ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใต้ฟ้าสาธารณรัฐ

    ลำดับตอนที่ #65 : Chance Encounter เคล้าส์ (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 260
      0
      2 พ.ค. 55

     

                    สถานที่ที่เคล้าส์ถูกพาตัวมาดูผิดกับที่เขาจินตนาการไว้มาก

     

                    เมื่อพูดถึงการสอบปากคำ  เคล้าส์มักนึกถึงเรื่องเล่าของพวกอัศวินรุ่นพี่ที่พูดถึงห้องทรมานที่เหม็นอับไปด้วยกลิ่นเลือด กลิ่นฉี่ กลิ่นอาจมของเหยื่อที่ถูกทรมาน  ในห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทรมานในรูปแบบที่คนวิปริตจิตเฟื้องเท่านั้นจะนึกภาพออก  เป็นสถานที่ที่จงภาวนาว่าจงอย่าได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนเสียเลย

     

                    เปล่าเลย... ห้องที่เขายืนอยู่เป็นเพียงห้องนอนของบ้านที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องทำงานส่วนตัว  เตียงถูกยกออกไป  เหลือแต่เพียงโต๊ะทำงานกับกองหนังสือปกเขียวกองอยู่เต็มห้อง หน้าต่างบานเล็กเปิดออกรับลมยามเช้าและแสงแดดอ่อน ๆ ที่เริ่มหาดูได้ยากในฤดูกาลนี้ 

     

                    เบื้องหลังโต๊ะทำงานมีนายทหารของพวกฟรานส์มานนั่งอยู่  เครื่องแบบสีน้ำเงินดูสะอาดและเรียบแปร้ ผิดกับชุดเครื่องแบบอันมอมแมมของทหารเลวที่ยืนเฝ้าอยู่เบื้องหลัง  ดาวบนปกเสื้อบ่งบอกว่าเขามียศพันโท  ใบหน้าดุดันและร่างกายใหญ่โตชวนให้นึกถึงราชสีห์ดูน่าหวั่นเกรง  แต่กระนั้นนัยน์ตาที่จ้องเคล้าส์เขม็งนั้นเป็นนัยน์ตาที่ดูแห้งแล้งราวกับทะเลทราย

     

                    เข้าใจที่ผมพูดหรือเปล่า ?

     

                    เคล้าส์ต้องรีบกลั้นเสียงหัวเราะทันทีที่ได้ยินเสียงของนายทหารฝั่งศัตรู  สำเนียงของนายทหารฟรานส์มานช่างเหมือนกับสำเนียงของพวกตัวร้ายชาวฟรานส์มานบนละครเวทีชอบใช้อยู่เสมอ  เป็นสำเนียงคล้ายพวกผิดเพศที่เมาสุราพูด  เคล้าส์นึกว่ามันเป็นเพียงเรื่องโจ๊กที่ล้อเลียนประเทศคู่อริเสียอีก  นึกไม่ถึงว่ามันเป็นเรื่องจริงอย่างที่เคยได้ยินมา

     

                    ผมพันโท วิคเตอร์  เดเวโรว์  ผบ. ของที่นี่  แล้วหมวดล่ะชื่ออะไรรึ ?

     

                    เคล้าส์ไม่ตอบ  เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะเปิดเผยข้อมูลแก่ศัตรูมากแค่ไหน  ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงยืนเงียบอยู่อย่างนั้นท้าทายสายตาที่แห้งกรากของนายทหารฝ่ายศัตรู

     

                    ผมนึกว่านายทหารของไคเซอร์จะถูกสอนด้วยมารยาทที่ดีกว่านี้นะ  พวกครูฝึกที่โรงเรียนเตรียมทหารเธริเซียนไม่เคยสอนหรือไงว่าให้แนะนำตัวเองเมื่อพบหน้าอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกนะ 

     

