ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใต้ฟ้าสาธารณรัฐ

    ลำดับตอนที่ #3 : Peaceful Day ภาพลวงตาของความสงบ (2)

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 54


                    ท่ามกลางไฟแห่งการปฏิวัติที่กำลังโหมกระพือไปทุกหย่อมหญ้า  ยังมีหมู่บ้านกสิกรรมขนาดเล็กทางภาคตะวันออกของอดีตราชอาณาจักรที่ความวุ่นวายในนครหลวงดูจะห่างไกลจากความสนใจของผู้คนท้องถิ่น  ระยะทางอันห่างไกลรวมกับความจริงที่ว่าหมู่บ้านนี้เป็นเพียงพื้นที่ไม่กี่แห่งที่ชาวนาส่วนใหญ่เป็นเจ้าของที่นาของตนผิดกับเป็นไพร่ติดที่นาเหมือนส่วนใหญ่ของประเทศ  ทำให้ทุกอย่างเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้นสมัยก่อนเท่าไหร่นัก  มีเพียงผังรายการวิทยุที่ถูกแทนที่ด้วยเพลงปลุกใจและโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลชั่วคราวแห่งชาติ  และระบบไปรษณีล่มเป็นชั่วครั้งชั่วคราว    

     

                    แสงอาทิตย์ยามบ่ายทอดตัวผ่านหมู่เมฆสีครามลงมายังผืนดินอันแสนอุดมสมบูรณ์แห่งลุ่มแม่น้ำทั้งห้า  โอบอุ้มทุกชีวิตด้วยความอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ  ปรกติแล้วผืนดินแห่งนี้เคยรองรับทุ่งข้าวสาลีที่ทอดตัวจากแม่น้ำแกรนูร์ไปจนสุดขอบภูเขาทางทิศเหนือ  ยามเมื่อสายลมพัดผ่านจะเห็นเป็นคลื่นบนทุ่งข้าวสีทองอร่าม  จนมีคำพูดติดปากของคนท้องถิ่นว่า 

     

                    ถ้าอยากรู้สึกถึงสายลม  ก็จงมองหาที่ทุ่งข้าวสาลีริมฝั่งแม่น้ำแกรนูร์สิ

     

                    แน่นอนว่าคำพูดนั้นใช้ได้กับเฉพาะยามหน้าเก็บเกี่ยวผลผลิตเท่านั้น  เพราะถ้ามองผืนแผ่นดินอันแสนน่าภูมิใจในยามนี้จะไม่เห็นอย่างอื่น  นอกจากผืนดินสีน้ำตาลเข้มที่ที่พลิกขึ้นเป็นทางยาวสุดลูกหูลูกตา

     

                    และเจ้าสิ่งที่รับผิดชอบต่อสภาพของผืนดินที่ว่ากำลังเคลื่อนตัวอย่างอืดอาดกลางผืนแผ่นดินอันว่างเปล่า  เสียงเครื่องยนต์เก่าที่จะพังมิพังแหล่ดังรบกวนสุนทรียรสของบ้านนอกคอกนา  ถึงกระนั้นมันก็เป็นเครื่องจักรเพียงไม่กี่เครื่องที่คอยช่วยพรวนผืนดินอันแสนกว้างใหญ่  เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเพาะปลูกในขั้นต่อไป 

     

                    สิ่งที่มารีต้องทำคือลากเจ้าแผงเหล็กที่ติดอยู่ด้านหลังเจ้าหุ่นที่ดูคล้ายเศษเหล็กนี่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเสร็จ  เนื่องจากที่นาของครอบครัวหล่อนไม่ได้ใหญ่มากมายนัก  เธอจึงรับจ้างพรวนดินให้กับที่นาแปลงอื่น  หรือไม่ก็ช่วยงานก่อสร้างเพื่อหารายได้เสริมเป็นค่าเล่าเรียนของฌองอีกด้วย

     

                    ระหว่างการเดินไปตามผืนนากว้างอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้  มารีบิดหน้าปัดบนช่องวิทยุพลางหาวอย่างเบื่อหน่าย  ส่วนฌองนั้นหมดความตื่นเต้นกับการขับเจ้าหุ่นในตอนแรกไปนานแล้ว  ลงเอยด้วยการหลับไปสองสามตื่นคาไหล่พี่สาวได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ทั้งที่ตัวหุ่นเองก็สั่นไปมาอยู่ตลอดแท้ ๆ

     

                    พี่  จะฟังช่องอะไรก็ฟังไปสักช่องสิ 

     

                    ก็เจ้ารายการวิทยุพวกนี้นี่สิ  ไม่คิดจะเล่นเพลงอื่นนอกจาก ตื่นเถิดเหล่าพลเมือง หรือมาร์ชแห่งการอะไรนั่นเลยหรือ 

     

                    เพลงมันก็เพราะดีออกนี่นา  ตอนนี้ที่โรงเรียนใคร ๆ ก็ร้องกันแต่เพลงนี้ทั้งนั้น

     

