คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ลอยกระทง I
Title: ลอยกระทง I
Pairing: Tao x Kacha
Author: iammai*
Rating: PG-13
Author note: ประเดิมเรื่องแรกในวันลอยกระทงนะคะ ^^
Kacha’s part
‘วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...’
เสียงเพลงลอยกระทงที่ทางเทศบาลเปิดต้อนรับการมาของพระจันทร์ที่ส่องแสงสว่างเต็มดวงยังคงดังตั้งแต่เย็นจนถึงค่ำ ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่อยู่ที่ท่าน้ำพร้อมกับถือต้นกล้วยห่อใบตองหรือที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างกระทง บางคนมาเป็นครอบครัว บางคนมากับเพื่อนๆ บางคนมากับคนรัก และบางคนก็มาคนเดียว
เหมือนผมในตอนนี้...
เมื่อก่อนผมมักจะลอยกับพ่อแม่ ปีหนึ่งที่ผมได้ลอยกับแฟนแต่ปีต่อมาก็มีเพียงผมคนเดียว เรื่อยมาจนถึงปีนี้
ในมือของผมมีกระทงใบไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนักถืออยู่ ที่จริงก็ตั้งใจว่าจะรีบลงไปลอยแล้วกลับทันที แต่ทว่าปีนี้คนค่อนข้างเยอะกว่าปีที่ผ่านๆมา ทำให้ผมตัดสินใจถือกระทงเดินป้วนเปี้ยนดูนู่นนี่อยู่นานสองนาน จนกระทั่งคนเริ่มซาลง ผมถึงก้าวลงบันไดไปยังท่าน้ำ
เสียงเพลงลอยกระทงยังคงดังเข้ามาในหูของผมขณะที่ผมยกกระทงขึ้นจนขอบล่างมันจิ้มหน้าผากและขอคมาพระแม่คงคา ไม่รู้ว่าผมหลับหูหลับตาสวดอะไรนานแค่ไหนเพียงแต่คนที่มาลอยพร้อมๆกับผมหายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ไม่ถึงสิบคนเท่านั้นที่ท่าน้ำ
ผมค่อยๆหย่อนกระทงลงสู่ผืนน้ำ ความเย็นของสายน้ำกระทบมือผมจนรู้สึกขนลุก ผมพยายามใช้มือวักน้ำเพื่อดันให้กระทงผมลอยไปไกลๆ ไม่อยากให้มันลอยไปแล้วติดกับต้นไม้ใบหญ้าริมน้ำ ระหว่างนั้นเองที่คนข้างๆผมเขาก็หย่อนกระทงเขาลงน้ำด้วยเช่นกัน ผมเหลือบตาเห็นเขาวักน้ำเหมือนผมจนทำให้กระทงของเขาลอยตามกระทงของผมไปอย่างรวดเร็ว
และไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้มันเกิดขึ้น เมื่อปลายใบตองที่กระทงของเขาเกี่ยวกับกระทงของผมแล้วมันก็ลอยติดไปด้วยกัน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องไปอย่างตกตะลึงของผม และบางทีเขาอาจจะสังเกตเห็น
“ลอยไปด้วยกันเลยนะครับ”
