คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : Blowing in the wind ลาจาก (1)
5 ชั่วโมงก่อนเวลาเคลื่อนพล
วิคเตอร์ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน เขาปลดกระดุมต้นคอก่อนเอนหลังไปพิงกับพนักอิงไม้แข็ง ๆ ผู้การมองไปรอบห้องทำงานส่วนตัวของเขาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นห้องนอนของเจ้าของฟาร์มที่กองพันเขาถือวิสาสะยึดเป็นกองบัญชาการชั่วคราว รูปถ่ายขาวดำของครอบครัวสุขสันต์ยังแขวนติดอยู่บนผนังไม้ให้วิคเตอร์เห็นอยู่ร่ำไป ดูท่าชายแก่หนวดคล้ายตัวอักษร W ในรูปคงจะไม่สบอารมณ์แน่หากทราบว่าวิคเตอร์สวมรองเท้าบู๊ทเปื้อนโคลนขึ้นมาให้ห้องนอนเขาอย่างนี้
นอกจากโต๊ะทำงานที่มีกองเอกสารและเครื่องพิมพ์ดีด เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า หีบเก็บของส่วนตัวของวิคเตอร์ และเตียงนอนเหม็นสาบแล้ว ในห้องยังมีกองหนังสือปกสีเขียวที่วางสูงจนถึงเอวของผู้การ มิหนำซ้ำยังกินพื้นที่ในห้องเกินครึ่งไปเสียอีก มันกินพื้นที่เสียจนท่านผู้การชอบเผลอเตะมันจนล้มครืนเสียบ่อยครั้งเหลือเกิน แต่ผู้การเองก็ต้องจำใจเก็บมันไว้ในห้องเพราะเอมิลไม่อยากให้กองหนังสือ “จิตสำนึก” ต้องเปียกชื้นหากเก็บไว้ชั้นล่างที่เสี่ยงต่อการรั่วซึมของน้ำ
ผู้การหนุ่มอดที่จะรู้สึกขบขันเสียมิได้ยามเมื่อมองกองหนังสือที่เป็นดั่งคัมภีร์ศักดิสิทธิ์ของสาธารณรัฐ มันเป็นความรู้สึกแสนประหลาดเหลือเกินที่ครั้งหนึ่งเขาเคยต้องเที่ยววิ่งไล่ปิดสำนักพิมพ์ที่แอบจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ คอยวิ่งไล่จับคนยัดเข้าซังเตที่บังอาจมีหนังสือต้องห้ามนี้ไว้ในครอบครอง หรือแม้แต่เป็นประธานในพิธีเผาหนังสือนอกรีตก็ดี กระนั้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กลายเป็นว่าในห้องเขากลับเป็นคลังเก็บหนังสือเล่มนี้ไปเสีย
“ถ้าเป็นตัวเราในสมัยก่อนคงขำไม่ออกแน่”
ทว่า ในตอนนี้เขากลับขำกับมันได้อย่างหน้าตาเฉย การเปลี่ยนแปลงมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน มันใช้เวลาไม่กี่ปีเปลี่ยนคนที่เคยเป็นดั่งเทพเจ้ากลายเป็นศัตรูของประชา และเปลี่ยนศัตรูของประชากลายเป็นผู้ปลดปล่อยมวลมนุษยชาติ
แล้วตัวเขาเล่า... วิคเตอร์ได้แต่รำพึงกับตัวเองอย่างเดียวดาย คนรุ่นหลังจะมองตัวเขาในฐานะอะไรกันแน่...
เสียงเคาะประตูสองสามครั้งดังขึ้นพร้อมกับคำพูด “ขออนุญาตครับ” ซึ่งวิคเตอร์จำได้ทันทีว่าเป็นบรูโน่ เมื่ออนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร้อยตรีบรูโน่จึงก้าวเข้ามายืนตบเท้าตัวตรงต่อหน้าเจ้านายตน
“ตามสบายบรูโน่”
ความจริงแล้วบรูโน่ก็เริ่มลากเก้าอี้มานั่งตั้งแต่ก่อนวิคเตอร์จะกล่าวประโยคจบเสียด้วยซ้ำ บรูโน่อยู่กับวิคเตอร์มานานพอจนเขาไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นทางการมากนักเมื่อนั่งคุยกันเป็นการส่วนตัว
“ท่านทราบเรื่องอาหารเป็นพิษแล้วใช่ไหมครับ”
“ผมเพิ่งกลับมาจากเต้นท์ของเสนารักษ์มาเมื่อสักครู่นี่เอง ยังดีที่ไม่มีใครที่มีอาการอันตรายถึงชีวิต”
วิคเตอร์กล่าวราวกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่บรูโน่กลับไม่เห็นด้วยเช่นนั้น
“ท่านครับ คนของเราตั้ง 18 คนป่วยเป็นอาหารเป็นพิษนะครับ แถม 7 คนที่ว่าเป็นพลขับที่ต้องออกรบวันนี้ด้วย !”
