คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ให้ตายสิ ทำไมพวกผู้ใหญ่ชอบคิดอะไรให้มากความด้วยนะ!
เสียงของสายฝนภายนอกยังโหมกระหน่ำอย่างไม่หยุดหย่อน ผสมผสานกับเสียงลมหนาวพัดผ่านช่องว่างคล้ายเสียงคร่ำครวญของวิญญาณร้ายที่ชวนหดหู่... ทว่าภายในโรงเตี๊ยมร็อคซาน่าอินน์กลับโชดช่วงด้วยความรู้สึกเร่าร้อนขององค์หญิงน้อยผมหยิกพระองค์หนึ่ง
“ซีเรีย! หมดเวลาร้องไห้คร่ำครวญแล้ว”
เตเต้ชูมือประกาศกร้าวราวกับเผด็จการปลุกระดมมวลชนให้ออกไปทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน
“เรื่องผิดพลาดทั้งหลายในอดีตจงปล่อยทิ้งมันไปเสีย บัดนี้เป็นเวลาที่พวกเราเอาคืนแล้ว ใช่แล้ว พวกเราต้อง...แอ๊กก!”
ก่อนที่องค์หญิงจะได้กล่าวจบ กำปั้นพิฆาตอันขึ้นชื่อของร็อคซาน่าก็ขยี้ศีรษะยุ่ง ๆ อย่างไร้ความปราณี
“แต่ก่อนหน้านั้นก็หัดตามล้างตามเช็ดผลงานของตัวเองก่อนสิยะ”
เตเต้พยายามดิ้นหนีแต่ก็มิอาจหนีรอดจากกำปั้นที่ปราบสามีจอมดื้อได้อย่างชงัด ร็อคซาน่าขยี้ศีรษะขององค์หญิงหัวยุ่งจนเตเต้ต้องตะโกนร้องยอมแพ้อย่างไร้ทางสู้
“พอแล้ว ยอมแล้ว ยอมแล้วจ้า”
เมื่อร็อคซาน่าปล่อยมือ เตเต้ก็ทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยสภาพอิดโรยดูน่าสงสารยิ่ง แต่ถ้าเทียบกับความรู้สึกตอนที่ร็อคซาน่ากลับมาพบกับผลงานที่เตเต้กับซีเรียทำไว้กับโรงเตี๊ยมของตนก็นับว่ายังถือว่าปราณีมากแล้ว
“เชื่อเขาเลย ไม่นึกเลยว่าซีเรียจะเป็นไปกับเขาด้วย”
ร็อคซาน่ามองกับซีเรียที่กำลังจัดเก็บข้าวของที่กระจุยกระจายในโรงเตี๊ยมอย่างเหนื่อยใจ แม้ว่าทั้งซีเรียและร็อคซาน่าจะพยายามช่วยกันเก็บกวาดอย่างเร็วที่สุดแล้วแต่ก็คงยากที่จะเปิดร้านทั้งสภาพนี้
“นึกว่าจะได้ลูกค้าที่ต้องการหลบฝนเพิ่มเสียหน่อย เฮ้อ... เสียโอกาสหมด”
“ขอโทษค่ะ” ซีเรียได้แต่ก้มหน้าเก็บข้าวของต่อไป แม้แต่สาวใช้สมบูรณ์แบบอย่างซีเรียยังไม่วายถูกร็อคซาน่าเขกหัวถูกทำโทษเหมือนเด็กเล็ก ๆ
ร็อคซาน่าเห็นดังนั้นได้แต่ถอนหายใจพลางยิ้มยกโทษให้กับท่าทีสำนึกผิดของซีเรีย เห็นอย่างนี้ก็อดนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ในอดีตเสียมิได้ แม้เวลาจะผ่านไปสักกี่ปีเท่าไรร็อคซาน่าก็ยังเห็นซีเรียเป็นซีเรียตัวน้อย ๆ วิ่งเสริฟอาหารให้แขกอยู่ดี
“ให้ตายสิ ไอ้เราก็ตกใจแทบแย่นึกว่าไปเหยียบตาปลาผู้มีอิทธิพลที่ไหน”
ในความเป็นจริงแล้วร็อคซาน่าก็ไม่ได้หงุดหงิดกับทั้งสองมากไปกว่าโมโหตัวเองสักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเรื่องที่ดันเผลอไปจ้างคนแปลกหน้าอย่างคริสเทียน่าที่ผิดวิสัยปรกติของตนเอง
“ใครที่บังอาจมาลูบคมร็อคซี่คนนี้ไม่จบดีแน่” ร็อคซาน่าประกาศกร้าว
“ใช่แล้วล่ะ ใครบังอาจมาลูบคมเตเต้ผู้นี้มันต้อง... แอ๊ก !”
