ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มนุษย์กัมมันตธาตุ

    ลำดับตอนที่ #1 : ระเบิด

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 48


    กาลเวลาช่างผ่านพ้นไปเร็วนัก แต่ก็ดีแล้วนี่นา เพราะว่า





    “จะปิดเทอมแล้วโว้ย!!!!!!!!!!!!!!”



    เมื่อถึงวันก่อนวันปิดเทอม เรนะ และเพื่อนในกลุ่มของเธออีก12คน คือ ชิอินะ ฝาแฝดซาโอโตเมะ-ซึโอโตเมะ ไคโตะ คาชิกิ มินามิ ซึงูรุ โนริโกะ เคนสุเกะ อายะ มัตซึบะ และซายากะ แทบจะรอไปโรงเรียนไม่ไหว ทุกเช้าพวกเขาจะเดินไปโรงเรียนพร้อมกันจนคุ้นตาครูเวร แต่วันนี้ วันก่อนวันปิดเทอม คือวันเรียนสุดท้ายของเทอม ทุกคนต่างดีใจกันอย่างออกหน้าออกตา มินามิมาโรงเรียนตั้งแต่ตี5 พวกที่เหลือก็ทยอยๆกันมาจนครบ (กว่าจะครบก็เกือบตาย คาชิกิจอมสายโต่งมาเกือบโรงเรียนเข้า) ทุกคนดีใจมากที่จะปิดเทอม

      



    “ปิดเทอมอีกแล้วหนอเรา ดีใจๆๆ ไม่มีอะไรสุขใจเท่าปิดเทอม แต่แดแดแด่แดแดมๆแตมๆๆๆ...”





    “เฮ้ยๆ จารย์มาแล้ว...”ทุกคนรีบเผ่นไปนั่งที่ตัวเอง





    “เอ้าๆดีใจกันเข้า เดี๋ยวก็หัวเราะไม่ออก”อาจารย์ที่ปรึกษาร่างท้วมพูดอย่างสะอกสะใจ จ้องมาตรงที่เหล่า13สหายนั่งอยู่ทีละคนราวกับสแกนเลยก็ว่าได้ “วันนี้ครูมีข่าวร้ายมาแจ้งพวกเธอ อาจารย์ในฐานะอาจารย์วิชาประวัติศาสตร์จะคัดเลือกนักเรียน13คนไปทำรายงานเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่2ที่ฮิโรชิม่า จังหวัดนางาซากิ”





    “โธ่ๆๆ อีอาจารย์โรคจิตคนนี้ยิ่งเกลียดขี้หน้ากลุ่มเราอยู่ด้วย เสร็จแน่ๆ มีอย่างที่ไหนวะ ไป13คน ครึ่งๆกลางๆ จงใจชัดๆ ไม่บอกก็รู้ว่ะ ไม่โง่”อายะพูดอย่างไม่กลัวเกรงเยว่าอาจารย์จะได้ยิน เพื่อนๆล่ะเสียวแทน





    “รายชื่อมีดังต่อไปนี้  โองาตะ อายะ,ทาคาอิ เรนะ,ฮิโรงาเสะ ซาโอโตเมะ,โทโมโนริ ซึงูรุ,ทากายามะ มินามิ,ไคบะ คาชิกิ,คิมาโมโต้ ซายากะ,ยามาโมโต้ ชิอินะ,ฮิโรงาเสะ ซึโอโตเมะ,ซารุวาตาริ ไคโตะ,คุโรซาวะ โนริโกะ,คุโรดะ เคนสุเกะ และ ซากาอิ มัตสึบะ...ออกเดินทางวันมะรืนนะ พวกเธอต้องไปกันเอง”





    “เห็นมะ ผิดซะที่ไหน โด่...ชื่อชั้นคนแรกเสียด้วย...โด่เว้ย เซ็งกิ๊กเลย มีเวลาพักผ่อนวันเดียว”





    แต่เมื่อถึงวันเดินทางจริงๆ คนที่พูดบ่นต่างหากที่สนุกที่สุด(อยู่คนเดียวเสียด้วย มีอีกสองหน่อร่วมแจม)





    “สาวจันทร์น้องนางจากบ้านนา มาเสี่ยงดวงชะตา เผื่อจาเจอโชคเดดดดดดดดดดด โจบมอสามยาง.........”





