ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    merMAID Princess!! เงือก เมด เจ้าหญิง ป่วน!

    ลำดับตอนที่ #5 : ทั้งที่มองท้องฟ้าเดียวกันแท้ๆ ทำไมมันดูต่างกันถึงขนาดนี้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.37K
      1
      14 มิ.ย. 55

                    อลาโม่ !”

     

                    เสียงตะโกนเล็ก ๆ ดังขึ้นพร้อมกับร่างเด็กสาวที่กระโดดลอยกลางอากาศ

     

                    การกระโดดจากกราบเรือไปยังท่าเทียบจอดอาจจะเป็นก้าวกระโดดที่ไกลเหลือเกินสำหรับองค์หญิงเตเต้ตัวน้อย  แต่นั่นอาจเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ ก้าวหนึ่งของเรื่องราวที่กำลังจะเริ่มต้นต่อไปนี้

     

    ทว่าสำหรับเตเต้แล้วเรื่องในอนาคตช่างดูห่างไกลเหลือเกิน  ผิดกับภาพเบื้องหน้าที่ดูตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก  เตเต้ไม่เคยเหยียบแผ่นดินอื่นนอกจากบ้านเกิดและเมืองท่าอีกสองสามแห่งที่เรือแวะจอดกลางทางตลอดการเดินทางเดือนครึ่งที่ผ่านมา มันจึงไม่แปลกที่เตเต้จะมีความรู้สึกคล้ายเจ้าหมาน้อยสำรวจอาณาเขตใหม่

     

    ว้าว...อาณาจักรพ่อค้าอันมั่งคั่งสุดยอดไปเลย

     

    เตเต้อุทานประโยคนี้กี่ครั้งแล้วก็ไม่ทราบนับตั้งแต่ได้ยลโฉมแผ่นดินของอาณาจักรพ่อค้าอันมั่งคั่งเป็นครั้งแรก  ทุกอย่างดูยิ่งใหญ่ไปหมดในสายตาขององค์หญิงตัวน้อย  ตั้งแต่อ่าวที่เต็มไปด้วยเรือน้อยใหญ่ตั้งแต่เรือหาปลาลำน้อยไปจนถึงเรือแกลเลียนลำมหึมาจอดเรียงรายกันแน่นขนัด  นำสินค้าและความมั่งคั่งจากทั่วโลกมาสู่อาณาจักรนี้  จวบจนตอนที่เดินผ่านท่าเรืออันคึกคักที่เต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ  แต่งตัวในชุดดูแปลกตาเจรจาในภาษาแปลกถิ่นราวกับเป็นศูนย์รวมของโลก  หรือตอนที่เดินผ่านตรอกเล็ก ๆ อันที่ถูกขนาบโดยอาคารร้านรวงโรงเตี๊ยมหรือสมาคมพ่อค้าที่สูงสุดลูกหูลูกตาอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน  หรือตอนที่ได้เห็นม้าตัวเป็น ๆ ครั้งแรกจนทำเอาเกือบหวิดโดนม้าเหยียบเสียทีเดียว  หรือในขณะนี้ที่พระองค์ทรงยืนอยู่กลางลานจัตุรัสที่ทำจากหินหลากสีสันวางเรียงกันเป็นรูปดวงอาทิตย์  โดยมีรูปหล่อสำริดพ่อค้าขนาดเท่าคนจริงชูมาตรวัดตราชั่งเหนือหัวกับมืออีกข้างที่ถือม้วนกระดาษไว้ 

     

    ซีเรีย ซีเรีย... ทำไมตานี่ถึงต้องถือตาชั่งกับม้วนกระดาษด้วยล่ะ  เตเต้ถามสาวรับใช้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังด้วยความสนอกสนใจกลางแดดยามบ่ายอ่อน ๆ โดยแทบจะลืมเรื่องอากาศหนาวที่บ่นมาตลอดการเดินทาง

     

    อ๋อ... นั่นเป็นรูปปั้นแสดงถึงหลักการของอาณาจักรพ่อค้าอันมั่งคั่งค่ะ  ตาชั่งเป็นตัวแทนของการแลกเปลี่ยนอย่างเที่ยงธรรม  ส่วนม้วนกระดาษนั่นคือตัวบทกฎหมายและอัตราการแลกเปลี่ยน  เมื่อทั้งสองรวมกันจะหมายถึงการแลกเปลี่ยนสินค้าอย่างเที่ยงธรรมภายใต้หลักกฎหมายที่ระบุกำหนดไว้อย่างชัดเจนค่ะ