ร็อคซี่เขกหัวเตเต้อีกรอบ
“ทำงานต่อไปอย่ามัวแต่พูด ความผิดของนังนั่นกับเธอมันคนละเรื่องกันย่ะ”
“ค่า...”
องค์หญิงแห่งอาณาจักรหอยกาบได้แต่ตอบตกลงเสียงอ่อน ยอมสิโรราบต่อพลังที่เหนือกว่า หล่อนได้แต่พึมพำกับตัวเองว่าป้าคนนี้เป็นปีศาจชัด ๆ
ระหว่างที่ทั้งสามช่วยกันทำความสะอาดอยู่นั้น กระดิ่งหน้าประตูก็ดังขึ้ เสียงสายฝนภายนอกได้ยินอย่างชัดเจนยามประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงย่ำเท้าของรองเท้าพื้นแข็ง
ผู้มาเยือนในยามนี้คือลุงเปโดรที่สวมชุดเสื้อคลุมเปียกโชก
“อ้าวๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยอย่างกับโดนพายุเข้าแน่ะ”
ลุงเปโดรถอดแขวนหมวกปีกกว้างไว้ตรงที่แขวนอย่างคุ้นเคย แต่เมื่อยามเห็นสภาพของโรงเตี๊ยมแล้วก็พลันนึกว่ายังไม่เปิดต้อนรับแขกจึงลังเลที่จะถอดเสื้อคลุมออก แต่ร็อคซาน่าไม่รอช้ารีบกุลีกุจอเข้าไปบริการถอดเสื้อคลุมให้พร้อมสั่งซีเรียจัดหาที่นั่งต้อนรับอย่างดี
“เชิญเลยค่า อาจจะรกนิดนึงแต่เดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้วล่ะ”
ในเมื่อลูกค้ามาถึงที่แล้วทั้งที เรื่องอะไรจะปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ ล่ะ
“ดีนะที่เปิดอยู่ ไม่งั้นคงไม่มีที่ให้หลบยายแก่ที่บ้านแล้วล่ะ” ลุงเปโดรจัดแจงนั่งลงยังที่นั่งประจำเหมือนเคย
ซีเรียที่ตอนนี้กลายเป็นสาวเสริฟชั่วคราวเดินเข้ามารับออเดอร์
“คุณลุงยังสั่งเหมือนเดิมใช่ไหมค่ะ”
“โฮ่ หนูยังจำได้อยู่เหรอ” ลุงเปโดรยิ้มดีใจ “ลุงเองก็สั่งแบบเดียวกันมาเป็นสิบๆ ปีไม่เคยเปลี่ยนเลยนี่เนอะ อ้อ นอกจากนั้นแล้วเพิ่มส่วนของร็อคซี่ด้วยนะ” ซีเรียได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหวานตอบรับก่อนจะรีบวิ่งไปจัดเตรียมเครื่องดื่มตามที่สั่งไว้
“เหมือนวันเก่า ๆ เลยนะ”
“อื้อ พอเห็นอย่างนี้แล้วเหมือนย้อนกลับไปเมื่อวันวานเลยเนอะ” ร็อคซาน่ายังคงมองซีเรียอย่างเอ็นดู “สมัยโน้นเองซีเรียยังตัวกระเปี๊ยกเท่ายายหนูนั่นกุลีกุจอวิ่งมารับออเดอร์เสียงใสอย่างนี้เหมือนกัน คิดไปคิดมาแล้ววันเวลามันก็ผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ”
หลังจากนั้นไม่นาน เหล้ารัมและกับแกล้มก็วางอยู่บนโต๊ะอย่างพร้อมเพรียง เตเต้รีบผงะหนีทันทีที่เห็นสีน้ำในแก้วไม้ราวกับเป็นของแสลง
เนื่องจากมีลูกค้าเพียงแค่ลุงเปโดรอยู่คนเดียว และดูเหมือนจะไม่มีลูกค้ามาเพิ่มอีกแล้ว ลุงเปโดรจึงชวนทุกคนในร้านมานั่งคุยล้อมวงตามภาษาคนกันเอง
“พูดถึงแล้วไม่เห็นเด็กผมแดงคนใหม่ของเธอเลยนี่นา หายไปไหนซะแล้วล่ะ”
เท่านั้นล่ะร็อคซาน่าก็สลัดมาดเจ้าของร้านซดเหล้ารัมหมดแก้วก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างถึงลูกถึงคน
