คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Special Chapter II : Each Day Is Valentine's Day
Special Chapter II
Each Day Is Valentine's Day
14th February …
“คุณซากุระครับ
ช่วยรับ...ดอกไม้ของผมไว้ด้วยนะครับ”
จูนินหนุ่มนายหนึ่งยื่นดอกกุหลาบสีแดงสดดอกหนึ่งให้กับหญิงสาวเรือนผมสีชมพู
เธอยื่นมือไปรับมันมาพร้อมกับยิ้มละไมให้กับเขา
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ
ถ้าไม่รังเกียจก็รับช็อกโกแลตนี้ไปทานด้วยนะคะ พอดีฉันทำมาแจกเด็กๆที่ศูนย์ฟื้นฟู แล้วมันเหลือ...”
เธอยังพูดไม่ทันจบเขาก็คว้าช็อกโกแลตกล่องน้อยในมือเธอมาถือไว้อย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่ปลื้มปิติราวกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
“ครับ! ผมยินดีรับไว้
ขอบคุณมากนะครับ!”
“เอ่อ...ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ!”
เขากล่าวอวยพรเธออีกครั้งแล้ววิ่งเข้ามาหาเพื่อนจูนินอีกนายที่ยืนรออยู่
“เฮ้ย แกนี่ใจเด็ดจริงๆว่ะ
กล้าให้ดอกไม้คุณนายอุจิวะด้วย”
“อย่าเรียกอย่างนั้นได้มะ
เรียกคุณซากุระดีกว่า” จูนินผู้กล้า(หลงรักเมียชาวบ้าน)บอกแก้ประโยคอย่างเซ็งๆ
ได้ยินคำว่า ‘คุณนายอุจิวะ’ ทีไรเขารู้สึกเหมือนตัวหดลงเหลือเท่ามดทุกที
“เออ ระวังสามีเขาตามมาเก็บนะโว้ย”
เพื่อนจูนินเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
ชื่อเสีย(ง)ตระกูลอุจิวะนั้นเป็นที่กล่าวขานขนาดไหนถามคาเงะทั้งห้าแคว้นได้เลย
“สามีเขายังไม่กลับมาหรอกน่า
เห็นออกจากหมู่บ้านไปตั้งนาน นี่ถ้าฉันเป็นสามีคุณซากุระนะ
ฉันไม่มีวันทิ้งภรรยาที่สวยและเก่งแบบนั้นไปนานเกินหนึ่งวันหรอก”
“เว่อร์ไปละ ปะ ไปทำงานได้แล้ว”
เพื่อนจูนินตบบ่าเขาเบาๆราวกับจะบอกว่าอย่ามโนไปมากกว่านี้
ก่อนทั้งคู่จะเดินเข้าไปประจำหน้าที่ของตนเองต่อ
.........................................................................
.
“เฮ้ย ซาสึเกะ
มีหนุ่มๆมาให้ดอกไม้ซากุระจังอีกแล้ว”
นารูโตะบอกกับซาสึเกะขณะกำลังยืนมองผู้ชายคนหนึ่งกำลังส่งดอกกุหลาบช่อโตให้ซากุระผ่านหน้าต่าง
ห้องทำงานของโฮคาเงะ ส่วนคนเป็นสามียังคงทำนิ่งเฉย ใบหน้าหล่อเหลาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาจากม้วนคัมภีร์
ที่วางอยู่กลางโต๊ะทำงาน
“ม้วนคัมภีร์เล่มนี้นายถอดความไปได้ถึงไหนแล้ว”
“นี่นายไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่ฉันพูดเลยเรอะ!”
นารูโตะหันกลับมามองเพื่อนรักของตัวเองอย่างขุ่นเคือง
แต่ซาสึเกะก็ยังคงทำหน้าเรียบเฉยอยู่เช่นเดิม
“แล้วยังไง”
“นี่นายไม่รู้สึกหึงเธอบ้างเลยหรือ”
“ทำไมต้องหึงด้วยล่ะ”
“อะไรกันซาสึเกะ นี่เมียนายกำลังถูกจีบอยู่นะเฟ้ย!”
