ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Naruto ] April Snow เมื่อหิมะ...หลงฤดู

    ลำดับตอนที่ #23 : Chapter 21 : ข้อเสนอ [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.56K
      91
      5 ธ.ค. 59



    Chapter 23

    ข้อเสนอ



     

               


                  ยัยบ้าเอ้ยยย! ฉันจะ...ฆ่าเธอแน่ๆ


                เซอิจิคาดโทษซากุระเอาไว้ก่อนจะเดินหนีออกไปอย่างรวดเร็วเพราะเม็ดผื่นเริ่มลามขึ้นสู่ใบหน้าของเขาแล้ว 

    หากไม่รีบกลับไปกินยาล่ะก็อาการคงจะหนักกว่านี้


                เดี๋ยวสิ !” ซากุระเรียกเขาเอาไว้แต่ชายหนุ่มก็เดินลิ่วออกไปโดยไม่หันหลังกลับมาแม้แต่นิด เธอจึงวิ่งตาม

    หลังเขาไปอย่างทิ้งระยะห่างพอสมควร


                เมื่อถึงเขตบ้านพักของเซอิจิ เธอจึงชะงักฝีเท้าเอาไว้เพราะมีซามูไรที่คอยอารักขายืนทำหน้าที่อยู่ด้านหน้า

    ทางเข้า เธอเห็นว่าไดสุเกะเดินออกมารับผู้เป็นนายก่อนสีหน้าของเขาจะตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเห็นสภาพของเซอิจิ

    เขาจึงรีบพาเจ้าตัวเข้าไปในบ้านพักทันที ซากุระกัดริมฝีปากพร้อมกับขมวดเข้าหากันทุกครั้งยามที่กำลังคิดอะไร

    บางอย่าง ไม่นานนักเธอก็เดินตรงไปยังซามูไรที่ยืนอยู่ด้านหน้าทางเข้า


                เขตนี้เป็นเขตหวงห้ามของนายน้อยนะขอรับ คุณผู้หญิงไม่ควรมาแถวนี้ซามูไรหนุ่มบอกกับซากุระเมื่อเธอ

    เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา


                ฉันทราบดีค่ะ แต่ช่วยเข้าไปบอกคุณไดสุเกะให้หน่อยได้ไหมคะว่าฉันอยากพบเขา


                “ตะ แต่ว่า...


                “นะคะ ไปบอกเขาเถอะค่ะว่าฉัน เอ่อ ซากุระ มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย


                .ถ้าอย่างนั้น รอซักครู่นะขอรับ


                                                            

                ซากุระยืนรอเพียงไม่นานก็เห็นคนที่เธอต้องการพบเดินออกมาจากตัวบ้านพัก ไดซุเกะมองเธอพลางยิ้มให้

    บางๆ เธออดแปลกใจไม่ได้ที่เขาดูไม่โกรธเธอเลยทั้งที่นายน้อยของเขาน่าจะบอกเรื่องทุกอย่างไปหมดแล้ว


                คุณไดสุเกะคะ คือว่าฉัน...


                “เดี๋ยวเราไปคุยด้านในกันดีกว่าขอรับ ข้างนอกอากาศมันหนาว เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอา


                “ข้างในหรือคะ แต่ว่าที่นี่...


                “ไม่เป็นไรหรอกขอรับ มาเถอะ


                ไดสุเกะทำท่าจะเดินนำเธอเข้าไปด้านใน ทว่าซามูไรอารักขาทั้งสองนายเอ่ยเสียงค้านขึ้นมาอย่างพร้อม

    เพรียงกัน ที่นี่เป็นบ้านพักของนายน้อยของพวกเขา และไม่เคยได้รับอนุญาตให้ผู้หญิงคนไหนเข้าไปเลยซักครั้ง

    นอกจากคุณหนูอายากะซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ แต่ตอนนี้ไดสุเกะกำลังจะพาผู้หญิงเข้าไปด้านใน แถมยังเป็นผู้หญิงที่

    เคยมีเรื่องกับนายน้อย  สำหรับไดสุเกะที่เป็นคนสนิทคงจะไม่เท่าไร แต่พวกเขาที่เป็นแค่ซามูไรอารักขาจะไม่โดน

    ทำโทษขั้นรุนแรงเลยงั้นเหรอ !


                ท่านไดสุเกะขอรับ ท่านจะพาคุณผู้หญิงท่านนี้เข้าไปด้านในจริงๆหรือ กระผมเกรงว่า…


                “ไม่เป็นไรหรอกน่า พวกนายไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉันจะรับผิดชอบเอง



               

    ……………………………………........



