คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นิทานกล่อมนอนและคุณพ่อผู้บ้ามวยปล้ำ
บทนำ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยที่ผืนสมุทรยังคงเป็นผืนเดียวกันและโลกยังไม่ถูกแบ่งเป็นสอง ภายใต้ผืนน้ำสีฟ้ายังมีเจ้าหญิงเงือกน้อยคนหนึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ผู้เป็นราชาและราชีนีเงือกปกครองท้องทะเล ทั้งสามมีชีวิตอย่างมีความสุขภายใต้ท้องสมุทรที่แสนกว้างใหญ่ เจ้าหญิงเงือกน้อยเป็นดั่งความภาคภูมิใจของราชาและราชินีเงือก เจ้าหญิงเงือกน้อยมีสิริโฉมน่ารักน่าเอ็นดู เทียบกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วเจ้าหญิงเงือกน้อยเป็นผู้ที่ร้องเพลงได้ไพเราะที่สุด ไม่มีใครในท้องสมุทรที่ไม่รู้จักเจ้าหญิงเงือกน้อยในฐานะเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง แต่ละวันของเจ้าหญิงน้อยมีแต่ความสนุกสนาน
แต่ความสุขภายใต้ผืนน้ำสีครามนี้ก็มิอาจทำให้เจ้าหญิงเงือกน้อยเลิกสนใจเรื่องชีวิตบนผืนดินเหนือน้ำได้ ตั้งแต่เกิดมาเจ้าหญิงเงือกน้อยได้ฟังเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ของโลกเหนือผืนน้ำจากประสบการของเงือกตนอื่นมากมาย ทั้งเรื่องท้องฟ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ดวงจันทร์ แสงดาว หมู่เมฆ สิ่งมีชีวิตแปลก ๆ ที่เรียกว่านก
และยานพาหนะประหลาดของพวกคนบนดินที่เรียกว่าเรือ
กระนั้นเจ้าหญิงเงือกจะได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นเหนือน้ำเมื่อมีอายุครบ 15 ปีเท่านั้น ดังนั้น ดังนั้นเจ้าหญิงเงือกน้อยจึงตั้งตารอคอยวันที่เธอจะมีอายุครบ 15 ปีอย่างจดจ่อ ทุกวันเต็มไปด้วยความฝันและจินตนาการต่างๆ มากมายถึงโลกเหนือน้ำ
เมื่อเจ้าหญิงเงือกน้อยมีอายุครบ 15 ปี เธอก็ได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นเหนือน้ำสมใจอยาก เธอแหวกว่ายขึ้นไปยลโฉมโลกเหนือน้ำที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยความหรรษา ตื่นใจกับท้องฟ้าและหมู่เมฆอันกว้างใหญ่ แกล้งฝูงนกที่พยายามจะมากินหมู่ปลาให้ตกใจเล่น
และแล้วโชคชะตาก็พาให้เจ้าหญิงเงือกน้อยได้พบกับเรือโดยสารลำหนึ่ง บนเรือลำนั้นมีเจ้าชายหนุ่มรูปงามโดยสารมาด้วย
เจ้าหญิงเงือกน้อยตกหลุมรักเจ้าชายยามแรกพบโดยทันที
ทว่าโชคก็ไม่เข้าข้างเจ้าชายนัก เมื่อเรือโดยสารของเจ้าชายประสบกับพายุอันเกรี้ยวกราดซึ่งได้กลืนกินเรือจมหายไปยังก้นทะเล เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหญิงเงือกน้อยก็รีบเข้าไปช่วยเจ้าชายกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย ระหว่างที่เจ้าชายสลบไสลอยู่นั้นเจ้าหญิงเงือกน้อยได้ร้องเพลงขับกล่อมเจ้าชายด้วยน้ำเสียงอันไพเราะที่สุดในท้องทะเล ท่วงทำนองของเธอสามารถสะกดได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งท้องฟ้าที่เกรี้ยวกราดยังสงบลงเมื่ออยู่ต่อหน้าเสียงเพลงของเจ้าหญิงเงือกน้อย
ในที่สุดเจ้าชายรูปงามก็ฟื้นขึ้น แต่บุคคลที่ช่วยเขาไว้นั้นได้หายไปแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเสียงอันไพเราะนุ่มนวลในความทรงจำของเจ้าชายที่ขับกล่อมตลอดเวลาที่สลบอยู่ เจ้าหญิงเงือกน้อยที่ตกหลุมรักกับเจ้าชายอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วจึงดั้งด้นไปหาแม่มดแห่งท้องทะเล เธอปรารถนาอยากมีขาสองข้างที่จะทำให้เจ้าหญิงเงือกน้อยสามารถขึ้นไปบนบกได้ แม่มดแห่งท้องทะเลตอบตกลงทันที แต่ก็มีเงื่อนไขคือเจ้าหญิงเงือกน้อยต้องแลกขาสองข้างน้ำเสียงอันไพเราะของเธอ อีกทั้งเธอไม่อาจกลับไปยังบ้านเกิดและครอบครัวที่เธอรักยิ่งได้อีก นอกจากนั้นหากเจ้าชายนั้นไปตกหลุมรักและแต่งงานกับหญิงอื่นเมื่อไร เจ้าหญิงเงือกน้อยจะต้องกลายเป็นฟองมลายหายไปกับเกลียวคลื่นอย่างเดียวดาย...