“จีบได้ก็จีบไป
ยังไงมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี”
เขาบอกอย่างไม่คิดอะไรมาก
เพราะยังไงซากุระก็ไม่มีวันสนใจผู้ชายคนอื่นมากกว่าเขาอยู่แล้ว ทำไมเขาจะต้องตามหึงหวงไร้สาระเหมือนตอนยังไม่มีซาราดะไปเพื่ออะไรกัน
“น่าหมั่นไส้ไม่เปลี่ยนเลยนะนายเนี่ย”
“ตกลงว่านายจะยังถอดความคัมภีร์นี่อยู่ไหม
ฉันจะได้ช่วย”
“วันนี้คงพอแค่นี้แหละ
เย็นนี้ฉันจะพาครอบครัวไปทานข้าวนอกบ้าน แล้วนี่ยังต้องไปแวะเอาของขวัญให้ฮินาตะอีก”
นารูโตะบอกพลางยิ้มน้อยๆ
หลังจากเหตุการณ์ที่โมโมชิกิกับกินชิกิบุกมาโจมตีโคโนฮะ
ทำให้เขาตระหนักได้ว่าควรมีเวลาให้กับครอบครัวมากกว่านี้
“วันนี้วันเกิดเมียนายงั้นหรือ”
ซาสึเกะถามอย่างพาซื่อ
“ไม่ใช่เฟ้ย! นี่อำฉันเล่นปะเนี่ย ไม่รู้จริงๆหรือว่าวันนี้วันอะไร”
“วันอังคาร”
“โว้ย! เล่นมุกอะไรกากชะมัด”
“ฉันไม่ได้เล่นมุก”
นารูโตะมองหน้าเพื่อนรักของตนด้วยความเหวอ
ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าซาสึเกะไม่ใช่คนโรแมนติกอะไร แต่นี่ไม่รู้แม้กระทั่งวันสากลอย่างวันวาเลนไทน์แบบนี้มันก็ออกจะเกินไปหน่อยแล้ว!
“ก็...วันนี้วันวาเลนไทน์ไง
วันแห่งความรักน่ะรู้จักไหม ตอนสมัยเด็กๆนายก็ได้รับของขวัญจากสาวๆออกจะบ่อย
จำไม่ได้หรือไง”
“ถ้าไม่มีอะไรฉันกลับแล้วนะ”
ซาสึเกะตัดบทอย่างรวดเร็ว
ถ้าให้อยู่ฟังนารูโตะพล่ามเรื่องไร้สาระล่ะก็ เขากลับบ้านดีกว่า
และขณะเดินออกมาจากห้องทำงานเขาก็ยังได้ยินเสียงโฮคาเงะหนุ่มตะโกนไล่หลังมา
ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจจะฟังอีกต่อไป
“เดี๋ยวเซ่! ซาสึเกะ
กลับมาคุยกันก่อนนน!”
…………………………………………....
ซาสึเกะที่กลับมาถึงบ้านกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บริเวณโซฟาซึ่งเป็นเรื่องปกติเวลากลับมาจากภารกิจหรือช่วยงานของหมู่บ้านเสร็จ
และไม่นานนักเสียงเปิดประตูบ้านก็ดังขึ้นพร้อมกับเด็กสาวเรือนผมสีน้ำเงินเข้ม
ดวงตาสีเดียวกับบิดาภายใต้กรอบแว่นหันมามองคนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาก่อนจะเอ่ยทัก
“กลับมาแล้วค่ะป๊ะป๋า”
“อืม
ภารกิจวันนี้เป็นยังไงบ้าง” เขาถามขณะที่ยังไม่ละสายตาไปจากหนังสือ
“ก็ดีค่ะ แต่อาจารย์โคโนฮะมารุปล่อยก่อนเพราะบอกว่ามีธุระ”
ซาสึเกะวางหนังสือในมือลงเมื่อเห็นว่าลูกสาวเดินเข้ามานั่งที่โซฟาอีกตัวพร้อมกับวางดอกไม้และช็อกโกแลตลงบนโต๊ะรับแขก
“นั่นมันอะไรน่ะ ซาราดะ”
“ดอกไม้กับช็อกโกแลตยังไงคะป๊ะป๋า”
“พ่อหมายถึงว่าลูกไปเอามันมาจากไหน”
“ก็...เด็กผู้ชายในหมู่บ้านให้มาน่ะค่ะ”
“แก่แดดชะมัด”
“ป๊ะป๋าว่าหนูงั้นหรือ!”
ซาราดะเริ่มมีอาการไม่พอใจเมื่อบิดาพูดเช่นนั้น
แค่เธอรับเอาของวาเลนไทน์มาจากเพื่อนๆมันผิดมากหรือยังไงกัน
“เปล่า พ่อไม่ได้หมายถึงลูก
ยังไงซะก็เอามันไปทิ้งเถอะ รกบ้านเปล่าๆ”
“ป๊ะป๋า!”
คราวนี้ความไม่พอใจได้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธปนน้อยใจ
เด็กสาวลุกขึ้นพร้อมกับหอบเอาดอกไม้และช็อกโกแลตขึ้นมาไว้แนบอกแล้วเดินออกไปทางประตูบ้านทันที
ซึ่งพอดีกับที่ซากุระเปิดประตูเข้ามา
เธอมองหน้าลูกสาวที่เดินสวนออกไปด้วยสีหน้ากรุ่นโกรธ
“อ๊ะ ซาราดะ
ลูกจะไปไหนน่ะ”
“วันนี้หนูออกไปค้างบ้านโจโจนะคะ ไม่อยากอยู่กับคนใจไร้หัวใจอย่างใครบางคนหรอก!”
ซาราดะหันมาบอกมารดาของเธอก่อนจะเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว
“ซาราดะ เดี๋ยวสิลูก!”
ซากุระพยายามจะเรียกลูกสาวแต่ก็ไม่ทันการณ์ เธอจึงหันมาหาซาสึเกะที่ยังคงนั่งอยู่บนโซฟาแทน “นี่มันอะไรกันคะคุณ”
“ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรได้ยังไง
ก็ลูกเพิ่งจะงอนคุณออกไปเมื่อกี้”
“เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ
ว่าแต่เธอก็อีกคน จะเอาดอกไม้บ้าๆนั่นกลับมาทำไม ถังขยะข้างทางก็มีทำไมไม่ทิ้ง”
เขาหันมามองภรรยาที่ถือดอกไม้เข้ามาด้วยความหงุดหงิดที่เพิ่มขึ้นมาอีกขั้น
“ได้ยังไงกันคะ คนเขาอุตส่าห์ให้มา
แบบนั้นมันเสียมารยาทออก”
“ไอ้พวกกะโหลกกะลาคิดจะปีนเกลียวนั่นน่ะเหรอ”
“นี่คุณหึงฉันใช่หรือเปล่า”
ซากุระถามอย่างหยอกเย้าแต่คนเป็นสามีก็ยังคงท่าทีเย็นชาเช่นเดิม
“ไร้สาระ”
“คุณก็เป็นซะแบบนี้
ลูกถึงได้งอนยังไงล่ะ”
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะซักทีเถอะ”
“แล้วคุณไม่มีอะไรจะให้ฉันบ้างเหรอ”
ซากุระว่าแล้วตรงเข้ามานั่งบนโซฟาเดียวกันกับเขา
ส่วนมือของเธอก็เกี่ยวแขนของเขาไว้แน่นพร้อมเอาคางเกยไหล่กว้างนั่นอย่างออดอ้อน
“เนื่องในโอกาสอะไร”
“ก็วันนี้เป็นวันแห่งความรักไงล่ะคะ”
“มันสำคัญมากหรือไง
อีกอย่างเธอก็โตแล้วนะ จะมาร้องขออะไรกับเทศกาลเห่ยๆแบบนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นรอยยิ้มหวานก็แปรเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง ร่างบางผละออกมาจากตัวเขาอย่างขุ่นเคืองตามลูกสาว เธอรู้แล้วว่าทำไมซาราดะถึงได้งอนไปแบบนั้น
…………………………………………………….
มื้อเย็นที่บ้านอุจิวะดำเนินไปอย่างเงียบเชียบเป็นเพราะมีเพียงแค่ซาสึเกะและซากุระนั่งทานอาหารกันอยู่สองคน
ส่วนซาราดะนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าออกไปนอนค้างบ้านเพื่อนสาวอย่างโจโจเนื่องจากงอนป๊ะป๋าตัวเองไปเมื่อช่วงบ่าย
และเมื่องอนแล้วก็ไม่สามารถง้อได้ๆง่าย
ดังนั้นจะต้องให้เวลาเจ้าตัวเขาได้อยู่กับเพื่อนไปซักพัก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทั้งคู่ถึงไม่ไปตามตัวลูกสาวกลับมาในทันที
“ เป็นอะไรหรือเปล่าเธอน่ะ "
ซาสึเกะถามขึ้นเมื่อซากุระเอาแต่นั่งทานข้าวเงียบๆทั้งที่ปกติแล้วจะช่างพูดช่างคุยมากกว่านี้
“เปล่านี่คะ”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไอ้คำว่าเปล่าของผู้หญิงนั้นทำให้ซาสึเกะรู้สึกเหนื่อยใจ ทำไมเจ้าหล่อนถึงไม่บอกเขามาตรงๆ
มาถึงตรงนี้ก็ได้เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงถึงเป็นเพศที่เข้าใจยาก...
