คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Review อนิเมฤดูหนาว 2012
สวัสดีครับ สำหรับใครที่หลงเข้ามาอ่านผมก็ขอยินดีต้อนรับนะครับ
สำหรับซีซั่นนี้ตอนแรกผมไม่ได้มีความหวังอะไรกับมันมากนัก ตอนแรกกะเล็งแค่เรื่อง Another กับ Zero No Tsukaiman F แต่การไม่หวังอะไรเลยกลับเป็นผลดีแฮะ เพราะหลังจากดูผ่านตาแทบทุกเรื่องแล้วก็ต้องพบว่ามีเรื่องดี ๆ กว่าที่คิดไว้หลายเรื่อง ส่วนจะมีเรื่องอะไรนั้นก็ลองเลื่อนไปดูกันได้เลย !
1. Ano Natsu de Matteru
ถึงจะชื่อเรื่องอย่างนั้นแต่จริง ๆ คันปากอยากเรียกว่า Onegai Sempai เหลือเกิน... ดูไปก็สนุกดี ถึงจะได้กลิ่นของ Onegai Teacher หึ่งเลยก็เหอะ สรุปแล้วเป็นตอนแรกที่สนุกที่สุดของซีซั่นเลยก็ว่าได้ ภาพสวย การเคลื่อนไหวทำได้ดี ส่วนบทก็ทำให้เราคุ้นเคยกับตัวละครในเรื่องได้อย่างลื่นไหล ถึงจะยังจำชื่อไม่ได้ทุกคน แต่อย่างน้อยเราก็จำบทบาทของพวกเขาได้ เอาเป็นว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่ Recommend ประจำซีซั่นนี้
2. Another
ดูแล้วอึดอัดเป็นบ้าเลย จงใจทำให้เนื้อเรื่องเอื่อย ๆ ดูแล้วกดดันสินะ ที่พูดอย่างนั้นไม่ได้ว่าห่วยนะ กลับกันเลยมันหมายความว่าเรื่องนี้โคตรเจ๋งเลยที่ทำให้รู้สึกได้อย่างนั้นนะ ภาพสวยมาก น่าจะเรียกว่าสวยที่สุดในซีซั่นนี้แล้วล่ะมั้ง เนื้อเรื่องน่าสนใจ เสียอย่างเดียวตอนนี้ผมจิตตก เลยทำให้ Ano Natsu ได้แต้มมากกว่าครึ่งช่วงตัว หวังว่า P.A. Work จะรักษาคุณภาพงานไว้อย่างนี้ตลอดนะ ขอได้อย่างสาละวันห่วยลงแบบ Hanasaku Iroha เลยเถอะ สาธุ
3. Aquarion Evol
ความจริงต้องถือว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในสามม้ามืดของซีซั่นนี้ของผมเลยก็ว่าได้ ถึงชอบภาคแรกที่ไม่ได้ดูจบเสียทีก็เถอะ แต่ตอนเริ่มซีซั่นไม่ได้มีความอยากจะดูเลยสักนิด แต่พอดูฉายตอน 1- 2 จบปุ๊บกลายเป็นเรื่องอันดับต้น ๆ ที่ผมตั้งตารอคอยตอนใหม่เลยทีเดียว ซึ่งตอนที่ 3 ก็ยังทำได้ไม่ผิดหวังกับการขอขมาสาวเจ้าที่ทำให้ผมหลุดขำก๊ากอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกของปีเลยทีเดียว ซึ่งภาคนี้ยังคงเอกลักษณ์ภาคแรกไว้เหมือนเดิม คือฉากรวมร่างออแกสซั่ม กับท่าไม้ตายบ้าพลัง (ตอนแรกก็ Flying Love Attack ล่ะ คิดชื่อได้บรรเจิดจริง ๆ) ภาคนี้มีเสริมขึ้นมาอีกเรื่องคือการรวมร่างต้องห้ามของชายหญิงให้อารมณ์แวนเดรดดี ดูโดยรวมแล้วก็สนุกมาก เพลงก็เพราะสุด ๆ ไม่แพ้ภาคแรกเลย ผมตั้งตารอดูตอนใหม่อย่างใจจดใจจ่อ พระเอกเก่งเมื่อหื่น (ตื่นเต้น) นางเอกน่ารำคาญ สาวหัวเขียวฮานาซาว่า คานะพากษ์เชียวนะ เสียงอร๊างได้ใจ ตัวร้ายแมร่มชาติก่อนเป็นพระเอกของภาคแรกเปล่าฟะ โอมม... ขอให้ตอนจบอย่าไป 3P สามหนุ่มสามมุมเหมือนภาคแรกเลยเต๊อะ
4. Mouretsu Pirate
นางเอกงั้น ๆ แต่ติดใจสาวแว่นปริศนาที่จะมาเป็นคู่วายนางเอกแจ่มเป็นบ้า ดูตอนที่สองแล้วรู้สึกว่าจังหวะยังคงเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบเร่ง แต่ก็สนุกดี คงดูต่อจนจบล่ะ ปรกติก็ชอบแนว Space Opera เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ปล. สาวแว่นชอบกินปาเฟ่มากเลย เป็นผู้จัดการจากร้าน Wagnaria กลับมาเกิดหรือไงกัน ?
5. Inu X Boku SS
ตอนอ่านเรื่องย่อตอนแรกก็ไม่คิดอยากจะดูแล้ว... เด็กสาวตระกูลร่ำรวยย้ายมาอยู่หอพักที่คนที่พักทุกคนจะมีบอดี้การ์ด หรือ Secret Service คอยคุ้มครองประจำตัว และคนที่มาเป็นบอดี้การ์ดของนางเอกคือวิญญาณจิ้งจอกที่นางเอกเคยช่วยไว้ตอนเด็ก ๆ ?
เอางั้นจริงเหรอ ?
คือ... พล็อตดูเผิน ๆ แล้วมันช่างเกร่อและดูไม่ค่อยลงตัวสิ้นดี ผมเคยลองอ่านแบบมังหงะแต่ก็อ่านได้ไม่เคยเกินสิบหน้าก็เป็นต้องเลิกอ่านทุกที ตอนแรกก็ไม่คิดจะดูถ้าไม่ติดที่ว่าเป็นสตูดิโอที่เคยทำเรื่อง Ben-to และเจ้าเรื่อง Ben-to ที่ว่าก็มีเนื้อเรื่องย่อที่ชวนให้ไม่น่าดูเหลือเกิน ด้วยความศรัทธาต่ออดีตลูกม้อ Gonzo ผมจึงลองดูมันสักหน่อย
สุดท้ายก็คิดถูกเหลือเกินที่เชื่อในแรงศรัทธา ! เรื่องนี้กลายเป็นม้ามืดเรื่องที่สองประจำซีซั่นไปโดยปริยาย
ข้อแรกเลยคือนางเอก ริริจิโยะ น่ารักมากกกกกกก คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ ผมอยากบอกว่าริริจิโยะน่ารักเหลือเกิน ถึงเปลือกนอกจะเป็นออกแนวสาวซึน แต่ใจจริงแล้วเธอก็ไม่ชอบฉากหน้าของเธอเอาเสียเลย ซึ่งดูจากนิสัยแล้วก็ไม่รู้สึกน่ารำคาญอย่างที่คิด ออกจะน่ารักด้วยซ้ำตอนที่ด่าต่อไม่ถูกเวลาเจอกับบอดี้การ์ดของตัวเองที่ผมขี้เกียจจำชื่อ และที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ...
