ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Psalms of the New World

    ลำดับตอนที่ #1 : Overture

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 51


           

           สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่อุตส่าห์หลงมาอ่านเรื่องนี้เข้า  ไหนๆ ก็ตกกระไดพลอยโจนมาแล้วก็อย่างเพิ่งเลิกหนีไปก่อนนะครับ  ผมแค่อยากจะมาทักทายผู้อ่านที่แสนจะน่ารักที่หลงผิด..เอ้ย...หลงเข้ามาในโลกของนิยายเรื่องนี้หน่อยนึง เอาล่ะ ผมรู้ตัวดีว่าพล่ามมามากพอแล้ว  แต่ก่อนที่จะเข้าไปสู่เรื่องราวนั้น  เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับโลกที่ตัวละครของเราจะมาโลดแล่นกันดีกว่า  อย่างแรกเลยคือเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติ  สถานที่และบุคคลก็เป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นเพื่อความบันเทิงของผู้เขียน(ไม่ใช่ของผู้อ่านน่อ ฮาๆ)  และหวังว่ามันจะทำให้ท่านผู้อ่านสนุกสนานไปกับมันด้วยด้วย  ดังนั้นอย่าคิดมากกับสิ่งที่ผู้เขียนเขียนลงไปแล้วกันครับ  อย่างที่สองคือบทนี้กับบทอื่นจะใช้สำนวนคนละเรื่องเลย  ถ้าคิดจะอ่านเรื่องนี้เพราะต้องตาโดนใจกับสำนวนของบทนำล่ะก็  คิดใหม่ได้น่อ  แต่ถ้าไม่ถูกใจละก็อย่าห่วงไปเลยครับเพราะมันจะเป็นบทแรกและบทสุดท้ายสำหรับสำนวนแบบนี้แล้ว  วางใจได้  มันเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้แน่นอน


                    เหตุการณ์ของโลกในเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของอารยธรรมมนุษยชาติที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากน้ำท่วมโลก  อุกกาบาตพุ่งชนโลก ดวงอาทิตย์ดับ  หรือถูกมนุษย์ต่างดาวสามขารุกรานหรอกนะครับ  แต่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์เองเนี่ยล่ะ  มหาสงครามที่มนุษย์ก่อขึ้นทำลายอารยธรรมทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากโดยชนรุ่นก่อน  ผืนดินถูกทำลาย  น้ำปนเปื้อนมลพิษ  ธรรมชาติถูกทำลายจนยากที่จะฟื้นฟูได้อีกครั้ง  ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลายย่อยยับ  แต่ทว่าก็ยังมีเกาะหนึ่งที่เหลือรอดจากไฟสงครามล้างโลก  ผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งจึงได้ละทิ้งแผ่นดินแม่ของตน  อพยพมายังเกาะแห่งนี้โดยผู้คนเหล่านั้นต่างกล่าวเรียกนามของเกาะนี้ว่า เอเดน


                  
                  .....ท่านผู้อ่านคิดว่าชื่อมันโหลๆ ไหมครับ  แต่อย่าสนไปเลย  เรามาเข้าเรื่องกันต่อเลยดีกว่า...


                    ว่าแล้วกลุ่มคนที่เหลือรอดก็ได้ตั้งรกรากกันอีกครั้ง  โดยเกาะเอเดนถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยเหล่าผู้ชาย และผู้หญิง....ผู้อ่านที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะงงล่ะสิครับว่าเกิดอะไรขึ้น  ใช่แล้วครับ...ผู้ชายกับผู้หญิงต่างแยกกันไปตั้งประเทศของตน และปกครองกันอย่างเป็นเอกเทศ   ถ้าจะถามเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงทำอะไรพิลึกๆ อย่างนั้น  ผู้เขียนขอไม่กล่าวถึงในเรื่องนี้แล้วกัน  แต่ถ้าพูดกันตรงๆ แล้วผู้เขียนก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าทำไมพวกเขาต้องแยกกันอยู่...สงสัยทะเลาะกันมั้งครับ (ฮา)  แล้วถ้าจะถามอีกว่าแล้วจะผลิตทายาทกันอย่างไรล่ะ  ผมขอตอบ ณ ที่นี้เลยครับว่า  เชิญอ่านในเรื่องได้เลย  ขอกั๊กเอาไว้ก่อนเพื่อเพิ่มรสชาติในการอ่าน  เรามาต่อเลยดีกว่าครับ...ความจริงแล้วเกาะเอเดนนี่ก็ใหญ่ใช่เล่นอยู่นะครับ  จะเรียกเป็นทวีปเลยก็ว่าได้  แล้วทำไมถึงไม่เรียกว่าทวีปเลยล่ะ  ก็ผู้เขียนไม่อยากเอาเกาะเอเดนไปเปรียบกับออสเตรเลียที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นเกาะหรือเป็นทวีป (ฮา)....อย่าคิดมากนะครับ  บอกแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่จริงใดๆ ทั้งสิ้น 


     

                ทางเหนือที่ถูกครอบครองโดยพวกผู้หญิงนั้นเป็นผืนดินอันอุดมสมบูรณ์  อากาศก็อบอุ่นน่าอยู่  อาหารการกินก็มีพร้อม  เป็นสวรรค์บนดินก็ว่าได้  แต่พวกผู้ชายที่ครอบครองส่วนทางใต้ของเกาะไม่ได้โชคดีเหมือนพวกผู้หญิงนักหรอกครับ  เพราะดินแดนทางใต้นี่เป็นที่สุดของที่สุดของความกันดารเลย  อากาศก็หนาวเย็น  แถมแห้งแล้งอีกต่างหาก  เรียกได้ว่าโชคร้ายสุดๆ เลยที่ต้องไปอยู่ในที่แบบนั้น  ความรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษถูกปล่อยเกาะที่ไซบีเรียเลยล่ะ  