เราพูดขึ้นพร้อมกัน มือผมยังแช่อยู่ในน้ำขณะที่หันหน้าไปมองเขาซึ่งเขาเองก็มองผมกลับมาเช่นกัน
ให้ตายเถอะ...ผู้ชายคนนี้สว่างกว่าพระจันทร์บนหัวผมเสียอีก
เราหัวเราะให้กันอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่ากระทงของเราลอยติดกันไปอย่างบังเอิญที่สุด จนเขาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนในที่สุด
“คุณเชื่อเรื่อง...ประมาณนั้นหรือเปล่า แบบว่าคุณรังเกียจหรือเปล่าที่กระทงของผมไปติดกับกระทงของคุณ”
“อ่ะ....อ๋อ ไม่ฮะ...ผมไม่ถือ ไม่เป็นไร” ปลายเสียงผมแผ่วขณะที่ค่อยๆลุกขึ้นยืนตามเขา มือผมที่เปียกน้ำเช็ดเข้าที่กางเกงอย่างประหม่า ใช่...ผมประหม่า ทั้งคำพูดและการกระทำของผม ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงเป็นแบบนี้ อาจเพราะผมไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้าก็ได้ล่ะมั้ง
“ครับ” เขายิ้มตอบ แล้วเราก็สบตากัน เขาไม่ยอมพูดอะไรต่อและผมก็ไม่รู้จะเริ่มพูดกับเขายังไงดี จนสุดท้ายที่ผมก้มหัวให้เขาเล็กน้อยแล้วค่อยๆเดินออกมา
ผมแค่รู้สึกแปลกๆกับตัวเอง มันตลกที่ผมใจเต้นแรงกับคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้า
“เดี๋ยวครับคุณ” เสียงของเขาไล่หลังมา ผมหันไปและพบว่าเขาวิ่งตามผมขึ้นบันไดมาแล้วมาเดินข้างๆกัน ผมปล่อยให้เขาเดินตามมาอย่างไม่ทักท้วงอะไร สองข้างทางของเรามีข้าวของวางขายเรียงรายและผู้คนที่เดินสวนกันไปมาครึกครื้น
“คุณมาคนเดียวหรอครับ” แล้วเขาก็เริ่มพูดขึ้น ระหว่างที่เราเดินมาเรื่อยๆ แม้ว่าคนจะเยอะจนต้องเดินเบียดเสียด แต่ผมก็พยายามไม่เดินไปใกล้เขาจนเกินไป กลัวว่าเขาจะเข้าใจผมผิด
“ครับ คุณเองก็เหมือนกัน?”
“อ่า...ใช่” ผมเห็นเขาหันมายิ้ม แล้วจึงยิ้มกลับไป รอยยิ้มของเขามันดูสว่างสดใสและเด่นชัด เหมือนเวลาที่คุณยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไม่รู้จักมากมาย แต่คุณสามารถมองเห็นใครคนหนึ่งได้อย่างชัดเจน แบบนั้นแหล่ะ
“ทำไมคุณมาคนเดียว” เขาถาม ผมหันหน้าไปมองเขาเพราะไม่เข้าใจเจตนาของเขา แต่สุดท้ายก็ตอบไป
“พ่อแม่ผมอยู่ต่างจังหวัด ผมอยู่ที่นี่คนเดียว”
“เหมือนผมเลย”
ฟืบบบบบบบบบบบบบ ปุ้งงงงงงงงงงงงงงงงง ง ง !!