“ให้ตายสิ มันน่าแค้นจริง ๆ ที่บังอาจมาลูบคมร็อคซี่คนนี้ได้” ร็อคซาน่ากระดกเหล้าแก้วที่สองจนหมดพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อไม่แพ้สีผมของหล่อนเลย “ซีเรียเองก็เล่าให้เปโดรฟังบ้างสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
แต่คนที่เป็นคนเล่านั้นกลับเป็นองค์หญิงหัวยุ่งที่รอเวลาจะได้ระบายความอัดอั้นในอกมาตั้งนานแล้ว เตเต้ไม่รอช้าที่จะพล่ามเล่าสาธยายเรื่องราวอย่างถึงพริกถึงขิงเสียยิ่งกว่าร็อคซาน่าเมื่อสักครู่เสียด้วยซ้ำ องค์หญิงทรงเล่าอย่างตื่นเต้นถึงขนาดบางทีเผลอพูด 3 ภาษาในประโยคเดียวกันอย่างไม่รู้ตัว
ร็อคซาน่าเองที่กำลังกรึ่มได้ที่ก็พลอยคึกคักเล่าเสริมปรุงแต่งเข้าขากับเตเต้ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ปล่อยโอกาสให้อีกสองคนปริปากเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายแล้วเรื่องราวก็ไปถึงจุดสูงสุดเมื่อร็อคซาน่าที่เริ่มเมาได้ที่จับเหล้ากรอกปากเตเต้ เพียงไม่กี่อึดใจองค์เตเต้ก็เริ่มร้องไห้ทั้งที่ยังหัวเราะอยู่ เป็นที่เฮฮาสำราญใจยิ่งสำหรับผู้ที่เห็น นอกจากซีเรียที่ต้องรีบพาเตเต้ไปทรงอ้วกนอกร้านอย่างช่วยไม่ได้ พอพากลับเข้าร้านอีกทีก็พบว่าองค์หญิงน้อยผลอยหลับไปเสียแล้ว
“โธ่ ร็อคซี่คะ จำไม่ได้หรือค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่องค์หญิงดื่มเบียร์ครั้งที่แล้วนะ” ซีเรียกล่าวในขณะที่ลูบศีรษะของเตเต้ที่นอนหนุนตักหล่อนอยู่
“ไม่ต้องห่วงน่า นี่เหล้ารัมไม่ใช่เบียร์น่อ” ร็อคซาน่ากล่าวกับซีเรีย “ซีเรียเองก็มาดื่มด้วยกันสิ”
ซีเรียส่ายหัวปฏิเสธเบา ๆ
“ขอบคุณค่ะ แต่หนูต้องดูแลองค์หญิงต่อคงดื่มไม่ได้หรอก”
ร็อคซาน่าได้ยินดังนั้นก็ทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยก่อนกลับไปทำความรู้จักกับเหล้าในมือต่อ
“ว่าแต่เรื่องที่เล่ามาเมื่อสักครู่เนี่ยมันเป็นไงมาไงกันแน่ล่ะหนู” ลุงเปโดรถามขณะที่ตัวเองเริ่มจิบเหล้ารัมในมือบ้าง
“ถ้างั้นเดี๋ยวหนูเล่าใหม่ตั้งแต่ต้นเลยก็แล้วกันค่ะ...”
......................................................
.........................................
............................
.............
....
“อย่างนั้นเองหรอกหรือ...”
“ค่ะ คุณลุงพอจะช่วยสืบสาวเรื่องราวให้หน่อยได้ไหมคะ” ซีเรียกล่าวพลางรินเหล้าให้กับคุณลุงเพิ่ม
“อืมม...ลุงเองก็อยากช่วยอยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้ตัวลุงเองก็ไม่ได้อยู่ในปราสาทโซเฟียซะแล้วล่ะ”
“แล้วรู้จักข้างในล่ะคะ พอจะมีใครช่วยได้บ้างคะ?”