                    ประโยคนั้นราวกับตบหน้าเด็กหนุ่มเสียหนึ่งฉาด  เคล้าส์รู้สึกเหมือนกับโดนดูหมิ่นอย่างแรง... ไม่ใช่เฉพาะกับตัวเขา  หากแต่ลามปามไปถึงสถาบันที่สอนสั่งมา  และยังรวมไปถึงนามขององค์พระจักรพรรดิอีกด้วย 

     

                    กระนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าอดกลั้น  เบื้องหลังของเขาที่ยืนอยู่ริมประตูของทหารเลวตัวโตสองนายที่ยืนคุมเชิงเขาอยู่   

     

                    ร้อยตรี เคล้าส์  ฟอน  เวสเตอร์โรส  เด็กหนุ่มตอบ

     

                    ไม่คิดจะบอกหน่วยสังกัดหน่อยรึ  ผู้หมวดเคล้าส์ ?

     

                    นายทหารหนุ่มแห่งจักรวรรดิไม่ตอบ  ทว่าท่าน ผบ. เดเวโรว์ดูไม่สนใจกับความเงียบนัก  ท่าน ผบ. อ่านบางสมุดบางอย่างที่เคล้าส์จำได้ว่าเป็นสมุดประจำตัวของทหารแห่งพระจักรพรรดิ สายตาอันแห้งผากพิจารณาสิ่งที่อยู่ในสมุดกับใบหน้าของเขาอย่างถี่ถ้วน  ก่อนท้ายที่สุดท่านจึงโยนสมุดเล่มน้ำรวมกับเอกสารอื่นและลุกขึ้นยืน 

     

                    เอาล่ะ  ก่อนอื่นก็ต้องบอกสินะว่า ยินดีต้องรับสู่กองทัพปลดปล่อยแห่งสาธารณรัฐ  ถึงแม้ผมเองก็ไม่ทราบหรอกว่าสงครามในครั้งนี้จะจบเมื่อไหร่  แต่สงครามของหมวดจบลงแล้วล่ะ 

     

                    ประโยคที่ท่าน ผบ. กล่าวออกมาทำเอาคล้าส์แทบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ 

     

                    ขำอะไรหรือหมวด ?  ผบ. เดเวโรว์รี่ตามองด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้

     

                    เปล่าหรอกครับ  เคล้าส์พยายามกลั้นหัวเราะและตอบคำถามที่ว่า  แต่มันช่างเป็นความพยายามที่ยากลำบากเหลือเกิน  ท่านทราบไหมครับว่าพวกเราในหน่วยมักจะเล่าเป็นเรื่องโจ๊กเสมอว่า พวกคุณมักจะพูดประโยคเมื่อสักครู่เป็นประโยคแรกกับเชลยศึกที่จับได้นะ  ซึ่งตอนแรกผมไม่มีคิดว่าจะมีใครคนพูดประโยคเชย ๆ อย่างนั้นออกมานะสิ  แต่ผมก็ไม่นึกว่าท่านจะพูดตามที่เขาเล่ากันมาเป๊ะอย่างนั้น  เลยอดที่จะขำไม่ได้

     

                    เมื่อได้ยินเช่นนั้น  ท่าน ผบ. วิคเตอร์เพียงแต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

     

                    ถ้าอย่างนั้นหมวดก็น่าจะรู้จักถึงกิตติศักดิ์ของหน่วยตำรวจลับของฝ่ายเราด้วยสินะ  นายทหารยศพันโทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่เข้ากับใบหน้า  อยากลองพิสูจน์ไหมว่าเรื่องของพวกหน่วยตำรวจลับเป็นอย่างที่เขาร่ำลือจริงหรือไม่

     

                    ควาวนี้เคล้าส์ขำไม่ออก  เมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกอัศวินรุ่นพี่เล่าให้ฟังแล้ว  มันเป็นการดีกว่าที่เขาจะเลิกยั่วโทสะนายทหารผู้นี้เสีย

     

                    ครับผม  เคล้าส์ตอบ

     