กริ๊งงง ~
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น
ซากุระจึงวางช้อนลงก่อนจะเดินไปรับสายทันที โดยมีสายตาของซาสึเกะมองตามไปด้วย
“ฮัลโหล อิโนะเหรอ อืม ว่างสิ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ อือ จ้า ไว้เจอกันนะ”
เมื่อวางสายลงเธอก็เดินกลับมาที่โต๊ะแล้วนั่งรับประทานอาหารต่อ ซาสึเกะจึงต้องเอ่ยถามขึ้นเองเพราะเธอไม่ได้รายงานเขาเหมือนทุกครั้งที่มีคนโทรเข้ามา
“มีอะไร”
“อ๋อ อิโนะชวนออกไปข้างนอกน่ะค่ะ”
“แล้วเธอจะไปงั้นเหรอ”
“ก็ไปน่ะสิคะ ก็วันนี้ฉัน ‘
ว่าง ‘ นี่ ไม่ได้นัดไว้กับใคร”
เธอว่าก่อนจะลุกขึ้นเก็บจานของตัวเองแล้วเดินไปยังส่วนครัว
ทิ้งให้สามีนั่งงงอยู่คนเดียวว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับแม่ลูกคู่นี้กันแน่
“พวกผู้หญิงนี่เป็นอะไรกัน…”
...........................................................................
ช่วงค่ำของร้านสาเกมีผู้คนเข้ามาพบปะสังสรรค์กันมากมาย
บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มากับกลุ่มเพื่อน
แต่ส่วนใหญ่จะมากันเป็นคู่เสียมากกว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ หนุ่มสาวในหมู่บ้านจึงพากันออกมาฉลองกันมากกว่าทุกครั้ง
“สีหน้าเบื่อโลกนี่มันอะไรกัน ทะเลาะกับสามีมาหรือยะ!”
อิโนะถามเพื่อนสาวเนื่องจากซากุระกำลังทำสีหน้าแกร่ว
ส่วนมือก็จับหูแก้วเบียร์แล้วยกขึ้นดื่มอย่างเซ็งๆ
“นี่เขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าฉันงอนเขาอยู่น่ะ”
“อุ๊บ ฮ่าๆๆๆ เธอจะไปเอาอะไรกับซาสึเกะคุงกันเล่า รายนั้นน่ะเป็นเจ้าเย็นชาไม่โรแมนติกมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว”
อิโนะว่าอย่างแอบขันเล็กน้อย
ถ้าซาสึเกะแฮปปี้กับวันวาเลนไทน์ วันนั้นคงเป็นวันที่โลกนินจาคงแตกเป็นเสี่ยงๆแน่ๆ
“ยังไงก็ช่างเถอะ แต่ฉันก็เซ็งอยู่ดีนั่นแหละ
เหอะ!”
ว่าแล้วก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดกทีเดียวจนหมดแก้ว
ยิ่งมองเห็นคู่รักนั่งจู๋จี๋กันภายในร้านยิ่งเพิ่มอาการอยากแอลกอฮอล์เข้าไปอีก
อิโนะที่เห็นเพื่อนดื่มหนักกว่าปกติก็เริ่มเห็นเค้าลางว่าจะต้องแบกเพื่อนสาวกลับบ้านแน่ๆ
ดังนั้นวันนี้เธอจะต้องมีสติมากกว่าซากุระให้ได้
“คุณอิโนะใช่หรือเปล่าครับ”
บริกรนายหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับดอกกุหลาบแดงช่อโต
อิโนะมองมันอย่างแปลกใจ
“ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“อ๋อ พอดีว่าคุณซาอิ
สามีของคุณสั่งให้เอาดอกกุหลาบช่อนี้มาให้คุณน่ะครับ
เขาบอกว่ายังไงคุณก็ต้องเข้ามาที่ร้านแน่ๆเลยเอาดอกไม้มาฝากไว้เมื่อตอนเย็น”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหัวใจที่ห่อเหี่ยวเพราะไม่ได้ฉลองกับซาอิที่วันนี้ติดภารกิจกะทันหันก็กลับมาฟูฟ่องเหมือนเดิม
มือเรียวบางยื่นไปรับช่อดอกไม้นั่นมาด้วยใบหน้าที่เบิกบาน เธอเอ่ยขอบคุณบริกรจากนั้นเขาก็เดินออกไปเมื่อทำหน้าที่เสร็จ
“ยิ้มไม่หุบเลยนะยะยัยหมู”
ซากุระเห็นแบบนั้นก็อดที่จะแซวไม่ได้
เธอนั้นดีใจกับเพื่อนรักด้วยจริงๆที่ซาอิถึงแม้จะติดภารกิจก็ยังไม่ละทิ้งความใส่ใจต่ออิโนะ
จะว่าไปก็เริ่มรู้สึกอิจฉาขึ้นมาตะหงิดๆแล้วเหมือนกัน
“ก็...นะ คิกๆ”
อิโนะถึงกับพูดไม่ออก
จมูกโด่งรั้นก้มลงไปสูดกลิ่นกุหลาบช่อใหญ่ในมืออย่างทนุถนอม ภาพนั้นทำให้ซากุระส่ายหัวพร้อมกับยิ้มน้อยๆให้กับความหน้าชื่นตาบานของเพื่อนสาวก่อนเธอจะจัดการรินเบียร์ใส่แก้วใหม่อีกครั้งจนแทบล้น
...................................................................
