ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    lll Short Fic lll TaoKacha {เต๋าคชา}

    ลำดับตอนที่ #2 : ลอยกระทง II (END)

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 54




                    Tao’s part

     


                    วันนี้เป็นวันลอยกระทง เพื่อนๆที่มหาลัยชวนกันไปเลี้ยงฉลอง ทั้งๆที่ผมไม่มีทางพลาดงานแบบนี้ได้แต่คราวนี้ผมขอผ่าน และแยกตัวออกมาเพื่อมุ่งตรงมายังท่าน้ำทันที


                    มันอาจจะยังไม่มืดเกินไปก็ได้ ที่แห่งนี้เลยมีแค่ผม แม่ค้าขายกระทง และเจ้าหน้าที่ๆยืนอยู่ริมท่าน้ำเท่านั้น


                    ถึงแม้ว่าผมรู้ว่าผมมาเร็วกว่าเวลา แต่ผมก็เต็มใจรออย่างไม่เบื่อหน่าย ผมนั่งมองผู้คนที่เริ่มทยอยเข้ามาเดินผ่านไปผ่านมาอยู่หน้าผม อาจจะแปลกไปก็ตรงที่ผมไม่ได้สนใจพวกเขา หากแต่กำลังมองหาใครบางคนอยู่...เขาเป็นใครบางคนที่ผมเจอในวันลอยกระทงปีที่แล้ว


                    เขาชื่อ คชา


                    ผมยังคงจำวันนั้นได้ดี มันเหมือนวันนี้ที่ผมมาถึงที่ท่าน้ำเร็วกว่าปกติ มันเป็นครั้งแรกที่ผมเปลี่ยนมาลอยกระทงที่ท่าน้ำนี้ เพราะเห็นคนอื่นๆเล่าต่อๆกันว่าที่นี่มีการแสดงพลุที่สวยงามดึงดูดใจ แต่ผมก็ไม่คิดว่าพลุมันจะน่าสนใจอีกต่อไปเมื่อมองไปเห็นคนๆหนึ่ง


                    เขายืนถือกระทงด้วยมือทั้งสองข้างแล้วมองลงไปที่ท่าน้ำ เหมือนกำลังลังเลว่าจะลงไปดีหรือไม่ลงดี จนสุดท้ายผมเห็นเขาถอนหายใจแล้วเดินกลับเข้าไปในบริเวณขายของ อาจเพราะเขามีแรงดึงดูดหรือไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม ทำให้ผมลุกขึ้นเดินตามเขาไป


                    เขาเป็นผู้ชายตัวไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่ก็ค่อนข้างตัวเล็กสำหรับผม เสื้อผ้าผมเผ้าของเขาที่ดูทะมัดทะแมงทำให้ผมแอบสับสนอยู่ในใจ แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาชนกับผมเท่านั้นแหล่ะที่ทำให้ผมแน่ใจในการคาดเดาของตนเอง บางทีเขาอาจไม่ทันสังเกตเสียด้วยซ้ำ เขาอาจไม่ทันมองหน้าผมก็เป็นได้ เขาเพียงแต่พูดขอโทษเบาๆแล้วเบี่ยงตัวหลบไป ก็แน่ล่ะ...ใครจะไปสนใจคนที่ตัวเองเดินชนกัน


                    ผมยังคงเดินตามเขาไปเรื่อยๆ แอบเฝ้ามองท่าทางการกระทำของเขาจนเหมือนเป็นโรคจิต ก็นึกขำกับตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมต้องมาแอบมองคนอื่นอย่างนี้ด้วย แต่เพราะรอยยิ้มของคนๆนั้นที่ตอบคำถามผมได้ทุกประโยค


                    มันเหมือนเวลาที่คุณเห็นใครสักคนแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย...นี่แหล่ะ


    มันเรียกว่าอะไรนะ...รักแรกพบใช่มั๊ย


                    ผมเดินตามเขาจนสุดท้ายเขาก็เดินกลับมาที่ท่าน้ำใหม่ คราวนี้ที่ผมแอบเห็นเขายกยิ้มอย่างพอใจ ผมเลยมองตามลงไปบ้าง บางทีเขาอาจจะไม่ชอบคนพลุกพล่านที่ท่าน้ำ เขาจึงรอให้คนเหลือน้อยๆแล้วค่อยกลับมาหลังจากนั้นผมก็เห็นเขาก้าวลงบันไดไป ผมรีบหันกลับไปยังโต๊ะขายกระทง มือผมสั่นขณะที่กำลังควักเงินยี่สิบบาทจ่ายค่ากระทงแล้วจ้ำอ้าวลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว


