ใต้ฟ้าสาธารณรัฐ

ลำดับตอนที่ #48 : Clash of the Titans ปะทะ (4)

เวลา 15.21 น.

                ถึงมารีจะได้อาวุธในมือแล้ว  แต่การบุกเข้าประชิดเจ้าแพนเซอร์ตัวนี้ยังเป็นเรื่องที่ลำบาก  ปืนใหญ่ที่คอยยิงสกัดอยู่ตลอดทำให้มารียังหาจังหวะบุกไม่ได้ 

                กระนั้นโอกาสของมารีมาถึงเร็วกว่าที่คาด  เมื่อจู่ ๆ แพนเซอร์ก็ลดปืนลงทำท่าเหมือนกับปืนใหญ่กำลังมีปัญหา  จากที่มารีเข้าใจ  ปืนใหญ่ของหุ่นกลโดยส่วนใหญ่จะระบบป้อนกระสุนอัตโนมัติ  ดังนั้นโอกาสที่กระสุนจะขัดลำกล้องมีค่อนข้างสูง  และท่าทางที่เจ้าหุ่นแพนเซอร์กำลังเปลี่ยนอาวุธจากปืนใหญ่เป็นดาบแทน 

                ได้ทีล่ะ !

                มารีที่เห็นดังนั่นก็รีบถีบขาพุ่งทะยานเข้าประชิดหุ่นแพนเซอร์อย่างรวดเร็ว  ด้วยความเร็วขนาดนี้หุ่นกลของเธอต้องเข้าประชิดตัวมันได้ทันก่อนที่จะแก้ปืนเสร็จแน่  และปลายแหลมของค้อนสงครามที่ถืออยู่ก็จะฟาดเข้าที่ห้องคนขับอย่างจัง  ปิดฉากการรบครั้งนี้เสีย

                ทว่า  มารีนั้นคิดผิดถนัด

                มารีได้ใจเกินไป  เธอรีบบุกเข้าไปโดยไม่คิด  ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เจ้าคนขับแพนเซอร์จอมเจ้าเล่ห์คาดการไว้แล้ว  จู่ ๆ ปืนที่กำลังถูกเก็บก็ถูกยกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว  มันเป็นกลลวงที่แสนจะพื้นฐานที่หลอกว่าปืนติดขัด  แต่มารีก็ติดกับเข้าอย่างจัง

 พอตอนมารีรู้ตัวอีกที  ประกายเพลิงสว่างวาบก็ปรากฏจากปากลำกล้องปืนเสียแล้ว

.......................................

.........................

..................

......

เวลา 15.19 น.

                วิคเตอร์เฝ้าการต่อสู้กันของหุ่นกลยักษ์ทั้งสองจากหลุมระเบิดมาตลอด  เขาพยายามที่จะเคลื่อนที่ไปรวมกลุ่มกับคนอื่นเพื่อจัดตั้งหน่วยป้องกันใหม่  ทว่า  ข้อเท้าที่ยังแพลงและการต่อสู้อันดุเดือดที่เกือบเหยียบเขาแบนไปหลายรอบทำให้วิคเตอร์ยังออกไปไหนไม่ได้  และนั่นทำให้เขาเป็นประจักษ์พยานถึงการบังคับหุ่นกลที่สุดแสนจะผาดโผนของ อส. หญิงผู้นี้ที่ราวกับหลุดมาจากคณะกายกรรม

                วิคเตอร์รู้สึกหวาดเสียวทุกครั้งที่หุ่นกลเอส 35 พุ่งตัวไปอย่างที่กำลังเป็นอยู่  มันเสี่ยงมากกับการที่ข้อต่อจะรับแรงกระแทกไม่ไหวจนข้อหักพังลงมา  ถึงกระนั้นก็ตาม  จนป่านนี้แล้วหุ่นกลสีเขียวก็ยังไม่พังเสียที  แม้กระทั่งตอนที่เจ้าหุ่นกลยักษ์เล่นอุตริถีบตัวลอยขึ้นสูงก่อนจะกลิ้งตีลังกากับพื้นสองตลบจนบ้านเรือนพังเป็นแถบ ๆ  เจ้าหุ่นกลเอส 35 ก็ยังลุกยืนขึ้นมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แถมยังคว้าค้อนสงครามไว้ในมือได้อีกต่างหาก

                มันมีคำอธิบายเพียงแค่สองอย่างสำหรับสิ่งที่วิคเตอร์เห็น  ถ้าไม่ อส. หญิงผู้นั้นโชคดีอย่างเหลือเชื่อ  มันก็ต้องเป็นเพราะฝีมือการกะแรงที่แม่นยำราวกับปีศาจ

                และวิคเตอร์ก็เชื่ออย่างแน่นอนว่าเจ้าอัศวินหุ่นกลของแพนเซอร์เองคงตะลึงกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่แน่นอน

                ถึงอย่างนั้นแล้ววิคเตอร์ก็ยังอดห่วงไม่ได้  ดูจากรูปการแล้วแม้ฝีมือการบังคับของ อส. หญิงผู้นี้จะน่าทึ่งเพียงใด  แต่ก็คงยังไม่แคล้วเป็นมือสมัครเล่นอยู่ดี  สุดท้ายแล้วชาวนาที่ไม่เคยออกรบจะรู้ทันกลเม็ดของสนามรบได้สักกี่น้ำ

