ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Naruto ] April Snow เมื่อหิมะ...หลงฤดู

    ลำดับตอนที่ #26 : Chapter 24 : แตกหัก (1) [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.89K
      73
      11 ก.พ. 60







    Chapter 24 

    แตกหัก (1)











    ตัวละครใหม่ ' ยูมะ ' ส่วน ฝั่งขวาคือ ' ไดสุเกะ ' คนติตตามนายน้อยจ้าาา ! 






    ฉันอยากจ้างให้พวกแกไปถล่มงานเลี้ยงซักหน่อย


    เสียงของชายคนหนึ่งพูดกับกลุ่มโจรซึ่งอดีตเคยเป็นซามูไรปลายแถวที่ทำงานให้กับตระกูลทากะฮาชิ              เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกมันก็ทำตาวาวโรจน์ เพราะถ้าหากรับงานนี้นอกจากจะได้ค่าตอบแทนสูงลิบแล้วยังจะได้        แก้แค้นทากะฮาชิ เซอิจิ ที่เคยไล่พวกมันออกจากการเป็นซามูไรเมื่อนานมาแล้วจนต้องมากลายเป็นโจรเพราะไม่มีใครรับเข้าทำงาน


    ด้วยความยินดีขอรับ


    ชายผู้เป็นหัวหน้าตอบรับคำสั่ง รอยยิ้มเหี้ยมปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมัน จากนั้นมันก็ยื่นมือไปรับค่าตอบแทนก้อนแรกจากมือของคนที่สวมฮู้ดปิดบังใบหน้า


    แต่ถ้าทำให้มันหายไปจากโลกใบนี้ได้ฉันจะให้แกเพิ่มอีกสามเท่า


    หายไป...หมายถึงให้ฆ่างั้นหรือขอรับ!”


    มันเป็นสิ่งที่พวกแกปรารถนาอยู่แล้วไม่ใช่หรือ...หึหึ


    ชายสวมฮู้ดพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินหายเข้าไปในความมืด กลุ่มโจรมองตามเขาไปอย่างนึกอยากที่จะรู้ว่าชายผู้นั้นเป็นใคร แต่พอเห็นจำนวนธนบัตรในกำมือแล้วพวกมันก็สะบัดความอยากรู้อยากเห็นทิ้งไปโดยสิ้นเชิง...


     

    เรื่องที่เกิดเป็นแผนการทำลายชื่อเสียงอย่างที่คาด


                ซาสึเกะบอกหลังจากที่เขาผละออกมาจากความทรงจำของชายผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายผ่านเนตร

    วงแหวน ดวงตาที่เคยมีสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นสีนิลตามเดิม


    เธอเห็นหรือเปล่าว่าไอ้คนว่าจ้างมันเป็นใครเก็นจิโร่ถามอย่างร้อนรน เขาพาซาสึเกะมายังห้องคุมขังที่อยู่นอกเมืองเพื่อให้ชายหนุ่มช่วยสืบเบื้องหลังผู้ก่อเหตุถล่มงานเลี้ยง


    ไม่คนๆนั้นสวมฮู้ดปิดบังใบหน้า แม้แต่คนพวกนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร


    น่าเสียดายจังนะ…ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความผิดหวัง ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามส่งคนไปสืบแต่ก็สูญเปล่าทุกรอบ รวมถึงครั้งนี้ด้วย


     ท่านสงสัยใครบ้างพอจะบอกได้ไหมครับ


    มันก็หลายกลุ่มอยู่ พวกผู้บริหารก็ไม่พอใจความมุทะลุของลูกชายฉัน แล้วก็…” เก็นจิโร่มีสีหน้าลังเลเล็กน้อยที่จะต้องพูด ซาสึเกะเห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาแทน


    พวกตระกูลรองของทากะฮาชิ


    เฮ้อ..ฉันก็ไม่ได้อยากจะสงสัยคนในตระกูล


    แต่ยังไงก็ไม่ควรตัดประเด็นส่วนนั้นออกไป


    นั่นสินะ ถ้าอย่างนั้นฉันฝากเธอสืบเรื่องนี้ให้หน่อยได้ไหม...ซาสึเกะคุง


    ผมไม่รับปากเขาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบและแฝงไปด้วยความเย็นชา แต่เก็นจิโร่ไม่ได้สังเกตในน้ำเสียงนั่น เขายังคิดว่าการที่ชายหนุ่มไม่รับปากเป็นเพราะเรื่องค่าตอบแทน


    ถะ ถ้างั้นเธอต้องการอะไร ฉันจะหามาให้หมดเลย


    บอกไปแล้วว่าผมไม่ต้องการอะไร ...แล้วก็อย่าพยายามใช้สิ่งของซื้อใจคนอื่น ไม่อย่างนั้นคนอย่างท่านจะไม่รู้จักคำว่า มิตรภาพที่แท้จริงเลย


    เมื่อพูดจบ ซาสึเกะก็เคลื่อนตัวออกไปจากห้องคุมขังนักโทษโดยทิ้งให้ชายวัยกลางคนที่โดนตอกหน้าด้วยคำ พูดของชายหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่ายืนนิ่งอึ้งอยู่เพียงลำพัง




    ......................................................................




