คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ก้าวที่ห้า,,
Chapter5
อากาศต้นเดือนมีนาคมที่ค่อนข้างอุ่นขึ้นมาก ทำให้คนที่ยังนอนขี้เซาอยู่บนเตียงสะลึมสะลือลุกขึ้นมา เต๋าลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เหยียดแขนยืดขาอยู่สองสามนาทีก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นที่เขาเหลือบเห็นสิ่งๆหนึ่งที่กองอยู่บนโต๊ะ แล้วเจ้าของผิวขาวสว่างก็ยิ้มเอ๋อให้ตัวเอง
วันนี้จะเอาหนังที่ซื้อมาไปดูกับคชา ^^
หลังจากที่อาบน้ำแต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จ ชายหนุ่มก็เดินลงมาหาข้าวเช้าทานที่ชั้นล่าง หยิบดีวีดีที่ซื้อมาติดมือมาด้วยเลย จะได้ไม่เสียเวลา เต๋าจัดการกับมื้อเช้าอย่างรวดเร็วและระหว่างที่กำลังยืนกินลมชมวิว ย่อยอาหารอยู่นั้น เขาก็เหมือนเห็นหลังคชาผ่านไปแวบๆ
คนตัวสูงเอียงคอผ่านหลังเสาออกไป คชาจริงๆด้วย ออกไปไหนมานะ
คิดแล้วก็กำลังจะเดินเข้าไปทัก กะว่าจะได้เดินขึ้นไปพร้อมกันพอดี หากไม่มีใครบางคนที่มาตัดหน้าเขาไปก่อน เป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง มีหนวดเคราเบาๆบนใบหน้าและที่ดูโดดเด่นคือผมยาวที่มัดรวบขึ้นไปคล้ายผู้หญิง คนๆนั้นเดินคู่คุยหยอกล้อกับคชาไปจนถึงลิฟต์และเข้าไปในลิฟต์ด้วยกัน
เต๋ามองตามไปด้วยความสงสัย ใครวะ รู้จักคชาได้ไง แถมยังดูสนิทกันซะขนาดนั้น
คิดแล้วก็ไม่รีรอกดลิฟต์ตามขึ้นไป แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเดินไปถึงหน้าประตูห้องคชาแล้ว แต่มือมันก็ไม่อาจขยับไปกดกริ่งได้ ถ้าเจอคชาแล้วจะถามยังไงล่ะ ... ไอ้หมอนั่นเป็นใคร ...งั้นเหรอ
เอาวะ !!
ดิ้งด่อง ~
แอ๊ด....
เต๋า >> (- -)(_ _)(- -)(o.O)(O^O)(>.,<)
“มีธุระอะไรหรือครับ” ถ้าจะบอกว่าคชาออกมาเปิดประตูรับเขาก็บาปแย่สินะ ทำไมไอ้หมอนั่นมันถึงอยู่ที่นี่ได้วะเนี่ย
ผู้ชายคนที่เขาเห็นเดินอยู่กับคชาที่ชั้นล่าง กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วส่งสายตาตั้งคำถามมาให้ คนที่อุตส่าห์ทำใจกล้ากดกริ่งเมื่อครู่แทบจะลมจับอยู่หน้าประตู เต๋าทำอะไรไม่ถูก จะพูดลิ้นก็พันกันจนเริ่มทำให้คนที่รออยู่ชักรำคาญ
“ตกลง มีอะไรรึเปล่าคุณ”
“อ่ะ...เอ่อ ทะ...ทำไมคุณมาเปิดประตู”
ถามอะไรออกไปวะ
“เอ้า...ก็ผมอยู่ห้องนี้น่ะสิคุณ นี่คุณต้องการอะไรเนี่ย” ชายหนุ่มผมยาวยกมือขึ้นเท้าเอวข้างหนึ่งแล้วเลิกคิ้วสูง จนทำให้เต๋าชักไม่แน่ใจ มาถูกห้องหรือเปล่าเนี่ย แอบชะโงกกลับไปดูหมายเลขห้องก็พบว่าถูกแล้ว แต่ไหงผู้ชายคนนี้ถึงได้อ้างสิทธิ์ของตัวเองชัดเจนอย่างนี้นะ เขาก็มาห้องคชาอยู่หลายครั้งทำไมไม่เคยเจอเลย
“ผม....” ไม่ทันที่เต๋าจะได้พูด ร่างเล็กๆของใครอีกคนก็ปรากฏที่ด้านหลังของชายหนุ่มผมยาว คชาโผล่ออกมาแค่หัวกลมๆแล้วมองผ่านแขนของคนที่ยืนเท้าเอวพิงกรอบประตูออกมา ตาแป๋วๆมองที่แขกผู้มาเยือนแล้วแย้มยิ้ม
