ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างเสริมสุขภาพชีวิตกับ Doctor Chor

    ลำดับตอนที่ #5 : เอดส์ AIDS

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 54


    เอดส์ AIDS

    นายแพทย์ ช.ศรีพิชญ์ เพ็ชญไพศิษฏ์
    อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแพทย์แผนไทยประยุกต์ กองการประกอบโรคศิลป กระทรวงสาธารณสุข

    5 กค. 2554

                          การแพทย์แผนปัจจุบันทราบแน่ชัดแล้วว่าเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง  ติดต่อกันโดยทางเยื่อเมือก  และบาดแผลต่างๆ  โดยเชื้อไวรัสเหล่านี้จะอยู่ในสิ่งคัดหลั่ง น้ำเลือด และน้ำเหลือง ถ้าเชื้อไวรัสเหล่านี้โดนความแห้งความร้อน  หรือโดนน้ำยาฆ่าเชื้อ  ไม่นานก็ตาย  ถ้าระวังตัวก็สามารถอยู่ร่วมกับผู้ป่วยที่มีเชื้อเอดส์ได้อย่างใกล้ชิด

                            เชื้อไวรัสเอดส์เข้าไปในร่างกายจำนวนมากพอ  ก็จะไปโจมตีระบบภูมิต้านของร่างกาย  การสร้างเม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ป้องกันภัยของร่างกายจะลดลงไปเรื่อยๆจนทำให้มีเชื้อโรคต่างๆเข้าไปรุกรานเช่น  วัณโรค  เชื้อราที่ลิ้น  โรคผิวหนังพุพอง  โรคท้องเดินเรื้อรัง  จนถึงเป็นมะเร็งที่เคยพบเฉพาะในผู้สูงอายุก็มาพบในคนหนุ่มสาวที่มีเชื้อเอดส์

                            ขณะนี้การแพทย์แผนปัจจุบันใช้อยู่  ก็คือให้ยาป้องกันโรคแทรกซ้อนในคนที่รับเชื้อไปแล้วแต่ยังไม่มีอาการ  คนกลุ่มนี้มีเกือบ 2 ล้านคนในเมืองไทย  ถ้าตรวจเลือดว่ามีเชื้อเอดส์  แล้วดูแลตนเองให้สุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ  กินยาป้องกันโรคแทรก  ไม่รับชื้อไวรัสเพิ่ม  ก็จะชะลอการเป็นโรคเอดส์เต็มขั้นไปได้อีกนาน  ผู้มีเชื้อเอดส์อยู่แล้วมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นเอดส์ถึงแม้จะเป็นคู่ชีวิตก็ต้องใช้ถุงยางทุกครั้ง  เพื่อป้องกันการรับเชื้อเพิ่มเต็มทั้งสองฝ่าย

                            ส่วนผู้ที่เป็นโรคเอดส์เต็มขั้นมีเม็ดเลือดขาวต่ำมากก็ต้องใช้ยาระงับการแบ่งตัวของไวรัส  ซึ่งต้องใช้ยาหลายชนิดผสมกัน  มีการดื้อยา  แพ้ยาต้องหายาใหม่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา  เพราะไวรัสเอดส์ไม่ใช่แบคทีเรียที่มีรูปลักษณะผนังเซลล์ที่แน่นอน  ดังนั้นยาต่างๆและเม็ดเลือดขาวก็ไปโจมตีผนังเซลล์ได้ยาก  โจมตีสักพักเชื้อไวรัสก็จะเปลี่ยนรูปร่างใหม่ได้  ยาที่ใช้อยู่ก็จะไม่ได้ผลหรือที่เราเรียกกันว่าดื้อยา  เม็ดเลือดขาวที่ร่างกายสร้างออกมาเพื่อกินไวรัสชนิดนี้ก็จะหาตัวไม่พบเพราะรูปร่างเปลี่ยนไปแล้ว

