ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใต้ฟ้าสาธารณรัฐ

    ลำดับตอนที่ #5 : Paradise Lost: จดหมายจากสาธารณรัฐ

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 54


                เด็ก ๆ ทานข้าวได้แล้วจ้ะ

     

                    แคทเธอรีน  มาลเดอร์  หญิงม่ายผู้เป็นมารดาเรียกหาลูก ๆ ของหล่อนให้มาร่วมรับประทานอาหารเย็นกัน  ด้วยเค้าโครงใบหน้าที่มารีแทบจะถอดแบบพิมพ์เดียวกันมาจากมารดา  ทำให้แคทเธอรีนนั้นดูเหมือนกับมารีที่สูงวัยกว่านั่นเอง  แต่ด้วยหน้าตาผอมแห้งอมโรคของเจ้าหล่อนทำให้อธิบายถึงสีผิวซีดขาวที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้สัมผัสแสงแดดได้ดี  และนั่นก็เป็นคำตอบอีกอย่างที่ว่าทำไมมารีถึงต้องทำงานหนักอยู่เพียงลำพัง

     

                    ห้องนั้นถูกทำให้สว่างโดยไฟสีส้มสลัวจากหลอดไฟที่ใช้พลังงานจะเครื่องปั่นไฟหลังบ้าน  บนโต๊ะอาหารทรงสี่เหลี่ยมเก่ามีขนมปัง  หม้อสตู  และกองผักต้มวางอยู่พร้อม  มันไม่นานนักก่อนพี่น้องทั้งสองจะรีบวิ่งบึ่งมาด้วยความหิวโซทั้งที่เนื้อตัวยังมอมแมมจากเมื่อเช้าอยู่  โดยเฉพาะมารียังไม่ได้ถอดชุดหมีเปื้อนคราบน้ำมันเสียด้วยซ้ำ

     

                    หลังจากที่ต้องไปล้างไม้ล้างมือตามคำสั่งของมารดาแล้ว  สมาชิกทั้งสามของครอบครัวต่างนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากัน  เตรียมพร้อมสำหรับมือเย็นของวัน

     

                    งั้น  เรามาสวดมนต์ให้กับพระผู้เป็นเจ้ากันเถอะ

     

              ทุกคนหลับตาก้มศีรษะ  กุมมือขึ้น  สวดมนต์ขอบคุณพระบิดาสำหรับมื้ออาหาร  ระหว่างสวดแคทเธอรีนเผลอหลุดปากกล่าวอวยพรองค์กษัตริย์ตามเคยชินออกมาเล็กน้อย  ร้อนไปถึง ฌอง ที่รีบโวยวายว่าไม่จำเป็นต้องอวยพรทรราชย์นั่นอีกต่อไปแล้ว... 

     

    เมื่อไม่มีอะไรจะต้องสวดต่อ  ครอบครัวเล็ก ๆ นี้ถึงจะเริ่มรับประทานได้เสียที

     

                    ฌองที่เพิ่งตักสตูใส่ชามของตนกำลังจ้องมองเศษเนื้อที่มีอยู่เพียงหยิบมือเดียว  เขาลองใช้ส้อมกวนตักเนื้อรูปร่างประหลาดมาดูอย่างพะอืดพะอม    

     

    คุณแม่  นี่มันอะไรครับเนี่ย

     

    ขอโทษทีนะฌอง  ช่วงนี้เนื้อกำลังขาดตลาดอย่างหนักนะจ้ะ  ทางการเขาเลยเชิญชวนให้ใช้พวกเครื่องในทำอาหารแทนไปก่อน  แม่เลยลองทำตามที่ทางวิทยุเขาสอนนะจ้ะ

     

    นี่ล่ะสาธารณรัฐที่เธอภาคภูมิใจหนักหนาไง  มารีถือโอกาสเหยียบน้องชายซ้ำอย่างสนุกสนาน

     

    ฌองกลืนน้ำลายอย่างลำบากใจ  ก่อนจะวางเจ้าเนื้อลงตามเดิม

     

    นี่ถ้าไม่กินพี่ขอนะ 

     

    เฮ้ย  เรื่องสิ  พี่ก็กินส่วนของพี่ไปโน่น  ฌองขยับจานหลบส้อมของพี่สาวได้อย่างเฉียดฉิว  แต่ถึงอย่างไรมันก็ลำบากใจที่จะต้องกินเจ้าเนื้อรูปร่างพิลึกนั่นอยู่ดี  เขาลองพยายามชิมมันดูอีกครั้ง...

