ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีวิตเด็กทุนก.พ. ในอเมริกา (ตั้ง 10 ปี แน่ะ โหย..)

    ลำดับตอนที่ #14 : ชีวิตมหาวิทยาลัย..UVM..ปี ๑: เครียด...

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 53


    ไม่อยากเครียด แต่เครียดอีกแล้ว

    เราเองก็ไม่ชอบสภาพบรรยากาศแบบนี้เท่าไหร่นัก แต่ทำไมถึงยังยอมให้มันกลับมาอีก

    การเป็นนักเรียนทุนนี่ก็แอบเครียดเหมือนกันเนอะ ต้องเรียนให้ดี ทำเกรดให้ได้ตามนั้น ห้ามเหลวไหล
    มานี่ในฐานนะรัฐบาลไทยส่งมา ต้องทำตัวดี ๆ อย่าเกกมะเหรกเกเร ไม่งั้นส่งกลับไทยอีก ฮ่าๆๆๆ
    เราเป็นใครวะ ก็เด็กธรรมดาที่เขาใจดี มอบโอกาสให้เรา นั่นสินะ เป็นเด็กไทย คนไทย เดี๋ยวเขาจะว่าได้

    วันนี้ไปสอบมา เป็นไงล่ะ ก็ทำไม่ได้น่ะสิ มันน่าถีบตัวเองมากเลย ดูแล้วเกลียดตัวเองไปเลย
    ผลคะแนนออกมาก็คงตกชัวร์ โอ๊ยยยแม่เจ้า ไม่รู้อะไรอะ
    สงสัยเพราะเรียนดีมาตลอดไง แล้วเราก็ไม่อยากจะตกด้วย มันดูไม่ดี ก็เพราะมีแต่ไอ้ความคิดแบบนี้ในหัวไง
    กดดันตัวเองเข้าไป อกคงได้แตกตายสักวันหนึ่ง  เกรดก็จะเอา นู่นนี่ก็จะทำ ทำไมต้องเอาเกรดดี ๆ ด้วยนะ
    เกรดดี ๆ เอาไปทำอะไร ค่าผ่านทางตอนทำงานใช่ไหม ก็คงใช่  ถึงจะคิดได้แบบนี้ก็เถอะ 
    สุดท้ายแล้วพอทำคะแนนตกขึ้นมาจริง ๆ ก็กลายเป็นไอพวกรับคะแนนไม่ได้คนหนึ่งนั่นแหละนะ

    ไม่อยากจะคิดมากเลยค่ะ  แต่มันคิดไปแล้ว ทำไงได้
    แต่รู้ไหม ว่าทำไมเราถึงคิดมากแบบนี้ เพราะมันมีอีกเหตุผลหนึ่งยังไงล่ะ
    เหตุผลที่เราจำและระลึกใส่กะโหลกไว้เสมอ ในฐานะเด็กทุน

    เรามา ที่นี่ ไม่ได้ ถ้าไม่มีพวกเขา เราอยู่ที่นี่ไม่ได้ ถ้าไม่มีพวกเขา
    เราจะได้เรียนมหาลัยดี ๆ ไหม ถ้าเก่งอย่างเดียว
    แต่ไม่มีพวกเขาสนับสนุนเรา เราก็คงต๊อกต๋อย อยู่แถวที่เดิมนั่นแหละ  คงไม่ได้มาไกลขนาดนี้
    พวกเขาที่ว่า คือใคร..พวกเขาคือ คุณ   คุณทั้งหลาย ผู้คนทุกคน ทุกชีวิตที่เกิดมา เลือดเนื้อคนไทย
    ทุกชีวิต  ถ้าไม่มีคนไทยเหล่านั้น ไอเด็กทุนมันก็หมดปัญญามาเรียนนอก

    เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้อยู่ตอนนี้ไม่ใช่ของเรา แต่มันคือของคนไทยทุกคน
    ที่ยินดีเต็มใจจ่ายภาษีให้กับประเทศ เงินเป็นล้าน ๆ จะมามาจากไหน ชาตินี้ไม่รู้
    จะได้ไหม แต่เขากลับมอบให้เราด้วยความยินดี แล้วนี่ตัวเราทำอะไรอยู่ นอนกินอยู่
    บนกองเงินกองทองที่เขาให้มาหรือไง ทำไมไม่รู้จักหัดสำนึกบ้าง
    ว่าเงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ที่ให้เป็นทุนอยู่นั้น  คนไทยต้องเหนื่อยยากลำบาก
    แค่ไหนอะกว่าจะได้มา

    เขาเสกเงินมาหรือไง เขาไม่ต้องทำงานหรือไง นอนกระดิกเท้าแล้วเงินมางั้นสิ  มันไม่ใช่เลย
    กว่าจะได้มาแต่ละบาท กี่หยดหยาดเหงื่อ หรือแม้กระทั่งเลือดต้องเสียออกไป
    แล้วยังจะมีหน้ามาสอบตก ไม่เรียนให้ดีกว่านี้อีกเหรอ  คนเขาจะเสียความรู้สึกแค่ไหน
    ที่ส่งให้มาเรียนแต่กลับตอนแทนพวกเขาแบบนี้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ แต่เรารู้

    เพราะว่าเราคิดแบบนี้ เราก็เลยเครียดและก็รู้สึกผิดหวังในตัวเอง เวลาที่ทำอะไรไม่ได้อย่างใจ
    รู้สึกเหมือนคนเห็นแก่ตัว ทรยศชาติยังไงอย่างงั้นเลย  ใครอาจจะหาว่าเราคิดมากก็ได้ แต่เพราะ
    ว่าเราไม่ได้มาจากครอบครัวรวยล้นฟ้า ครอบครัวเราทำงานหนัก เราจึงรู้และเข้าใจ
    และต้องคอยระลึกแบบนี้เสมอ ต้องคอยเตือนตัวเองเสมอ ว่าให้ทำให้ดี ให้คุ้มค่า
    สมกับที่ได้พวกเขาได้ตั้งใจไว้กับเรา

    ก่อนจะกิน ก่อนจะซื้อก่อนจะใช้ ก็พยายามคิดเสมอว่ามันไม่ใช่เงินตัวเอง เพราะก็ไม่ใช่จริง ๆ
    ก็เลยไม่กล้าที่จะซื้อหรือใช้อะไรมาก เพราะเรากลัว ว่าจะทำให้เงินเหล่านั้นเสียคุณค่าเสียประโยชน์

    และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเด็กทุนต้องกลับไปใช้ทุน แค่เรียนจบปริญญาเอกแล้วกลับไปรับใช้
    ทำงานในประเทศไทย มันยังดูน้อยไปด้วยซ้ำ ตอบแทนบุญคุณบ้านเมืองไม่หมดหรอก ไม่พอไม่คุ้มกัน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เพราะฉะนั้น...

    หนูขอโทษนะคะ ที่หนูทำข้อสอบไม่ได้..




    เฮ้อ..คิดแล้วก็เหนื่อยเหมือนกัน..แต่ทำไงได้..เราเลือกแล้ว เราเลือกเอง เลือกที่จะเดินทางนี้ด้วยตัวเอง
    เราจะไม่มีวันถอยหรือหันหลังกลับ เราจะทำให้สำเร็จให้สมกับหยาดเหงื่อหกสิบล้านหยดที่หลั่งรดดิน
    แพ้ครั้งนี้ พลาดครั้งนี้ ก็ต้องสู้ใหม่  เราจะทำให้ได้

    สรุปว่าเลิกเครียดดีกว่าค่ะ แล้วกลับไปทำงาน อ่านหนังสือเนอะ

    ขอโทษนะคะ ที่มาเพ้อให้ฟัง ดูเครียดไปเลยเนอะ เหอๆ แต่พระท่านว่าต้องหัดปล่อยวางบ้าง หนูจะพยายามนะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×