คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ภรรยา? นี่ข้ามีภรรยาตั้งแต่เมื่อใด? (2/2)
“ข้าว่าข้าไปตามท่านหมอใหญ่มาตรวจดูอาการอีกครั้งดีกว่า”
ตงฟางลู่เสียนเห็นสีหน้าเบะปากที่เหมือนจะร้องไห้ของหลินซินอี๋แล้วจึงไม่ค่อยอยากจะอยู่ท่ามกลางความอึดอัดของสองสามีภรรยาคู่นี้สักเท่าไหร่ เขาเดินแบบรีบๆ ออกไปและปล่อยให้คนทั้งคู่คุยกันเป็นการส่วนตัว
“เจ้าชื่ออะไร?” ซูเฟยอวี่ถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
“หลินซินอี๋” หญิงสาวตอบด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ซูเฟยอวี่พยายามจะนึกว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อนหรือไม่ แต่สุดท้ายหลังจากที่คิดหัวแทบแตกก็นึกอะไรเกี่ยวกับสตรีผู้นี้ไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
ตอนนั้นเองหลินซินอี๋ก็นึกถึงของสำคัญชิ้นหนึ่งขึ้นมาได้ นางล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อและหยิบมันออกมา
“แล้วถ้าเป็นของสิ่งนี้ล่ะ ท่านจำมันได้บ้างหรือไม่?”
หญิงสาววางของนั้นลงบนมือของซูเฟยอวี่ ชายหนุ่มถือขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นถุงรูปทรงกระบอกที่ทำจากหนังวัว ความยาวเกือบเท่าศอกมนุษย์ถุงหนึ่ง หลังจากที่ดึงปมเชือกซึ่งถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนาออกไปแล้วก็พบว่าข้างในบรรจุผืนหนังเปล่าผืนหนึ่ง
แผ่นหนังนี้ลักษณะคล้ายกับจะเอาไว้ใช้ต่างกระดาษในการเขียนจดหมายสักฉบับ หากแต่เมื่อกางออกดูดีๆ ก็พบว่าในนั้นไม่มีร่องรอยของน้ำหมึกใดๆ เลยแม้แต่น้อย
“จำไม่ได้” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ยื่นม้วนแผ่นหนังคืนให้นาง
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
ในใจของหลินซินอี๋อยากจะกรี้ดออกมาให้สุดเสียงและวิ่งไปรอบๆ ห้อง
สิ่งของที่นางตั้งใจยื่นให้เขาเมื่อครู่นี้ ความจริงแล้วมันคือของที่นางค้นเจอในร่างของเขาตั้งแต่วันแรกที่พบกัน
ตอนนั้นนางให้ท่านหมอพาชายหนุ่มกลับมารักษาตัวแล้ว แต่ระหว่างที่กำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับพบว่าในรองเท้าหุ้มข้อทรงสูงของเขาได้เหน็บของสิ่งนี้ซ่อนเอาไว้ข้างในด้วย หลินซินอี๋คิดว่ามันน่าจะเป็นของสำคัญอย่างยิ่งเพราะถูกซ่อนเอาไว้อย่างดี แต่ทว่าสุดท้ายเมื่อลองถามดูกลับพบว่าอีกฝ่ายระลึกถึงความทรงจำอะไรเกี่ยวกับมันขึ้นมาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ!
เป็นเช่นนี้แล้ว...นางจะทำอย่างไรต่อดี
หลินซินอี๋ลุกขึ้นเดินไปเดินมาในห้อง ระหว่างที่นางกำลังครุ่นคิดถึงหนทางข้างหน้าของตัวเองต่อไป จู่ๆ ท่านหมอใหญ่จางก็เดินเข้ามาพอดี
“ท่านหมอ ท่านหมอ ช่วยสามีข้าด้วยเจ้าค่ะ”
หมอใหญ่จางกลายเป็นความหวังใหม่หนึ่งเดียวของนางแล้วในตอนนี้ จางมู่หรงเข้ามาตรวจชีพจร ตรวจแผลและสอบถามคนป่วยอีกสี่ห้าคำ หากแต่ผลลัพธ์กลับไม่ต่างจากที่ตงฟางลู่เสียนตรวจก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
ความทรงจำของซูเฟยอวี่หายเกลี้ยงไปทั้งหมดจริงๆ
“เฮ้อ เส้นลมปราณอื่นใดก็ไม่มีอะไรติดขัด เหตุใดจึงความจำเสื่อมไปเฉยๆ เช่นนี้?”
ชายชราลูบเคราสีขาวอย่างสงสัย ส่วนหลินซินอี๋อยากจะร้องไห้
“ท่านหมอ เขาจะหายหรือไม่เจ้าคะ? ท่านสามารถจัดยารักษาอาการเขาได้หรือไม่?”