     

                ไดสุเกะพาซากุระเข้ามายังส่วนที่เป็นห้องรับรองแขกที่มีขนาดเล็กกว่าเรือนใหญ่ ส่วนการจัดวางดูเรียบง่าย

    เพราะเจ้าของเรือนไม่ชอบให้ประดับประดาอะไรมาก อีกฝั่งของห้องมองเห็นสวนหย่อมที่อยู่ติดกับบ่อปลาคาร์ฟ

    ขนาดใหญ่ นั่นทำเอาซากุระตื่นตะลึงไปกับทิวทัศน์ด้านนอกจนลืมเรื่องที่จะมาคุยไปชั่วขณะ


                คุณซากุระ คงรู้เรื่องของนายน้อยแล้วใช่ไหมขอรับ


                เสียงของไดสุเกะเรียกความสนใจให้เธอหันมาเผชิญหน้ากับเขา


                “ค่ะ ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น


                ไม่เป็นไรขอรับ...นายน้อยมีอาการแบบนี้ตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว แต่เรื่องเหตุผลนั้น กระผมขออนุญาตไม่พูด

    ถึง...ไดสุเกะเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะสนทนาต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น ยังไงคุณซากุระ...ช่วยเก็บเรื่องวันนี้ไว้

    เป็นความลับได้ไหมขอรับ


                “เอ๋...หมายความว่าคนที่นี่ก็ยังไม่รู้งั้นหรือคะว่าเขาเป็น...


                “ขอรับ ที่รู้ก็มีแค่ท่านเก็นจิโร่ คุณหนู บิดาของกระผม และตัวของกระผมเอง


                “เป็นไปได้หรือคะที่จะไม่มีใครรู้ไปมากกว่านี้ซากุระถามอย่างสงสัย


                “ขอรับ ที่ผ่านมานายน้อยระวังตัวเองเป็นอย่างดี ถึงได้สร้างกฎที่ไม่ให้พวกผู้หญิงเข้ามาในเขตนี้ จะว่าเป็น

    เขตหวงห้ามก็ได้นะขอรับ


                ประโยคของไดสุเกะทำเอาซากุระแอบหวั่นใจเล็กๆ จะว่าไปเธอก็เข้ามาในดงเสือชัดๆ หากพวกเขาจะ

    ปิดปากเธอข้อหาล่วงรู้ความลับละก็คงจะทำได้ไม่ยากเย็น


                แล้วตอนนี้เขา...เป็นยังไงบ้างคะ


                “ทานยาที่แพทย์เคยให้ไว้แล้วล่ะขอรับ พวกผื่นของจะลดลงในไม่ช้า ส่วนอาการไข้พรุ่งนี้น่าจะดีขึ้น

     

                “คุณไดสุเกะคะ...คือฉันเธอเว้นประโยคอย่างต้องการสังเกตอากัปกิริยาของอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าเขากำลัง

    ตั้งใจฟังเรื่องที่เธอจะพูดจึงได้เอ่ยขึ้นต่อ ฉันขอเป็นคน รักษาเขาได้ไหมคะ


                คุณซากุระ...ว่ายังไงนะขอรับ?!” ไดสุเกะเบิกตากว้าง ไม่ใช่ไม่รู้มาก่อนว่าเธอเป็นนินจาแพทย์ แต่ว่าเธอกับ

    นายน้อยของเขานั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด แล้วตอนนี้...เธอบอกว่าจะขอเป็นคนรักษานายน้อย คนที่เธอ

    เกลียดขี้หน้าอย่างนั้นเหรอ ?


                “ค่ะ เคสแบบนี้ฉันยังไม่เคยเจอมาก่อน แต่เคยได้ยินมาบ้าง ไม่คิดว่าจะมีคนที่เป็นอยู่จริงๆ


                “คุณซากุระจะให้นายน้อยเป็นหนูทดลองอย่างนั้นหรือขอรับ!”


                ไดสุเกะถามขึ้นอีกรอบ เธอบอกว่าไม่เคยเจอมาก่อน นั่นแสดงว่าเซอิจิจะเป็นเคสแรกที่เธอจะทำการรักษา 

    แล้วถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด เขาก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรเช่นกัน เพราะเซอิจินั่นไม่ใช่ตาสีตาสาทั่วไป แต่เป็นถึงคนที่จะ

    ขึ้นปกครองแคว้นเท็ตซึโนะในเร็วๆนี้


                ฉันไม่ปฏิเสธค่ะถ้าคุณไดสุเกะจะบอกแบบนั้น ...แต่ช่วยไว้ใจฉันเถอะนะคะ ถ้าวิธีของฉันได้ผลมันน่าจะดี

    ต่อวงการแพทย์เป็นอย่างมาก


                “ทำไมคุณซากุระถึงอยากจะช่วยรักษานายน้อยล่ะขอรับไดสุเกะถามอย่างสงสัย


                เพราะว่าฉันเป็นนินจาแพทย์ยังไงล่ะคะ แล้วก็อาจารย์ของฉัน...ท่านบอกเสมอว่าอย่าเพิกเฉยคนที่เจ็บป่วย

    แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนต่างหมู่บ้าน ต่างแคว้น เป็นพันธมิตรหรือเป็นศัตรู ถ้าฉันปล่อยผ่านเรื่องแบบนี้ฉันคงไม่กล้า

    บอกว่าเป็นลูกศิษย์ของท่านได้อีกต่อไปหรอกค่ะ


                คำตอบของซากุระเรียกรอยยิ้มบางจากไดสุเกะได้เป็นอย่างดี เขาเชื่อว่าเธอพูดออกมาด้วยความสัตย์จริง

     และเขาก็อยากให้เธอรักษานายน้อยมานานแล้วตั้งแต่รู้ว่าเธอเป็นนินจาแพทย์มือฉมังของหมู่บ้านโคโนฮะ 

    น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นไม่ดีจนค่อนไปทางแย่ ทำให้เขาไม่กล้าที่จะขอร้องเธอให้มาช่วยรักษานาย

    น้อยของเขา แต่ตอนนี้กลับเป็นเธอที่เสนอมาเอง มันทำให้เขามีความหวังขึ้นมาว่าเซอิจิอาจจะกลับมาเป็นปกติ

    เหมือนคนทั่วไป แต่ทว่า...


