รวมบทความเกี่ยวกับการ์ตูนที่เคยเขียน

ลำดับตอนที่ #16 : (รีวิวไลท์โนเวลแบบเทพ ๆ) หออลวลคนขั้นเทพ

เพื่อไม่ให้คนที่แวะเข้ามาคิดว่าผมมันซึนเกินเหตุ  ดังนั้นผมจึงขอริวิวอีกเรื่องที่น่าสนใจ (?) ไม่แพ้กัน

เรื่องที่จะมารีวิววันนี้คือเรื่อง หออลวนคนขั้นเทพ หรือชื่อญี่ปุ่นคือ Hikikomori no Kanojo wa Kami nanodesu เป็นนิยายแนวแฟนตาซี  จัดพิมพ์โดย สนพ. DEXPRESS   

เรื่องย่อจากปกหลัง

นัตสึ ทาคาโตะ ที่ย้ายมาเข้าโรงเรียนมัธยมปลายได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในหอพักแห่งหนึ่งและได้พบกับ ฮิมุโระ อายากะ เด็กสาวที่แนะนำตัวเองว่าเป็น "เจ้าแห่งปรโลก" อยู่ในห้องที่ควรจะเป็นของเขา! ทาคาโตะจึงพยายามใช้วิธีต่างๆ นานาหลอกล่ออายากะเพื่อให้ได้ที่อยู่หลับนอนของตัวเองกลับคืนมา...สิ่งมีชีวิตในตำนาน  สัตว์ประหลาด  ทวยเทพในเทพปกรณัม  เรื่องราว "เหนือชีวิตประจำวัน. ในเมืองที่เป็นแหล่งรวมของอมนุษย์ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว!!

ความเห็น

ผมเคยลองคุยกับเพื่อนที่ชอบอ่านไลท์โนเวลคนหนึ่ง  เขาอธิบายว่า สนพ. นี้ชอบเอาเรื่องที่ไม่ค่อยดังเข้ามาพิมพ์ในไทย  แต่แต่ละเรื่องนั้นค่อนข้างสนุกเลยทีเดียว  ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ  สำหรับเรื่องนี้ถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่อาจเทียบได้กับฮารุฮิ  คิโนะ  ใต้ฟ้าจันทร์ครึ่งเสี้ยว  แต่กับเรื่องอื่นที่เคยรีวิวว่า  เรื่องนี้นับได้ว่าสนุกที่สุดแล้วล่ะ

อย่างแรกเลยคือตัวละคร  ความจริงเรื่องนี้มีทั้งจุดดีและจุดที่อยากบ่นเกี่ยวกับเรื่องตัวละคร  เอาเรื่องที่อยากบ่นก่อน... คือเข้าใจนะว่าตัวละครที่แนะนำมานะมันคงจะมีบทในเล่มต่อ ๆ ไปแน่  แต่ในเล่มแรกตัวละครที่มีบทเด่นจริง ๆ คือพระเอก  อายากะ  อุลริกะ (เมดของอายากะ) ริคุ ทามาโกะ นารุชิม่า  ซึ่งสามคนหลังนี่ไม่ใช่ตัวยืนของเรื่องด้วยซ้ำ  แต่ดันมีบทที่เด่นกว่าตัวยืนซึ่งเป็นสมาชิกคนอื่นในหอ  ผมเลยคิดว่าวิธีที่เรื่องอัศวินมือใหม่ฯ ค่อย ๆ แนะนำตัวละครใหม่ทีละเล่มอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไปละมั้ง

แต่กระนั้นมันก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ว่า...

อุลริก้าน่ารักเป็นบ้าเลย !

ไม่รู้ทำไม  แต่ผมรู้สึกว่าคนเขียนเขียนอุลริก้าที่เป็นเมด (และหมาเฝ้าประตูนรก) ของนางเอกได้โมเอะเป็นบ้า  เธออาจจะยังอยู่ในระดับโมเอะปรกติ  แต่ถ้าเทียบเรื่องอัศวินมือใหม่ฯ แล้วเป็นตัวละครที่เขียนได้น่ารักกว่าพวกตัวละครที่พิมพ์ออกมาจากแม่พิมพ์โรงงานโมเอะเสียอีก

นางเอกเองก็น่าสนใจไม่เบา  เหมือนเป็นลูกผสมระหว่างอลิสที่เป็นฮิกกี้  กับริกะ จากใต้ฟ้าจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่อยู่ในโลกที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นกับความตาย  ถึงอายากะอาจจะไม่เอเลแกนท์เท่ากับริกะ (ในตอนนี้)  แต่เธอก็มีความลึกที่เราพอจะสัมผัสได้  เธอเบื่อที่จะสัมผัสความตาย  เลยปิดกั้นตัวเองอยู่ในห้องเป็นฮิกกี้  ซึ่งพระเอกของเราต้องพยายามที่จะแย่งห้องคืนมาให้ได้...