ปิ๊งป่อง ~
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นในเวลาช่วงดึกของบ้านอุจิวะ
ซาสึเกะที่ยังไม่นอนเพราะกำลังเขียนรายงานภารกิจของหมู่บ้านอยู่บนโต๊ะรับแขกก็ลุกขึ้นเดินไปยังประตูบ้าน
“ซาสึเกะคุง!”
อิโนะเรียกชื่อเขาเมื่อประตูถูกเปิดออก ซาสึเกะมองภาพอิโนะที่กำลังประคองร่างภรรยาของเขาเอาไว้
ท่าทางที่อ่อนปวกเปียกนั่นบอกคำตอบได้อย่างชัดเจน
“อย่าบอกนะว่าซากุระเมาน่ะ”
“แหะๆ เรา...ฉลองกันหนักไปหน่อย
ยัยซากุระก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะจ้ะ”
“อืม...ฉันไม่ด้ายมาวซักกะหน่อยยัยหมู
~”
เธอตอบพลางยืดตัวขึ้นเล็กน้อย
ซาสึเกะจึงเข้าไปประคองร่างเธอแทนอิโนะ
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะ”
“ขอบใจที่พาซากุระมาส่ง”
อิโนะยิ้มให้เขาเล็กน้อยแล้วโบกมือลาซากุระและเขาก่อนจะเดินกลับออกไป
ซาสึเกะจึงเลื่อนสายตามามองภรรยาเจ้าปัญหาข้างตัวแทนพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
................................................................
“ฮื่อ ที่ร้าก...ฉันเดินเองด้ายน้า
~ “
ซาสึเกะประคองซากุระลงนั่งบนเตียง
จากนั้นเขาก็ทำท่าจะเดินออกไปเพื่อเอาน้ำเปล่ามาให้ภรรยาสาวดื่ม
ทว่ามือบอบบางกลับรั้งแขนเขาไว้แล้วออกแรงดึงเบาๆ(?)จนซาสึเกะเสียหลักล้มลงบนเตียงก่อนเธอจะเคลื่อนตัวขึ้นคร่อมร่างเขาไว้
ดวงตาสีมรกตทอประกายหวานซึ้งเป็นพิเศษ
“คุณคะ...รู้มั้ยวันนี้เป็นวันอะไร”
“ซากุระ เธอเมาแล้วนะ”
เขาบอกพร้อมกับดันตัวเธอออกแต่เธอกลับจับแขนเขาเอาไว้แล้วจูบเบาๆที่หลังมือ
ทำเอาซาสึเกะถึงกับร้อนวูบขึ้นมาทันที
นี่อะไรเข้าสิงภรรยาสาวของเขาให้กลายเป็นนางแมวยั่วสวาทได้ขนาดนี้!
“ตอบฉันมาก่อนซี่ ถ้าไม่ตอบจะลงโทษนะ”
“ซากุระ!”
“ฮื่อ
คุณน่ะมันเป็นคนไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย!”
“นี่ เธอ...”