     

    ผมขอตัวสักครู่

     

    เพียงเท่านั้นฌองก็รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที  ปล่อยให้พี่สาวนั่งจ้วงอาหารส่วนของน้องชายอย่างเอร็ดอร่อย 

     

    มันใช้เวลาไม่นานที่ฌองจะกลับมาและพบว่าเนื้อในสตูส่วนของเขาหายเกลี้ยงไปหมดแล้ว  ซึ่งเขาก็ไม่ได้โมโหอะไรนัก  แค่แปลกใจที่พี่สาวแสนสวยของเขาจะมีลิ้นที่ผิดมนุษย์มะนาได้ขนาดนี้  สงสัยว่าบุหรี่มันต้องทำให้ลิ้นเพี้ยนไปแน่

     

    จริงสิ  แม่ได้ยินมาว่าเขาจะมีเรื่องสำคัญประกาศตอนสองทุ่มคืนนี้นี่ 

     

    เข็มนาฬิกาคุกคูที่กลไกนกออกมาขันเสียไปนานแล้วชี้เวลาที่เกือบจะสองทุ่ม  แต่ถ้านับเวลาตามทางการจริง ๆ แล้ว  นาฬิกานี้หมุนช้าไปเกือบสิบนาที

     

    และนั่นมันก็หมายความว่า...

     

    มาลเดอร์ผู้น้องรีบวิ่งแจ้นไปเปิดวิทยุที่วางอยู่ในห้องถัดไป  แม้ว่าฝ่ายแม่จะห้ามไว้ก็ตาม

     

    ให้ตายสิ  เจ้าลูกคนนี้นี่

     

    เพียงไม่กี่อึดใจที่เสียงวิทยุดังออกมา  ฌองก็ทำเสียงตื่นเต้นตกใจใหญ่  แม่ครับ  พี่ครับ  เรื่องใหญ่แล้ว  มาฟังนี่เร็ว

     

    ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ล่ะน่าดู  มารีบ่นอุ่บที่ต้องลุกจากอาหารที่กินค้างไว้  แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้  เสียงคำพูดในวิทยุอู้อี้นั่นก็ทำให้มารีต้องยืนฟังค้างอยู่หน้าประตูนั่น

     

    ... ขอย้ำอีกครั้ง  ในนามของรัฐบาลเฉพาะการที่ได้รับมอบอำนาจมาจากพลเมืองทั้งปวงแห่งสาธารณรัฐ  ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า  ทางคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้งตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 3 ต่างลงความเห็นว่า  การระดมพลของชาติทั้งห้าตามพรมแดนถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสาธารณะรัฐ  เป็นหลักฐานความพยายามที่จะเข้าแทรกแซงโค่นล้มการปฏิวัติ  ฟื้นฟูระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ขัดต่อสิทธิ  และเสรีภาพของพลเมืองสาธารณรัฐ  ดังนั้น  ในฐานะของประธานคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบแห่งชาติของรัฐบาลเฉพาะกาล  ขอประกาศให้เหล่าพี่น้องพลเมืองแห่งสาธารณรัฐได้ทราบโดยทั่วกันว่า... 

     

    ทางคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านญัตติประกาศสงครามกับจักรวรรดิห้าชาติ  ด้วยสิทธิ์อันชอบธรรมในการธำรงไว้ซึ่งเอกราชของสาธารณรัฐ และเสรีภาพของพลเมือง  และขอประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วสาธารณรัฐ  ส่วนประกาศอย่างเป็นทางการต่อทูต...

     

    สงคราม...

     

    ในที่สุดมันก็เริ่มขึ้นแล้ว

     

    หวา  แย่แล้วล่ะสิ  นี่เรายังพอมีอาหารตุนเหลือพอไหมเนี่ย แคทเธอรีนที่เรียนรู้กับการรับมือสงครามมาทั้งชีวิตรีบวิ่งไปตรวจดูคลังเก็บตุนอาหารในห้องใต้ดิน  เหลือทิ้งให้สองพี่น้องนั่งจ้องวิทยุราวกับว่าจะมีคำตอบอะไรเพิ่มมากขึ้นอีก

     

    ในที่สุดเราก็จะมีสงครามแล้วล่ะพี่  

     

    เออ  รู้แล้วล่ะ  มารีตอบอย่างเรียบ ๆ  แล้วไงล่ะ

     

    ทำไงดี... ไม่ได้แล้ว  อย่างนี้ผมก็ต้องรีบไปสมัครเป็นอาสาสมัครแล้วสิ  ก่อนที่จะถูกคนอื่นแย่งที่...  แต่ก่อนที่ฌองจะกล่าวจบ  กำปั้นอันทรงพลังของพี่สาวก็ได้เขกเข้ากับศีรษะเจ้าน้องชายอย่างจัง