เจ้าหญิงเงือกน้อยได้ถูกม่านหมอกของความรักบังตาจนมืดบอดเสียแล้ว แม้ข้อแลกเปลี่ยนจะมีราคาแพงเหลือเกิน แต่เธอก็ตอบตกลง เจ้าหญิงเงือกน้อยได้สูญเสียน้ำเสียงอันงดงามแลกกับขาสองข้างเพียงเพื่อจะได้อยู่เคียงข้างกับเจ้าชาย
ในขณะเวลาเดียวกัน กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พ่อของเจ้าชายรูปงามก็จัดการหมั้นหมายเจ้าชายกับเจ้าหญิงของเมืองข้างเคียง แต่หัวใจของเจ้าชายนั้นได้มอบให้กับสตรีปริศนาที่ช่วยเหลือเขาเมื่อตอนเรือแตกไปเสียแล้ว ทว่าเนื่องจากนางได้จากไปก่อนที่เขาจะได้เห็นใบหน้าของนาง สิ่งเดียวที่เขาจำได้คือน้ำเสียงอันไพเราะที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมาในโลกนี้ เจ้าชายจึงได้แต่เฝ้าเดินตามชายหาดเพื่อที่ว่าเขาอาจจะได้พบกับนางในฝันผู้ที่มีเสียงอันไพเราะนั้นอีกครั้ง
หลังจากที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนกับแม่มดเรียบร้อยแล้ว เธอจึงรีบรุดไปหารักแท้ทันที เพียงพบว่าเจ้าชายนั้นจำเงือกน้อยไม่ได้แม้แต่น้อย แม้เธออยากจะเอ่ยปากบอกความในใจของเธอเพียงใด แต่เสียงก็ไม่ออกมาจากปากแม้แต่คำเดียว
ในระหว่างนั้นเอง กลับมีหญิงสาวอีกคนโผล่ขึ้นมาจากท้องทะเล น้ำเสียงที่เธอเอ่ยเอื้อนออกมานั้นเป็นน้ำเสียงอันไพเราะของเงือกน้อย หญิงสาวที่ว่าคือแม่มดแห่งท้องทะเลผู้ที่ช่วงชิงเสียงเงือกน้อยไปนั่นเอง! เมื่อเจ้าชายได้ยินเสียงที่เหมือนกับเสียงในความทรงจำนั้น ก็เข้าใจผิดคิดว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นนางในความทรงจำของตน จึงได้ตกหลุมรักกับหญิงสาวที่ว่าทันที
น้ำตาของเธอไหลพรั่งพรูด้วยความโทมนัส เงือกน้อยหัวใจแตกสลายในชั่วพริบตา เมื่อนั้น ร่างของเธอจึงค่อยๆ ถูกกลืนหายไปกับท้องทะเล กลายเป็นฟองสลายไปกับเกลียวคลื่นที่ซัดโถมเข้าหาฝั่ง
@@@@@@@@@@@@@
"ฮึก...ซิกๆๆ....ทำไม...ทำไมเจ้าหญิงเงือกถึงต้องตายด้วย....ซิกๆ"
บนเตียงอันอ่อนนุ่มภายในห้องนอนที่ถูกจุดสว่างโดยเทียนไข เด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมอกของมารดาร้องห่มร้องไห้ด้วยความเศร้าสร้อย มารดาเห็นดังนั้นจึงเช็ดหน้าตาอันไร้เดียงสาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาและขี้มูก ก่อนจะลูบหัวอย่างแผ่วเบา ปลอบปะโลมลูกน้อยอย่างอบอุ่น
"โธ่...แม่ไม่น่าเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังเลย"
"มันเศร้ามากเลยนะคะ ทั้งๆ ที่เงือกน้อยเค้าเสียสละขนาดนี้แท้ๆ แต่ทำไม...ทำไม"
เจ้าเด็กน้อยหลั่งน้ำตาอันไร้เดียงสาออกมาไม่หยุด มารดาถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนก่อนค่อยๆ โอบกอดลูกน้อยด้วยความอ่อนโยน
"มันเป็นเพียงแค่นิทานเท่านั้น เจ้าหญิงเงือกน้อยได้เลือกหนทางที่เธอต้องการแล้วละ ถึงแม้ว่ามันจะนำพาความทุกข์ระทมมาสู่เธอก็เถอะ..."