     

    ซีเรียกล่าวตอบ  ซีเรียในตอนนี้ก็ดูเปลี่ยนไปจากยามปรกติมาก  ตอนนี้เมดสาวสลัดคราบสาวใช้  สวมชุดลำลองกระโปรงบานธรรมดาแต่กลับดูสง่าราวกับเป็นคุณหญิงตระกูลชั้นสูง ในมือถือกระเป๋าสัมภาระที่เป็นเพียงกระเป๋าใบใหญ่เพียงหนึ่งใบ  บรรจุสมบัติทุกอย่างสำหรับการเดินทางขององค์หญิงโทนแห่งราชอาณาจักรหอยกาบไว้ 

     

    โห... แล้วอาคารสีขาวหลังนั้นล่ะ  เตเต้ชี้ไปยังอาคารสีขาวนวลที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า  โดยที่บันไดทางขึ้นเต็มไปด้วยผู้คนเดินเข้าออกกันอย่างวุ่นวาย

     

    ด่านตรวจคนเข้าเมืองค่ะ  ซีเรียตอบ  เราต้องไปจัดการเรื่องเอกสารขอเข้าเมืองกันก่อนถึงจะเข้าไปที่ตัวเมืองได้นะคะ

     

    เห...แล้วที่เราเดินอยู่นี่ไม่ใช่ตัวเมืองหรอกหรือ ? 

     

    อาณาจักรพ่อค้านี้ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางช่องแคบระหว่างสองทวีปค่ะ  แต่ละเกาะก็จะถูกแบ่งเป็นเขตต่าง ๆ เช่นส่วนที่เราอยู่ตอนนี้คือส่วนของท่าเรือฝั่งตะวันตก  เป็นเขตนานาชาติไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนก็ได้  แต่ส่วนที่เราจะไปเป็นเขตวิทยาลัยซึ่งอยู่ในเขตตัวเมืองซึ่งต้องขอบัตรอนุญาตก่อน  แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะยุ่งยากอะไรหรอกนะคะ  ทางนั้นแค่ต้องการลงบันทึกทำบัญชีคนเข้าออกอาณาจักรแค่นั้นเอง

     

    สมแล้วที่เป็นซีเรีย  ฉันถามอย่างตอบมาสิบอย่าง

     

    ขอบคุณค่ะ ซีเรียตอบรับราวกับเป็นคำชมก่อนจะเดินนำองค์หญิงน้อยสู่ตัวอาคาร

     

    ถึงแม้ภายในจะกว้างใหญ่เพียงใด  แต่ผู้คนที่จะเข้ามาทำธุระก็มากพอที่จะทำให้พื้นที่ห้องดูแคบลงทันตา  โต๊ะนับสิบตัวตั้งเรียงรายพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทำงานกับกองกระดาษอย่างเคร่งเครียด  โดยมีแถวยาวของคนที่ยืนรอเองก็แผ่รังสีความหงุดหงิดไม่แพ้กัน  น่าเสียดายที่ภาพวาดสีน้ำมันอันวิจิตรที่เล่าเรื่องราววิถีชีวิตประจำวันของผู้คนในอาณาจักรพ่อค้าอันมั่งคั่งมิได้ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศอันเคร่งเครียดเลยแม้แต่น้อย 

     

    ซีเรียพาเตเต้ไปยืนต่อแถวคิวที่ยาวที่สุดสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นพลเมืองของอาณาจักร  สำหรับผู้ที่เป็นถึงระดับองค์หญิงของอาณาจักรหนึ่งแต่ต้องมาใช้บริการกับผู้คนเดินดินทั่วไปอาจจะดูแปลกในสายตาของผู้อื่น  และอาจจะถือเป็นการดูถูกสำหรับพวกชนชั้นสูงที่คิดว่าตัวเองนั้นพิเศษกว่าคนอื่นทั่วไปจนต้องตะแคงตีนเดิน  แต่กับองค์หญิงที่คลุกคลีเล่นหัวกับผู้คนบนเกาะราวกับเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว  แนวคิดของคำว่าชั้นสูงชั้นล่างดูเหมือนจะมีจริงอยู่ในเพียงนิทานและเรื่องเล่าในหนังสือเท่านั้น  ซีเรียเองก็ทราบดีว่าสถานภาพของเตเต้เป็นเพียงเจ้าหญิงจากอาณาจักรบ้านนอกที่ไม่มีความสำคัญใด  คงไม่มีใครสนใจจะให้การต้อนรับอย่างสมพระเกียรติได้  นอกจากนี้งบประมาณค่าใช้จ่ายก็เป็นสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากบรรดาชาวเกาะทั้งหลายแล้วนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินที่ท่าเรือตามทาง  เป็นค่าช่วยเหลือการเดินทางที่ทุกคนต่างหามาด้วยความยากลำบากดังนั้นจึงจะนำไปใช้อย่างสิ้นเปลืองมิได้!