                  
                  แต่สำหรับคุณผู้ชายแล้วมันก็ยังไม่เลวร้ายไปซะทุกอย่างหรอกนะครับ  เพราะความกันดารนี่ล่ะครับทำให้พวกผู้ชายมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และเครื่องจักรเป็นอย่างมาก  ไหนๆ มันก็พึ่งธรรมชาติไม่ได้  งั้นเราก็สร้างมันขึ้นมาเองเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ  ผู้ชายก็ยังถืออีกว่าที่พวกเขาต้องมาอยู่ในที่แบบนี้เพราะเป็นบททดสอบที่พระเจ้าประทานมาให้  เพื่อชำระบาปที่มนุษย์ได้เคยกระทำในอดีต  และเทคโนโลยีนี่ล่ะคือสิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่มนุษย์ในการฟันฝ่าบททดสอบนี้ 


                   ส่วนพวกผู้หญิงที่แสนจะโชคดีก็อยู่อย่างสุขสบายกับธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์  พวกผู้หญิงก็คิดว่าในเมื่อมีทุกอย่างพร้อมแล้วไยต้องไปพึ่งพาเทคโนโลยีที่รังแต่จะทำลายธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์เหมือนครั้งในอดีตล่ะ  ดังนั้น พวกหล่อนจึงได้ละทิ้งวิทยาการขั้นสูงทุกอย่าง  เหลือไว้แต่วิทยาการเท่าที่จะเป็นสำหรับการดำรงชีวิตเท่านั้น  และได้พัฒนาศาสตร์การใช้พลังจากธรรมชาติอย่างแพร่หลาย  พูดง่ายๆ ก็เหมือนใช้พลังเวทมนตร์นั่นล่ะครับ  แต่ขุมพลังนั้นจะเกิดจากพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสของสรรพสิ่งในธรรมชาติ  ซึ่งพวกหล่อนต่างคิดว่าผืนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์เหล่านี้คือสิ่งที่ธรรมชาติผู้สร้างอันยิ่งใหญ่ได้ประทานพรให้


                    ท่านผู้อ่านคงจะสังเกตได้แล้วนะครับว่าทั้งสองพวกแทบจะแตกต่างกันอย่างสุดขั้วเลยก็ว่าได้  ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ทั้งสองฝ่ายต่างจะระแวง ซึ่งกันและกัน  เป็นเวลากว่า 300 ปีแล้วที่ทั้งสองถือเป็นอริกัน  ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายป่าเถื่อน  น่ากลัว  และเป็นภัยต่อการดำรงอยู่ของตนอีกด้วย  ตัวเกาะเอเดนนั้นเองก็ถูกแบ่งเป็น 2 ซีก คือเกาะเหนือ กับเกาะใต้ โดยมีร่องน้ำแคบๆ ขวางกั้น แต่มันก็เพียงพอที่จะโดดเดี่ยวจากอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง โดยฝั่งเหนือคือประเทศของผู้หญิงชื่อ อาราเนีย ส่วนทางใต้ประเทศของเหล่าผู้ชาย มูราล 

                     และนี่คือเรื่องราวที่ผู้คนจากทั้งสองฝั่งจะมาโคจรพบกันอีกครั้ง

     

                     นี่คือภาพโดยรวมอย่างคร่าวๆ ของโลกใบนี้  ผู้เขียนหวังว่าท่านผู้อ่านคงจะยังไม่เบื่อไปซะก่อนนะครับ  เอาล่ะครับ  ตอนนี้ก็ได้เวลาที่ทุกท่านจะเข้าไปสู่เรื่องราวอันน่าลุ้นระทึกจนวางไม่ลง  ตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะหลุดออกมาราวกับเพิ่งถูกหัวหน้านักบวชแอซเท็คบูชายัญ  โรแมนติกหวานเลี่ยนจนน้ำตาลผสมคาราเมลเรียกพี่  ขำกลิ้งจนแทบจะขาดอากาศตายเหมือนเพิ่งกินเห็ดหัวเราะ  อบอุ่นเหมือนกับภูมิอากาศแถบเมดิเตอเรเนี่ยน  กดดันยิ่งกว่าร่องสมุทรมาเรียน่า  แสนเศร้าเคล้าน้ำตาขนาดโรมิโอกับจูเลียตยังชิดซ้าย  โหดเหี้ยมจนด็อกเตอร์ฮานิบาล  เล็กเตอร์ยังไม่กล้าอ่าน  สยองขวัญจนเฟร็ดดี้ร้องกรี๊ด....

                    เบื่อกับคำคุยโวสุดแสนจะฝืดของผมรึยังครับ  ถ้าเบื่อแล้ว  งั้นขอเชิญพบกับเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นนี้ได้เลย
    (ถ้าจินตนาการเพลงธีมของอินเดียน่าโจนส์ด้วยจะเยี่ยมมาก!) 

                                                                                  @@@@@@@@@@@@@@@@@@

    Edit Log: 19 Jan 2008: ลงตอนซ้ำ
    Edit Log: 25 March 2008: แก้ไขคำผิด  ขอบคุณคุณ Star of Radiance มากเลยนะครับที่ช่วยชี้จุดให้
    Edit Log: 20 May 2008: แก้สำนวน กับคำผิด
    Edit Log: 11 July 2008; เพิ่มเติมในส่วนของเนื้อเรื่อง
    Edit Log: 19 August 2008; เพิ่มคำเปรียบเปรยอีกเล็กน้อย
    Edit Log: 25 August 2008: ชี้แจงและเพิ่มเกี่ยวกับคำถามยอดนิยมซะเลย หึหึๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×