"ต...แต่ว่า มันผิดด้วยเหรอคะที่เงือกน้อยจะไปหลงรักเจ้าชาย ทำไมเจ้าชายถึงได้โง่....โง่ๆๆๆ ได้ขนาดนี้ล่ะคะ แม่มดนั่นล่ะที่เลว...แย่งเจ้าชายไปจากเจ้าหญิงเงือกน้อย"
เด็กน้อยยังคงส่งเสียงเจื้อนจ้อยไม่หยุด ส่วนผู้เป็นแม่ก็ได้แต่มองเด็กน้อยในอ้อมอกด้วยความรัก กระนั้นแววตาของมารดากลับแฝงไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย และความเศร้าสร้อยที่พยายามจะแอบซ่อนไว้ แม่ลูบแก้มของเด็กน้อยอย่างนุ่มนวลพร้อมกับเอาหน้าผากตนมาแตะกับหน้าผากของลูกน้อย
"ฟังนะลูก อนาคตต่อจากนี้ไปลูกอาจจะพบกับเหตุการณ์เหมือนกับเจ้าหญิงน้อยนั่นก็ได้ แต่แม่อยากให้ลูกเข้มแข็งไว้ อย่าได้ย่อท้อต่อความผิดหวังเหมือนเจ้าหญิงเงือกน้อยนะ คนเรานั้นมีทางเลือกอยู่เสมอ แม่อยากให้ลูกเลือกทางที่มีความสุขที่สุดสำหรับตัวของหนูนะ"
เด็กน้อยดูงุนงงกับคำพูดของมารดา แต่มารดาก็ค่อยๆ อุ้มเด็กน้อยลงนอนบนเตียงราวกับวางผลงานศิลปะอันละเอียดอ่อนที่สุด ก่อนจะจุมพิตกับหน้าผากของเด็กน้อยอย่างเปี่ยมไปด้วยความรัก
"ได้เวลานอนแล้วล่ะ เจ้าหญิงตัวน้อยของแม่ แม่ขอโทษจริงๆ ที่เล่าเรื่องเศร้าให้ลูกฟัง ประเดี๋ยววันหลังแม่จะเอานิทานที่ไม่เศร้ามาอ่านให้ฟังก็แล้วกัน"
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่ท่านแม่มาเล่าให้ฟังหนูก็ดีใจแล้ว" ตาของเด็กน้อยที่จ้องมองมารดานั้นบวมช้ำเนื่องจากการร้องไห้ แต่มันก็เป็นสายตาที่มองมารดาด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ และเปี่ยมไปด้วยความรักที่เอ่อล้นออกมา
"ฝันดีนะลูก"
มืออันเรียวบางของผู้เป็นมารดาค่อยๆ ปิดเปลือกตาของบุตรี เธอจ้องมองหน้าลูกน้อยสักพักแล้วจึงเตรียมจะเป่าเทียนดับไฟในห้อง
ทันใดนั้นเองเจ้าหญิงน้อยที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้วกลับลืมตาตื่นแป๋วขึ้นมาพร้อมกับเริ่มสาธยายสิ่งที่อยู่ในหัวอีกครั้ง
"แต่ว่า ถ้าหนูเป็นเจ้าหญิงเงือกนะ หนูจะรีบวิ่งไปกระโดดดร็อปคิกถีบแม่มดนั่นแล้วจับทุ่มซูเพล็คสองตลบแล้ว...."
ท่านแม่แทบจะสะดุดหกล้มกลิ้งเมื่อได้ยินคำพูดพิลึกๆ จากลูกสาวอันเป็นที่รัก
"ล...ลูกจ๋า...ไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหนกัน" มารดาจ้องมองตาที่จ้องแป๋วอย่างตื่นเต้นของลูกสาวอย่างเป็นกังวล "หลับได้แล้วลูก พรุ่งนี้ต้องมีเรียนภาษากลางแต่เช้าไม่ใช่เหรอจ๊ะ"
"แต่ว่า..."
"นอนได้แล้วนะ" ถึงแม้ท่านแม่ยังยิ้มแย้มเปี่ยมไปด้วยความรักอยู่ แต่ใบหน้าบัดนี้ดูเหมือนมีเส้นประสาทเดือดปุดๆ ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ลูกสาวตัวดีจึงรีบนอนคลุมโปงโดยพลัน
"เชื่อพ่อเค้าเลย" ท่านแม่บ่นอุบอิบก่อนจะดับเทียนในห้อง "อุตส่าห์บอกแล้วบอกไม่รู้กี่ทีแล้วว่าไม่ให้เอาลูกไปดูมวยปล้ำด้วย"
........................................
..........................
................
........
....
Edit Log: April 12th, 2008: แก้คำผิด
Edit Log: July 29th, 2009: แก้คำผิด ขอบคุณท่าน olihime มากที่ช่วยชี้จุดแก้ให้นะครับ
Edit Log: June 24, 2011: เริ่มมหกรรมรีไรท์กับแก้สำนวน
Edit Log: June 13, 2012: รีไรท์
ความคิดเห็น