การที่บรูโน่จะร้อนใจเป็นเรื่องที่ไม่แปลกนัก หลังจากงานเลี้ยงก่อนออกรบเมื่อวันก่อน มีทหารอย่างน้อย 18 คนมีอาการอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรง มันใช้เวลาไม่นานนักคนทั้งกองพันจะสังเกตว่า เจ้าบลูชีสที่หลาย ๆ คนกินไปมันไม่ได้มีสีน้ำเงินตามชื่อ หากแต่ส่วนที่เป็นเชื้อรากลับเป็นสีเขียวเข้มอย่างสวยงามราวกับสีของการปฏิวัติก็มิปาน และเจ้าชีสที่ว่าก็ไปก่อการปฏิวัติในท้องของหลาย ๆ คนจนต้องอ้วกแตกอ้วกแตนเป็นแถบ ร้อนไปถึงส่วน ผบ. อย่างวิคเตอร์ที่ต้องรีบวิ่งไปตรวจสอบสถานการณ์โดยทันที
“มันเป็นเรื่องปรกติของกองทัพที่จะเจอเรื่องอย่างนี้นะ ผมแค่ไม่คิดว่าเหตุผลมันจะงี่เง่าได้ถึงขนาดนี้” วิคเตอร์กล่าวเหมือนกับไม่ใส่ใจอะไรนัก แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบแขวะคนบางคนที่เป็นต้นเรื่องนี้ “แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ผมให้ทางหมวดรบจัดสรรกำลังพลใหม่แล้ว เราจะเคลื่อนพลกันตามกำหนดเดิม”
“ท่านไม่มีบทลงโทษทางวินัยอะไรกับหมอนั่นบ้างเลยหรือครับ”
วิคเตอร์ไม่ตอบ เขาได้แต่นั่งพลิกเอกสารข่าวกรอง บรูโน่เองก็ทราบดีว่า ถึงแม้วิคเตอร์จะมียศเป็นถึง ผบ. ของกองพันนี้ เขาก็ไม่อาจทำอะไรเอมิลที่เป็นคนของคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติได้เลย ดังนั้นวิคเตอร์จึงเลือกที่จะไม่ตอบคำถามนั่นแทนจะเป็นการดีกว่า
บรูโน่จึงได้เพียงแต่หลับตาสำนึกผิดว่าเพิ่งทำให้เจ้านายลำบากใจไปกับคำถามเมื่อสักครู่
“บรูโน่ แล้วทางหน่วยเหนือสั่งการมาว่าอย่างไรบ้าง” วิคเตอร์ถามหลังจากอ่านเอกสารข่าวกรองเสร็จ
“ผมเพิ่งไปรับโทรเลขคำสั่งเมื่อสักครู่นี่เองครับ ยืนยันคำสั่งเดิม เคลื่อนพลเวลายี่สิบศูนย์ศูนย์ รอรวมพลกับหน่วยทหารราบที่จุดออกตี เวลาเข้าตีคือศูนย์ห้าศูนย์ห้าครับ”
“งั้นหรือ...”
วิคเตอร์หลับตาครุ่นคิดราวกับบางอย่างกำลังกวนใจเขาอยู่ ท่าทางกระสับกระส่ายของผู้การในตอนนี้ดูผิดจากลักษณะปรกติที่ดูจะใจเย็นกว่านี้ และแน่นอนว่าบรูโน่เองพอจะรู้ว่าเจ้านายของตนกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่
“ท่านยังกังวลเรื่องข่าวกรองนั่นอยู่หรือครับ”
“มันก็ไม่เชิงหรอกนะ”
“แต่ข่าวกรองล่าสุดก็ยืนยันแล้วไม่ใช่หรือครับว่าหน่วยหุ่นกลของจักรวรรดิถอนตัวออกจากหมู่บ้านนั่นเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่ครับ”
“บรูโน่เอ๋ย ความผิดพลาดที่น่ากลัวที่สุดของผู้บัญชาการในสนามรบคือการหวังว่าแผนทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบนะ” วิคเตอร์ยื่นเอกสารข่าวกรองที่อ่านเมื่อสักครู่ให้แก่ลูกน้องคู่ใจ “ลองอ่านตรงที่ผมขีดเส้นใต้สิ”
สิ่งที่บรูโน่อ่านเป็นเพียงแค่ประโยคสั้น ๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้บรูโน่ต้องกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคออย่างยากลำบาก
“เมื่อวานก่อนหน่วยเฉพาะกิจของร้อยเอกพิเศษเธโอดอร์ปะทะกับหุ่นกลของข้าศึกที่เนิน 254 ก่อนที่จะผลักดันให้ข้าศึกถอยร่นไปได้” วิคเตอร์บรรยายสรุปเนื้อหาในเอกสารให้บรูโน่ฟัง “แต่ข้อมูลในเอกสารที่ท่าน เสธ. โรแซงยี คงไม่มีวันบอกคนอื่นแน่ ๆ คือหุ่นกลทั้ง 5 เครื่องของหน่วยเฉพาะกิจนั่นถูกหุ่นกลสีขาวเพียงตัวเดียวเล่นงานซะยับเยิน พลขับตายเรียบ เหลือรอดแต่เพียงตัวร้อยเอกพิเศษเธโอดอร์ที่ก็เจ็บหนักอยู่เอาการ”
“เนิน 254 นั่นห่างจากเราแค่ 3 ชั่วโมงเองนี่ครับ”
“ใช่แล้วล่ะบรูโน่ เขาอยู่ที่แนวรบเรานี่ล่ะ...”
“บารอนขาวอยู่ที่นี่แล้ว!"
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
Edit Log: 25 Nov 2010: จบตอน
Edit Log: 30 Nov 2010: แก้คำผิด
ความคิดเห็น