                ในที่สุดสิ่งที่วิคเตอร์กังวลก็เป็นจริง  อส. หญิงผู้นั้นติดกับอย่างง่ายดายกับกลยุทธเด็กเล่นอย่างนั้น  เสียงปืนใหญ่ดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับความรู้สึกใจหายวูบของเขา

                เสียงการกระแทกระหว่างโลหะกับเกราะส่วนอกของหุ่นกลเอส 35  ดังแสบแก้วหูไปทั่ว  ประกายแสงไฟสีส้มสว่างแล่บขึ้นอย่างน่ากลัว

                ทว่า... หุ่นกลสีเขียวนั้นยังคงเดินหน้าเข้ามาด้วยความเร็วที่ไม่เปลี่ยนแปลง

                วิคเตอร์ตาเบิกโพลงด้วยความตื่นตะลึง  มันได้ผล ! ผิวเกราะที่ลาดเอียงของหุ่นกลเอส 35 เปลี่ยนองศากระทบของกระสุนปืนใหญ่ให้แฉลบออกไปด้านข้างแทนที่จะเจาะผ่านเกราะไป

                ในตอนนั้น  วิคเตอร์ก็ได้รับชมการเคลื่อนไหวที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น 

                หุ่นกลหุ้มเกราะยักษ์เริ่มบิดข้อเท้าหมุนควงสว่านราวกับลูกข่างอย่างไม่เกรงกลัวต่อแรงตึงเครียดของข้อต่อ  ร่างหุ่นกลเอส 35 หมุนควงค้อนสงครามเป็นวงเข้าฟาดใส่หุ่นกลแพนเซอร์ที่ไม่ทันตั้งตัว  ถึงหุ่นแพนเซอร์จะหลบได้อย่างฉิวเฉียด  แต่แขนข้างที่ถือดาบของมันก็ถูกหวดกระจุย

                ดูเหมือนว่ามันจะเป็นวิกฤติของหุ่นกลเอส 35 เมื่อมันพุ่งถลาผ่านตัวหุ่นกลแพนเซอร์ไปด้วยแรงเหวี่ยงมหาศาล  ตามปรกติแล้วผู้ขับจะไม่สามารถฝืนแรงย้อนหันกลับมาได้โดยทันที  ทำให้หุ่นกลที่อยู่ในลักษณะนี้มักตกเป็นเป้าโจมตีจากด้านหลังได้อย่างง่ายดาย  ซึ่งเจ้าหุ่นแพนเซอร์ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยออกไป  มันรีบพลิกตัวหันปืนใหญ่ที่ยังใช้งานได้ไปหาด้านหลังที่ไร้ทางสู้ของหุ่นกลเอส 35   กระนั้น...

                “ไม่น่าเชื่อ”

                วิคเตอร์เผลอกล่าวออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเขาได้เห็นกระบวนท่าที่เหลือเชื่อ  แทนที่หุ่นกลเอส 35 จะไถลออกไปอย่างหยุดไม่ได้  อส. หญิงผู้นั้นกลับใช้การคำนวนอย่างแม่นยำ  หมุนจุดศุนย์ถ่วง  กลับลำหุ่นกลอย่างกระทันหันโดยที่ท่อนขายังไม่หักไปเสียก่อน  เมื่อเจ้าหุ่นกลแพนเซอร์หันไปทางหุ่นกลเอส 35 อีกทีก็ต้องพบว่าสิ่งที่มันเผชิญหน้าอยู่ไม่ใช่ส่วนหลังอันเปราะบาง  หากแต่เป็นปลายค้อนสงครามที่กำลังฟาดเข้าใส่เกราะส่วนอกอย่างจัง

                “นี่มัน...มาลเดอร์เทิร์น”

                เจ้าหุ่นแพนเซอร์พยายเอี้ยวตัวหลบ  แต่มันไม่ทันเสียแล้ว  เกราะส่วนอกที่คอยปกป้องห้องคนขับถูกฟาดเข้าที่ด้านข้างจนหลุดกระเด็นออกไปทั้งแผง  เสียงของแข็งถูกกระทบอย่างจังดังสนั่นไปทั่ว  ก่อนที่จะถูกเสริมด้วยเสียงล้มตึงของหุ่นกลที่หมดสภาพการสู้รบ

                เมื่อฝุ่นหมอกจางลง  มีเพียงหุ่นกลสีเขียวที่ยังยืนตระหง่านอยู่พร้อมกับควันลอยฉุยจากบริเวณข้อต่อ

                เวลา 15.22 น. การรบยุติลง

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

Edit Log: 6 Feb, 2011: จบตอน  ตอนนี้กำลังร้องอ๊ากกับสองเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย  เรื่องแรกคือฉากจบลับของคุณน้องในเกมส์ oreimo กับอีกเรื่องคือร้องอ๊ากเรื่องยิงกันที่ชายแดน...