ผมย่นคอแล้วเอามือปิดหูด้วยความตกใจเมื่อเกิดเสียงดังสนั่นก่อนที่ผู้คนจะแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า พลุนั่นเอง...ประกายไฟหลากสี หลากหลายรูปแบบปรากฏบนท้องฟ้ามืดมิดที่ถูกแต้มเพียงดวงของพระจันทร์ ผมลดมือลงแล้วเอามาแตะแก้มตัวเองไว้ ระหว่างที่เงยหน้าดูพลุที่สวยงาม
“เต๋า” ผู้ชายคนนั้นตะโกนแข่งเสียงดังของพลุและเสียงพูดคุยเซงแซ่ของผู้คนใกล้ๆ
“ฮะ?” ผมได้ยินเขาพูดไม่ค่อยชัดจนเขาต้องขยับเข้ามาใกล้ๆผมอีกนิด โอ...ผมรู้สึกว่าเราจะใกล้กันเกินไปแล้วนะ และยิ่งคนที่หลั่งไหล่เข้ามาเพื่อดูพลุชัดๆทำให้บางครั้งที่ผมเซไปชนเขา
“ผมชื่อเต๋า” เขายังคงตะโกนแข่งเสียงดังรอบตัวเราอยู่ แต่คราวนี้ผมได้ยินชัด ผู้ชายตัวขาว ยิ้มหวานคนนี้ชื่อเต๋า
“ผมชื่อคชา” ผมตอบกลับไปบ้าง เห็นเขายิ้มหวานให้ผมทีหนึ่งก่อนที่เราจะเงยหน้าขึ้นไปดูพลุด้วยกัน บางครั้งผมก็หันไปตามนิ้วของเขาที่ชี้ให้ดูลูกนี้ลูกนั้นบ้าง จนผมอดรู้สึกไม่ได้ว่าเราเหมือนคนที่สนิทกันมาก่อนหน้านี้ทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันได้ไม่เกินยี่สิบนาทีเลยด้วยซ้ำ
หลังการแสดงพลุจบลง คนที่เบียดเสียดก็ค่อยๆกระจายตัวกลับไปเป็นสภาพปกติ ผู้ชายคนนั้นหรือเต๋าหัวเราะอย่างชอบใจแล้วเดินมายืนข้างๆผม
“คุณว่ามั๊ย เมื่อกี้มันสุดยอดจริงๆ ผมไม่เคยเห็นพลุเยอะแยะขนาดนี้มาก่อน”
“ปกติที่นี่เขาก็จัดแบบนี้ทุกปี” ผมคิดว่าบางทีเขาอาจจะเพิ่งเคยมาลอยกระทงที่นี่ก็เป็นได้
“คุณมาทุกปีเลยหรอ”
“ฮะ...เอ่อ...ผมคงต้องกลับแล้ว” ผมรู้สึกแย่ที่ต้องพูดคำนั้นออกไป มันอาจเป็นเพราะผมรู้สึกถูกชะตากับเขา เหมือนเราน่าจะมีอะไรที่เข้ากันได้ที่ผมรู้สึกว่า ผมอยากจะรู้จักเขาให้มากกว่านี้ เขาทำหน้าสับสนอยู่เล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้ผม ยิ้มนั้นที่ทำให้ผมไม่อาจละสายตาได้
“ครับ ไว้วันหลังค่อยเจอกันนะครับ” ผมยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินแยกออกมา ไม่รู้ว่าวันหลังของเขานี่มันจะวันไหน พรุ่งนี้ มะรืนนี้ เดือนหน้า หรือปีหน้า ผมก็ไม่อาจรู้
ผมหันกลับไปอีกครั้งเพื่อหวังจะถามเขาว่าเราจะเจอกันได้อีกใช่มั๊ย แต่เขาไม่ได้ยืนอยู่ที่ตรงนั้นแล้ว ผมเลยได้แต่ถอนหายใจอย่างเสียดายแล้วเดินมาที่รถของตัวเอง
อย่างนี้ เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ โลกมันไม่ได้แคบเล็กเพียงฝ่ามือ หากเขาเป็นใครสักคนที่ไม่ได้อยู่แถวนี้ หากเขาเป็นใครสักคนที่อาจอยู่ไกลแสนไกล บางทีวันหลังของเขาอาจจะไม่มีวันมาถึง
--------------------------------------
จิบน้ำชาเบาๆแล้วเข้าสู่โหมดสนทนา
อ่า เรื่องแรกเราต้อนรับวันลอยกระทงกันนะคะ ฝากฟิคประเดิมเรื่องนี้ด้วย หวังว่าทุกคนจะชอบ(หรือเปล่า)และติดตามตอนต่อไปกันอย่างใจจดใจจ่อ(จริงหรอ)
ติชมกันได้ตามอัธยาศัย + พูดคุยกันได้ตามสะดวก ไรเตอร์ไม่กัดค่า !!~
ฝาก heartsteps' ไว้ในอ้อมใจอีกเรื่องเนอะๆ จิ๊บิๆ
ความคิดเห็น