                    มารีที่ไม่สามารถหาช่องที่ต้องการได้เสียทีก็จัดการปิดวิทยุนั่นเสีย  มันก็เพราะอยู่หรอก  แต่ฟังเพลงอยู่ไม่กี่เพลงทุกวี่ทุกวันมันก็เบื่อเหมือนกันนะ

     

                    ถ้าพี่ไม่ฟังงั้นขอผมฟังนะ  ฌองได้ทีเอื้อมมือไปเปิดวิทยุโดยไม่สนใจว่าพี่สาวเพิ่งบ่นอะไรไปเมื่อสักครู่  มาลเดอร์ผู้พี่นั้นขี้เกียจต่อกรกับเจ้าน้องชายจอมดื้อแล้วจึงเพียงแต่สบถออกมาเบา ๆ 

     

                    และแล้ว  เสียงเพลงมาร์ชปลุกใจก็ดังอู้อี้ขับกล่อมไปกับเสียงเครื่องยนต์และเสียงชิ้นส่วนขัดกันดังเอี๊ยดอ๊าด  ประสานเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

     

                    ... พระเจ้าตรัสไว้  มนุษยชาตินั้นล้วนเท่าเทียม  แม้ยามเด็กน้อยเกิดมามันก็ร้องอย่างเสรี  แต่ไฉนเรากลับเติบโตขึ้นมาพร้อมห่วงโซ่ที่พรากสิทธิโดยธรรมชาติจากเราไป...  จงแหกโซ่ตรวนออกเถิดเหล่าผู้กระหายอิสรภาพ  จงลุกขึ้นเถิดเหล่าผู้ที่จมปลักอยู่ในพันธนาการแห่งชนชั้น  จงลืมตาเถิดเหล่าผู้ที่สายตาพร่ามัวจากหมอกแห่งคำหลอกลวง  วันนี้เราจะก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน  เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า  เพื่อสาธารณรัฐของมวลมนุษย์...    

     

                    ในแต่ละวันของมารีนั้นมักจะจมปลักอยู่กับเจ้าหุ่นกระป๋องและกองเศษซากอะไหล่ทั้งหลายแหล่  มิได้สนใจข่าวสารบ้านเมืองหรือเหตุการณ์ของโลกกว้างเลยแม้แต่น้อย  โลกกว้างที่เธอคุ้นเคยมีเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ กับตัวเมืองข้างเคียงที่ไปแวะซื้ออะไหล่บ้างในบางครั้ง  ช่องทางรับรู้ข่าวสารเพียงอย่างเดียวคือสถานีท้องถิ่นสุดโปรดที่มักจะเล่นแต่เพลงลูกทุ่งกับมุกตลกฝืด ๆ  มันจึงทำให้เธอแปลกประหลาดใจเหลือเกินเมื่อเห็นน้องชายที่ปรกติไม่สนอะไรนอกจากจะอ้อนวอนขอยืมหุ่นของไปอวดลูกสาวบ้านเครเมอร์ริมแม่น้ำ  กลับนั่งฮัมเพลงปลุกใจที่มีเนื้อหาที่ดูยากจะเข้าถึงด้วยความกระตือรือร้นเช่นนี้   

     

                    ฌอง  พี่ล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเอ็งต้องไปตื่นเต้นกับสาธารณราดอะไรนั่นนักหนา

     

                    มันอ่านว่าสาธารณรัฐ  เข้าใจเปล่าพี่  สา ทา ระ นะ รัด  ฌองเน้นเสียงช้า ๆ ทำราวกับว่าพี่สาวเป็นเด็กน้อย  จึงส่งผลให้ศีรษะของเขาต้องรับเคราะห์จากฝ่ามือลงทัณฑ์แทนปากนั่นเสีย

     

                    เออน่า  จะอ่านว่าอะไรก็ช่างมันเหอะ  แกเองก็ตอบคำถามมาเถอะ

     

                    โธ่  พี่นี่ไม่รู้สึกว่ากำลังมีส่วนร่วมกับบางสิ่งเลยหรือ  ตอนนี้ประเทศของเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งเลยนะ  ตอนนี้เราไม่ใช่ข้าทาสบริวารของพระราชาและเหล่าขุนนางสันหลังยาวนั่นอีกแล้ว  แต่ทุกคนเป็นพลเมืองของสาธารณรัฐที่เสรีภาพ และอิสรภาพ  มีคุณค่าความเป็นมนุษย์เท่ากันทุกคน  ไม่มีแบ่งชนชั้นวรรณะ  ไม่มีใครเหนือกว่าใคร  ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน

     

                    แล้วทั้งพี่และแกไปเป็นพลเมืองอะไรนั่นกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ  ตอนนี้ทุกอย่างมันก็เหมือนเดิม  ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยนี่  บ้านเครเมอร์เองก็เพิ่งซื้อหุ่นมาตัวใหม่ทำไมบ้านเราไม่มีใครเอาหุ่นตัวใหม่มาให้เหมือน ๆ กันเลยล่ะ  ฉันเองก็ตัวสูงกว่าแก  แถมยังเขกกะโหลกแกได้อยู่ดี  ไม่เป็นจะเท่ากันอะไรตรงไหนเลย