                    ดี  ผมเองก็ไม่อยากให้เด็กหนุ่มอย่างคุณต้องเจอกับพวกโรคจิตอย่างนั้นหรอก  ท่าน ผบ. กล่าวเสริมก่อนกลับลงไปนั่งบนเก้าอี้

     

                    ในตอนนั้นเองที่เหมือนกับมีใครสักคนพยายามเดินบุกเข้ามาในห้อง  ก่อนที่จะถูกทหารสองนายที่เฝ้าอยู่รั้งตัวเอาไว้  พวกเขากล่าวด้วยภาษาของฟรานส์มานที่เคล้าส์ฟังไม่ออก  ส่วนอีกฝ่ายเองก็โต้ตอบด้วยภาษาเดียวกัน  ทว่าน้ำเสียงของผู้มาเยือนทำให้เขาต้องหันไปมองด้วยความสนใจ

     

                    น้ำเสียงที่เขาได้ยินเป็นเสียงของผู้หญิง

     

                    ผู้ที่ถูกทหารเลวสองคนกันไว้คือสาวสวยอายุไม่เกินยี่สิบห้า  ผมสีแดงยาวรวบเป็นหางม้าดูคล้ายกับหางกระรอก  สวมชุดเครื่องแบบทหารฟรานส์มานสีน้ำเงินที่ดูหลวมโครก  นอกเสียจากส่วนอกที่ดูคับแน่นผิดกับส่วนอื่นของร่างกาย  เธอพยายามพูดคุยอะไรบางอย่างกับท่าน ผบ. เดเวโรว์  แต่กระนั้นเธอก็หยุดปากเมื่อนัยน์ตากลมโตของหล่อนสบกับตาของเคล้าส์ 

     

                    เคล้าส์จำเธอได้... ในช่วงเวลาที่เขาถูกกู้มาจากหุ่นกลหลังจากความพ่ายแพ้  เธอเป็นหญิงสาวที่เขาเห็นก่อนหมดสติไป  เคล้าส์นึกมาตลอดว่าเธอเป็นเพียงภาพหลอนระหว่างที่บาดเจ็บ  นึกว่าเป็นเพียงเรื่องตลกของยมทูตที่มาล่อลวงให้เขาตามลงไปสู่ยมโลก

     

                    กระนั้นเธออยู่ตรงนี้แล้ว  แถมยังจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยแววตาที่ควรจะเป็นของเขามากกว่า... แววตาของคนที่กำลังหวาดกลัว

     

                    เวลาที่ทั้งสองรับรู้การมีตัวตนของอีกฝ่ายจบลงในชั่วพริบตา  เมื่อคำพูดของท่าน ผบ. ดึงความสนใจของหล่อนไปจากเขา  หญิงสาวมีท่าทางไม่พอใจ  แต่หล่อนก็ยืนตรงทำความเคารพอย่างไม่ค่อยเต็มใจก่อนเดินจากไป

     

                    ต้องขอโทษด้วยที่ลูกน้องของผมทำให้วุ่นวายไปหน่อย

     

                    ทว่าเคล้าส์มิได้สนใจคำพูดของท่าน ผบ. เลย  สายตาของเขายังคงจับจ้องแผ่นหลังของสาวผมแดงที่เดินจากไป

     

                    ปัง !

     

                    ทหารที่เฝ้ายามปิดประตูราวกับไม่อยากให้เขาเห็นอะไรอีก  เคล้าส์หันไปก็พบว่ามันเป็นท่าน ผบ. เดเวโรว์ที่สั่งให้ลูกน้องปิดประตูเอง

     

                    ดูเหมือนผู้หมวดจะสนใจ อส. หญิงของเราสินะ 

     

                    เคล้าส์ไม่ได้ตอบ  เขายังคงยืนตรงอยู่กลางห้อง  เผชิญหน้ากับผู้บัญชาการของศัตรูอย่างกล้าหาญ