                รออีกซักหน่อยนะคะท่านอา...อีกซักครู่ท่านพ่อคงจะกลับมาแล้วล่ะค่ะ


                อายากะบอกกับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เขามีหน้าตาคล้ายคลึงกับเก็นจิโร่ ดวงตาสีสนิมมองหญิงสาวตรง

    หน้าด้วยความเอ็นดู


                เขาคือน้องชายของผู้ปกครองแคว้นคนปัจจุบัน...


                ทากะฮาชิ คิจิโร่


                ไม่เป็นหรอกอายากะ อาเองก็มาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า เห็นเกิดเรื่องที่งานเลี้ยงก็เลยอยากมาเยี่ยม” 

    คิจิโร่ว่าก่อนจะชะเง้อคอหาใครบางคนว่าแต่เซอิจิไม่อยู่หรอกเหรอ


                “อ๋อ รายนั้นไม่เคยอยู่ติดบ้านหรอกค่ะ เขาขี่ม้าออกไปนอกเมืองเป็นประจำ


                “ขยันทำหน้าที่จังเลยนะ


                แล้ว...ท่านพี่ยูมะไม่มาด้วยหรือคะอายากะถามถึงชายผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ เขาเป็นบุตรชายของ

    คิจิโร่และมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเซอิจิ


                “มาสิ...แต่เขาบอกว่าอีกเดี๋ยวจะตามเข้ามา คงเดินเล่นอยู่แถวนี้ล่ะนะ




                            ……………………………………………………...




                ในเรือนเพาะเลี้ยงของคฤหาสน์ ซากุระกำลังบดยารักษาอาการของเซอิจิอีกครั้ง และรอบนี้เธอก็ไม่มีผู้ช่วย

    เหมือนครั้งก่อนเพราะเขาติดธุระ ดวงตาสีมรกตเลื่อนสายตาไปยังตำราที่พกติดตัวมาจากโคโนฮะแล้วพลิกเปิดอ่าน

    อย่างเบามือเพราะมันมีลักษณะค่อนข้างเก่าแถมหน้ากระดาษบางแผ่นยังหลุดลุ่ยออกมา นั่นเป็นเพราะเจ้าของคน

    ก่อนคือซึนาเดะ กว่าจะมาถึงมือเธอก็ผ่านสมรภูมิมามากมายจนดูยับเยินอย่างที่เห็น


                เอ...ที่นี่จะมีหรือเปล่าน้า


                ซากุระเปรยเบาๆกับตัวเองพร้อมกับหยิบตำราขึ้นมา เธอเดินออกไปด้านนอกเรือนเพื่อหาสมุนไพรตามที่

    ระบุไว้ในหน้ากระดาษ หญิงสาวสอดสายตาสำรวจหาอยู่ซักพักก่อนจะเห็นว่ามันขึ้นกระจุกตัวกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่

    ต้นหนึ่ง เธอจึงเดินเข้าไปแล้วย่อเข่าลงตัดสมุนไพรทันที


     สายลมที่ลอยพัดเข้ามาทำให้ตำราที่เธอวางไว้ข้างตัวเปิดกางออกก่อนหน้าหนังสือที่ขาดอยู่แล้วจะลอยปลิวกระจายออกไปในอากาศ ดวงตาสีมรกตเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วลุกขึ้นไปเก็บหน้ากระดาษของตัวเองก่อนมันจะปลิวไปไกลมากกว่านี้ 


                ขณะที่เธอกำลังก้มหน้าก้มตาเก็บกระดาษ ก็มีมือเรียวบางของใครคนหนึ่งยื่นกระดาษมาให้เธอ ซากุระไล่

    สายตาขึ้นไปมองก่อนจะเห็นว่าใบหน้าสวยกำลังส่งยิ้มให้เธอบางๆ ดวงตาสีสนิมทอประกายอ่อนโยน เส้นผมยาว

    สีดำขลับนั้นปลิวสยายไปตามลมจนทำให้เขาดูเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดชิ้นเอก


                สะ สวยชะมัด!


                ขอบคุณที่ช่วยเก็บนะคะเธอบอกหลังจากหลุดออกมาจากภวังค์ มือบางยื่นไปรับกระดาษคืนมาแล้วยืด

    ตัวขึ้นยืน เขาเองก็ลุกขึ้นยืนตามเธอเช่นกัน และตอนนี้เธอก็ได้เห็นว่าคนตรงหน้าตัวสูงกว่าเธอเสียอีก


                “เรื่องเล็กน้อยน่ะครับ


                เอ๊ะ ! แต่เดี๋ยวก่อน...


              ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างเป็นครั้งที่สองเมื่อได้ยินเสียงทุ้มหลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบ


     คนที่เธอเข้าใจว่าเขาเป็นผู้หญิง...


                คะ คุณเป็นผู้ชาย...?”


                “ฮะๆๆ นึกแล้วเชียวว่าคุณต้องพูดแบบนี้ เขามองเธออย่างขบขัน ผมเป็นผู้ชายจริงๆ ถึงคนส่วนใหญ่จะ

    ชอบคิดว่าผมเป็นผู้หญิงก็เถอะ


                “ขอโทษนะคะที่เสียมารยาทเธอว่าพลางค้อมตัวลงเล็กน้อย


                “ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่...คุณผู้หญิงเป็นใครหรือ ทำไมผมไม่เคยเห็นคุณหน้ามาก่อนเลย


                “อ๋อ ฉันชื่อฮารุโนะ ซากุระค่ะ เป็นนินจามาจากโคโนฮะ ตอนนี้ฉันรับภารกิจคุ้มกันคุณหนูอายากะอยู่ก็เลย

    มาอยู่ที่นี่ได้เกือบเดือนแล้ว  ...แล้วคุณล่ะคะ


                “อืม...ผมชื่อยูมะ ...ทากะฮาชิ ยูมะ ท่านพ่อของผมเป็นน้องชายของท่านเก็นจิโร่น่ะครับ


                “ฮะ ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านเก็นจิโร่มีน้องชายด้วย ในใบประวัติก็ไม่ได้บอกไว้ เอ่อ...ขอโทษที่เสียมารยาท

    อีกครั้งค่ะ


                “จะไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอกครับ พวกเรานับว่าเป็นตระกูลรองน่ะเขาว่าอย่างไม่ถือโทษก่อนจะมองไปยัง

    สมุนไพรที่วางอยู่บนพื้น แล้วนี่คุณกำลังทำอะไรอยู่หรือครับ


                “อ๋อ ฉัน...เอ่อ...กำลังเก็บสมุนไพรไปปรุงยาน่ะค่ะ


                “หืม...คุณเป็นนินจาแพทย์สินะครับ อ๊ะ เหมือนจะเคยได้ยินชื่อของคุณว่าเป็นหนึ่งในผู้กอบกู้สงครามโลก

    นินจาครั้งที่สี่สินะ...เป็นผู้หญิงที่เท่จริงๆนะครับ


                “แหะๆ ขอบคุณค่ะ


                ซากุระกล่าวพลางยิ้มเขินเล็กน้อย เขาเองก็ยิ้มให้เธอเช่นกัน ทว่ายังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกันไป

    มากกว่านี้ เสียงทุ้มห้าวของใครคนหนึ่งก็แทรกขึ้นมา  และซากุระก็คุ้นเคยกับเสียงนั้นเป็นอย่างดี   


                นายมาทำอะไรที่นี่...ยูมะ



                “อ้าว เซอิจิ ไม่เจอกันนาน สบายดีใช่หรือเปล่า


                ยูมะหันไปมองคนที่เดินเข้ามาใหม่ ใบหน้าที่ดูไม่สบอารมณ์มองเขาด้วยแววตาไม่เป็นมิตรเหมือนเช่น

    ทุกครั้งที่เจอกัน


                “สบายดี ฉันยังไม่ตายง่ายๆหรอก


                พูดอะไรของนายกันน่ะ


                “เหอะ! ไอ้นิสัยชอบตีหน้าซื่อนี่เหมือนกับพ่อของนายไม่มีผิด


                อะ เอ่อ อย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะเมื่อเห็นเค้าลางแห่งความวุ่นวาย ซากุระก็เลือกที่จะพาตัวเองออกไป

    จากจุดนี้โดยเร็วที่สุด เซอิจิเข้ามาทีไรเธอก็ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบเลยซักครั้ง


                “หยุดเลยนะยัยเถิก เธอไม่ต้องไป ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ...แค่สองคน


                เซอิจิรีบดักทางไว้ก่อนหญิงสาวจะเดินจากไป ดวงตาสีมรกตมองสลับเซอิจิกับยูมะอย่างรู้สึกอึดอัดที่ต้องมา

    อยู่กลางสงครามระหว่างทั้งคู่


                ส่วนยูมะยังมีสีหน้ายิ้มแย้มแม้จะรู้ตัวว่าโดนเซอิจิกำลังไล่ทางอ้อมอยู่ คำว่า แค่สองคน คงเป็นประโยค

    ขับไล่เขาตามแบบฉบับของเจ้าตัว 


                ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะ หวังว่าเราจะได้พบกันอีกนะครับ...คุณซากุระ


                “ฝันไปเถอะเขาพูดไล่หลังมาแทบจะในทันที ร่างสูงที่เคลื่อนตัวออกไปแล้วหยุดชะงักไปชั่วครู่แล้วออกเดิน