“รู้ตัวหรือยังคะว่าลูกงอนคุณเรื่องอะไร”
เธอว่าก่อนจะเลื่อนนิ้วชี้ไปแตะที่ริมฝีปากเขาเบาๆ
แล้วเคลื่อนใบหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเขาอีกครั้ง “แล้วฉัน...ก็งอนคุณเรื่องอะไร”
“…”
“แต่ไม่เป็นไรนะคะ
ฉันจะสอนคุณให้รู้จักความรักเอง ~”
เมื่อเธอเอ่ยจบก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เขาก่อนจะประทับริมฝีปากลงไป ซาสึเกะที่นานๆทีจะเป็นฝ่ายถูกรุกก่อนถึงกับตาเบิกค้างอย่างตกใจ
ส่วนฝ่ายภรรยาสาวยังคงแนบริมฝีปากค้างไว้อยู่ซักพักแล้วเริ่มเสิร์ฟรสจูบอันแสนหนักหน่วงให้กับเขาซึ่งเขาเองก็เผยอปากให้เรียวลิ้นเล็กของเธอเข้ามาหาควานหาความหวานด้วยความเต็มใจ
มือบางสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วลูบไล้อย่างช้าๆจนซาสึเกะรู้สึกเสียววาบบริเวณหน้าท้อง
และตอนนี้ไฟแห่งความปรารถนาก็ถูกเธอปลุกขึ้นมาโดยสมบูรณ์
ซากุระถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่งหลังจากแลกจูบดูดดื่มมานานก่อนจะเริ่มซุกไซร้ซอกคอของเขาต่อทันทีจนซาสึเกะเผลอครางออกมา
มือของเขาเริ่มสอดเข้าไปลูบแผ่นหลังเธออย่างเคลิบเคลิ้ม
เธอขานรับขณะปลดกระดุมเสื้อของเขาออกทีละเม็ดจนครบเผยให้เห็นหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อขึ้นบางๆ
ลิ้นอุ่นร้อนไล้เลียลำคอพร้อมกับขมเม้มจนเกิดรอยแดงแล้วเลื่อนขึ้นไปขบกัดที่ใบหูเขาเบาๆ
นั่นทำให้เส้นความอดทนของซาสึเกะแทบจะขาดลง แต่ทว่า...
“คุณคะ...ฉัน...รู้สึกง่วงแล้วล่ะ...”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เกม...โอเว่อร์!
“!!!”
“…z Z”
“เฮ้ ! ซากุระ
...ซากุระ! เธอจะมาหลับตอนนี้ไม่ได้นะ!”
ซาสึเกะเขย่าร่างที่ผล็อยหลับไปขณะกำลังเล่นบทนางแมวที่มากระตุ้นความปรารถนาของเขาจนแทบคลั่ง
แต่ดันมาตัดบทดื้อๆด้วยการฟุบหลับอยู่บนร่างเขาแบบนี้มันออกจะใจร้ายกับเขาเกินไปหน่อยแล้ว และเขาก็ไม่มีนโยบายลักหลับคนเมาเสียด้วย!
ในที่สุดเขาก็จำเป็นต้องพลิกร่างที่แน่นิ่งลงไปนอนกับเตียงก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นคลุมเธอพร้อมกับมองภรรยาสาวที่กำลังหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างคาดโทษ
“ยัยนี่...แสบนักนะ!”
.........................................................................
ซากุระตื่นมาด้วยอาการหัวหนักเหมือนเอาใครก้อนหินถ่วงไว้
เธอคลานลงมาจากเตียงแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นอย่างมึนงงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเมื่อคืน
และตอนนี้ก็เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอจนเธอต้องลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังห้องน้ำภายในห้องนอนด้วยความทุลักทุเล
หลังจากอาเจียนเสร็จเธอก็จัดการชำระทำความสะอาดร่างกายไปพร้อมเสียเลย
และเมื่อความสดชื่นเข้ามาแทรกอาการมึนงง
ก็ทำให้เธอจำได้ทันทีว่าเมื่อคืนเธอทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง ไม่รอช้าเธอก็รีบจัดการแต่งตัวให้เสร็จโดยไวแล้วเคลื่อนฝีเท้ากลับเข้ามาภายในห้องนอนอย่างแผ่วเบา
และตอนนี้เธอก็กำลังคิดหาวิธีหลบเลี่ยงที่จะเจอกับซาสึเกะ จากนั้นดวงตาสีมรกตมองไปยังประตูห้องนอนที่ปิดสนิทสลับกับหน้าต่างที่เปิดรับลมเอาไว้
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจพุ่งตัวไปที่บานหน้าต่างแล้วกระโดดขึ้นไปเกาะขอบมันเอาไว้
แต่ยังไม่ทันที่เท้าจะหย่อนลงบนตัวหลังคา
เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของซาสึเกะที่เดินเข้ามาแล้วมองด้วยสายตาจับผิด
“จะไปไหน...”
ฮะ เฮือก! ซวยชะมัด!
“อ๋อ จะไปทำงานจ้า!”
“แล้วทำไมไม่ออกทางประตูหน้า”
“คะ
คือ...ฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศนะจ้ะ!”
“งั้นเหรอ”
“ถ้าอย่างนั้นไว้เจอกันนะคะคุณ!”