     

                    คงคิดสินะว่าผู้หญิงมาทำอะไรแถวนี้  ขอบอกไว้เลยว่าไม่ใช่อย่างที่หมวดคิดหรอกนะ

     

                    แน่นอนว่าเขาคิดไปแล้ว... หน้าตาของหญิงสาวสวยขนาดนี้คงเป็นนางบำเรอของท่าน ผบ. อย่างไม่ต้องสงสัย  แต่ดูเหมือนนายทหารฟรานส์มานจะอ่านใจเด็กหนุ่มออก  คำพูดของท่าน ผบ. ปฏิเสธความคิดนั้นเสียก่อนที่จะได้พูดออกมาเสียอีก  

     

                    เธอเป็นคนที่ยิงหมวดตกนั่นล่ะ  อัศวินพลขับหุ่นกลฝีมือเยี่ยมที่กองพันเราภาคภูมิใจ

     

                    เคล้าส์เข้าใจว่าท่าน ผบ. คงจะหมายถึงตอนที่เขาโดนค้อนสงครามฟาดจนหมดสภาพ  แต่เนื่องจากภาษากลางของจักรวรรดิไม่ใช่ภาษาแม่ของท่าน ผบ. ฝ่ายศัตรู  มันจึงทำให้เขาใช้คำศัพท์แปลก ๆ ออกมา

     

                    แต่ถึงอย่างนั้น  คำพูดที่ว่าทำให้เคล้าส์นึกย้อนไปถึงการบังคับหุ่นกลอย่างบ้าระห่ำของหุ่นกลสีเขียวในตอนนั้น

     

                    คงไม่เชื่อสิ  ว่าสาวน้อยอย่างนั้นจะเป็นคนที่บังคับหุ่นกลได้พิศดารเยี่ยงนั้นนะ  ผบ. เดเวโรว์กล่าวเสริมสิ่งที่อยู่ในใจของเด็กหนุ่ม  เคล้าส์ทราบในทันทีว่าผู้การฝ่ายศัตรูต้องการข่มผู้เขาให้หวาดเกรงต่อแสนยานุภาพของกองทัพปลดปล่อยแห่งสาธารณรัฐ  ที่แม้แต่ผู้หญิงยังสามารถบังคับหุ่นกลได้อย่างเก่งกาจขนาดนั้น            

     

                    ทว่าร้อยตรี เคล้าส์  ฟอน เวสเตอร์โรส กลับเผยรอยยิ้มออกมาราวกับว่าสิ่งที่ท่าน ผบ. กล่าวออกมาไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดเลยสักนิด

     

                    ใช่แล้ว  เธอไม่ใช่สตรีคนแรกที่อัดเขาจนหมดสภาพอย่างนี้นี่นา...

     

                    ..................................

                    .......................

                    .........

     

                    ในหัวของเคล้าส์ไม่ได้นึกถึงความเป็นไปได้ที่ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเป็นแกรนด์มาสเตอร์ของภาคีเลยสักนิด  แค่นึกว่าผู้หญิงบังคับหุ่นกลก็เป็นเรื่องชวนหัวอยู่แล้ว  จะให้นึกว่าแกรนด์มาสเตอร์แห่งภาคีอัศวินผู้เป็นอัศวินในหมู่อัศวินเป็นอิสตรีคงเป็นเรื่องโจ๊กที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่เคล้าส์จะนึกออก

     

                    ใช่แล้ว... ในเมื่อสตรีไม่อาจเป็นผู้สืบทอดฉายาในตำนานไปได้ในความเข้าใจของเด็กหนุ่มแล้ว  สมองอันน่ามหัศจรรย์ก็เรียบเรียงเหตุและผลเสียใหม่ให้เข้ากับความเข้าใจอันโง่เขลาของเขาในเวลานั้น

     

                    สาวสวยในชุดนอนเนกลิเยที่บางเบากลางวันอย่างไม่รู้จักอายเป็นใครกัน ? มาทำอะไรอยู่ในห้องของแกรนด์มาสเตอร์ ?  เป็นลูกสาว ?  เป็นภรรยา ? หรือจะเป็นโสเภณีที่แกรนด์มาสเตอร์จ้างมา  แล้วถ้าอย่างนั้นแกรนด์มาสเตอร์หลบอยู่ที่แห่งหนใดในห้องเล่า ?