    ต่อด้วยรอยยิ้มที่ไม่บ่งบอกความหมาย


                “เป็นอะไรของนายน่ะ ทำไมต้องไปหาเรื่องเขาด้วยล่ะ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายไม่ใช่หรือ


                ซากุระถามขึ้นหลังจากตอนนี้เหลือเธอยืนอยู่กับเซอิจิเพียงแค่สองคน วันนี้ชายหนุ่มดูหงุดหงิดกว่าทุกครั้ง

    เพราะปกติที่เขาเจอเธอมักจะชอบมากวนประสาทเสียมากกว่า


                “ฉันไม่นับมันเป็นญาติหรอก


                “เอาแต่ใจชะมัด


                “เธอว่าอะไรนะ


                ช่างเหอะ แล้วมีอะไรคุยกับฉันล่ะ


                “ไม่มี


                “อ้าว!”


                “ทำไม ถ้าจะมาเจอเธอต้องมีธุระอะไรด้วยงั้นหรือ” เขาพูดอย่างหน้าตายจนซากุระถึงกับหงุดหงิด


                “ฉันไม่คุยกับนายแล้ว ปวดหัว!”


                “ปวดหัวเหรอ...แล้วกินยาหรือยังอ่ะ


                “…”


                ซากุระพยายามสะกดกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที่กับความกวนประสาทของเขา จากนั้นเธอก้มลงเก็บตำรา

    กับสมุนไพรขึ้นมากอดไว้แนบอกแล้วเดินออกไป


    เธอจะไปไหนอ่ะยัยเถิก


                “ไปปรุงยาชุดใหม่ให้นายนั่นแหละ! ถ้าจะให้ดีก็ช่วยเก็บสมุนไพรที่เหลือมาให้ด้วย


                นี่เธอใช้ฉันเรอะ!”


                ถึงปากจะพูดไปแบบนั้นแต่ว่าที่เจ้าแคว้นหนุ่มก็ก้มลงเก็บสมุนไพรที่เหลือแล้วเดินตามซากุระเข้าไปใน

    โรงเพาะเลี้ยงอย่างไม่อิดออดโดยไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องทำตามคำสั่งเธอด้วย




    ………………………………………………………….

         








    มาเสิร์ฟความมุ้งมิ้งของเจ้าลูกหมาเซอิจิที่พักหลังมานี้เดินตามผู้หญิงต้อยๆเลย แต่ระวังหน่อยนะ ไอ้เป็ดเกะรอขย้ำอยู่ 555555+ ( ทีมเป็ดฮึบไว้นะ!) 
    02.04.17




    ...........................................................................................






    หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่งานเลี้ยงมาได้เกือบอาทิตย์ เซอิจิก็ถูกบิดาบีบบังคับให้ไปเดินทางไปขอโทษแขก  เหรื่อพร้อมกับนำของทำขวัญไปมอบให้ จะไม่ทำก็เลี่ยงไม่ได้เพราะเขารับรู้ได้ว่าพวกตระกูลรองอย่างคิจิโร่กำลังคิดส่งยูมะขึ้นมาเรียกคะแนนจากชาวบ้านแทนเขา นั่นทำให้สีหน้าของเจ้าตัวตอนนี้บูดบึ้งยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แถมการเดินทางครั้งนี้ยังมีอายากะติดสอยห้อยตามมาด้วยพร้อมกับนินจาของโคโนฮะ อายากะให้เหตุผลว่าจะมาช่วยเขาเจรจา เมื่อเห็นแบบนั้นเก็นจิโร่จึงอนุญาตทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะทำเสียเรื่องอีก


    เดี๋ยวอีกไม่ไกลก็ถึงเรียวกังที่เราจะพักระหว่างทางแล้วขอรับนายน้อย


    ไดสุเกะที่รับหน้าที่เป็นสารถีขับเคลื่อนรถม้าตะโกนบอกเซอิจิที่ขี่ม้าคู่มากับซาสึเกะ ดวงตาสีสนิมมองเข้าไปภายในเกี้ยวที่มีอายากะนั่งอยู่กับซากุระอยู่สักครู่ก่อนจะหันกลับมามองทางด้านหน้าต่อ


    ถ้าอย่างนั้นก็เร่งขบวนหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวฟ้ามืดแล้วจะเดินทางลำบาก





    ...........................................................................