ยามาดะคนที่สองประจำซีซั่น... ไม่สิ เหลือแค่คนเดียวแล้ว
ริริจิโยะ หนูเป็นเด็กดีมาก ใส่เสื้อนอนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียว เข้ากับสาวน้อยผมดำตัวเล็ก ๆ อย่างหนูมากเลยล่ะ
นอกจากนี้สตูดิโอ David Production ก็ยังคงคุณภาพของเรื่อง Ben-to ไว้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้องชวนเสียว ถุงน่อง พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ข้อเท้า ทำให้สงสัยเหลือเกินว่าเป็นทีมเดียวกับที่ทำ Saki หรือเปล่าหว่า
สรุปคือ ดูแค่ริริจิโยะน่ารักอย่างเดียวก็คุ้มแล้วสำหรับตอนแรกนี้...
ในบางครั้งการดูอนิเมขอให้มีตัวละครน่าอวยแค่ตัวเดียวผมก็ดูได้ถึงไหนถึงกันแม้ว่าเรื่องมันจะห่วยขนาดไหน แต่สำหรับเรื่อง Inu x Boku SS แล้วเนื้อเรื่องเองก็ไม่ได้แย่ขนาดที่คาดไว้ตอนแรก พอดูจนจบตอนก็พอจะเข้าใจอะไรในเรื่องมากขึ้น ถ้าเกิดดูเรื่องนี้ในฐานะเรื่องแนวหอพักภูติผีแล้วมันก็สมเหตุผลดีอยู่นะ
นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือเนื้อเรื่องมันออกแนวการ์ตูนผู้หญิงจ๋าเลย แต่ดันอยู่ในนิตยาสารการ์ตูนผู้ชาย ซึ่งคาดว่าเจ้าบอดีการ์ดหัวขาวคงถูกใจเหล่าสาว ๆ ไม่มากก็น้อย และถึงไม่ค่อยอยากจะยอมรับนัก แต่ฉากตอนที่พระเอกแปลงร่างเป็นปีศาจจิ้งจอกทำได้เท่ดีเหมือนกัน ซึ่งดูแล้วเรื่องนี้น่าจะจับกระแสของตลาดได้กว้างกว่าเรื่องก่อน ๆ นะ ท่านชายก็ดูความน่ารักของริริจิโยะไป ท่านสาว ๆ ก็โฮกบอดีการ์ดตาสองสีนั่นไป หวังว่าริริจิโยะจะไม่กลายเป็นนางเอกน่ารำคาญแบบนางเอกการ์ตูนโชโจทั่ว ๆ ไปนะ
สุดท้ายขออวยเรื่องนี้เพราะนางเอกน่ารัก กับเนื้อเรื่องที่ไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมากนัก ได้ข่าวแว่ว ๆ ว่ามีดราม่าแทรกอยู่บ้าง ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าดราม่าจะทำได้ดีแค่ไหน แต่สำหรับตอนแรกขอยกให้เป็นม้ามืดที่ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มากเลยประจำซีซั่นนี้
6. Nisemonogatari
คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากกับภาคต่อของ Bakamonogatari สินะ... แน่นอนว่าภาคนี้ยังคงความแนวและความหื่นของภาคก่อนไว้อย่างครบถ้วน น้องหอยน่ารัก น้องงูกับน้องลิงก็รุกเหลือเกิน น้องสาวทั้งสองของอารารารารารารากิก็น่ารัก น้องปูก็ยัง S เหลือแต่น้องแมวที่ยังไม่ออกโรง (นางเอกต้องออกมาทีหลังสินะ เหอ ๆ)