     

    องค์หญิงพินิจป้ายที่เขียนข้อความเดียวกัน 6 ภาษาก่อนจะถามถามซีเรียไป

     

    นี่ทำไมซีเรียมาต่อแถวนี้ล่ะ  ซีเรียไม่ใช่คนของอาณาจักรนี้หรอกเหรอ  ทำไมไม่ไปทำตรงอีกฝากสำหรับคนของอาณาจักรล่ะ  แถวก็สั้นกว่า  แถมผ่านกันฉลุยด้วย

     

    เตเต้หมายถึงแถวอีกฟากที่มีจำนวนโต๊ะพอๆ กัน  แต่แถวนั้นเคลื่อนตัวไปได้คล่องตัวกว่า  ผิดกับแถวที่พระองค์ต่ออยู่ที่คนข้างหน้ากำลังโวยวายสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่องอยู่

     

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  เอกสารยืนยันสถานะของดิฉันก็หายไปตั้งแต่ตอนเรือล่มแล้ว  ดิฉันเองก็ไม่อยากจะทำให้มันเรื่องวุ่นวายโดยไม่จำเป็น....

     

    เมื่อเห็นองค์หญิงทำหน้าไม่เข้าใจกับตอบ  ซีเรียก็เพียงแต่ส่งยิ้มอันอบอุ่นให้  แล้วกล่าวต่อว่า

     

    อีกอย่าง  ตัวดิฉันในตอนนี้คิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของเกาะหอยกาบไปแล้วล่ะค่ะ  ต้องขอบคุณทั้งองค์หญิงและทุกคนบนเกาะจริง ๆ ที่ได้มอบความรู้สึกที่เรียกว่า บ้าน ให้แก่ดิฉันนะคะ 

     

    ...................................

    .........................

    ............

    ...

     

    มันใช้เวลาสักครู่ใหญ่กว่าที่ทั้งสองจะเดินออกมาพร้อมกับม้วนกระดาษสีน้ำตาลในมือ

     

    ท่านเทพแห่งท้องทะเลมาทรงโปรดเถอะ  เจ้าคนข้างหน้านี่มันโค-ตะ-ระ ช้าเลย  เจ้าหน้าที่งี่เง่านั่นก็อีก  ก็เห็นอยู่แล้วว่าเจ้าหมอนั่นมันพูดภาษากลางไม่ได้ก็ยังดันทุรังถามเป็นภาษากลางอยู่ได้  ถ้าอีกคนไม่ไปเรียกล่ามมาละก็แม่จะแปลให้พร้อมด่าไปอีกฉาดเป็นค่าแปลเลยคอยดู  เตเต้บ่นอุบอิบถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

     

    ซีเรียได้แต่เพียงยิ้มโดยแฝงความโล่งอกที่องค์หญิงไม่ได้ทำอย่างที่ว่าไว้  ไม่อย่างนั้นทั้งสองคงอดเข้าเมืองเป็นแน่ 

     

    เป้าหมายถัดไปของทั้งสองคือท่าเรือเพื่อที่โดยสารต่อเข้าไปในเขตตัวเมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะอีกแห่งหนึ่ง  ทั้งสองยื่นเอกสารผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อนจะเข้ามาสู่ส่วนที่เป็นลานรอเรือโดยสาร  มีเรือกอนโดล่าลำน้อยใหญ่จอดเทียบท่าพร้อมกับฝีพายยืนยืนเจรจาราคาค่าโดยสารกับลูกค้าที่ต่อคิวเป็นแถวยาว

     

    ขอเอกสารเข้าเมืองของเตเต้ด้วยค่ะ

     

    จะเอาไปทำอะไรหรือ ?