                            ถ้ามีวิธีกระตุ้นภูมิต้านทานร่างกายที่จำเพาะต่อเชื้อไวรัสเอดส์ได้สำเร็จ จึงจะรักษาโรคนี้ได้         การวิจัย ”วัคซีน” ก็ทำได้ยากมากเช่นกัน เพราะว่าวัคซีนคือการเอาเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัสมาทำให้ตาย หรือทำให้อ่อนกำลังลง หรือเอามาบดให้ผนังเซลล์แตก แล้วฉีดเข้าไปให้กับคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อให้เกิดภูมิต้านทานเฉพาะเชื้อนั้นๆขึ้นมา ถ้าเกิดไปรับเชื้อเข้าก็จะมีเม็ดเลือดขาวชนิดจำเพาะมากินแบคทีเรียหรือไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย   ”ซีรุ่ม” คือการที่เอาเลือดที่มีภูมิต้านทานนั้นฉีดให้กับผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยโดนงูกัดก็จะมีซีรุ่มจากเลือดม้า ที่ทำขึ้นโดยเอาพิษงูที่รีดมาได้จำนวนน้อยๆ ฉีดให้กับม้าเท่าที่ม้าจะทนได้ แล้วค่อยๆเพิ่มขนาดขึ้นจนเลือดม้ามีสารภูมิต้านทานต่อพิษงูชนิดนั้นๆมากตามต้องการ  ก็จะดูดเลือดม้ามาปั่นซีรุ่ม(ส่วนที่เป็นน้ำเหลือง) เอามาเป็นยาฉีดแก้พิษงูชนิดนั้น  ขณะที่ทำวัคซีนเอดส์ได้ยาก เพราะไวรัสเอดส์ไม่มีลักษณะผนังเซลล์ที่แน่นอน สามารถแปรเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ยังไม่สามารถสรุปงานวิจัยวัคซีนออกมาได้

                            ขณะนี้ทางการแพทย์แผนไทยและทางเลือกจึงหาทางให้ผู้ป่วยที่มีเชื้อเอดส์ดูแลตนเองทั้งกายและใจ ให้ออกกำลังกายจะได้มีการสร้างสารเอนดอร์ฟีน นั่งสมาธิคลายเครียดให้ใจสงบเพราะผู้ป่วยที่รู้ว่าตนเองมีเชื้อเอดส์ก็เหมือนกับรู้ว่าเป็นโรคมะเร็ง แถมผู้ใกล้ชิดยังรังเกียจเพราะสามารถติดต่อไปยังผู้อื่นได้ ไม่เหมือนผู้ป่วยเป็นมะเร็ง รู้แน่ว่าอีกใม่นานตัวจะต้องตาย  แล้วไม่ได้ตายดีด้วย เจ็บไข้ได้ป่วยทรมานไปหลายปีเหมือนกัน  ทุกข์กันหมดทั้งครอบครัว

                            ขณะนี้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อเอดส์ในหลอดทดลองจำนวนมาก เช่น มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก ซึ่งรวมกันแล้วหมอแผนไทยจะเรียกว่าตรีผลา  คณะแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์กับคณะวิทยาศาสตร์ ร่วมกันวิจัยว่าสามารถฆ่าเซื้อเอดส์ในหลอดทดลองได้ และในหนูได้ คงเริ่มทดลองในคนต่อไป ซึ่งผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้เข้าอยู่ในตำรายาแผนโบราณทั่วไปอยู่แล้ว แต่ต้องใช้ปริมาณสูงในการฆ่าเชื้อเอดส์ จึงต้องดูว่าถ้าคนกินแล้วยังมีผลในการฆ่าเชื้อเอดส์เหมือนในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลองหรือไม่

                            นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรต่าง ๆ เช่น แมงลักคา ใบคาวตอง ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อเอดส์ หรือใช้สมุนไพรที่มีผลกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายให้ดีขึ้น เช่น ตำรับยาเนเจอร์เพล็ก ขององค์การเภสัชกรรมที่ผ่านการวิจัยแล้วทำเป็นแคปซูล ที่มีตัวยาหลักๆ เช่น ตะโกนา พิกุล งวงตาล คัดเค้า นำมาหมักสกัดกรรมวิธีแล้วทำให้เป็นผงบรรจุในแคปซูล

    จะเสริมภูมิต้านทานของร่างกายให้ดีขึ้น

                            ให้ดื่มน้ำที่บริสุทธิ์ถ้าหาน้ำที่มีคลัสเตอร์เล็ก เช่น น้ำจากหิมะละลายใหม่ ๆ หรือน้ำที่ผ่านกระแสแม่เหล็ก หรือ น้ำพระพุทธมนต์ดื่มประจำยิ่งดี แต่อย่าให้มากเกินไปแค่ปัสสาวะบ่อย ๆ และใสก็พอแล้ว อย่าตั้งหน้าตั้งตาดื่มน้ำมากจนเกินกำลังของไตในการขับออก

     

    คนที่มีเชื้อไวรัสเอดส์ก็จะดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×