่ได้ขนาดนั้นหรอกน่า มันก็ดูติดธรรมชาติดี”คนตัวเล็กพูดเสียงนิ่มราวกลับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่“ก็เห็นว่าจะพามาเที่ยวหลังจบไฮสคูลนะมาร์ค”
“อืม...ดีใจที่นายชอบ”
“แน่อยู่แล้วนี่ อะไรที่คนรักทำให้ก็ต้องชอบเป็นธรรมดา”สายตาของเขาทอดมองไปที่มาร์คแสดงความรู้สึกที่พูดมาอย่างไม่คิดจะปกปิด
“แบมแบม ความจริงแล้วฉันมีอะไรจะพูดมากกว่านี้...”
“ชู่วว มาร์คเงียบซักทีสิ”นิ้วเรียวแตะเข้าที่ริมฝีปากของเขาเป็นเชิงห้าม “เราจะไม่พูดอะไรตอนนี้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับตัวผม”แววตาสั่นระริกจ้องคนตัวเล็ก มาร์คสงบปากสงบคำอยู่เงียบๆตามคำบอกกล่าว แบมแบมมองนัยย์ตาสีดำขลับที่ทรงอำนาจและเด็ดเดียวนั้นอย่างวิงวอนซึ่งมาร์คก็ไหวหน้าเข้าใจกับอากัปกิริยานั้นเป็นอย่างดี
อาการยื้อ ....คนต้องหน้าต้องการยืดเวลาของเขาทั้งสองคน
“เฮ้! ไฟมันมาดับอะไรตอนใกล้จะมืด แล้วนี่มีใครไปแจ้งรึยังว่าหม้อไฟมันระเบิด”
เสียงเดินกระแทกบันใดปึงปังทำให้แบมแบมต้องเหลียวตามองค้อนคนมาใหม่ที่พร้อมจะเอ่ยปากโวยวายอยู่ทุกเมื่อ แจบอมเดินลงมาในลักษณะหน้าบอกบุญไม่รับ หัวที่ยุ่งเหยิงของเขาเหมือนเพิ่งตื่นออกมาจากความฝัน
“ข้างนอกท้องฟ้ามืด คนละแวกนี้แปลกๆกันหมด”คนจากด้านบนเปิดปากพูดขึ้นมาก่อนที่จะหันหน้าเข้าบานกระจกใจของหน้าต่างใบเดิม ด้วยเพราะทรงบ้านแบบบ้านกระท่อมแนวยุโรปชั้นครึ่ง หน้าต่างบานเล็กจึงถูกตรึงตราไว้ส่วนเหนือของหลังคา ที่มียูคยอมจับจองเอาไว้แต่แรก รายนั้นดูจะสนใจกับทิวทัศรอบนอกเสียจนไม่สนใครรอบข้าง
แบมแบมทอดสายตามองบันไดน้อยที่ทอดเชื่อมห้องใต้หลังผั่งตรงข้ามของยูคยอมที่ถูกลั่นกลอนไว้อย่างหนาแน่นราวกลับว่าที่ผ่านมาไม่คยมีใครได้สัมผัสประตูบานนั้นเลยแม้ครั้งเดียว
“ห้องนั้นเป็นห้องเก็บของน่ะคนให้เช่าของบอกมาอย่างนั้น ถ้าไม่จำเป็นอย่างเข้าสุ่มสี่สุ่มห้าฝุ่นมันเยอะนายรู้ใช่ไหม”มาร์คกระซิบซิบบอกที่หูแบมแบม “นายแพ้ฝุ่นนะห้ามลืมเด็ดขาด”
เสียงเม็ดยากลั้วกระทบขวดทำให้แบมแบมละความสนใจจากใบหน้าหล่อ มาร์คถือขวดสีขาวอยู่ในมือ ด้านข้างมีฉลากระบุชื่อและสรรพคุณไว้อย่างครบถ้วน คนตัวเล็กจรดมุมปากยิ้มกว้างแล้วกระสิบพูดอะไรพูดอะไรบางอย่าง
“เรื่องของผมมาร์คไม่เคยลืมเลยซักอย่าง ขอบใจมากนะ”
ไม่นานมาร์คก็คลี่ยิ้มตอบ “นายก็ลืมพกยาประจำเหมือนกันนั่นแหละ ต้องให้ฉันคอยดูแลอยู่เรื่อย….”
พูดไม่ทันจบเสียงเคาะมือกับกระจกก็ดังขึ้น มาร์คมองตรงไปยังคนต้นเสียงที่ยังทำตัวไม่ทุกข์ร้อน แถมยังมีรีแอคชั่นเคาะเป็นจังหวะเพลงเสริมอีกซะด้วย
“อะไรของแก โรคนิ้วกระตุกแบบไม่มีสามัญสำนึกกำเริบรึไง”มาร์คเอ็ดเข้าให้หนึ่งประโยค ยูคยอมเองก็ดูจะไม่สนใจ หากแต่ว่าคนอายุน้อยกว่ายังมีหน้าหันมาล้อเลียนเขาอีก
“สงสัยว่าจินยองไปไหนเฉยๆ ชั้นยังไม่เห็นหน้าตั้งแต่เก็บของจะไม่ให้ชั้นเป็นห่วงไปได้ไง ชอบพูดหาเรื่องกันอยู่เรื่อยนะครับคนเรา”
“ห่วงชีวิตนายเสียจะดีกว่า”มาร์คโต้กลับ
ยูคยอมทำแค่รับฟังคำพูดเชือดเฉือนนั่น
ถ้าได้ยินไม่ผิดเหมือนเขาจะหัวเราะในลำคอกับตัวเอง
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจแจบอมก็เดินกับมาพร้อมกับไม้กองโตที่ถูกผ่าออกมาตั้งแต่ข้างนอกแล้ว ร่างกายที่สมส่วนอย่างเขาสามารถแบกชนวนไฟมาได้ในปริมาณมากพอสำหรับคืนนี้
“ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งหนาว ไม่คิดจะก่อไฟกันบ้างรึไง”แจบอมส่งเสียงบ่นแต่ตัวเองก็หอบฟืนมากองไว้ในเตาผิงใจกลางบ้านได้อย่างสบาย “ไม่ช่วยจริงดิ”เขาหันไปมองมาร์คกับแบมแบมสลับกันไปมา
“เอออ.อ.. งั้นจุดไฟแล้วกัน”
ฝ่ามือหนาหยิบจับกล่องไม้ขีดไฟที่ได้มาจากในครัว เพียงแค่ทิ้งเศษก้านไม่ติดไฟ กองเพลิงในเตาผิงก็ลุกโชน ไอความร้อนจากสุมไฟตรงหน้าช่วยให้ตัวบ้านดูอบอุ่นขึ้นกว่าเดิม แจบอมลากสังขารตัวเองมาทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวใกล้ๆนั่น
คิมยูคยอมทาบมือกลับกระจกมองจุดหมายปลายทางข้างหน้า ปากอิ่มขยับพูดประโยคที่หาใจความไม่ได้
‘นาฬิกาเริ่มเดินแล้วสินะ’

ความคิดเห็น