    คุณซาสึเกะ ลองทานอันนี้ดูสิคะ


    อายากะบอกพลางคีบหมูทงคัตสึที่ราดด้วยซอสแกงกะหรี่ไปใส่ในชามข้าวของซาสึเกะ พวกเขาเดินทางกันมาถึงเรียวกังในเวลาเกือบเย็น ซึ่งทางสถานที่ก็ได้จัดเตรียมที่พักพร้อมอาหารเย็นไว้ให้เรียบร้อยแล้ว


    อืม...ขอบใจ แต่ฉันตักเองได้


    เขาบอกก่อนที่เธอจะตักอาหารให้เขาไปมากกว่านี้ ส่วนซากุระก็เลือกที่จะนั่งรับประทานอาหารอย่างเงียบๆ ข้างๆซาสึเกะ เธอไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาทั้งสิ้น


    ดิฉันรู้มาว่าคุณซาสึเกะชอบมะเขือเทศ ก็เลย...สั่งซุปมะเขือเทศมาให้ด้วยนะคะ


    คราวนี้เป็นซาสึเกะที่หันสายตามาทางซากุระอย่างคาดโทษ ซึ่งเธอก็ทำได้แต่ยิ้มแห้งๆพลางหลบเลี่ยงที่จะสบตากับเขาแล้วหันมามองคนตรงข้ามแทน


    เซอิจิที่นั่งอยู่ตรงข้ามซากุระไม่ได้ฟังสิ่งที่น้องสาวพูดเท่าไรนักเพราะเจ้าตัวกำลังมุ่งมั่นกับการเขี่ยผักออกจากเนื้อแล้วคืบไปวางไว้บนจานของไดสุเกะ ซึ่งนั่นทำให้ผู้ติดตามหนุ่มมองอย่างเหนื่อยใจเล็กน้อย  นี่เขาต้องเอ่ยขอร้องเป็นครั้งที่เท่าไรกันเจ้าตัวถึงจะเลิกนิสัยแบบนี้


    นายน้อย...ควรจะกินผักบ้างนะขอรับ


    เรื่องของฉันน่า!” 


    เซอิจิสวนกลับแต่ก็ยังไม่หยุดที่จะเขี่ยผักต่อไป เห็นแล้วมันรำคาญลูกตา ทำไมเมนูของทางเรียวกังถึงได้มีแต่ผักแบบนี้ เขานึกอย่างหงุดหงิด


    ทำไมนายถึงไม่กินผักล่ะ”  ซากุระถามขึ้นหลังจากมองการกระทำของเซอิจิ


    ก็ฉันไม่ชอบ


    เหตุผลแค่นี้น่ะเหรอ


    เออเด่ะ


    เด็กจริงๆนะนายเนี่ย


    ซากุระว่าอย่างขบขันที่เขาเป็นถึงว่าที่เจ้าแคว้นแต่ดันมีนิสัยไม่กินผักเหมือนเด็ก และนั่นทำให้เซอิจิเริ่มเกิดความไม่พอใจที่ถูกสบประมาท


    เธอว่าใครเด็กฟะ! ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีนะ


    ก็แค่สามปีเองย่ะ!”


    ฉันก็เกิดก่อนเธออยู่ดีนั่นแหละ!”


    สงครามไร้สาระของเซอิจิกับซากุระเรียกรอยยิ้มขันให้กับอายากะจนเธออดที่จะเอ่ยแซวพี่ชายของตัวเองกับหญิงสาวเรือนผมสีชมพูไม่ได้


    คิกๆ ท่านพี่กับคุณซากุระดูน่ารักดีนะคะ


    หยุดพูดไปเลยอายากะ!”


    เซอิจิว่าพลางก้มหน้ากินข้าวต่อไป เขาไม่ชอบให้ใครมาแซวเล่นแล้วก็ไม่ชอบที่จะถูกใช้เป็น เครื่องมือของใคร ถึงแม้ว่าคนนั้นจะเป็นน้องสาวแท้ๆของเขาก็เถอะ ทว่าอายากะก็เมินเฉยกับสิ่งที่เซอิจิพูด เธอหันสายตากลับมายังซาสึเกะที่เริ่มจะไม่แตะต้องอาหารพร้อมกับถามความคิดเห็น


    คุณซาสึเกะเห็นด้วยกับดิฉันไหมคะ


    ในที่สุดเขาก็วางตะเกียบลงพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง


    ฉันขอตัวก่อน


    หลังจากเอ่ยจบ เขาก็เดินไปออกไปจากห้องอาหาร อายากะเห็นแบบนั้นจึงมองไปยังซากุระที่กำลังมองตามร่างสูงออกไปเช่นกันพร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล


    นี่ดิฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่าคะ


    ไม่หรอกจ้ะ เขาเป็นพวกกินน้อยอยู่แล้ว คงจะอิ่มจริงๆน่ะ อายากะอย่าคิดมากเลยนะ


    ซากุระพูดปลอบใจเธอไปพลางยิ้มให้น้อยๆ อายากะจึงยิ้มตอบเธอเช่นกันแล้วลงมือทานข้าวต่อโดยมีสายตาของไดสุเกะจับจ้องอยู่อย่างสงสัย นี่เขาคงพลาดอะไรไปหลายๆเรื่อง เห็นทีเขาคงต้องทำอะไรบางอย่างบ้างเสียแล้ว...




    .................................................................




    คุณซากุระ...ดิฉันคิดว่าจะยอมแพ้เรื่องคุณซาสึเกะจริงๆแล้วล่ะค่ะ


    อายากะพูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่กลับเข้ามาในห้องพักเรียบร้อยแล้ว ประโยคนั้นทำให้ดวงตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้างทันที


    หะ หา!”


    ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นล่ะคะ


               “ขอโทษทีจ้ะ ซากุระเอ่ยด้วยความเบาใจแต่ก็ยังสงสัย ว่าแต่ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ


               “ก็คุณซาสึเกะเขาไม่สนใจดิฉันเลยน่ะค่ะ ...คุณซาสึเกะเนี่ย...เคยรักใครบ้างหรือเปล่าคะ


               “อืม...มะ ไม่รู้สิจ๊ะ


               “คุณซาสึเกะน่ะ...มองแว่บเดียวก็รู้แล้วว่าเขารักสันโดษมาก คงไม่ยอมให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามกับชีวิตเขาได้

    ง่ายๆหรอกค่ะ ไม่ว่าจะเป็น คนสนิท แค่ไหน...


               อายากะบอกพลางมองไปที่ซากุระด้วยสายตาที่แปลกไปเพียงชั่วแวบหนึ่งซึ่งเธอไม่ได้สังเกตเห็นเพราะกำลัง

    จัดข้าวของในมืออยู่ อายากะจึงเอ่ยถามขึ้นต่อ 

                     

                ว่าแต่คุณซากุระคะ ดิฉันขอปรึกษาอะไรหน่อยสิคะ


                “เรื่องอะไรหรือเธอเงยหน้าขึ้นมาถาม


                “ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเพื่อนดิฉันเอง เธอมาระบายให้ดิฉันฟังว่าเธอได้เจอผู้ชายคน

    หนึ่ง เขาดีกับเธอมาก แต่ว่าเขาไม่เคยที่จะบอกรักเธอเลย เธอจึงไม่แน่ใจว่าเขารักเธอจริงๆหรือเปล่า...


     “อืม...ฉันคิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดนะ ถึงเขาจะไม่บอกเราก็รู้สึกได้ไม่ใช่หรือ


    ซากุระบอกไปแบบนั้นเพราะก็คงคล้ายๆกับซาสึเกะ เขาเองก็ไม่เคยบอกรักเธอซักครั้งแต่สิ่งที่เขาแสดงกับเธอก็ทำให้เธอพอจะรับรู้ได้ว่าเขาคิดเช่นไร


     งั้นเหรอคะ แบบนั้น...มันเหมือนกับหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่าคะ บางทีผู้ชายเขาไม่เคยบอกรักอาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่แน่ใจก็ได้นะคะ


    ไม่แน่ใจงั้นเหรอ...


    แล้วเพื่อนของอายากะกับเขาคนนั้น...เป็นยังไงบ้าง


    ก็เลิกกันไปน่ะสิคะ เพราะสุดท้าย... ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้รักเพื่อนของฉันจริงๆ เขาแค่ให้ความหวังเธอ ถ้าเป็นดิฉันก็รู้สึกเจ็บปวดน่าดูเลยล่ะค่ะ”


    “…”


    ซากุระนิ่งเงียบไปอย่างขบคิด แม้ว่าสิ่งที่อายากะบอกจะทำให้รู้สึกไขว้เขว แต่พอนึกถึงสิ่งดีดีที่ซาสึเกะแสดงต่อเธอ เธอก็กลับมามั่นใจเหมือนเดิม


               “อ๊ะ ขอโทษนะคะที่ดิฉันเผลอพูดอะไรไร้สาระ


               “เอ่อ...จ้ะ


               “งั้นเดี๋ยวดิฉันไปรอที่หน้าห้องทางเข้าน้ำพุร้อนนะคะ พอดีฉันมีธุระที่ต้องไปแวะนิดหน่อย แล้วเจอกันค่ะ


                 เมื่อเอ่ยจบคุณหนูสาวก็ฉีกยิ้มให้ซากุระก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นเดินถือข้าวของที่เตรียมตัวจะไปอาบน้ำออกไป

    นอกห้องพัก ส่วนซากุระก็จัดเตรียมเสื้อผ้าต่อไปอย่างไม่คิดอะไร

     




    ……………………………………………………..




    อายากะเดินเข้ามาที่หน้าทางเข้าบ่อน้ำพุร้อนหลังจากทำธุระเสร็จ เมื่อไม่เห็นวี่แววของซากุระ เธอก็เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าป้ายบอกทางไปห้องสำหรับเปลี่ยนชุดซึ่งจะแบ่งเป็นสองฝั่งคือชายและหญิง ดวงตาสีเฮเซลนัทมองไปยังเค้านท์เตอร์ที่ควรจะมีพนักงานเฝ้าอยู่แต่เวลานี้กลับว่างเปล่า ริมฝีปากบางแสยะยิ้มน้อยๆ แล้วจัดการสลับตำแหน่งป้ายก่อนจะเดินเข้าไปทางบ่อน้ำพุร้อนฝั่งหญิงด้วยใบหน้าเรียบเฉย