     

                    กิยอร์ก  เมื่อสักครู่ท่านเหมือนคุยกับแกรนด์มาสเตอร์นี่  แล้วแกรนด์มาสเตอร์อยู่ที่ไหนล่ะ ?

     

                    ท่านอยู่ตรงหน้านี่แล้วล่ะ  กิยอร์กกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน

     

                    ตรงหน้า ? เราเห็นแต่เพียงหญิงไร้ยางอายที่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนม้านั่งเท่านั้นล่ะ

     

                    อัศวินรุ่นพี่มีสีหน้าลำบากใจยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม 

     

                    เอ่อ... เคล้าส์น้องรักโปรดระวังคำพูดด้วย  น้องกำลังเสียมารยาทกับท่านแกรนด์มาสเตอร์อยู่นะ 

     

                    แกรนด์มาสเตอร์  ผู้หญิงคนนี้นี่นะ  ช่างเป็นโจ๊กที่ไม่ขำเลย...  ทว่าเคล้าส์ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อเขาหันไปมองหญิงสาวในห้องอีกครั้ง

     

                    เคล้าส์ตกใจกับแววตาของหญิงสาวตรงหน้า  มันเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส  เป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทมจนแม้แต่เคล้าส์ผู้เย่อหยิ่งยังต้องรู้สึกแย่ไปด้วย

     

                    ทว่าก่อนที่เคล้าส์จะได้กล่าวอะไร  หญิงสาวก็ทำท่าพะอืดพะอมก่อนที่เธอจะรีบมุดกลับไปหลบอยู่หลังพนักพิงม้านั่งอีกครั้ง  เด็กหนุ่มสาบานได้เลยว่าได้ยินเสียงหล่อนกำลังสำรอกดังโอ๊กอ๊าก  มันใช้เวลาสักพักที่หญิงสาวจะโผล่ขึ้นมาจากพนักพิงอีกครั้ง  คราวนี้เธอยืนงุ้มตัว  มือหนึ่งกุมหน้าท้อง  ส่วนอีกมือชี้ตรงมายังเคล้าส์พร้อมด้วยนัยน์ตาทิ่มแทงที่เต็มไปด้วยความทรมาน

     

                    เจ้าหนู  รู้ไหมว่าคำพูดจำอวดของเธอเมื่อสักครู่ทำเราปวดท้องแทบตายแน่ะ 

     

                    หา ? เคล้าส์อุทานออกมาอย่างไม่พอใจ  เขาอุตส่าห์รู้สึกแย่ไปชั่วขณะกับแววตาของหล่อนในตอนนั้น  แต่สิ่งที่พ่นออกมาจากหล่อนกลับเป็นน้ำเสียงที่ล้อเล่นกับความรู้นั่นของเขาเสียอย่างไม่น่าอภัย

     

                    กระนั้นก่อนที่เขาจะได้แย้งอะไร  หญิงสาวก็สะบัดผมบลอนด์แพลตินั่มหันไปหากิยอร์กที่มีสีหน้าดูไม่ถูก  กียอร์ก  เธอไปเอาเด็กน้อยคนนี้มาจากไหนเนี่ย  หายากนะเนี่ยที่เด็กตัวเท่านี้จะทำให้เราขำกลิ้งได้ขนาดนี้เนี่ย  นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้ยินพูดอย่างนี้กับเรานะ

     

                    เคล้าส์พยายามจะโต้แย้ง  แต่คราวนี้กิยอร์กไม่ปล่อยให้เด็กหนุ่มเสียมารยาทอีกต่อไป  เขาบีบไหล่เคล้าส์แน่นก่อนจะคุกเข่ากับพื้นต่อหน้าหญิงสาวอย่างไม่ลังเล

     

                    ต้องขออภัยด้วยขอรับท่านแกรนด์มาสเตอร์  กิยอร์กกล่าวด้วยความนอบน้อม  แฮร์เคล้าส์เพิ่งเป็นอัศวินใหม่  ยังไม่รู้จักธรรมเนียมของที่นี่...