ลุงเปโดรส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเศร้าใจก่อนดื่มเหล้าไปอีกอึก “ส่วนใหญ่แล้วก็เด้งออกมาพร้อมๆ กับลุงนั่นล่ะ ตอนนี้อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปเยอะเลยล่ะหลายเอ้ย”
ซีเรียไม่รอช้าที่จะเติมเหล้าใส่แก้วไม่ให้ขาดตอน พลางถามไถ่เรื่องราวต่อไป
“หนูเองก็ตั้งใจจะถามคุณลุงมาตั้งนานแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณลุงกันแน่คะ ทำไมถึงไม่ได้ทำงานอยู่ในวิทยาลัยอีกแล้วล่ะ”
ลุงเปโดรได้ยินดังนั้นก็สะอึกไปพักหนึ่ง พลางถอนหายใจราวกับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยอยากจะเอ่ยถึงนัก
“ก็... ตั้งแต่หนูจากที่นี่ไปได้ไม่เท่าไหร่มันก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของที่นี่ครั้งใหญ่เลยล่ะ ลุงเองก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนักหรอกนะ แต่ดูเหมือนทางตระกูลเซซิอารี่จะเริ่มมีอำนาจขึ้นเรื่อย ๆ ตำแหน่งหน้าที่สำคัญต่าง ๆ ในอาณาจักรล้วนแล้วแต่เป็นคนของทางนั้นแล้วทั้งนั้น แม้แต่ทางวิทยาลัยเองยังโดนอิทธิพลของพวกเซซิอารี่ครอบงำไปซะเยอะเลย ไม่งั้นแล้วพวกนั้นคงเอาเจ้าลูกเมียน้อยนั่นเข้ามาไม่ได้หรอก ให้ตายสิ คิดกี่ทีก็อดโมโหไม่ได้ จะยัดเอาคนของพวกนั้นเข้าแทนเลยเขี่ยพวกลุงๆ ที่ทำงานมาเป็นสิบปีออกไป เพราะงี้ลุงเลยต้องไปลงเอยกวาดใบไม้อยู่ที่ท่าเรือไง”
เรื่องเล่าของลุงเปโดรเพียงพอที่จะอธิบายข้อสงสัยของซีเรียได้จนหมดสิ้น ตั้งแต่การที่ลุงเปโดรถูกย้ายงานจนถึงผู้ดูแลประตูคนใหม่ที่ดูไร้มารยาทผิดกับคนชุดเก่าที่มักจะสุภาพกับทุกคนแม้แต่คนที่ไม่รู้จักก็ตามที
“แต่ยังไงลุงจะลองหาทางช่วยหนูแล้วกันนะ”
“ขอบคุณมากนะคะ ยังไงก็ต้องขอรบกวนหน่อยแล้วกัน”
........................................
...........................
................
.......
ข่าวล่าสุดที่ได้รับวันรุ่งขึ้นยืนยันถึงสิ่งที่ทั้งซีเรียและองค์หญิงต่างหวาดผวา คนรู้จักของลุงเปโดรยืนยันว่าเจ้าหญิงแห่งเกาะใต้ที่ชายอมโรคกล่าวถึงใช้จดหมายเชิญในนามของรัชทายาทราชวงศ์ตาลอสติเตสแห่งอาณาจักรหอยกาบ...
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตอนนี้จดหมายและสิทธิของเตเต้ถูกสวมรอยเป็นที่เรียบร้อย
แม้จะยังไม่มีหลักฐานใดเชื่อมโยงอย่างชัดเจน แต่มันค่อนข้างเป็นที่แน่นอนว่าการหายตัวไปของคริสเทียน่ากับตัวสารและพวกสิบแปดมงกุฎที่สวมรอยแทนองค์หญิงนั้นต้องเชื่อมโยงกันด้วยทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่มีทางที่จะเป็นเหตุบังเอิญอื่นได้แน่
“หนอย เจ้าพวกระยำนั่น ขโมยจดหมายไปไม่พอ ยังบังอาจขโมยชื่อฉันไปอีก!” เตเต้ประกาศกร้าวหลังจากหายมึนหัวได้พักนึง “เราต้องทำอะไรสักอย่างโดยเร็วแล้วล่ะ”
ทว่าซีเรียกับส่ายศีรษะอย่างไม่สู้ดีนัก
“พวกเราไม่มีทั้งตัวแทนฝ่ายกงศุลที่นี่หรือใครที่มีอำนาจพอจะยืนยันให้เราได้เลยนะคะ ถ้าเร่งรีบไปจะเป็นฝ่ายเราเองที่เสียเปรียบ”