    ทางด้านซากุระที่จัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้สำหรับเปลี่ยนตอนลงไปแช่น้ำเสร็จแล้ว เธอก็เดินออกจากห้องพักไปยังส่วนที่เป็นบ่อน้ำพุร้อน


    อ้าว อายากะจังไปไหนแล้วนะ


    เธอเปรยออกมาเบาๆเมื่อไม่เห็นคุณหนูสาวที่บอกกับเธอว่าจะรออยู่ด้านหน้าทางเข้า เมื่อมองไปทางเค้านท์เตอร์เพื่อจะสอบถามก็ไม่เห็นพนักงาน เธอจึงเดินเลี้ยวเข้าไปทางที่บอกว่าไปบ่อน้ำพุร้อนฝั่งผู้หญิงด้วยสีหน้าที่ยังงงๆอยู่โดยหารู้ไม่ว่าด้านที่เธอกำลังไปเป็นฝั่งของผู้ชาย...!


    คล้อยหลังซากุระไปไม่นาน พนักงานที่ไปเข้าห้องน้ำก็เดินกลับเข้ามาประจำหน้าที่ตัวเอง แต่แล้วเธอก็มีสีหน้าตกใจเมื่อสังเกตเห็นว่าป้ายบอกทางถูกใครบางคนสลับตำแหน่ง


    ใครมาเล่นพิเรนทร์บ้าอะไรเนี่ย!”


    เธอบ่นอุบอิบอย่างไม่พอใจแล้วจัดการสลับป้ายให้เป็นเหมือนเดิมพลางสอดสายตามองหาตัวการแต่ก็พบความว่างเปล่า




    …………………………………………..





    บ่อน้ำพุร้อนในเวลานี้ไม่มีใครอยู่นอกจากเจ้าของเรือนผมน้ำเงินเข้มที่เปียกลู่จนแนบชิดใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสองสีมองบรรยากาศโดยรอบอย่างต้องการความผ่อนคลายจากความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นในห้องอาหาร นี่เขาต้องทนกับบรรยากาศน่าอึดอัดแบบนี้ไปถึงเมื่อไร ถ้าไม่ติดว่าคาคาชิขอร้องให้รับภารกิจนี้ไว้ เขาคงยกเลิกแล้วพาเธอกลับไปนานแล้ว


    ขณะที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็เดินย่ำเข้ามา แต่เขาไม่คิดจะหันไปมองเพราะเขาคิดว่าคงเป็นแขกคนอื่นๆ ที่จะมาใช้บริการน้ำพุร้อน


    อ๊ะ ! ซะ ซาสึเกะคุง !!!”


    เสียงหวานใสที่คุ้นเคยทำให้เขาถึงกับหันสายตาไปมองก่อนจะพบกับร่างบางที่มีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวปิดบังร่างกายอยู่อย่างตกตะลึง และดูเหมือนเธอเองก็ตกใจไม่แพ้กัน


    เธอ...เข้ามาทำอะไรที่นี่!”


    เอ๋...! นี่ไม่ใช่บ่อของฝั่งผู้หญิงงั้นหรือ!” เธอถามพร้อมกับเบิกตากว้าง


    จะบ้าหรือไง! เธอได้อ่านป้ายบ้างหรือเปล่า


    ถะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะ!”


                ซากุระว่าอย่างตื่นตระหนกผสมงงงวยก่อนเคลื่อนฝีเท้ากลับออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ทันที่ซาสึเกะจะหายตกใจหญิงสาวก็วิ่งกลับเข้ามาอีกรอบพร้อมกับใบหน้าตื่นกว่าเดิม


    มะ มีคนมา ทำไงดี!”


    ให้ตายสิ!”


    ซาสึเกะสบถออกมาขณะคว้าผ้าขนหนูสีขาวที่พาดอยู่ตรงโขดหินมาผูกกับเอวแล้วลุกขึ้นมาจากบ่อด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ตรงเข้าไปคว้ามือของเธอเดินเลี้ยวเข้าไปยังห้องซาวน่าก่อนที่คนอื่นจะเข้ามาเห็น


    ปัง!


    เฮ้อ เกือบไปแล้ว!”


    ซากุระถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อซาสึเกะปิดประตูห้องซาวน่าได้อย่างทันท่วงที แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเลื่อนสายตาขึ้นไปมองคนตรงหน้าที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าโดยมีเพียงแต่ผ้าขนหนูพันไว้ที่ท่อนล่างอย่างหมิ่นเหม่ และเหมือนเขาจะรู้ตัวว่าถูกเธอจ้องมอง เขาจึงหันมามองหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังมีสีหน้าแดงซ่านเช่นกัน


    ตกลงว่าเธอเข้าบ่อผิดฝั่งจริงๆงั้นหรือ


    คะ คือ ฉัน...