     

                    ไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้วกิยอร์ก  หญิงสาวผู้ถูกเรียกว่าเป็นแกรนด์มาสเตอร์ปรามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด  พวกคุณเองก็เคยเป็นเหมือนกับเจ้าหนูน้อยคนนี้มาแล้ว  ให้เด็กมันได้เรียนรู้หน่อยสิ

     

                    กิยอร์กได้แต่ก้มหน้าก้มตาอย่างจำนนอยู่เช่นนั้น  เคล้าส์ได้แต่ทั้งแปลกใจและผิดหวังที่อัศวินผู้นี้กลับก้มหัวนอบน้อมแก่หญิงสาวที่อายุอ่อนกว่าสิบปีเห็นจะได้ 

     

                    เจ้าหนู  เราไม่ได้ยินที่เธอแนะนำตัวเมื่อสักครู่  ช่วยแนะนำตัวอีกครั้งจะได้หรือไม่  แกรนด์มาสเตอร์สาวกล่าว  ส่วนนามของเรานั้นคือ มาเรีย  กิยอร์กอาจเรียกเราว่าแกรนด์มาสเตอร์  ผู้อื่นอาจรู้จักเราในนามของผู้สืบทอดฉายารุ่งอรุณแห่งแบรนแดนเบิร์ก หรือพยัคฆ์แห่งทุ่งหิมะอาสเตอร์ลิงก์  ศัตรูอาจก่นด่าเราด้วยชื่อ บารอนขาว  หรือว่าเจ้าจะเรียกเราว่า หญิงสาวไร้ยางอาย ก็ได้นะ     

     

                    เคล้าส์โกรธเกรี้ยวมากที่คำสองคำก็เรียกเขาว่า เจ้าหนู  หรือ เด็กน้อย  เขาได้แต่ยืนโกรธจนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น  ทว่าเขาก็ไม่อาจหุบปากได้นานนักเมื่อแกรนด์มาสเตอร์ที่แนะนำตัวว่าชื่อ มาเรีย กล่าวกับเขาต่อไปว่า นี่เจ้าหนู  เราแนะนำตัวแล้วใยเจ้ายังเงียบอยู่ล่ะ  ที่เธริเซียนน่าจะสอนมารยาทให้การแนะนำตัวไม่ใช่หรือ ?

     

                    เราคือเคล้าส์  ฟอน เวสเตอร์โรส  ผู้สืบเชื้อสายของตระกูลเวสเตอร์โรสอันทรงเกียรติ  อย่าเสียมารยาทเรียกเราว่า เจ้าหนู หรือ เด็กน้อย นะ !”  เคล้าส์ตะคอกออกไปอย่างขุ่นเคือง  เด็กหนุ่มหันไปมองทั้งกิยอร์กที่ดูสงบนิ่ง  กับหญิงสาวที่อ้างตัวว่าเป็นแกรนด์มาสเตอร์มีท่าทางไม่ยี่หร่ะต่อความไม่พอใจของเขาเลยสักนิด  มันทำให้รู้สึกว่าโดนดูถูกเข้าอย่างจัง  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับภาคีอัศวินแห่งทิวโทนิกอันทรงเกียรติกัน ?  แค่คิดว่าผู้หญิงเป็นอัศวินหุ่นกลก็น่าขำอยู่แล้ว  นี่จะบอกว่าผู้หญิงเป็นแกรนด์มาสเตอร์แห่งภาคีอย่างนั้นหรือ ?  นี่มันเรื่องตลกอะไรกันแน่ !”

