ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุมิติมาขายก๋วยเตี๋ยวเรือ

    ลำดับตอนที่ #4 : สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำงานไวแบบ 5G!

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 66


    หลินซินอี๋ไม่กล้าขยับตัวได้แต่เอากำปั้นอุดปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา ทุกส่วนของร่างกายแข็งทื่อไปแล้วยกเว้นก็แต่ลำคอยาวระหงส์ที่กำลังแหงนหน้าขึ้นมองไปยังหน้าผาสูง

    บนนั้นนางเห็นบุรุษหนุ่มสองคน แม้จะมองเห็นหน้าไม่ชัดแต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังยืนมองลงมายังศพของคนเคราะห์ร้ายบนพื้นอยู่ ท่าทางของพงกเขาดูแล้วคล้ายจะไม่มีวี่แววของการพยายามร้องตะโกนเรียกหรือลงมาช่วยเหลือแต่อย่างใด

    สัญชาตญานแรกของนางทำงานทันที

    ฆาตรกรรม?

    หลินซินอี๋ตัวแข็งทื่อ

    นี่ฉันทะลุมิติมาโลกนี้ยังไม่ทันครบวันก็ต้องกลายมาเป็นพยานในคดีฆาตกรรมอีกเหรอเนี่ย?

    นางพยายามทำตัวลีบเล็กที่สุดโดยอาศัยยอดไม้ใหญ่บดบังตนเองไว้จากคนทั้งสอง รอจนกระทั่งมั่นใจว่าพวกเขาจากไปไกลพอแล้วจึงค่อยๆ เคลื่อนกายลงจากต้นไม้ รีบมุ่งหน้าเข้าไปดูเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่นอนนิ่งบนพื้นก่อนเป็นอย่างแรก

    คนผู้นี้เป็นบุรุษ

    เรือนร่างสูงใหญ่ของเขานอนคว่ำหน้าแน่นิ่งอยู่บนพื้น รอบศีรษะมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นทาง

    เขาตกลงมาจากหน้าผาที่สูงเกือบเท่าตึกสี่ชั้น แม้ว่าระหว่างทางที่ร่วงลงมาจะมีพุ่มไม้คอยช่วยซับแรงกระแทกแล้วก็ตาม แต่หากให้ดูจากอาการนิ่งสนิทไม่ขยับเช่นนี้ หลินซินอี๋เองก็ไม่กล้าคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะมีชีวิตรอด

    ทั้งร่างของนางก็สั่นสะท้านไปหมด

    “นี่ คุณได้ยินฉันไหม?”

    จิตสำนึกส่วนดีสั่งให้นางย่อกายลงเพื่อดูว่าเขายังหายใจอยู่หรือไม่และทันทีที่นางออกแรงพลิกตัวให้อีกฝ่ายนอนหงาย ใบหน้าที่ปรากฏสู่สายตาก็ทำเอาหลินซินอี๋อ้าปากค้างด้วยความตกใจ 

    บุรุษที่นอนหมดสติอยู่ตรงหน้าของนางในตอนนี้คือ ‘ซูเฟยอวี่ดาราชายที่เพิ่งตายคนนั้น!!

    หลินซินอี๋ขยี้ตาอีกหลายครั้ง แต่ไม่ว่าอย่างไรคนที่เป็นแฟนคลับศิลปินอย่างนางหรือหลายๆคน ต่อให้ศิลปินคนโปรดจะใส่แมสปิดบังใบหน้าไปครึ่งหนึ่งหรือสวมหมวกและใส่แว่นดำเพื่ออำพรางพวกนางก็ยังคงจำได้ นับประสาอะไรกับใบหน้าที่มีแค่เลือดชะโลมอยู่ครึ่งซีกแค่นี้เล่า!

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นี่ท่านจะทำงานไวแบบ 5G เกินไปแล้ว!

    หัวสมองของหลินซินอี๋ทำงานอย่างรวดเร็ว เมื่อนึกถึงคำอธิษฐานของตัวเองเมื่อครู่นี้แล้วก็ให้ขนลุกขึ้นมา แต่ทว่าอีกประเดี๋ยวร่างบางก็ชะงักไป

    นางเพิ่งนึกออกว่าหากตอนนี้กำลังอยู่ในซีรี่ย์เรื่อง 'ปรปักษ์รักท่านอ๋องไร้ใจ' ดังนั้นผู้ชายตรงหน้านี้อาจจะไม่ใช่ซูเฟยอวี่..แต่เป็นอ๋องห้า 'หลี่เฟยหรง' ก็เป็นได้

    “ช่างเถอะ ตอนนี้ต้องช่วยคนก่อน”

    หลังจากที่คิดแล้วว่าทำเพียงแค่นั่งมองก็คงไม่อาจรู้ความจริง หนทางเดียวคือต้องทำให้อีกฝ่ายฟื้นคืนสติขึ้นมาจึงจะถามเอาความได้ 

    ดังนั้นหญิงสาวจึงคิดจะพาเขาไปหาหมอ แต่ทว่าอาการของร่างนี้หนักหนานัก นางไม่กล้าเคลื่อนย้ายคนป่วยโดยส่งเดชเพราะเกรงว่าจะทำให้อาการหนักขึ้นกว่าเดิมจึงคิดจะเปลี่ยนแผนเป็นพาหมอให้มาหาเขาเอง

    แต่... จะให้ท่านหมอเชื่อคำพูดของหญิงสาวสภาพโทรมๆ ทั้งยังไม่มีเงินสักแดงเดียวเลยได้อย่างไรกัน?

    หลินซินอี๋ก้มลงมองตัวเอง จากนั้นก็เหลือบมองร่างสูงที่นอนไม่ได้สติ

    “นี่...เฟยอวี่..ฉันคงต้องขอยืมเงินคุณสักหน่อยนะ?”

    นางเอ่ยขออนุญาตเจ้าของร่างเบาๆ ก่อนจะเอามือลูบๆ คลำๆ ไปทั่วทั้งตัวเขาเพื่อดูว่าชายหนุ่มพกเงินหรือของมีค่าติดตัวมาบ้างหรือไม่และในที่สุดทันทีที่คลำเจอเข้ากับถุงเงินในอกเสื้อเข้า หลินซินอี๋ก็ต้องตาลุกวาวเพราะในนั้นมีทั้งแผ่นทองทั้งก้อนตำลึงทองจำนวนมากบรรจุอยู่จนแน่นถุงเลยทีเดียว!

    ฉันรักคุณ! พ่อหลัวทิพย์คนที่สิบสองของฉัน!

    นัยน์ตาของหญิงสาวเป็นประกายพราวระยับเมื่อได้จับทองคำแท้ๆ ในมือ สมองก็คิดไปถึงชาติภพก่อนของตัวเองว่ากว่าจะซื้อทองขนาดเท่าที่ถืออยู่ในมือนี้ได้สักก้อนต้องเก็บเงินอยู่นานนับปีทีเดียว จุ๊ๆ คนสมัยนี้นี่ช่างร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีแท้ๆ เลย!

    “นี่ ซูเฟยอวี่ คุณห้ามตายนะ ฉันจะไปตามหมอมาช่วยคุณให้ได้ อ้อ แล้วหลังจากที่ฉันช่วยสำเร็จแล้วก็อย่าลืมตกรางวัลงามๆ ด้วยแผ่นทองพวกนี้ด้วยนะ!”

    พูดจบร่างบางก็หมุนกายวิ่งอย่างสุดฝีเท้าและออกจากป่าไปทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×