ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ปีหนึ่งเทอมสอง: อัพเดทข่าวคราว ว่ายังมีชีวิตอยู่
สวัสดีค่ะ ทุกคน ขอโทษนะที่ไม่ได้เข้ามานานเลย ก็เนื่องจากงานสุมหัวนั่นแหละ ถ้าใครเรียนปีหนึ่ง
อยู่ก็คงเข้าใจชีวิตอันน่าหดหู่แสนเศร้าของชาวปีหนึ่ง เฮ้อ อาจารย์แกจะสั่งงานเอาโล่หรือไงอะ
แทนที่จะให้เราจะได้ออกไปดูโลกภายนอกกับเขา ไม่มีเลย มันเหนื่อยเหมือนกันนะที่ต้องมานั่งเรียน
อะไรแบบนี้ ช่างยากจริง ๆ เลย ยังต้องปรับตัวด้านภาษาอีกมากมายอะ เพราะบางทีก็ตามเขาไม่ค่อย
ทันเหมือนกันถ้าเนื้อหาอันไหนมันใหม่ ๆ ไม่เคยผ่านหูผ่านตาเรามาก่อน ถึงแม้จะฟังอาจารย์พูดรู้เรื่อง
แล้วก็เถอะ แต่เนื้อหามันเป็นระดับวิชาการ บางครั้งก็เลยงง ๆ นิดนึง หรือไม่ก็งงหมดเลย ฮ่าๆ ขึ้นอยู่
กับว่าเรียนวิชาอะไรด้วยแหละนะ หัวเรามันแบบออกแนววิทย์ ๆ ใช่มะ พอไปเรียนสังคม จบข่าว.. ตาย
คาที่เลย แต่ก็พยายามมันไปเรื่อย ๆ
ปัญหาส่วนใหญ่ที่เราเจอก็คือเวลาเรียนวิชาเกี่ยวกับสัตว์ มันก็จะมีคำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ หรือโรคต่าง ๆ
เป็นภาษาอังกฤษ ถึงกับงงเลยนะ เพราะเวลาเราเรียนในไทย ชื่อโรคหรือสัตว์มันก็เป็นภาษาไทยนี่นา
แล้ว จะให้ไปรู้ได้ไง ว่าโรคนั้น นี้ มันคือโรคอะไร แบบว่าเรียนไปก็นั่งทรมานไป กับความที่มันไม่รู้
บางทีเรารู้จักโรคนั้น ๆ แต่แค่ไม่รู้ชื่อภาษาอังกฤษ หรือบางโรคก็พบเห็นแต่ที่ในอเมริกาไง ก็ยิ่ง
แล้วใหญ่เลย เหอๆ
คือทุกอย่างที่เรียนที่นี่น่ะ การสอนต่าง ๆ ก็อ้างอิงจากประสบการณ์ของชาวอเมริกัน ก็สอนอยู่ในประเทศ
นั้น จะให้ยกตัวอย่างที่อื่นหรือก็ไกลตัว ด้วยความที่ผู้สอนต้องการให้นักเรียนมองเห็นและเชื่อมโยง
อะไรใกล้ ๆ ตัว กับข่าวหรือสิ่งแวดล้อมที่ได้ยินทุกวัน มันก็โอเคไปสำหรับนักเรียนมะกัน แต่สำหรับเรานี่
ตายหยังเขียดเลยนะ ก็เพิ่งมาอยู่อเมริกาได้สองปีเอง จะให้ไปรู้จักอะไรมากมายได้ไง ไม่ได้เกิดที่นี่
ซะหน่อย คือมันเหมือนกับว่านั่งอยู่เดียวดายในห้อง ฟังเค้าพูดกันเอง รู้เรื่องกันเอง เหมือนเราเป็นคน
นอกมาจากไหนก็ไม่รู้ อะไรประมาณนั้นเลย แต่จะไปว่าเขาก็ไม่ได้อะเนอะ เพราะถ้าพวกมะกันมาเรียน
ที่ไทย ก็คงรู้สึกแบบเราน่ะแหละ
แล้วเทอมนี้นะงานเยอะมากเลย ให้ตายสิ ต้องทำ research paper ตั้งสองตัวแน่ะ ตายเลย
เขียนก็ยิ่งเน่า ๆ อยู่ ต้องมานั่งอ่านพวกวารสาร พวกบทความวิจัย หาข้อมูลอีก บทความพวกนี้สำหรับเรา
บางทีอ่านแล้วก็งง ๆ มาก เพราะระดับภาษาที่ใช้เขียนมันจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่แบบที่ใช้พูดกัน
ทั่วไป อ่านทีนี่ทรมานหัวจริง ๆ แต่ก็นั่นแหละ พออ่านหรือฝึกไปเรื่อยมันก็จะเริ่มชินและเข้าใจกับลักษณะ
การเขียนในแบบนั้น ๆ
สรุปเทอมนี้ก็อ่านกันตาลีตาเหลือกเลย ออใช่เพิ่งสอบเคมีอินทรีย์ไป โอ้วววววววววว! ยากบรรลัย ให้ตายสิ