    เสียงเพลงของ อายะ เด็กสาวหัวโจกกลุ่ม และฝาแฝดซาโอ-ซึโอโตเมะ ที่สุดแสนจะแสบแก้วหู ดังสนั่นหวั่นไหวทั้งรถตั้งแต่ออกเดินทางจากโตเกียวจนตอนนี้ย่างเข้าฮิโรชิม่าแล้ว จนเรนะเด็กสาวคนขับทนไม่ไหว





    “เงียบ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”





    “อะไรยะ กะลังสนุก ...เลือกอาชีพสาดตรี ขายบ่อรีก๊านนนนนน......(บริการ)”





    “ว้อย อีพวกบ้า เสียงก็ใช่จะเพราะ ยังอยากจะร้องอีก แล้วเนี่ยเข้าเขตเมืองฮิโรชิม่าตั้งนานแล้ว ไม่มีใครเค้ามาร้องเพลงซะรื่นรมย์สมฤดีเหมือนเธอหรอกนะ!!!!!!!!!!!” หลังจากหมดความอดทนมานาน



    “เออ รู้แล้ว แหม ร้องเพลงนิดหน่อยทำเป็น...”





    “ช่ายๆ อายะขี้ตูด เชอะ!!”ฝาแฝดพูดและเชิดหน้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย





    “ไม่นิดหน่อยหรอก หูจะแตกอยู่แล้ว”เด็กหนุ่มอีกคนท้วงบ้าง





    “ไรยะ เสียงฉันออกจะเพราะพริ้งสะดิ้งหัวใจ ใครฟังรักหลงโงหัวไม่ขึ้นแน่นอน”





    “แหวะ!!!!!!” ทั้งคันรถพร้อมใจกันแหวะโดยมิได้นัดหมาย





    “พอได้แล้ว นี่ถึงแล้ว ลงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเร็วๆด้วย”เด็กสาวคนขับสั่ง





    “สวัสดีพวกหนูๆ ผมชื่อทาจิคาวะ เป็นเจ้าหน้าที่และวิทยากรของที่นี่ครับ ยินดีต้อนรับสู่ฮิโรชิม่าครับ”เจ้าหน้าที่หนุ่มร่างท้วมเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม





    “สวัสดีครับ/ค่ะ หนูชื่อเรนะค่ะ และนี่ชิอินะ,ไคโตะ,มินามิ,มัตซึบะ,อายะ,โนริโกะ,ซึงูรุ,คาชิกิ,ซายากะ,เคนสุเกะ และนี่ฝาแฝดค่ะ คนนี้ซาโอ...”





    “เรนะมั่วแล้ว ฉันซึโอต่างหาก”





    “ฉันต่างหากซึโอ เธออย่ามามั่วนิ่ม”





    “ฉันต่างหาก”





    “ฉัน”





    “ฉัน”





    “อ่ะๆ พอแล้ว เธออย่ามาทำไก๋ เธอนั่นแหละซาโอ”เรนะมองมายังฝาแฝดซาโอ





    “แหม ล้อเล่นนิดหน่อยก็ไม่ได้”





    “เอาล่ะ พร้อมที่จะชมซากเมืองหรือยังครับ”





    “โหหหหหหหหหหหห...............”