     

                    คุณครูบอกว่ามันเป็นสิทธิอันชอบธรรมสำหรับพวกเราทุกคนที่เกิดบนดินแดนนี้นะ  ไม่ต้องไปสมัครตอนไหนหรอก  มันติดตัวพวกเราตั้งแต่เกิดแล้ว  เพียงแต่เราไม่เคยได้รับในช่วงสมัยของพระราชานั่นต่างหาก  ส่วนเรื่องความเท่าเทียมนั้นคือความเท่าเทียมในคุณค่าของความเป็นมนุษย์  ไม่ใช่ว่าใครมีอะไรเราก็ต้องมีมั่ง  นั่นมันคนล่ะเรื่องกัน  มันอาจจะถูกตามที่พี่ว่าว่าผมกับพี่อาจจะมีร่างกายแตกต่างกัน  แต่คุณค่าความเป็นมนุษย์  สิทธิและเสรีภาพนั้นมีเท่า ๆ กัน  ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายเหมือนสมัยก่อนไงล่ะ  ถึงพี่บอกว่าไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง  แต่คุณครูบอกว่าความจริงแล้วส่วนอื่นของประเทศไม่ได้โชคดีเหมือนหมู่บ้านของพวกเราหรอก  การปฏิวัติปลดปล่อยข้าทาสติดที่ที่เคยถูกเอารัดเอาเปรียบจากพวกชนชั้นขุนนางมานาน  ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยบนที่ดินนั้นแท้ ๆ แต่พวกขุนนางกลับริบรอนเอาผลผลิตพวกนั้นไปเสียด้วยเหตุผลที่ว่าพวกนั้นทำงานบนที่ดินของมัน  เป็นพี่พี่ไม่โมโหหรือที่อุตส่าห์ทำงานแทบตายแต่ผลผลิตกลับถูกพวกที่ไม่ได้ทำอะไรเลยแย่งชิงไป  ไม่คิดหรือว่าทำไมพวกขุนนางถึงได้แต่งตัวหรูหรา  จัดงานปาร์ตี้ใหญ่โต  ในขณะที่ชาวนาพวกนั้นต้องอดมื้อกินมื้อเพียงเพื่อประทังชีวิตอันแสนบัดซบนั่นต่อไป  พี่ไม่คิดหรือว่ามันมีอะไรผิดปรกติ

     

                    พระเจ้าทรงโปรดเถิด  พี่อุตส่าห์ส่งแกไปเรียนหนังสือ  แต่สิ่งที่แกพล่ามออกมากับมีแต่เรื่องการเมืองทั้งนั้น           

     

                    นี่มันเป็นสามัญสำนึกที่พลเมืองทุกคนควรจะต้องตระหนักนะครับพี่  ไม่เกี่ยวกับว่าผมไปเรียนอะไรมากหรอก  ในเมื่อสาธารณรัฐให้อิสรภาพและเสรีภาพกับเราแล้ว  เราเองในทางกลับกันก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อสาธารณรัฐด้วยเช่นกัน

     

                    เอาเถิด  พี่ไม่เคยขอร้องว่าอยากจะเป็นพลเมืองของสาธารณรัฐนั่นอะไรสักหน่อย

     

                    ให้ตายสิ  ถ้าพี่พูดอย่างนี้ผมเลิกพูดดีกว่า

     

                    ฌองผู้ที่แทบจะไม่เคยกล้าขึ้นเสียงกับพี่สาวมาก่อน  กลับแสดงท่าทีโมโหใส่พี่สาวก่อนจะหันหน้าเงียบไม่พูดไม่จาอีก  มารีเงียบไปสักครู่ก่อนจะรู้ตัวว่าเจ้าน้องชายจอมซนนั่นกำลังโมโหอยู่จริง  ถึงได้มีท่าทีอ่อนข้อลง

     

                    เฮ้ย  นี่โมโหเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ  มารีเขย่าเจ้าน้องชายตัวดี  ทว่า  เขากลับเบี่ยงไหล่หนีอย่างไม่สนใจ  มารีได้แต่ถอนหายใจอย่างกลุ้มใจ  ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเธอจะต้องยอมขอโทษขอโพยเจ้าน้องชายผู้นี้

     

                    ถึงฌองจะยอมหายงอนแต่โดยดี  การสนทนาเรื่องสาธารณรัฐก็ต้องหยุดลงไปอย่างช่วยไม่ได้  ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาพเดิมโดยมีรายการปลุกใจความรักชาติขับกล่อมบรรยากาศแสนน่าเบื่อนั่นตลอดช่วงการทำงาน

     

                    ...................................

                    .........................

                    ...............

                    ....



    Edit Log: Dec 29th, 2008: จบตอน
    Edit Log: June 17th, 2009: แก้ชื่อ ณอง เป็น ฌอง  ต้องขอบคุณท่านหน่องที่ช่วยเตือนครับ
    Edit Log: May 21st, 2011: แก้สำนวนเล็กน้อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×