7. Papa no Iu Koto wo Kikinasai!
สำหรับเรื่องนี้ผมสะดุดตาครั้งแรกกับหน้าตาของคาแร็คเตอร์ที่ดูคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นโซระที่หน้าอย่างกับถอดมาจากฮารุฮิ หรือ ฮินะ ที่ราวกับเป็นฮิบิกิจาก Idolmas ตอนเด็ก หรือมิอุที่ดูละม้ายคล้ายกับไอริจากเรื่องโอนิชิชิ ซึ่งถ้าพูดตามตรงผมมักจะมีอคติกับตัวละครที่ได้กลิ่นคาแร็คเตอร์ดีไซน์จากเรื่องอื่นโชยแตะจมูก แต่พอดูจบแล้วก็คิดว่าคงจะดูต่อนั่นล่ะ
ภาพสวย เนื้อเรื่องคงออกแนวอบอุ่นผสมเซอร์วิส ดูได้เรื่อย ๆ ผมเองก็ไม่เคยอ่านมังหงะ แต่ให้เดาสงสัยคุณแม่กับคุณพ่อของเด็ก ๆ ต้องมีอันเป็นไปจนต้องย้ายมาอยู่กับพระเอกแน่ ๆ เลย อ้อ นอกจากบรรดาสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มก็ยังมีคุณไรกะ รุ่นพี่ของพระเอกที่มีคาแร็คเตอร์น่าสนใจดี
8. Highschool DxD
เมานม เซอร์วิสกระจาย... แต่ก็คงดูนั่นล่ะ และเรื่องนี้มี Ed ที่เต้นได้พริ้วที่สุดประจำซีซั่นแล้วล่ะมั้ง เหอ ๆ ภาพการเคลื่อนไหวของ Ed ดีกว่าตัวงานอนิเมเสียอีก
9. Danshi Koukousei Nichijou
ขอถอนคำพูดสบประมาทไว้ตอนซีซั่นที่แล้วที่บอกว่าคงคล้าย Kimi to Boku ดูแล้วขำเป็นบ้า ใช้ได้เลยเลยนะซันไรส์กับแสคว์อีนิกซ์ เป็นเรื่องสุดท้ายของสามม้ามืดประจำซีซั่น เรื่องนี้ดูได้ทุกเพศทุกวัย
10. Recorder to Randoseru
ดูแล้วขำกว่าคุณโมริตะ และที่ดีคือมันเป็นอนิเมตอนสั้น ๆ เลยทำให้ดูแล้วไม่เหนื่อยเหมือน Baby, Kill Me
11. Baby, Kill Me
ผมมักจะรู้สึกเหนื่อยอยู่เสมอเวลาดูอนิเมที่ดัดแปลงจากการ์ตูนสี่ช่องจบ... ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นการส่วนตัวหรอกนะ แต่คงดร็อปแล้วไปหาแบบมังหงะมาอ่านจะง่ายกว่า
12. Zenki Zesshou Symphogear
เป็นเรื่องที่ตอนแรกที่ยัดมาเยอะเกินไปจริง ๆ เพลงก็งั้น ๆ แถมเป็นตอนแรกแต่คุณภาพของอนิเมยังไม่ค่อยดีขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าตอนเผาจะเป็นอย่างไร คงดูต่ออีกสักพักก่อนจะตัดสินใจว่าจะดร็อปตาม Kill me, Baby ดีไหม
13. Zero no Tsukaima F
คุณภาพเท่าเดิมเลย คงดูต่อจนจบ เพราะอุตส่าห์ดูมาแล้วสามภาคแน่ะ
ที่ไม่ได้ดูซีซั่นนี้ก็ Rinne no Lagrange พยายามดูมาสามรอบล่ะ แต่ดูไม่ถึงตอนที่ กกน. โดนดึงลงมาเสียที กับ อาม่าฆ่าหมี รอดูแต่ตอนคาโอรุ กับรุ่นพี่ฮารุกะ เลิฟลี่ เท่านั่นล่ะ
สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณเว็ป Random Curiosity ที่ผมไปจิ๊กรูปมาใช้อยู่เรื่อย ๆ ด้วย
ส่วนเรื่อง Guilty Crown ยิ่งฉายยิ่งห่วยลงทุกตอน อารมณ์เดียวกับ Hanasaku Iroha เลย แต่อย่างน้อยเรื่องนี้มันก็เป็นแนวแอ็คชั่น เลยทำให้ไม่เบื่อเท่าเรื่องดอกบานนะ
ความคิดเห็น