“คชา” เต๋าเริ่มใจชื้นเมื่อได้เห็นหน้าคนตัวเล็ก เสียงที่เรียกคชาเหมือนเวลาที่กำลังถูกแม่ดุ แล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อที่แสนใจดี ชายหนุ่มผมยาวได้ยินที่เต๋าเรียกคนข้างหลังตนก็รู้สึกแปลกใจ เบี่ยงตัวให้คชาเดินออกมายืนข้างๆ
‘มีอะไร’ ปากเรียวขยับพูดโดยไม่มีเสียง แน่นอนที่เต๋ากลับอ่านปากคชาไม่ออกอีกครั้ง จนชายหนุ่มที่ยืนข้างๆต้องพูดแปลให้เมื่อเห็นความพยายามที่ไม่เห็นผลของเต๋า
“คชาถามว่ามีอะไร” ดวงตาคมของคนผิวขาวจัดเหลือกตามองล่ามจำเป็นประมาณว่าไม่ได้ขอให้แปลให้เสียหน่อย ก่อนจะหันมายิ้มใส่คชาแทน
“ตั้งใจจะเอาหนังมาดูกับคชา” ยกถุงดีวีดีขึ้นมาประกอบ “แต่ถ้ามีแขกก็ไม่เป็นไร ไว้วันหลังก็ได้” ประโยคหลังนี้หันไปมอง’แขก’ในสายตาของเขาแล้วเลิกคิ้วใส่
คชายื่นมือไปรับถุงดีวีดีนั้นมาดู ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เต๋าแล้วกวักมือเรียกให้เขามาข้างในเยิบๆ คนตัวใหญ่กว่าฉีกยิ้มกว้างแล้วเดินตามคชาเข้าไป แอบเดินเฉียดไหล่ของคนผมยาวนิดหน่อย
“อะไรของเขาวะ เหอะ ๆ” คนที่ยังคงยืนอยู่ที่ประตูมองตามร่างสูงซึ่งเดินตามคชาเข้าไปในห้องแล้วส่ายหัวเบาๆ แอบแปลกใจอยู่ว่าคชาจะรู้จักมักจี่กับคนแบบนี้ได้ยังไง ดูๆไปคงไม่ใช่เพื่อนที่มหา’ลัยหรอก หน้าแก่กว่ายังงี้ =[]=
‘หิวมั๊ย กินข้าวเช้ามารึยัง’ นั่นคือกระดาษแผ่นแรกที่คชาส่งมาให้เต๋าหลังจากที่ลงหลักปักฐานที่โซฟาเรียบร้อย
“เรียบร้อยแล้วล่ะ คชาล่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกๆ วางถุงดีวีดีลงบนโต๊ะแล้วหยิบแผ่นออกมาวางไว้ข้างนอก วันนี้เขาว่างอยู่แล้ว นั่งดูหนังที่เต๋าซื้อมาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
‘คชากำลังลองอบคุ้กกี้ดู เต๋าอยากกินมั๊ย’
“ฉันขอนอนห้องพิเศษนะ ถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลน่ะ” แอบแซวคชานิดหน่อยแต่ก็ทำให้คนถูกแซวทำแก้มป่อง ปากเรียวขยับมุบมิบแล้วเบะมองเต๋า
“ล้อเล่นน่ะ...คชา” มือใหญ่เผลอเอื้อมไปหวังจะขยี้หัวอีกฝ่ายแต่ก็มานึกได้ว่าจะถามอะไรบางอย่างพอดีกับที่วางมือไปบนหัวกลมนั่นพอดี ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า ว่าภาพคชาหดคอแล้วเหลือบตาขึ้นมองเขาช่างเหมือนกับภาพลูกหมาตัวน้อยเสียจริง จนสุดท้ายเต๋าก็รู้สึกหมันเขี้ยวจึงละเลงมือจนผมดำนั้นยุ่งฟูขึ้นมา
“ว่าแต่...คนๆนั้นน่ะใคร เพื่อนคชาหรอ” เมื่อเต๋ามองไปรอบๆแล้วไม่เห็นบุคคลที่สามเมื่อครู่นี้ เลยตัดสินใจถามคชาว่าเขาคนนั้นเป็นใครแต่ก็เหมือนคำพูดติดปากที่ว่า ‘ตายยาก’ เสียงของผู้ชายคนนั้นกลับดังแทรกขัดจังหวะเขาเข้ามา
“คชา คุ้กกี้ที่อบไว้ได้แล้ว” คชาหันขวับไปตามเสียงเรียก ก่อนจะรีบเขียนขยุกขยิกแล้วส่งกระดาษมาให้เต๋า จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ห้องครัว เต๋าหลังจากที่ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังก็มองกระดาษในมือแล้วยิ่งขมวดคิ้วแน่น
‘พี่อ้น’
ชื่อน่ะไม่ได้อยากรู้...ที่อยากรู้คือหมอนั่นเป็นใครต่างหาก...