ซากุระรีบบอกลาก่อนจะเตรียมตัวหย่อนฝีเท้าลงไปบนหลังคาอีกครั้ง
แต่เสียงทุ้มต่ำของซาสึเกะก็เรียกเธอไว้อีกครั้งเช่นกัน
“เดี๋ยว”
“มะ มีอะไรหรือ”
“ทำไมเธอต้องรีบไปทำงานด้วยล่ะ
ปกติวันนี้เธอเข้างานบ่ายไม่ใช่หรือ แล้วนี่ก็เพิ่งจะเก้าโมงกว่าๆ”
“เอ่อ...คือ...”
“หมดข้อแก้ตัวแล้วซากุระ
‘กลับ’ เข้ามาคุยกันเดี๋ยวนี้”
สุดท้ายแล้วซากุระก็ต้องกลับเข้ามานั่งตัวแข็งทื่ออยู่ที่ปลายเตียง
มือทั้งสองบีบเข้าหากันอย่างต้องการระบายความรู้สึกบีบคั้น
“ดื่มนี่สิ”
ซาสึเกะบอกก่อนจะยื่นกาแฟดำให้กับเธอดื่มเพื่อบรรเทาอาการแฮ้งค์
เธอจึงต้องรับมันไปดื่มอย่างเสียมิได้
“ขะ ขอบคุณค่ะคุณ”
“เมื่อคืนเธอทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างไหม”
คำถามนั้นทำเอาเธอกลืนกาแฟลงคออย่างยากลำบากนั่นเป็นเพราะว่าเธอจำได้ว่าได้ทำเรื่องน่าอายกับเขาไว้ยังไงบ้าง
ทว่าริมฝีปากบางกลับไม่ยอมเปิดปากพูด
“…”
“ว่ายังไงล่ะ ซากุระ”
“ฉะ
ฉันจำไม่ได้หรอกนะ!”
“งั้นเหรอ”
“อ๊ะ จำได้แล้ว!
จำได้ว่าลืมทำกับข้าวให้ลูก งั้นขอตัวก่อนนะ!”
“ลูกไปนอนค้างบ้านเพื่อนลืมไปแล้วหรือไง”
“นั่นสินะ ! คงต้องไปตามแล้วล่ะ”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง!”
“ก็ได้ๆ ยอมรับแล้ว
ฉะ ฉันจำได้!”
“จำได้ว่ายังไง”
ซาสึเกะไล่ต้อนจนซากุระรู้สึกจนมุม
สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องสารภาพออกมาด้วยความอึกอัก
“กะ ก็…ฉัน...เอาเป็นว่าฉันขอโทษนะที่เผลอไปลวนลามคุณเข้าน่ะ!”
ความเงียบเข้าแทรกคนทั้งคู่อยู่ซักพักก่อนจะเป็นซาสึเกะที่หลุดหัวเราะออกมาจนได้
“อุบ ฮ่าๆๆๆ”
“มันน่าขำตรงไหนเรื่องน่าอายแบบนั้น”
“ก็ไม่เห็นน่าอายนี่ ...ยังไงซะฉันก็เป็นสามีของเธอ
เธอจะลวนลามฉันเมื่อไหร่ก็ได้”
“มะ ไม่พูดแล้ว!
ฉันไปทำงานก่อนนะ!”
ซากุระที่มีใบหน้าแดงเถือกเป็นลูกมะเขือเทศสุกจากคำพูดของสามีก็ดีดตัวลุกขึ้นจากปลายเตียง
แต่มือข้างขวาของเขากลับรั้งแขนเธอไว้แล้วดึงลงมานั่งเหมือนเดิม
“เดี๋ยวสิ”
“ฮือ...มีเรื่องน่าอายอีกอย่างนั้นหรือไง”
ซากุระเริ่มครวญครางเพราะคิดว่าเรื่องเมื่อคืนยังมีอะไรมากกว่าที่เธอจำได้อีกหรือเปล่า
ซาสึเกะมองใบหน้าของเธอแล้วยิ้มขันเล็กน้อย
“หึหึ ไม่มีแล้ว...มีแต่เรื่องที่ฉันต้องขอโทษเธอ”
“เอ๋...เรื่องอะไรหรือคะ”
“เรื่องเมื่อวานที่เธอกับลูกงอนฉันยังไงล่ะ”
“…”
“ที่ฉันไม่ได้ให้ความสนใจวันแห่งความรักอะไรนั่น
ก็เพราะทุกวันที่มีเธอกับลูกมันก็เป็นวันพิเศษของฉันอยู่แล้ว”
“คุณคะ...”