     

                    คราวนี้มาเรียกลับหัวเราะออกมาด้วยความทรมาน  ช่างเป็นส่วนผสมอันแปลกประหลาดเหลือเกินที่ได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวแสนสวยกำลังหัวเราะอย่างถูกใจด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด 

     

                    โอย  กิยอร์ก  เด็กใหม่ของท่านนี่เหนือกว่าที่เราคาดไว้เสียอีก  เป็นเด็กแค่นี้ยังปากกล้าได้ถึงขนาดนี้  ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

     

                    ราวกับว่ามันถึงขีดสุดของเคล้าส์ที่จะถูกหยามเกียรติไปมากกว่านี้  เขาถอดถุงมือก่อนจะเขวี้ยงใส่หญิงสาว  ท่ามกลางสายตาที่เบิกโพล่งตื่นตกใจของกิยอร์ก

     

                    เรามาประลองกัน ! หากภาคีอัศวินมันตกต่ำถึงขั้นนี้แล้ว  เราจะเป็นคนฟื้นฟูให้ภาคีนี้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีตอีกครั้ง !”

     

                    กิยอร์กแทบตะโกนเสียงหลงกับการกระทำของเคล้าส์  หากแต่เด็กหนุ่มไม่สนใจอัศวินผู้นี้อีกต่อไป  เช่นเดียวกับมาเรียที่รับถุงมือไว้ด้วยความเจ็บปวด

     

                    น่าสนใจดีนี่  แกรนด์มาสเตอร์หญิงมาเรียกล่าวทั้งที่มือยังกุมท้องอย่างเจ็บปวด  ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าท้าประลองชิงตำแหน่งแกรนด์มาสเตอร์มาเสียนานแล้ว  ยืดเส้นยืดสายหน่อยก็ดีเหมือนกัน

     

                    ท่านแกรนด์มาสเตอร์  แต่ว่าร่างกายท่าน !”  คนที่พูดขัดขึ้นมาคือกิยอร์กที่มีสีหน้าวิตก  แต่กระนั้นแกรนด์มาสเตอร์มาเรียกลับยกมือขึ้นปรามอัศวินอาวุโสระดับกลางเสียก่อน 

     

                    ท่านห่วงเจ้าหนูนี่ดีกว่า  ตอนนี้สภาพร่างกายของเรากำลังปั่นป่วน  เราไม่แน่ใจได้ว่าจะยั้งมือได้เหมือนตอนปรกติแค่ไหน 

     

                    เมื่อไม่อาจเปลี่ยนใจหัวหน้าได้  กิยอร์กจึงหันไปโน้มน้าวพยายามให้เด็กหนุ่มขออภัยแกรนด์มาสเตอร์เสีย  แต่สภาพของเคล้าส์ในตอนนั้นดูจะยอมหักไม่ยอมงอเสียยิ่งกว่าหญิงสาวตรงหน้าเสียอีก

     

                    ไม่ได้หรอกท่านกิยอร์ก  เคล้าส์กล่าว  เราเป็นถึงผู้สืบทอดนามแห่งตระกูลเวสเตอร์โรสอันทรงเกียรติ  การดูถูกเราก็เหมือนกับดูถูกเกียรติของทั้งตระกูล  โดนดูถูกถึงเพียงนี้เราไม่อาจปล่อยวางได้หรอก !”