.............................
..................
.............
......
..
โอเคๆ ก็แค่อยากรู้ว่าเป็นอะไรกับคชา พอใจรึยัง ???
“คชา...ผู้ชายคนนั้น ใครน่ะ เพื่อนเราหรอ” ชายหนุ่มผมยาว นามว่า อ้น พูดขึ้นขณะที่กำลังช่วยคชาหยิบคุ้กกี้ใส่โหล คนที่กำลังบรรจงเรียงคุ้กกี้เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมาทำตาโตแล้วส่ายหัวอย่างเคอะเขิน
“อย่ามามีความลับสิ”
‘เต๋าเป็นเพื่อน’ ปากเรียวขยับช้าๆ แล้วก้มลงไปจัดคุ้กกี้ต่อ
“เพื่อนอะไรหน้าแก่กว่าคชาตั้งเยอะ แก่กว่าพี่รึเปล่าก็ไม่รู้”
‘พี่อ้นแก่กว่า ;P’
แนะ...มาทำแลบล้งแลบลิ้นใส่อีกต่างหาก เด็กคนนี้
“ไปรู้จักเขาได้ไง” ชายหนุ่มตัวใหญ่กว่าเริ่มตั้งคำถาม ปกติเขาจะไม่ใช่ฝ่ายถามก่อน แต่จะเป็นคชาเองที่จะเริ่มพูดก่อนเสมอ แต่ทำไมคราวนี้คนตัวเล็กถึงเอาแต่เงียบก็ไม่รู้
‘เต๋าเป็นเพื่อนพี่ไทด์ แล้วเขาก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน คชาเลยรู้จัก’ คนตัวเล็กตอบคำถามแล้วปิดฝาโหลคุ้กกี้เพื่อจะได้เก็บไว้กินเล่นเวลาดูหนัง พร้อมกับจัดคุ้กกี้ในจานสำหรับหนังวันนี้
อ้นหรี่ตาสบตาเรียวอย่างจับผิด จนคนที่พยายามเพ่งตาใส่ต้องยอมแพ้ “พี่ไม่เคยเห็นคชาสนิทกับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนแบบนี้มาก่อน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
เมื่อโดนจ้องอยู่ คนตัวเล็กเลยได้แต่ส่ายหน้าแรงๆ แล้วยกจานสิ่งหนีออกจากครัวไป ทิ้งให้อ้นยืนเท้าเอว ขมวดคิ้วอย่างสงสัยอีกหน
แปลก !!
“แน่ใจว่าปลอดภัยนะ” เต๋าถามหยั่งเชิงหลังจากที่หยิบคุ้กกี้ที่คชายื่นจนจะกระแทกจมูกเขาขึ้นมา คนทำฟังแล้วก็ยู่หน้าแล้วดึงคุ้กกี้จากมือเต๋ามากัดเข้าปากเสียเอง
ชอบแซวดีนัก ไม่ต้องกินซะเลย คชาไม่ง้อหรอก
“เฮ้ย นั่นชิ้นของฉันนะ” เต๋าแกล้งโวยวายแล้วถือวิสาสะจับมือเล็กที่ยังถือคุ้กกี้ที่เหลืออยู่ค่อนชิ้นป้อนใส่ปากตัวเอง คชาเบิกตากว้าง ไม่ได้ตกใจที่เต๋ากินคุ้กกี้ต่อจากเขาหรอกแต่หากเป็นเมื่อกี้นี้ที่นิ้วของเขาเผลอไปโดนริมฝีปากของอีกฝ่าย
มือของเต๋ายังคงจับมือคชาอยู่ที่ใกล้ริมฝีปากของตน อาจเป็นเพราะกำลังตั้งใจเคี้ยวคุ้กกี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ทำไมไม่ทันสังเกตผู้มาใหม่ที่ส่งเสียงกระแอมไอจนเป็นคชาที่ต้องรีบดึงมือตัวเองออก
“นั่งด้วยคน” อ้นแทรกตัวลงนั่งอีกฝั่งข้างคชา เต๋าเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม อีกฝ่ายเองก็สบตาเขาเช่นกันพลันทำให้คนผิวขาวรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าใดนัก จะคุยจะแกล้งอะไรคชาก็ไม่ได้เพราะมีคนๆนั้นอยู่ เต๋ายังไม่รู้ว่าอ้นเป็นอะไรกับคชา แต่ทำแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ...