“แต่มาคิดดูอีกทีว่าถ้าทุกวันมันเหมือนกันหมด ก็คงไม่มีเรื่องราวให้น่าประทับใจหรือได้จดจำเอาไว้เลย
เพราะฉะนั้นวันสำคัญยังไงมันก็มีความหมายต่างจากวันอื่น เป็นวันที่...พิเศษจากเวลาอื่น และน่าจดจำกว่าเวลา
อื่น ...ฉันก็เลยอยากจะให้อะไรบางอย่างกับเธอเนื่องในวันโอกาสพิเศษแบบนี้”
ซาสึเกะว่าก่อนจะล้วงมือไปเข้าไปหยิบกำไลข้อมือสีขาวอันเล็กๆสองอันแล้วสวมใส่ให้กับเธอ ถึงแม้จะดู
เรียบๆแต่เมื่อมันอยู่บนข้อมือของซากุระแล้วกลับดูสวยงามแล้วเข้ากับเธอเป็นอย่างดี
ซากุระหันมายิ้มสดใสให้กับคนที่เป็นสามีก่อนจะกระโดดเข้าสวมกอดเขาด้วยความรักมากกว่าเดิมจนซาสึ
เกะรู้สึกอึดอัด
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยกแขนขึ้นโอบรอบคอเธอไว้แล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
“คุณเนี่ย...น่ารักที่สุดเลย!”
……………………………………………..
ซาราดะเดินกลับเข้ามาภายในบ้านในช่วงเย็นหลังจากเมื่อคืนไปนอนค้างบ้านโจโจมาแล้วออกไปทำภารกิจกับเพื่อนในทีมต่อ
ดวงตากลมโตสีดำขลับหันไปมองมารดาที่ทำกับข้าวอยู่ตรงครัวแล้วเอ่ยทัก
“กลับมาแล้วค่ะ”
“อ้าว ทานอะไรมาหรือยังล่ะซาราดะ”
“ยังค่ะหม่าม้า แล้วนี่...ป๊ะป๋าไม่อยู่หรือคะ”
“ทำไมจ๊ะ คิดถึงป๊ะป๋างั้นเหรอ”
“คะ ใครจะไปคิดถึงคนแบบนั้นกัน! “
ซาราดะปฏิเสธเสียงแข็งทั้งที่ไม่ได้คิดเช่นนั้น
นั่นทำให้ซากุระอมยิ้มออกมาเล็กน้อยกับอุปนิสัยที่เหมือนกันอย่างกับแกะของพ่อลูก
“จ้าๆ งั้นลูกไปอาบน้ำก่อนนะ
แล้วหม่าม๊าจะทำกับข้าวไว้ให้”
เมื่อมารดาบอกเช่นนั้น เธอจึงเข้ามายังห้องนอนของตนเพื่อที่จะอาบน้ำ
แต่เด็กสาวก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่ามีกระถางดอกกุหลาบขาววางอยู่ริมหน้าต่าง เธอเดินเข้าไปดูมันใกล้ๆ
ก่อนเสียงของมารดาจะแทรกขึ้นที่หน้าประตูห้อง
“ป๊ะป๋าเขาอยากจะง้อซาราดะน่ะ ...เขาบอกว่าดอกไม้ที่ตัดแล้วนานไปมันก็เหี่ยว แต่ถ้าเป็นดอกไม้ที่มีรากมี
ดินอยู่มันก็จะคงอยู่ตลอดไป
ป๊ะป๋าเลยอยากจะให้ซาราดะดูแลเจ้าดอกกุหลาบขาวนี่ยังไงล่ะ”
ซากุระบอกพลางยืนมองลูกสาวที่ยืนมือสัมผัสกับดอกกุหลาบสีขาวบนกระถางอย่างเบามือ
ริมฝีปากเล็กเผยยิ้มมุมปากออกมาน้อยๆ
“หึ ป๊ะป๋าบ้า
ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอ”
...........................................................................................
-The End -
Ps1. หวายยยยยย!!
เลี่ยนจุงเบยอ่ะ แต่ก็น่าสงสารอิเป็ดเค้านะคะ
ตอนพิเศษโดนแกล้งตัลหลอดด ! (รักดอกจึงหยอกเล่น!) 55555555555+
Ps2. เรื่องกำไลข้อมือของซากุระขอโมเมเอาเองนะคะ แม้ว่าจะใส่มาก่อนที่พวกโอทสึทสึกิจะมาถล่มก็เหอะ 5555+
Ps3.เอาตอนพิเศษมาขั้นความอาม่า ไม่มีไรหรอก อิอิ
ไหนใครไม่มีแฟนเรามาโยกหัวเล่นกันเถอะ ! 55555+
ความคิดเห็น