ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างเสริมสุขภาพชีวิตกับ Doctor Chor

    ลำดับตอนที่ #4 : มะเร็งต่อมลูกหมาก

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 54


    มะเร็งต่อมลูกหมาก

    นายแพทย์ ช.ศรีพิชญ์ เพ็ชญไพศิษฏ์ - 1 กค. 2554
    อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแพทย์แผนไทยประยุกต์ กองการประกอบโรคศิลป กระทรวงสาธารณสุข

    มักจะพบในชายวัย 50 ปีขึ้นไป เมื่อเซลล์ต่อมลูกหมากเริ่มแปรเปลี่ยนไปกลายเป็นเซลล์มะเร็ง  มะเร็งต่อมลูกหมากจะเติบโตค่อนข้างช้ากว่ามะเร็งชนิดอื่น และใช้เวลาลุกลามออกภายนอกแคปซูลกมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ถ้าตรวจพบในผู้ที่อายุเกิน 80 ปี แพทย์อาจแนะนำให้รักษาแบบประคับประคองตามอาการดีกว่าผ่าตัดเอาออก เพราะส่วนใหญ่จะเสียชีวิตด้วยโรคอื่นโดยที่มะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่ลุกลาม

    เมื่อผู้ชายมีอาการปัสสาวะไม่สะดวก  ต้องเบ่งสักหน่อยกว่าจะบังคับให้ไหลออกมา ปัสสาวะไม่ค่อยพุ่งเหมือนเดิม ก็ควรจะไปพบแพทย์ ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่ต้องพบแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ให้แพทย์ครอบครัวตรวจก่อนก็ได้ แพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดอาจดูค่าทั่ว ๆ ไปด้วย และตัวสำคัญคือ PSA ว่าสูงเกินปกติหรือไม่  ถ้าสูงเกินก็อาจบ่งว่ามีการอักเสบของต่อมลูกหมาก หรือต่อมลูกหมากโตตามวัย BPH หรือมะเร็งของต่อมลูกหมากก็ได้แพทย์อาจตรวจดูลักษณะของต่อมลูกหมากทางทวารหนัก ว่านุ่มธรรมดาหรือมีตุ่มแข็งขรุขระ  อาจให้ยาแก้อักเสบกินสักระยะหนึ่ง และนัดตรวจเลือดดู PSA ซ้ำ ถ้ายังสูงขึ้นจะเจาะเลือดดูค่า Free PSA อีกตัวหนึ่งเพื่อให้การวินิจฉัยถูกต้องมากขึ้น

    ถ้าตรวจเลือด PSA และ Free PSA แล้วสงสัยไปทางมะเร็งแน่ ๆ แพทย์จะทำ Ultrasound และเจาะชิ้นเนื้อบริเวณที่สงสัยไปตรวจให้แน่นอน  ถึงแม้จะเจาะถึง20 จุดก็ตามบางครั้งก็ไม่ตรงจุดที่เป็นมะเร็งได้ บางครั้งถ้ายังสงสัยก็อาจต้องเจาะซ้ำ ถ้าผลเป็นมะเร็งก็ต้องรีบผ่าตัดเอาออกทันที  ดังนั้นก่อนเจาะชิ้นเนื้อต้องตกลงกับแพทย์ผู้รักษาก่อนว่าเจาะแล้วถ้าเป็นมะเร็ง ต้องรีบผ่าให้ทันทีนะครับ

    ปัจจุบันมีวิธีเอาสารกัมมันตภาพรังสีไปฝังยังจุดที่เป็นเนื้อร้ายโดยตรง อาจมีหลายจุด ได้ผลพอสมควรทีเดียวแต่ค่าให้จ่ายยังสูงอยู่มาก        แต่ไม่ว่าจะรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันเช่นการผ่าตัด การฝังสารกัมมันตรังสี การใช้ฮอร์โมนและยาอื่น ๆ ก็ตาม ควรจะใช้วิธีอื่น ๆ ร่วมไปด้วย อย่างเช่น

    1.อาหารเสริม - การกินอาหารเสริมที่ไปเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิต้านทานจากสารสะกัดสมุนไพรที่ผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว  รวมทั้งสมุนไพรในครัวไทยทุกชนิด      เช่น     สารสีแดงไลโคพีนในมะเขือเทศ  มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้สูง และยังช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ        สารซีเรเนี่ยม   นอกจากช่วยในการเผาผลาญน้ำตาล ยังพบว่าอาจทำให้มะเร็งต่อมลูกหมากหยุดซะงักไม่เจริญต่อ             สาร Melatonin   ซึ่งต่อมใต้สมองพิทูอิตารี่สร้าง  ช่วยให้หลับสบาย มีมากในเด็ก และลดลงเรื่อย ๆในผู้ใหญ่ พบว่าช่วยยับยั้งกลุ่มมะเร็งด้วย มีทั้งชนิดกลืน ชนิดค่อย ๆ ละลายในลำไส้ ชนิดอมใต้ลิ้น ไม่มีขายในเมืองไทยแต่ฝากคนซื้อได้จากร้านที่ขายวิตามินอาหารเสริมในอเมริกา อังกฤษ ออสเตเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่น ๆ ได้ทั่วโลกโดย ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์

           เมลาโทนิน นี้กินช่วงแรกอาจมีอาการข้างเคียง ฝันร้าย หงุดหงิด เมาค้าง น้ำหนักจะลดไป เอวจะหายไปส่วนหนึ่ง ถ้าหาชนิดอมใต้ลิ้นก่อนนอนได้จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าชนิดอื่นๆ   มีแพทย์เมืองไทยหลายท่านแนะนำให้นักธุรกิจกินทุกคืนเพื่อให้หลับสบาย ตื่นมาสดชื่น  อาจใช้เป็นตัวปรับไม่ให้เกิดเจทแล็กเวลาเดินทางไกลที่มีเวลาต่างกันหลายชั่วโมง

           2.การทำสมาธิ  - ปรับภูมิต้านทานร่างกายทั้งระบบ ในการสร้างเม็ดลือดขาวชนิด Tumor Necrosis ในไขกระดูก ม้าม ตับ (ระบบEndothelial) ให้มีมากขึ้นด้วย การนั่งสมาธิ หรือ ออกกำลังกายแบบมีสมาธิ อย่างต่อเนื่องกันเป็นเวลาเกินกว่า 30 นาทีต่อครั้งขึ้นไป ได้ถึง 45 นาทียิ่งดี  ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบมีสมาธิ   เช่น   รำมวยจีน, รำกระบอง, เต้นแอร์โรบิค       ทั้งนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้นหลั่งสารเอนดอร์ฟิน และ ช่วยกระตุ้นในการสร้างเม็ดเลือดขาวที่กินเซลล์มะเร็งต่าง ๆ ให้ออกมามากขึ้น


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×