     

    เดี๋ยวดิฉันจะเก็บรักษาเอกสารของเตเต้ไว้เองค่ะ  เก็บไว้ด้วยกันจะดูแลสะดวกกว่า

     

    ไม่เป็นไรหรอกซีเรีย  ฉันรับผิดชอบตัวฉันเองได้น่า  อีกอย่าง  เอกสารนี้เค้าก็บอกไม่ใช่หรือว่าให้เอาติดตัวไว้ตลอด  เตเต้ตอบซีเรียอย่างมั่นใจก่อนจะเหน็บม้วนกระดาษนั้นไว้ในเสื้อ 

     

    แล้วจดหมายเชิญเข้าเรียนยังอยู่ดีหรือเปล่าคะ

     

    แน่นอน  เก็บอยู่ในที่เดียวกับเอกสารเข้าเมืองนี่ล่ะ  เตเต้ตบกระเป๋าเบา ๆ มีสีพระพักตร์มั่นใจเต็มเปี่ยม   

     

    งั้นเดี๋ยวฉันไป...อุ๊ย! 

     

    ระหว่างที่ซีเรียกำลังจะก้าวเท้าเดินก็เผลอไปสะดุดกับชายแก่ผิวขาวผมหงอกที่กำลังกวาดเศษใบไม้อยู่ใกล้เคียงเสียจนชายแก่เซถลาเกือบลงไปกลิ้งกับพื้นทีเดียว

     

    นี่แม่หนู  เดินระวังหน่อยสิ  ชายแก่ตวาดใส่ซีเรียที่รีบวิ่งมากุลีกุจอพยุงตัวชายชราไว้พลางขอโทษขอโพยอย่างสุดซึ้ง

     

    ดิฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะ  พอดี...อ้าว 

     

    เมื่อซีเรียมองหน้าชายแก่ผู้นี้อย่างตั้งใจก็พบว่าเป็นคนรู้จักเก่าแก่ของเธอนั่นเอง

     

    ลุงเปโดรนี่นา 

     

                    หือ...แล้วหนูเป็นใครล่ะ  หือ...อืม  ชายชราจ้องมองพินิจซีเรียอยู่สักครู่  ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น  อ้าปากกว้างอุทานชื่อ  ซีเรีย! ออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรผิดกับเมื่อสักครู่ 

     

    นี่ซีเรียจริง ๆ หรือเนี่ย!

     

                    ไม่ได้พบกันตั้งนานเลยนะคะ  ดีใจจังที่คุณลุงยังจำหนูได้อยู่  ซีเรียยิ้มหวานตอบ

     

                    โห  กี่ปีมาแล้วเนี่ยที่ไม่ได้เจอหนูน่ะ  โตขึ้นซะสวยจนแทบไม่เหลือเค้าหนูน้อยซีเรียคนนั้นเลยนะ  ลุงเปโดรกล่าวด้วยน้ำเสียงดูสดใสขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก  ไปอยู่ไหนมาตั้งหลายปีเนี่ย  ตั้งแต่หนูไป ร็อคซาน่าอินน์ มันก็ไม่คึกครื้นเหมือนเก่าเลยนะ.... ลุงเปโดรกล่าวระลึกความหลังตามภาษาคนแก่จนสายตาอันพร่ามัวสังเกตเห็นองค์หญิงที่ยืนแกร่วอยู่ข้างเคียง

     

                    โฮ่...กลับมาคราวนี้พ่วงลูกพ่วงหลานมาด้วยเหรอเนี่ย

     

                    ซีเรีย มีสีหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่ลุงเปโดรกล่าว

     

                    ฮุฮุ ๆ เวลามันผ่านไปเร็วจริงเนอะ  เผลอแป็บเดียวหนูน้อยซีเรียที่เคยยังเล่นซนออกเย้าออกเรือนซะแล้ว  

     

                    ลุงเปโดรเข้าใจผิดแล้ว  นี่เป็นองค์หญิงตาลอสติเตส  เตเต้  รัชทายาทอันดับหนึ่งของอาณาจักรหอยกาบที่หนูรับใช้อยู่ค่ะ  ซีเรียรีบอธิบายพลางกล่าวแนะนำตัวเจ้านายของตน

     

                    ไหนๆ เจ้าหญิงที่หนูว่าล่ะ  ลุงเปโดรมองหันไปมาโดยมองข้างองค์หญิงเตเต้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง  ไม่เห็นเจ้าหญิงอยู่แถวนี้เลยนี่นา

     

                    ก็อยู่ตรงหน้าลุงนี่ล่ะค่ะ 

     

                    เสียงเล็ก ๆ ของเด็กสาวดึงความสนใจให้ลุงเปโดรก้มลงมองเตเต้ทำกำลังยืนหน้าเบ้อยู่ข้างซีเรียน

     

    เห  ยายหนูกะโปโลเนี่ยเหรอเป็นเจ้าหญิง

     

    อึก...