    ซากุระพูดอย่างติดขัดด้วยความเขินก่อนจะค่อยๆเขยื้อนตัวออกไปให้ไกลจากเขาทว่าเขากลับเคลื่อนฝ่ามือหนาขึ้นมายันผนังไว้ซึ่งเป็นการปิดช่องทางหนีของเธอไว้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้แล้วเริ่มเค้นคำตอบจากคนตัวเล็กกว่า


    ตอบ


    กะ ก็ป้ายข้างหน้าเขียนว่าฝั่งนี้เป็นฝั่งของผู้หญิงนี่!”


    นี่เธอเมาเหล้าหรือไง


    เปล่านะ! ฉันไม่ได้เมาซักหน่อย แต่ช่างเหอะ ฉันอาจจะจำผิดก็ได้


    เธอว่าก่อนจะยกมือขึ้นกุมผ้าขนหนูไว้แน่นด้วยความรู้สึกประหม่า ใบหน้าหวานมองต่ำลงไปที่พื้นอย่างต้องการหลบเลี่ยงสายตา ซาสึเกะเองก็มองเธอด้วยความนิ่งงัน ภาพตรงหน้าทำให้เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ตอนคารินบุกเข้ามาหาเขาที่บ่อน้ำพุร้อนฝั่งชายด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวยังไม่ได้ทำให้เขารู้สึกรู้สาอะไรเลย แต่ทำไมตอนนี้เขากลับ...


    ซาสึเกะขับไล่ความคิดอกุศลของตัวเองแล้วผละตัวออกมาให้ห่างจากเธอก่อนที่สมาธิของเขาจะแตกกระเจิง


                ฉัน...จะออกไปดูข้างนอกให้ รออยู่ในนี้ก่อนแล้วกัน


                “ถ้าอย่างนั้น ฉันฝากไปเอาเสื้อผ้าที่ล็อกเกอร์มาให้หน่อยสิ น้า~ “  


                เธอบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแกมขอร้องแล้วเข้ามาเกาะแขนเขาไว้อย่างลืมตัว เพราะในล็อกเกอร์มีของใช้สำหรับ'ผู้หญิง' อยู่ หากใครไปเจอเข้าเธอคงได้อายจนเอาหัวมุดดินแน่ๆ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาพลางยื่นมือมาผลักศีรษะเธอเบาๆ คล้ายกับเป็นการลงโทษที่เธอสร้างความวุ่นวายให้กับเขา


                เธอนี่...จริงๆเลยนะ




    .........................................................................




                บริเวณส่วนที่เป็นห้องครัวของเรียวกัง พนักงานสาวกำลังจัดขวดเหล้าลงบนถาดเพื่อนำมันไปเสิร์ฟให้กับ

    แขก แต่แล้วความสนใจของเธอก็ถูกดึงไปเมื่อเห็นว่ามีแมวตัวหนึ่งกำลังเข้ามาขโมยปลาที่ย่างไว้บนเตาก่อนมันจะ

    คาบออกไป เธอจึงวิ่งไล่ตามมันออกไปอย่างเสียไม่ได้เพราะกลัวว่ามันจะไปสร้างความเลอะเทอะด้านนอก



     และมื่อไม่มีใครอยู่ในครัว บุคคลลึกลับที่แอบอยู่หลังฝาผนังก็เดินมาหยุดหน้าถาดที่มีขวดเหล้าวางอยู่พร้อมกับจัดการเปิดฝาแล้วเทผงยาสีขาวป่นละเอียดลงไป จากนั้นก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบเชียบเมื่อเห็นว่าผงยาละลายลงไปในเหล้าเรียบร้อยแล้ว พอดีกับที่พนักงานสาวกลับเข้ามา เธอก็ยกถาดเหล้าขึ้นมาแล้วเดินไปยังห้องพักของว่าที่เจ้าแคว้นหนุ่มโดยไม่ได้สังเกตว่ามีคนกำลังมองตามไปด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ...





    ............................................................



    -TO BE CONTINUED-





         Ps1.จบตอนแล้วจ้า ! นี่เราควรขอบใจอายากะดีไหมอ่ะ 555555+ แต่อย่าเพิ่งเลย เรามีมาม่ามาแจกอีกแยะดูได้จากชื่อตอน พาร์ทเดียวไม่จบ เชิญเสพต่อตอนหน้า ทีมเป็ดน้อยใจแล้วเลยเซอร์วิสให้ก็ได้ อิอิ 

         Ps2.เราลองตั้งเพจเอาไว้ในเฟซบุ๊กนะ แต่เดี๋ยวชี้แจงอีกทีตอนหน้า เพจนี้มีไว้อัพตอน...นั่นแหละ ใกล้ได้ฤกษ์ละ หลังจากหลอกล่อให้อ่านมาเกือบ 3 ปี 555555+ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ จุ๊บ 

       Update : 2.11.17










    อันนี้ตอนคารินไปยั่วพร้อมขโมยเเปรงสีฟันอิเกะ แต่หยิบผิดเอาของซุยเงสึไปแทน ดูแล้วฮา 55555555+

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×