“โว้ย ทำไมต้องให้คนอื่นมายืนยันว่าตัวฉันเป็นตัวฉันด้วยฟะ! โลกนี้มันเป็นอะไรของมันกันแน่เนี่ย”
ซีเรียได้ยิ้มแห้ง ๆ ตอบเจ้าหญิงน้อยของตน
“นี่ซีเรีย เราบุกเข้าไปซัดยายตัวปลอมนั่นเลยไม่ได้เหรอ”
“เตเต้เห็นกำแพงนั่นแล้วไม่ใช่หรือคะ?” คำพูดของซีเรียทำเอาเตเต้สะอึกไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
“งั้นเราก็ต้องหาทางเข้าไปข้างในนั้นสิ นี่ซีเรียมีวิธีดี ๆ เข้าไปข้างในหรือเปล่า”
“ค่อนข้างยากค่ะ ถ้าจะใช้วิธีที่เตเต้คิดละก็คงไม่แคล้วติดคุกเป็นขั้นต่ำแน่เลย” ดูเหมือนว่าซีเรียเองจะอ่านความคิดของเตเต้ออก จึงได้พูดดักออกมาเช่นนั้น “สู้ไปสมัครทำงานในปราสาทยังจะดูเป็นไปได้มากกว่าค่ะ”
“แต่ซีเรียก็เห็นป้ายนี่นาว่าเขาไม่รับสมัครงานนะ”
“เพราะฉะนั้นเราต้องวางแผนกันให้รอบคอบก่อนไงคะ”
เตเต้ทำหน้าบุ้ยไม่สบอารมณ์ก่อนจะหันไปมองยังท้องถนนที่ผู้คนค่อนข้างบางตา
“นี่ซีเรีย... ทำไมคนดูน้อย ๆ ยังไงก็ไม่รู้”
กระนั้นคนที่ตอบคำถามนั้นกลับเป็นร็อคซาน่าที่แต่งองค์ทรงเครื่องราวกับจะออกไปงานเลี้ยงข้างนอก
“อ๋อ คนเขาไปดูการประลองนะ”
“การประลอง ?”
“อื้อ... พูดอีกอย่างก็คือการสอบของวิทยาลัยอัศวินนั่นล่ะ เขาเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้าไปดูการประลองคัดเลือกผู้สมัคร คนในเมืองเลยพากันแห่ไปดูกัน ฉันเองก็กำลังจะไปแล้วเนี่ย เดี๋ยวเค้าจะเริ่มการประลองแล้วเนี่ย”
เพียงแค่ได้ยินคำว่า ‘ประลอง’ หูของเตเต้ก็กางโพล่งด้วยความตื่นเต้นร้องขออยากไปด้วย แต่ทว่าร็อคซาน่ากลับหิ้วเตเต้กลับไปนั่งอย่างเยือกเย็น “โทษฐานที่พวกเธอทำร้านฉันเละเมื่อวาน จงเฝ้าร้านแทนฉันซะ”
องค์หญิงน้อยได้แต่ร้องขออย่างเวทนา แต่ร็อคซาน่าก็รีบร่อนออกไปโดยไม่สนใจคำร้องขอ ปล่อยทิ้งให้เตเต้น้ำตาร่วงในด้วยความเสียดายสุดขีด
“โธ่...ยายป้าบ้านั่น” เตเต้คำรามลั่นราวกับสัตว์ประหลาดกำลังปวดท้อง โดยมีซีเรียคอยปลอบอยู่ด้านหลัง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ประเดี๋ยวเขาก็มีการสอบเป็นช่วง ๆ ค่ะ ไว้วันหลังดิฉันจะ...”
“นั่นไงล่ะ !”
จู่ ๆ องค์หญิงก็โพล่งตะโกนออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“คะ ?”
ซีเรียไม่เข้าใจสิ่งที่เตเต้กล่าวออกมา แต่คำว่า “คะ” ที่หลุดออกมาจากปากคู่งามของเมดสาวไม่อาจไขว้เขวความมุ่งมั่นของเตเต้ไปได้
นัยน์ตาสีทะเลจดจ้องอยู่ที่กำปั้นราวกับนึกอะไรบางอย่างออก
“เอเดรียน....วิทยาลัยอัศวิน....อัศวินประจำตัว...ใช่แล้ว!”
ดูเหมือนเตเต้จะมีความคิดอะไรแปลก ๆ ผุดขึ้นมาอีกแล้ว
ซีเรียเองรู้สึกไม่ดีเลยกับสิ่งที่ได้ยิน
“ท่าจะมีเรื่องให้ปวดหัวเพิ่มแล้วสิ”
และซีเรียก็เดาได้อย่างถูกต้องเสียด้วย
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
Edit Log: May 10th, 2008: จบตอน
Edit Log: May 24th, 2008: แก้คำเล็กน้อย
Edit Log: July 9th, 2008: แก้คำผิด + แก้สำนวนเล็กน้อย
Edit Log: June 29th, 2011: มหกรรมรีไรท์
Edit Log: April 12th, 2013: รีไรท์
ความคิดเห็น