จางมู่หรงส่ายหน้า
“สมองของเขาได้รับการกระทบกระเทือนจากการตกจากที่สูงดังนั้นจึงอาจทำให้ความจำก่อนหน้านี้ขาดหายไป ที่ข้าทำได้คงมีแต่การจ่ายยาบำรุงร่างกายและรอเวลาให้เขาฟื้นคืนความทรงจำด้วยตัวเองเท่านั้น”
“เฮ้ออออ”
“เหตุใดความรักของพวกเจ้าจึงได้เจอแต่อุปสรรคเช่นนี้!”
“ข้าปวดใจแทนพวกเจ้าเหลือเกิน”
“ฮือออออ”
บรรดาฮูหยินและผู้ช่วยหมอของที่นี่ไม่รู้ว่าพวกเขามีงานมีการทำกันบ้างหรือไม่ พอหมอใหญ่เข้ามาตรวจดูอาการคู่รักสุดรันทดคู่นี้คนทั้งหมดก็ต่างเดินตามเข้ามามุงดูด้วยเช่นกัน
หลินซินอี๋กลุ้มใจนัก นางหันมองซูเฟยอวี่ก็เห็นว่าชายหนุ่มดูจะงุนงงระคนตื่นตกใจ
จะทำอย่างไรกับเขาดี? ...
ตอนนี้นางไม่รู้ว่าวิญญาณในร่างเป็นซูเฟยอวี่หรือเป็นหลี่เฟยหรงกันแน่...ถ้าปล่อยเขากลับไปแคว้นอินในสภาพนี้...เกรงว่าไปถึงไม่นานก็อาจจะถูกคนฆ่าตายเอาเสียได้ง่ายๆ อีกอย่างถ้าหากเขาบังเอิญเป็นซูเฟยอวี่ตัวจริงที่ทะลุมิติเหมือนนางขึ้นมาล่ะก็ ...ถ้าเป็นแบบนั้นนางก็จะสูญเสียพันธมิตรเพื่อนร่วมชะตากรรมข้ามภพชาติไปอีกหนึ่งคนเชียวนะ!
ในที่สุดหลินซินอี๋ก็ตัดสินใจได้
เอาวะ...ในเมื่อสถานการณ์นำพาให้เป็นเช่นนี้ สุดท้ายก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเก็บเขาเอาไว้ข้างตัวไปก่อนก็แล้วกัน
หลังจากที่มองฝูงชนทั้งหมดแล้ว ในที่สุด ‘ลูกหมีการละคร’ จึงกลับคืนมาอีกครั้ง หญิงสาวบีบน้ำตาโศกาคร่ำครวญในโชคชะตารักของตนอย่างน่าเวทนา
“ฮืออออ ท่านพี่ของข้าน่าสงสารยิ่งนัก กว่าพวกเราจะเดินทางมาถึงที่นี่ต้องผ่านอะไรด้วยกันมามากมายนัก กำลังจะได้มีความสุขร่วมกันอยู่แล้วเชียวแต่กลับต้องมาความจำเสื่อมเช่นนี้นี้ ท่านพี่ของข้าข้าสงสารท่านเหลือเกินนนนนน”
รางวัลลูกโลกทองคำต้องเข้าแล้ว! หลินซินอี๋คิดอย่างขมขื่นในใจ ขณะที่ซูเฟยอวี่ซึ่งถูกบังคับให้ได้รับบทบาทให้เป็น ‘สามีผู้อาภัพ’ ยามนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง หันซ้ายหันขวามองคนมากมายที่กำลังร้องไห้ให้ตนเองราวกับกำลังร้องไห้หน้าศพก็มิปาน
“คือข้า...เอ่อ...ข้าไม่เป็นไร”
เขาพยายามจะเปล่งเสียงออกไป แต่ดูเหมือนทุกคนจะกำลังหมกมุ่นกับการร้องไห้จนไม่มีใครได้ยินเสียงของเขาสักคน โดยเฉพาะหลินซินอี๋ที่บีบน้ำตาจนนัยน์ตาบวมปูดและตาแดงไปหมด หญิงสาวเอาฝ่ามือนุ่มนิ่มวางลงบนมือหยาบหนาของเขา ก่อนจะทำเสียงสั่นเครือสะอึกสะอื้น
“ไม่เป็นไรนะเจ้าคะท่านพี่ ท่านจำข้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงท่านเชื่อใจและไม่ปล่อยมือข้าไป พวกเรายังมีโอกาสสร้างความทรงจำใหม่ๆ ร่วมกันได้อีกนะเจ้าคะ”
ความคิดเห็น