กอ ขอ คอ รึเปล่า,,
เพราะโซฟาที่ไม่ได้กว้างมากนักจึงทำให้ผู้ชายสามคนต้องนั่งค่อนข้างชิดกัน หนังที่เต๋าซื้อมาถูกเปิดมาได้สักพัก พร้อมๆกับคุ้กกี้ที่ค่อยๆลดลงโดยคนที่พูดอยู่เสมอว่ากลัวเข้าโรงพยาบาลเพราะคุ้กกี้อย่างเต๋า ชายหนุ่มหยิบคุ้กกี้ชิ้นสุดท้ายใส่ปากตัวเองอย่างเพลิดเพลินจนเผลอกวาดมือหาคุ้กกี้ชิ้นต่อไปรอบๆจานที่ว่างเปล่าจนคชาถึงกับหัวเราะ
‘มีอีกนะ เต๋าเอาอีกมั๊ย’
เต๋าอ่านข้อความแล้วส่ายหน้า จะว่าไปก็เริ่มอิ่มแล้วล่ะ ร่างสูงเอื้อมหยิบปากกาและกระดาษมาลองเขียนบ้าง แตะสีข้างคนที่นั่งตาแป๋วจ้องจอทีวีอย่างไม่ละสายตา แล้ววางกระดาษแผ่นน้อยที่ตักของอีกฝ่าย คชาหันมามองหน้าเต๋าแล้วก้มลงมองบนตักตัวเอง แอบอมยิ้มเบาๆแล้วหันไปดูทีวีต่อ ทั้งที่ในมือยังกำกระดาษแผ่นนั้นไว้อยู่
‘อร่อย...ถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆก็ไม่เป็นไร’
หลังจากผ่านไปเกือบสองชั่วโมง รายชื่อนักแสดงก็ค่อยๆปรากฏขึ้น คชายืดแขนบิดไปบิดมาคลายความเมื่อย พอๆกับเต๋าที่แกล้งทำเป็นเอียงไปทับคนตัวเล็กที่ต้องเปลี่ยนจากบิดตัวมาเป็นผลักตัวใหญ่ๆของเต๋าออก อ้นหันมามองคนสองคนที่หยอกล้อกันแล้วรู้สึกแปลกๆอีกครั้ง
ผู้ชายคนนี้มันต้องไม่ธรรมดาจริงๆ คชาเคยเล่นหัวกับคนอื่นที่ไหนกันล่ะ
“คชา เดี๋ยวพี่จะออกไปเดินซื้อของข้างนอก ไปด้วยกันมั๊ย” เห็นว่าแถวนี้มีห้องหับขายของอยู่มากมายจนเป็นแหล่งช้อปปิ้งดีๆ อ้นเลยอยากออกไปซื้ออะไรเสียหน่อยเลยถามคชาดู ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบตกลงมาอย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่กำลังจะเดินไปขึ้นลิฟต์ ชายหนุ่มผมยาวก็หยุดเดินแล้วหันไปมองคนที่เดินตามหลังมาอย่างตั้งคำถาม เต๋าหยุดชะงักแล้วเลิกคิ้วเหมือนเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร
“ผม...ก็อยากออกไปซื้อของเหมือนกัน” อ้นหัวเราะหึในลำคอแล้วหันกลับเดินต่อไป โดยมีคชาเดินอยู่ข้างๆและเต๋าเดินตามหลังไปติดๆ
ซื้อขงซื้อของอะไรกันล่ะ จะปล่อยให้ไปกันสองคนได้ไง เป็นใครก็ไม่รู้
ชายหนุ่มผิวขาวเดินตามอ้นและคชาไปเรื่อยๆ คนผมยาวแวะเข้าร้านนู้นทีร้านนี้ทีจนเขาชักเบื่อ แม้คชาจะหันมากวักมือเรียกให้เขาตามเข้าไป แต่บางร้านที่ดูกุ๊บกิ๊บเกินไปเขาก็ขอรอยู่ข้างนอกจะดีกว่า
เดินไปเดินมาอีกสักพัก คชาก็เหมือนจะบอกอ้นว่าเริ่มหิวข้าวกลางวันแล้ว อันที่จริงมันก็เลยเที่ยงมาพอสมควร อ้นเลยตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเดินหาร้านอาหารแทน ระหว่างนั้นนั่นเอง...