อา...เกือบลืมพูดถึงพระเอกไปนะ  เรื่องนี้พระเอกออกแนวแอนตี้ฮีโร่ จิตตกเล็กน้อย  ประมาณเพิ่ง Disillusion จากคำว่า ฮีโร่ จอมปลอมที่เคยเชื่อมั่นมา  เอาฟะ  พระเอกค่อนข้างน่าเชียร์  มีพัฒนาการ.. ผ่าน

ส่วนริคุเห็นภาพประกอบตอนแรกนึกว่าซากิซะอีก

ผู้ที่อยู่อาศัยในหอนี้ส่วนใหญ่เป็นเทพจากหลาย ๆ ตำนานมายำกัน  ซึ่งเรื่องของเทพมาอาศัยอยู่ในโลกยุคปัจจุบันถือเป็นธีมหนึ่งของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้  ถ้าพูดง่าย ๆ คืออารมณ์แนวเพอร์ซี่ แจ็คสันนั่นล่ะ  แต่ที่คล้ายกันคือเอาคอนเซปต์ของเทพกับยุคปัจจุบันมารวมกัน  อย่างอื่นไม่เหมือนกันเลย  แต่ถึงอย่างนั้นแล้วกับคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องเทพสักเท่าไหร่เลยไม่รู้สึกตื่นเต้นไปกับตัวตนของผู้อาศัยในหอมากนัก  อย่างนางเอกเดาสิว่าเป็นเทพองค์ไหน ? (เทพความตายของนอร์สที่ไม่เกี่ยวกับคนตายในการรบ + มีหมาเฝ้าประตูนรก) ถ้าคนที่ชอบแนวนี้คงจะอ่านสนุกมากกว่านี้ล่ะมั้ง

พูดถึงเนื้อเรื่องแล้วผมมีความรู้สึกที่ค่อนข้างผสมอยู่พอสมควร  คือถามว่าสนุกไหม ? ก็สนุกดีนะ  ผมอ่านรวดเดียวจนจบด้วยความสนอกสนใจ  แต่ในขณะเดียวกันมันก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะว่าคนเขียนเขียนเรื่องให้มันหักหลายมุมหลายครั้งเหลือเกิน  จนเหมือนกับว่าคนเขียนเสียดายตัวละครหรือเปล่าฟะ (ฮา) แถมตอนที่พระเอกรอดจากการต่อสู้  ถ้าพูดตรง ๆ เลยมัน Deus ex Machina เลยชัด ๆ (สงสัยว่ามันจะ Deus จริง ๆ นั่นล่ะ)  

แต่กระนั้นผมก็ชอบแนวทางที่เรื่องนี้ดำเนินเรื่องนะ  อย่างหนึ่งที่พระเอกพยายามจะทำคือพยายามดึงให้ทุกคนในหอหันมาใช้ชีวิตด้วยกัน  หันมาทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง  จัดเวรทำอาหาร ทำความสะอาดหอ  พยายามตื้อให้นางเอกใจอ่อนด้วยอาหาร (ทำไมมุกนี้มาบ่อยจัง)  ซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงตอนที่อยู่หอเลยล่ะ  อ่านไปเข้าใจเลยว่าการที่จะทำให้คนในหอที่ต่างคนต่างอยู่สนิทสนมกันได้  มีกิจกรรมร่วมกันได้เนี่ยเป็นเรื่องที่ท้าทายมากเลย  ซึ่งในจุดนี้มันค่อนข้างมีความหมายกับผม  เลยได้แต้มพิศวาทเพิ่มอีกหนึ่ง

อีกจุดที่ผมชอบคือการอธิบายว่าทำไมตัวละครแต่ละตัวถึงได้ทำในสิ่งที่พวกเขาทำ  อธิบายได้ค่อนข้างอิน  ชัดเจน และทำให้เราเข้าใจตัวละครนั้นมากขึ้น  เรียกได้ว่าส่วนนี้ทำได้ดีเลยล่ะ

สรุปแล้วเรื่องนี้ค่อนข้างคุ้มค่าที่ได้หาซื้อมาอ่าน  อยากรู้ว่าสองพี่น้องเทพสงครามจะเป็นเทพอะไรกันแน่ !