ยากกว่านี้มีอีกไหมฮะ มาฆ่ากันเลยมา ออกข้อสอบแบบนั้นน่ะ ฮึ่ยยย คือเริ่มรู้ชะตาตัวเองตั้งนานแล้ว
ว่าเราไปไม่ไหวกับวิชานี้ คือตอนแรกนี่มันง่ายมากเลยนะ แต่พอเรียนไปยากหฤโหด แล้วอาจารย์ที่สอน
ก็แบบอธิบายไม่เก่ง พอเด็กถามอะไรที่มันเกี่ยวกับโครงสร้างซับซ้อนหน่อยก็จะเริ่มอธิบายไม่ตรงจุด
ไม่ตรงประเด็นกับที่เด็กถาม มันทำให้เราคิดว่าเขาไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงวิชาที่สอน แต่เราก็ว่าไม่ใช่เพราะ
จากที่ดูมา ดูมีความรู้เยอะมากนะ เก่งด้วย แต่ขาดอย่างเดียวอธิบายไม่ค่อยจะเป็น ควรจะไปเรียนทักษะ
การสื่อสารใหม่นะ
ฝากน้อง ๆ พี่ ๆ ไว้ด้วยนะ ใครจะมาเป็นครูสอนเด็ก มันไม่สำคัญว่าคุณเก่งระดับเลิศเลอเยี่ยงไอสไตน์
หรือเปล่า แต่มันอยู่ที่ว่าอธิบายให้คนเข้าใจเป็นหรือเปล่า ทำสิ่งยากให้ง่ายเป็นหรือเปล่า คนจะมาเป็น
ครูไม่ใช่รับเงินเดือนยืนพูดปาว ๆ ในห้อง หมดคาบก็เดินออก มันไม่ใช่ เมื่อคิดที่จะเป็นครูแล้ว ต้อง
แคร์เด็กเป็นสำคัญ ต้องดูว่าเด็กเข้าใจไหม ไม่ใช่ดูว่าฉันสอนทันไหม สอนครบเนื้อหาไหม อยากให้ครู
ทุกคนมองตัวเองจากการมองตัวนักเรียน
เมื่อกี้เพิ่งหายตัวไปอบผ้ามาค่ะ อยากจะบอกว่าเครื่องซักที่นี่คิดถูกมาก ครั้งละหนึ่งเซ็นต์ค่ะ ก็ประมาณ
สามสิบสตางค์บ้านเราน่ะค่ะ ถูกละสิ ฮ่าๆ นี่คือข้อดีอีกอย่างหนึ่งเพราะปกติถ้าซักข้างนอกก็ประมาณครั้ง
ละ สามเหรียญค่ะ ก็เก้าสิบบาทไปแล้ว จะซักแต่ละทีต้องเอาให้คุ้ม หมกไว้เยอะ ๆ อะไรประมาณนั้น แต่
มาอยู่นี่ก็ซักทุกอาทิตย์
ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรหิวกลางดึก ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยนะ เรากินข้าวครบสามมื้อนะ แต่ทำไมถึงหิว
ขึ้นมาได้เนี่ย แปลกประหลาดงงตัวเองมาก สงสัยโลกร้อนเนอะ (= =) ฮ่าๆ มีอะไรแปลก ๆโทษ
โลกร้อนไว้ก่อนค่ะ คือปกติถ้าหิวก็จะมุ่งไปโรงอาหารค่ะ คือที่นี่ต้องซื้อเงินมาเติมในบัตรค่ะ อย่างที่
ใช้อยู่คือ ซื้อแบบกินไม่อั้นค่ะ เข้ากี่ครั้งก็ได้ต่อวัน แต่มันจำกัดแค่โรงอาหารสามแห่งเท่านั้นค่ะ ดูมันสิ
แล้วไม่ใช่ถูก ๆ นะ ตั้ง พันกว่าเหรียญน่ะ ต่อเทอม หรือคือต้องจ่ายสามหมื่นกว่าบาทเพื่อเป็นค่าอาหาร
ต่อเทอม โหดไหมล่ะ
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่หิวแล้วรู้สึกว่าไม่อยากออกไปกินข้างนอก ก็จะหยิบซองมาม่าขึ้นมาดู หันมองหน้าต่าง
หิมะตก ลมพัด หนาวมากแน่ แต่ก็ต้องตัดใจวางมาม่าลงค่ะ แล้วเดินหยิบเสื้อคลุมฝ่าลมหนาวไป เพื่อ
ออกไปกินที่โรงอาหารค่ะ ฮ่าๆ แหมจ่ายตั้งแพงอะ ต้องกินให้คุ้ม สมกับที่รัฐจ่ายให้เรา ถึงไม่ได้จ่ายเอง
มันก็เสียดายค่ะ ต้องเอาให้เกินคุ้มค่ะ ตอนนี้สี่โมงครึ่งแล้วค่ะ ได้เวลาอาหารละ ขอตัวไปก่อนนะคะ
มีคำถามฝากไว้ได้ที่คอมเมนท์นะคะ ไปก่อนละ
มีคำถามฝากไว้ได้ที่คอมเมนท์นะคะ ไปก่อนละ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น