“อ้าวเฮ้ย คชา!!” เสียงที่คุ้นเคยแต่ก็ไม่อยากจะได้ยินดังข้างหลังเต๋า ชายหนุ่มไม่กล้าหันไปเพราะรู้ว่าเสียงนั่นเป็นของใคร แต่กลับเป็นเจ้าตัวเองนั่นแหล่ะที่วิ่งตรงเข้ามา
เจ้าเฟรม!! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย
“พี่อ้น หวัดดีฮะ”
แหม่ รู้จักกันด้วย
“ว่าไงเรา เตี้ยลงป่ะเนี่ย” เฟรมทำตาโตแล้วหัวเราะแห้งๆตามนิสัยก่อนจะหันไปขยี้หัวคชาสองสามทีเป็นการทักทาย
“มาเดินเล่นกันหรอ ผมก็เหมือนกัน”
อือ เห็นแล้วล่ะ
เต๋ามองคนสามคนที่ยืนคุยกันอยู่อย่างหน่ายใจ ทั้งอ้น ทั้งเฟรม เอาเข้าไป
“พวกพี่กำลังหาข้าวกลางวันกินกัน ไปด้วยกันมั๊ย”
เฮ้ย เดี๋ยวสิ
“โอเคเลยพี่ ไปกัน ชา!!” เฟรมพยักหน้ารับโดยไม่คิดแล้วก็เอื้อมมือพาดไหล่เล็กของคชาแล้วเดินคู่กันไป เต๋ามองแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ เมื่อกี้ก็ กอขอคอ แล้วแบบนี้มันเรียกว่าอะไร...
คู่แข่งงั้นหรอ
หลังจากที่เลือกร้านและสั่งอาหารกันไปแล้ว อ้นก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเฟรมก็ตามไปด้วย เต๋ามองคนสองคนที่เดินจากไปแล้วถอนหายใจโล่งอก อย่างน้อยก็ได้อยู่กันสองคนสักที
เดี๋ยวสิ.........อา ใช่ ~
“คชา ป่ะ” ถือโอกาสคว้ามือบางมากุมไว้แล้วดึงให้ยืนขึ้น คนตัวเล็กทำหน้าเลิ่กลั่กราวกับถามว่าจะไปไหน เต๋ายิ้มกรุ่มกริ่มอย่างมีแผนการ ก่อนจะดึงมือคชาให้เดินออกจากร้านไปด้วยกัน ก็อยากเดินกับคชาสองคนบ้าง ไล่พวกนั้นไปไม่ได้ ก็หนีออกมาเองเลย ไม่เห็นจะยากอะไร
‘หิวแล้ว’ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กนี่พกกระดาษปากกาติดตัวหรืออย่างไร ถึงได้มีเขียนมาให้เขาได้แบบนี้ เต๋าอ่านแล้วหันไปมองคนที่ส่งมา คชาใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ลูบท้องป้อยๆจนเต๋าถึง
นึกขึ้นได้ว่าคชาหิว เขาจึงเลือกร้านที่พอรู้จักแล้วเดินเข้าไป
‘หนีมาแบบนี้ เดี๋ยวพี่อ้นกับเฟรมตกใจแย่’
“ไม่เป็นไรหรอก ก็ฉันอยากเดินกับคชาสองคนไม่ได้รึไง” สิ้นประโยคของเต๋า ทำให้คนตัวเล็กเสเบือนหน้าหันไปทางอื่น ไม่ยอมตอบหรือพูดอะไรต่อจนอาหารถูกนำมาเสิร์ฟ
พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ >.,<
ทางด้านอ้นกับเฟรมที่เดินกลับมา เมื่อเห็นว่าโต๊ะที่จองไว้ว่างเปล่า เจ้าเฟรมก็ร้องเสียงหลงทึกทักว่าคชาหายตัวไป คงต้องโดนจับไปแน่ๆ
“ก็ว่างั้นแหล่ะ คนร้ายจอมเจ้าเล่ห์ด้วยนะ” อ้นพูดอย่างรู้ทัน ก็เล่นหายไปด้วยกันทั้งคู่อย่างนี้บวกกับท่าทีของคนๆนั้นที่มีต่อคชาแล้ว พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าแผนการของหมอนั่นชัวร์ๆ
“จะไปตามหามั๊ยอ่ะ” เฟรมที่เหมือนยังไม่รู้เรื่องอะไรถามออกมา ขณะที่อ้นส่ายหน้าแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้
“ปล่อยเขาไปเถอะ กินข้าวของเรากันดีกว่า”