     

    ให้มันน้อย ๆ หน่อย  แกเพิ่งอายุ 14 เองนะ  จะไปสมัครทำหาซากอะไร  อีกอย่าง  ปรกติประเทศเราก็มีสงครามกับเพื่อนบ้านอยู่เรื่อย ๆ อยู่แล้วล่ะ  ตอนที่พี่ยังเด็กพี่ยังจำตอนที่พ่อไปสงครามครั้งก่อนได้อยู่เลย  เอาน่า  แกเองเป็นผู้ชายคนเดียวของบ้าน  ก็ต้องมีหน้าที่ดูแลแม่ด้วย  จะปล่อยให้แม่อยู่กับพี่สองคนอย่างนั้นหรือ

     

    แต่ว่า  คุณครูบอกว่าสงครามในครั้งนี้เป็นสิ่งที่พลเมืองทุกคนต้อง...

     

    มันไม่มีอะไรหรอก  เชื่อเถอะ  มันเป็นเรื่องของพวกชนชั้นสูงเขาทะเลาะกันแล้วลากพวกเราไปซวยด้วยก็แค่นั้น  อย่างมากเราอาจต้องทนกับราคาอาหารกับเชื้อเพลิงสูงปรี๊ดสักพักแค่นั้นเอง

     

                    ทว่า  สิ่งที่มารีไม่ทราบก็คือ  สงครามในครั้งนี้มันไม่เหมือนกับสมัยของพระราชาอีกต่อไป

     

    ในอีกสองสัปดาห์ต่อมา  มารีจะได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงนี้

     

    มันเป็นเช้าที่ฟ้ามืดมัวผิดวิสัยฤดูร้อน  เด็กส่งจดหมายที่ขี่จักรยานมาเยือนหน้าบ้านตระกูลมาลเดอร์  เขาไม่ใช่คุณลุงคนเดิมที่ชอบเบรกกระทันหันจนฝุ่นตลบหน้าบ้าน  แต่เป็นเด็กชายอายุน้อยกว่าฌองเสียด้วยซ้ำ  เขาสวมเครื่องแบบบุรุษไปรษณีหลวมโคร่ง  สวมปลอกแขนสีเขียวที่แขนซ้าย  ยื่นซองจดหมายสีขาวที่มีตราสาธารณรัฐประทับอยู่  จ่าหน้าถึง มารี  มาลเดอร์

     

    เมื่อแคทเธอรีนถามถึงคุณลุงส่งจดหมายคนเก่า  เด็กชายเพียงกล่าวแค่ สาธารณรัฐจงเจริญ ก่อนจะขับจักรยานออกไป  โดยไม่สนว่าจะตอบคำถามนั่นเลย

     

    รัฐบาลมีเรื่องอะไรกับมารีอย่างนั้นหรือ?  แคทเธอรีนถือวิสาสะเปิดจดหมายอ่านก่อน  และหลังจากอ่านจบ  เธอก็แทบจะเป็นลมไปเลยทีเดียว...

     

    หมายเรียกระดมพลอาสาฉุกเฉิน 

    ลงวันที่ 15 เมษายน ศักราชใหม่ที่ 1

     

    นางสาว มารี  แอน มาลเดอร์  อยู่ในบัญชีรายชื่อของราชอาณาจักรเก่า หมายเลข 17 34 28 9  ได้รับใบอนุญาติในการ บังคับหุ่นจักรกลประเภทเดินเท้าสองขา  ประเภท ทั่วไป  ขอให้ไปรายงานตัวที่ ศาลากลางเมือง แกรนูร์  เพื่อรอรับการบรรจุเข้าเป็นกำลังอาสา ภายในระยะเวลา 3 วันหลังจากวันที่ประทับหมายเรียก

     

                                                                                                                   จึงเรียนมาเพื่อทราบ

                                                                                                                   พันเอกชาร์ล  บีเซต์

                                                                                  ผู้อำนวยการกำลังพลอาสาภาคตะวันออก 



    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    Edit Log: Dec 30th, 2008: จบตอน
    Edit Log: June 17th, 2009: แก้ชื่อ ณอง เป็น ฌอง  ต้องขอบคุณท่านหน่องจริง ๆ ที่ช่วยเตือนนะครับ
    Edit Log: May 11th, 2010: แก้ชื่อตอน... จาก Paradise Fall เป็น Paradise Lost
    Edit Log: May 21st, 2011: แก้สำนวนเล็กน้อย
    Edit Log: June 10th, 2011: แก้สำนวน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×