    ทั้งหมดตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น ถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนญี่ปุ่น แต่พวกเขาทั้ง13คนก็ไม่เคยมาเห็นซากเมืองฮิโรชิม่า(ที่เหลืออยู่ เพราะปัจจุบันเขาบูรณะไปแล้วเสียส่วนใหญ่) และเมมโมเรียล พาร์ค ด้วยตาตัวเองเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขารู้สึกได้ถึงความเศร้าที่ยังปกคลุมเมืองนี้อยู่ ความหวาดกลัว เสียงกรีดร้อง ที่คงไม่มีวันลบเลือนไปได้ง่ายๆแน่นอน





    “อะ...ฮือๆๆๆๆๆๆ” มินามิ เด็กสาวผู้อ่อนโยนปล่อยโฮออกมาอย่างยั้งไม่อยู่ เล่นเอาทุกคนอึ้ง





    “เป็นอะไรกัน แค่นี้ก็ร้องไห้...”





    “ก็ฉันเสียใจนี่ สงสารด้วย...ฮึก ๆ...ที่ผ่านมา ฉันได้แต่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเมืองหลวง ไม่รู้เลยว่าในประเทศเดียวกัน จะเกิดเรื่องแย่ๆ อย่างนี้อย่างที่ฉันคิดไม่ถึงว่าจะรุนแรงแบบนี้...มาก่อน”





    “โธ่ๆ ไม่เป็นไรนะ”ไคโตะยื่นมือไปกอดถือโอกาสแต๊ะอั๋งไปในตัว แต่ก็ไม่สำเร็จ





    “โอ๊ย!!!!!!!! อะไรเนี่ยมินา มาหยิกฉันทำไม”เด็กหนุ่มร้อง เนื่องจากเพื่อนสาวหยิกเข้าที่ต้นแขนอย่างแรง





    “หนอยแน่ะ จะแต๊ะอั๋งฉันเรอะ เหอะ ชาติหน้าเถอะย่ะ”





    “ฮือ...ฮึกๆ...”คราวนี้เจ้าของเสียงร้องไห้ไม่ใช่มินามิ แต่เป็น เคนสุเกะ!!! ทุกคนแปลกประหลาดใจอย่างรุนแรงจนอ้าปากค้าง เคนสุเกะเด็กหนุ่มผู้ด้านไปทุกส่วนของร่างกาย ทั้งผิวกาย ใจ และใบหน้า(หน้าหนาไร้ยางอายล่ะว่างั้น)แถมใบหน้าเป็นแบบต้นตำหรับMoon Face โดยแท้(หน้าทั้งบาน ใหญ่ ขรุขระ สิวเครอะ มันปราบสะท้อนแสงวิบวับ แถมที่สำคัญ ด้าน อย่างรุนแรง) ร้องไห้!!!! โอ้แม่เจ้า โลกจะแตกเสียแล้วหรือนี่





    “เฮ๊ยๆ สงสัยโลกจะแตกว่ะ พระจันทร์ร้องไห้...ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”





    “ป่าวเว้ย ไอ้ห่า ข้าแสบตาเฉยๆว้อย!!!!!”





    “แสบตาไรวะ ข้าไม่เห็นแสบ”





    “ไม่เห็นเรอะ ควันลอยเต็มไป”





    “จริงด้วย ฉันก็เริ่มแสบตาแล้วเนี่ย ฮือๆ...ฮึก”สาวน้อยโนริโกะเริ่มน้ำตาไหลพรากๆอีกคน และไม่นานทุกคนก็น้ำตาไหลกันหมด





    “พวกเราไปดูดีกว่าว่าควันมาจากไหน”เรนะเดินไปตรงที่ที่ควันลอยมา ทุกคนเดินตามหลังไป





    “นี่ไง มันพุ่งออกมาจากพื้น เดี๋ยวเราไปตามเจ้าหน้าที่มาดูดีกว่า”





    ไม่มีใครรู้เลยว่า...ต้นตอของควัน ที่พวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน คือระเบิดกัมมันตรังสี ที่ถูกปิดผนึกเอาไว้มาแรมปี และพร้อมที่จะสำแดงพลังทำลายล้างแล้วภายในไม่กี่วินาทีนี้ ทันทีที่หนุ่มสาวทั้ง13คนหันหลังกลับ ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า อนาคตของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไป...ตลอดกาล





    “ตูมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”





    และความเงียบก็เข้าครอบงำทุกอย่าง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×