     

                    ช่างเป็นคำพูดใหญ่โตเกินฐานะตระกูลเล็ก ๆ อย่างตระกูลเวสเตอร์โรสเลยนะ  อยากรู้เหลือเกินว่าถูกเลี้ยงดูมาเช่นไรถึงได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจขนาดนี้  เมื่อถึงจุดนั้นแกรนด์มาสเตอร์มาเรียก็ชะงักสักครู่เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก  ก่อนจะหันไปถามกิยอร์กที่อยู่ไม่ห่าง  กิยอร์ก  เจ้าหนูนี่คือเด็กใหม่ที่บอกว่าเป็นเคยอัศวินฝึกหัดในอุปภัมภ์ของท่านฟลอสท์  ฟอน อุปลานด์ ใช่ไหม

     

                    ครับ กิยอร์กตอบ  ส่วนแกรนด์มาสเตอร์หันมาสำรวจเคล้าส์ด้วยความสนใจ  แปลก... ไม่น่าเชื่อว่าฟอน อุปลานด์คนนั้นจะอุปถัมภ์อัศวินฝึกหัดจากตระกูลที่ไม่ได้สืบสายเลือดของราชวงศ์น่ะ  นี่เจ้าหนู  ทั้งท่าทางที่ดูใหญ่โตเกินกว่าตระกูลก็ดี  ได้เป็นลูกศิษย์ของฟอน อุปลานด์ก็ดีหรือการที่ได้เข้าภาคีทั้งที่อายุน้อยขนาดนี้   เจ้าหนูน้อย... เธอเป็นใครกันแน่ ?รึ 

     

                    เคล้าส์ได้ยินเสียงกิยอร์กสะอึกอย่างชัดเจน  แน่นอนว่าเด็กหนุ่มรู้อย่างเต็มอกว่าสิ่งที่กิยอร์กกังวล  หรือสิ่งที่มาเรียกำลังพยายามเอ่ยถึงอยู่นั้นหมายความว่าอย่างไร  แต่เขาก็ไม่อาจหักห้ามความโกรธเกรี้ยวได้อีกต่อไป

     

                    แต่ก็นะ  เข้ามาในภาคีนี้บรรดาศักด์  สายเลือด หรือเพศก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจอีกต่อไป  จำไว้เจ้าหนู  ในภาคีนี้เราสนใจแต่ว่าคุณมีศรัทธา  มารยาท  และฝีมือ แค่ไหนเท่านั้นล่ะ  ศรัทธาเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์  ส่วนเมื่อสักครู่เธอก็ได้แสดงคุณค่าของมารยาทในตัวไปแล้ว  เหลือแต่ฝีมือนี่ล่ะที่จะได้รู้กัน  เธอหันไปหากิยอร์ก  พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวด้วยความทรมาน  ดูเหมือนว่าเราคงต้องทำพิธีตบสั่งสอนเจ้าหนูนี่ด้วยตัวเองแล้วล่ะ 

     

                    ท่านแกรนด์มาสเตอร์  โปรดอย่าถือสาเด็ก...

     

                    บอกแล้วว่าเราไม่ใช่เด็ก ! ท่านกิยอร์กเองก็เห็นเราเป็นตัวตลกเหมือนผู้หญิงคนนั้นรึ !”

     

                    โอกาสสุดท้ายที่ท่านกิยอร์กจะพยายามระงับเหตุมีอันเป็นหมันไป  เหลือแต่เพียงคำพูดเตือนใจที่ดังออกมาจากปากของมาเรียอย่างอ่อนโยนว่า

     

                    ท่านกิยอร์กไม่ต้องกล่าวอะไรต่อแล้วล่ะ  ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งแกรนด์มาสเตอร์ของภาคีทำให้เราเรียนรู้สิ่งสำคัญยิ่งอย่างหนึ่ง  สุดท้ายแล้วก็มีแต่ความรัก มิตรภาพ และอำนาจการยิงที่เหนือกว่าเท่านั้นที่จะสร้างความเคารพอย่างยั่งยืนได้     

     

                    คงไม่ต้องบอกว่าหลังจากนี้ท่านแกรนด์มาสเตอร์แห่งภาคีอัศวินจะสร้างความเคารพด้วยวิธีใด

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    Edit Log: 2 May, 2012: จบตอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×