หลังจากที่กลับจากเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เต๋าก็อาสาเดินขึ้นมาส่งคชาที่ห้อง และพบว่าอ้นนั้นกลับมารออยู่แล้ว คนผมยาวกอดอกนั่งบนพนักพิงโซฟาแล้วยักคิ้วใส่คนที่เดินตามคชาเข้ามาในห้อง
“กว่าจะกลับนะ” ไม่รู้ว่าพูดกับใครกันแน่ คชาแกล้งทำเป็นเต้นโยกหัวซ้ายขวาไปมาแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว ส่วนเต๋าก็ยืนประจันหน้าอยู่กับอ้น รู้สึกเหมือนคิ้วกระตุกนิดๆ
“ลักพาตัวคชาไปเที่ยวมา สนุกมั๊ยล่ะครับ” เป็นคนผมยาวที่เปิดประเด็นขึ้นก่อน ก่อนจะเปลี่ยนท่ายืนเป็นเท้าแขนกับพนักพิงโซฟาแทน
“ก็ดีครับ เป็นส่วนตัวดี” เต๋าไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แต่ท่าทางแบบนี้ หน้าตากระหยิ่มยิ้มย่องแบบนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเขาจะยอมแพ้ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ มาถึงจุดนี้แล้วห้ามถอยเด็ดขาด
“ไม่รู้ว่าคุณรู้จักคชานานแค่ไหน แต่ผมรู้จักเขาดี...ผม....” ไม่ทันที่อ้นจะพูดจบคนผิวขาวก็แทรกขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ
“ผมก็รู้จักเขามากพอสมควร ทำไมหรือครับ” คนฟังเลิกคิ้วแล้วหัวเราะลั่นจนไม่กลัวว่าคชาจะได้ยินแล้วเดินออกมา อดนึกขำในตัวของเต๋าไม่ได้ ทั้งท่าทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน คำพูดคำจาและสายตาที่มองเขา มองปราดเดียวอ้นก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับตน คงเป็นเพราะเขาไม่ได้แนะนำตัวตั้งแต่แรกเลยดูเหมือนว่าจะทำให้ใครบางคนเข้าใจผิด
คชาเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับน้ำมะนาวเย็นๆชื่นใจสามแก้ว ทั้งคู่หันไปมองก่อนที่อ้นจะหันกลับมาแล้วยิ้มมุมปาก ชายหนุ่มผมยาวเดินเข้าไปใกล้เต๋าแล้วกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน
พอพูดจบก็ยิ้มให้อีกที ตบบ่ากว้างเบาๆแล้วเดินไปนั่งกับคชา
‘คุยอะไรกัน’ คชาถามอ้นที่รับแก้วน้ำมะนาวไปก่อนที่คนตัวใหญ่กว่าจะส่ายหน้า
“ไม่สำคัญหรอก” แล้วก็ขยี้หัวคชาเล่นอย่างสนุก
เต๋ายังคงยืนอยู่ที่เดิมและทบทวนสิ่งที่อ้นพูดเมื่อกี้ จากนั้นรอยยิ้มเอ๋อครั้งแรกของวันก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม
................................
...................
..........
“ที่จริงผมควรจะบอกคุณตั้งแต่แรก...ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคชา เพราะฉะนั้นเลิกกังวลกับผมเถอะนะครับ”
---------------------------100--------------------------
Talkin'
ครบร้อยแล้ว *O* เฉลยแล้วสินะว่าแขกรับเชิญตอนนี้เป็นใคร ฮรี่ๆๆ ใครเดาถูกเดาผิดกันบ้างเนี่ย *เงียบ*
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่เพิ่มกำลังใจให้ไรเตอร์ได้อย่างดี เหมือนฟืนชั้นเยี่ยม (ว่าไปนั่น =.,=)
ความคิดเห็น