                    ผมมองหาเขา แล้วก็พบว่าผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ริมท่าน้ำ ผมเลยทำใจกล้าเดินไปนั่งข้างๆเขา แอบสังเกตท่าทางของเขาในระยะประชิด ริมฝีปากเล็กบ่นขมุบขมิบอยู่นานสองนานจนผมต้องกลั้นขำแทบหายใจไม่ออก เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะขอคมาเสร็จผมก็รีบยกกระทงขึ้นขอคมาพระแม่คงคาและขอพรไปตามโอกาส


    ขอให้ผมได้รู้จักกับเขามากกว่านี้


    ผมแปลกใจที่ขออะไรไปอย่างนั้น แต่มันจะไปสำคัญอะไรเมื่อผมลืมตาขึ้นแล้วแอบเห็นว่าเขาหันหน้ามามองผม วินาทีนั้นที่ผมรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก เขาจะจำผมได้หรือเปล่านะ


    แต่ผมก็ได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเขาหันกลับไปแล้วค่อยๆยื่นกระทงลงไปในน้ำแล้วปล่อยให้มันลอยไปตามกระแสน้ำ แต่ก็ยังไม่วายเอามือวักน้ำให้กระทงลอยไปไกลๆอีก เห็นอย่างนั้นผมเลยปล่อยกระทงผมลงไปบ้างแล้ววักน้ำตามแบบเขา


    ก็แค่อยากให้กระทงของผมมันลอยไปใกล้ๆเขาก็เท่านั้น แต่ผมไม่คิดว่ามันจะไปเกี่ยวเข้ากับกระทงของเขาแล้วลอยติดกันไปตลอดจนลับสายตา


    แล้วคำอธิษฐานของผมก็เป็นจริงอย่างรวดเร็ว


    ลอยไปด้วยกันเลยนะครับ ผมพูดแก้เขินเพราะคิดว่าเขาคงเห็นเหมือนกันกับผม แต่เขาก็พูดประโยคเดียวกันออกมาเช่นกัน เราหันมาสบตากัน เป็นครั้งแรกที่ผมได้มองเข้าไปในดวงตาดำสนิทคู่นั้น


    จะมีใครช่วยผมมั๊ยถ้าผมจะเป็นลมตกท่าน้ำไปเพราะดวงตาคู่นั้นของเขา


    เราหัวเราะกับความบังเอิญที่เกิดขึ้น ผมเห็นเขาหัวเราะจนตาหยี หัวใจก็พองโต เขากำลังทำให้ผมรู้สึกว่าผู้คนรอบๆตัวนั้นไม่ได้มีความหมายใดๆเลย


    คุณเชื่อเรื่อง...ประมาณนั้นหรือเปล่า แบบว่าคุณรังเกียจหรือเปล่าที่กระทงของผมไปติดกับกระทงของคุณ ผมแค่กลัวว่าเขาจะเป็นพวกเชื่อเรื่องโชคลางหรือชะตาอะไรแบบนั้นหรือเปล่า เลยถามลองเชิงไปก่อน ก่อนจะได้คำตอบที่ทำให้สบายใจกลับมา


                    อ่ะ....อ๋อ ไม่ฮะ...ผมไม่ถือ ไม่เป็นไร เรามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่รู้จะเริ่มพูดกับเขายังไง กลัวเขาจะไม่อยากคุยกับผม กลัวจะไปทำให้เขารำคาญ จนสุดท้ายเขาก็โค้งหัวให้ผมเล็กน้อยแล้วค่อยๆเดินจากไป


    ผมควรจะทำอย่างไร ผมควรจะปล่อยให้เขาเดินไปหรือเปล่า บางทีแค่นี้มันก็มากเพียงพอแล้วหรือเปล่า หรือผมควรจะเดินตามเขาไปดี


    ระหว่างที่ผมกำลังคิดตัดสินใจอยู่กับตัวเอง ผมก็ไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ผมเดินมาอยู่ข้างๆเขาเสียแล้ว ผมเห็นเขามีสีหน้าตกใจแต่ก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ผมเดินตามเขาไปเรื่อยๆซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธหรือไล่ผม ถ้าเขาทำอย่างนั้น ผมคงเสียใจจริงๆ


    ผมชวนเขาคุยเรื่อยเปื่อย และรู้ว่าเขาอยู่แถวนี้คนเดียวและบางทีเขาอาจะยังไม่มีใครผมอยากจะถามมากกว่านั้นหากแต่เสียงที่ดังขึ้นทำให้เขาละความสนใจจากผม ท่าทางตกใจของเขาทำให้ผมรู้สึกเอ็นดู และอยากเอื้อมมือไปช่วยเขาปิดหูบ้าง ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่บัดนี้มีพลุถูกจุดเต็มไปหมด


    ผมตะโกนชื่อตัวเองออกไปอย่างไม่รู้ตัว เขาหันมาถามเพราะเสียงพลุนั้นดังมาก ผมเลยตะโกนบอกไปอีกที เขายิ้มแล้วบอกชื่อเขากลับมา


    คชา....


    เขาทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ คชา...คชา....คชา


    ก่อนที่ผมจะยืนเพ้อและปล่อยให้ตัวเองถูกชนไปชนมา ผมเลยขยับเข้าไปใกล้ๆคชาแล้วชี้ให้เขาดูพลุลูกโน้น ลูกนั้นจนสุดท้ายกลายเป็นผมเองที่ตื่นเต้นกับมัน


    แต่เหมือนที่หลายๆคนบอกว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ เราคุยกันสองสามคำและเขาก็ขอตัวไป ผมบอกเขาว่าเจอกันวันหลัง แต่วันหลังนั่นมันวันไหนล่ะ ในเมื่อสิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับเขามีเพียงว่าเขาชื่อคชาและเขาอาจจะมาที่นี่ทุกปี


    และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกำลังยืนมองหาเขาอยู่ตรงนี้ จากวันนั้นผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ที่ผมพยายามตามหาเขาอย่างไร้จุดหมาย และเฝ้านับวันให้ถึงวันลอยกระทงเร็วๆ เพื่อที่ว่าจะได้เจอเขาอีกครั้ง


    ท้องฟ้าเริ่มมืด และผู้คนเริ่มหนาตาขึ้นมากกว่าเดิมจนทำให้ผมไม่อาจสอดส่องมองหาคนที่ผมอยากเจอได้สะดวก แต่ผมก็ยังยืนอยู่ตรงนั้น มองไปยังขั้นบันไดบนสุดที่ปีที่แล้วคชายืนอยู่ตรงนั้น ที่ๆผมเห็นเขาครั้งแรก


    ปังงงงงง ปังงงงงง ปังงงงงงง


    เสียงพลุดังขึ้นเหนือหัวของผม แสงไฟหลากสีหลายหลายรูปแบบทำให้ผมรู้ว่าการแสดงพลุนั้นเริ่มต้นขึ้นแล้ว หากแต่ผมยังไม่เห็นเขา เขาอาจจะเดินอยู่ที่ไหนสักแห่งแต่ผมไม่เห็นหรือว่าบางทีเขาอาจจะไม่มา...


    เมื่อแสงไฟจากพลุลูกสุดท้ายดับลง ผมก็ถอนหายใจออกมา รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก เหมือนคนสิ้นหวังกับการเฝ้ารอใครบางคน ผมมองลงไปท่าน้ำด้านล่าง เหลือเพียงเจ้าหน้าที่และคนสองสามคนที่เดินเล่นอยู่ตรงนั้น ผมเลยตัดสินใจซื้อกระทงเล็กๆใบหนึ่งแล้วก้าวลงบันไดไป


    ผมยกกระทงขึ้นแล้วขอคมา เหมือนปีที่แล้วแต่คราวนี้ผมไม่ได้ขออะไร ผมแค่รู้สึกว่าถ้าผมไม่ได้เจอเขาปีนี้ บางทีผมต้องตัดใจ เราคงจะไม่ได้เจอกันอีก


    ผมค่อยๆปล่อยกระทงใบน้อยให้ลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ภาพกระทงที่เกี่ยวเคียงกันไปยังคงติดตราตรึงอยู่ในใจของผม สุดท้ายมันอาจกลายเป็นเพียงความทรงจำอันล้ำค่าที่ผมมีกับเขาเท่านั้น




    ผมนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่ระหว่างที่ผมหันไปนั้นเอง เหมือนพลุชุดสุดท้ายที่ถูกจุดไม่หมดในตอนแรกก็ได้ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง เสียงที่ดังจนเคยทำให้คนบางคนต้องย่นคออย่างตกใจเมื่อปีที่แล้วก็ไม่อาจกลบเสียงหัวใจของผมที่เต้นถี่รัวได้ แสงของมันสว่างไสวอยู่ท่ามกลางความมืด สาดกระทบมายังร่างเล็กตรงหน้าผม




    คชา



                    เต๋า




    จบ (เถอะ)

    ----------------------------------------------


                      ลอยกระทง... เสร็จสิ้น ๕๕๕ จบได้แบบ น่าถีบจริงๆ (>O<) 

                     เป็นยังไงบ้างคะ ลอยกระทง ตอนสองอาจจะลงช้าไปหน่อย -.,- ขอโทษค่า !!~ หนึ่งคอมเม้นคือกำลังใจที่มากมายเพิ่มทวีคูณนะคะ  ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×