     

                    องค์หญิงเตเต้สะอึกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น  ถึงแม้องค์หญิงเตเต้จะไม่ถือตัว  แต่โดนมองข้ามขนาดนี้ย่อมรู้สึกขุ่นเคืองเป็นธรรมดา

     

    ใช่ซี่  เรามันก็แค่เจ้าหญิงอาณาจักรบ้านนอก  โดนคนอื่นมองข้ามมันก็ไม่แปลกอยู่แล้วนี่

     

    เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นแล้ว  เตเต้จึงทักทายผู้สูงอายุตามมารยาทก่อนจะเดินผละตัวออกไปจากอย่างไม่สบอารมณ์

     

                    อ้าว...นี่ลุงไปทำอะไรให้ลูกหนูโกรธละเนี่ย 

     

                    ลุงเปโดร  หนูบอกแล้วไงว่าท่านไม่ใช่ลูกของหนูไงล่ะคะ  ซีเรียยิ้มแห้ง ๆ  พลางหันไปมององค์หญิงน้อยด้วยความเป็นห่วง 

     

                    ..................................

                    ....................

                    ..........

                    ....

     

                    ใช่ซี่ เรามันก็แค่เจ้าหญิงบ้านนอก

     

    เตเต้บ่นอุ่บพลางเหม่อท่าเรือโดยรอบอย่างไร้จุดหมาย  ภาพของมหานครที่อยู่อีกฟากหนึ่งของผืนน้ำบนฉากหลังของท้องฟ้าสีครามดูราวกับเป็นภาพวาดที่เตเต้เคยได้แต่เพียงมองดูจากรูปภาพในหนังสือ  ท่ามกลางอาคารของมหานครของอาณาจักรพ่อค้าอันมั่งคั่ง ปราสาทสีขาวสูงตั้งเด่นเป็นสง่าราวกับเป็นหัวใจของมหานครก็มิปาน 

     

    องค์หญิงเหลือบไปมองซีเรียที่ยืนพูดคุยกับลุงเปโดรอย่างรู้สึกแปลกประหลาด  การที่ได้รู้จักตัวตนอีกด้านของคนที่เราคิดว่ารู้จักดีแล้วมันรู้สึกว้าเหว่ชอบกล  ตามปรกติแล้วเตเต้ไปไหนมาไหนมักจะพบกับผู้คนที่คุ้นหน้าตลอดเวลา  แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นคนแปลกถิ่นที่มองไปทางไหนก็พบแต่คนแปลกหน้าทั้งนั้น  ซีเรียเองตอนที่มาอยู่บนเกาะใหม่ ๆ ก็คงมีความรู้แบบนี้ละมั้ง  เตเต้ได้แต่ครุ่นคิดในใจ

     

    กลิ่นของทะเล  บรรยากาศรอบข้าง  หรือแม้แต่สีของท้องฟ้า...ไม่เหมือนที่บ้านเลย 

     

    องค์หญิงน้อยรู้สึกว่าอยากจะร้องไห้อีกครั้งเสียเหลือเกิน  ถ้าไม่ติดว่าจู่ ๆ ก็มีเสียงโวยวายของผู้คนโดยรอบ  กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่ต้นคอถูกรัดจากด้านหลังด้วยท่อนแขนอันกำยำเสียแล้ว 

     

    เฮ้ย !”

     

    ที่แย่ไปกว่านั้นคือมีใบมีดแหลมคมเย็นเฉียบอันสั่นระริกจ่อตรงใบหน้า  น้ำเสียงอันแข็งกร้าวตวาดออกไปอย่างร้อนรน

     

    อย่าเข้ามานะ  ไม่งั้นยายหนูนี่โดนเชือดแน่! 

     

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@




    Edit Log: April 04th, 2008: แก้ไขรายละเอียดเรื่องการแต่งตัวของซีเรีย     
    Edit Log: April 13th, 2008: แก้คำผิด     
    Edit Log: May 1st, 2008: เพิ่มรายละเอียดของลุงเปโดร
    Edit Log: June 25th, 2011: มหกรรมรีไรท์
    Edit Log: June 14th, 2012: รีไรท์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×