                เรื่องแบบนั้น...กระผมตัดสินใจเองไม่ได้หรอกขอรับ คนที่จะตัดสินใจได้ ก็มีเพียงแค่นายน้อยเท่านั้น “ 

    ขาบอกเสียงอ่อน คุณซากุระ...พร้อมที่จะเสนอเขาด้วยตัวเองไหมขอรับ




    ………………………………………..




                “ไม่ ! ฉันจะไม่ยอมให้เธอมารักษาอะไรฉันแน่ ! ไสหัวออกไปซะ !”


                นั่นคือประโยคแรกที่พ่นออกมาจากปากชายหนุ่มผู้นอนเป็นผักนึ่งอยู่บนเตียงนอน ใบหน้าของเขาเป็นสีแดง

    เข้มเพราะพิษไข้ ผิวของเขายังมีเม็ดผื่นขึ้นให้เห็นอยู่ประปรายไม่ได้เยอะเท่าตอนแรก แต่ถึงกระนั้น ดวงตาสีสนิม

    ก็ยังคงมองมายังเธออย่างเดือดดาล  นี่เขาอดทนฟังสิ่งที่เธอพูดโดยไม่ลุกไปขย้ำเธอก็ดีถมไปแล้ว!


                “นี่ ! ฉันมาคุยด้วยดีดีนะ หยุดใช้อารมณ์ซักพักจะตายไหม!”


                “เธอนั่นแหละที่จะต้องตายถ้ายังไม่ออกไปจากห้องของฉัน!”


                ไม่พูดเปล่าแต่กลับขว้างหมอนอิงที่หนุนแขนอยู่มาทางเธออย่างแรงจนเกือบกระแทกหน้าถ้าเธอไม่คว้ามัน

    เอาไว้ทัน


                “นายกล้าโยนของใส่ผู้หญิงงั้นหรือ ไอ้คนเลว!”


                “ฉันไม่ขว้างแจกันไปก็บุญหัวเธอแล้ว! นี่! ไดสุเกะ เอาตัวยัยนี่ออกไป ไม่เห็นหรือว่ายัยนี่ทำอะไรกับฉันไว้ 

    นายยังจะให้เข้ามาหาฉัน พูดข้อเสนอปัญญาอ่อน บ้าไปแล้วหรือไง!”


                “แต่กระผม...


                “หุบปากไปซะ รีบพายัยนี่ออกไปก่อนที่นายจะโดนคาดโทษไปมากกว่านี้!


                นอนเป็นผักอยู่แบบนั้นแล้วยังจะไปขู่คนอื่นอีกซากุระแอบบ่นเขาเบาๆ แต่เจ้าตัวกลับได้ยินชัดเต็มสองรูหู


                “เธอว่ายังไงนะ!”


                “คุณซากุระ ...ไว้วันหลังค่อยมา...


                “นายจะไม่มีวันขึ้นครองแคว้นได้ ถ้านายจะยังเป็นโรคนี่!”


                “...!!!”


                “คุณซากุระ...!”


                “หึ...ฉันพูดถูกใช่ไหม คุณสมบัติของผู้ปกครองแคว้นต้องสืบทอดให้รุ่นลูกต่อตามธรรมเนียมของแคว้นเท็ต

    ซึโนะ แต่สำหรับนาย...ที่เป็นโรคแพ้เพศตรงข้ามแบบนี้ มันคงจะยากที่นายจะหาใครซักคนมาเป็นภรรยาแล้ว

    สืบทอดทายาทต่อไป เอ...เขาเรียกว่าขาดคุณสมบัติหรือเปล่า


                “เธอ...!”


                “ถ้าคนอื่นรู้จะเป็นยังไงนะ ที่ผู้สืบทอดแคว้นคนใหม่ไม่สามารถมีทายาทได้ อาจจะต้องเปลี่ยนผู้สืบทอดเพื่อ

    ให้สายตระกูลทากะฮาชิไม่สั้นกุดอยู่แค่นี้ใช่ไหมล่ะ และที่ฉันสงสัยอีกอย่างคือพ่อของนายก็รู้เรื่องนี้ แต่ยังยอมที่จะ

    ให้นายที่สืบทอดต่อ เท่ากับว่าตระกูลของนายกำลังหลอกลวงประชาชนอยู่นะ


                “หุบปากไปซะ! อุ๊บ แค่กๆ


                เซอิจิเปล่งเสียงไปได้แค่นั้นก็ยกมือขึ้นปิดปากจากอาการไอ ดูเหมือนเขาจะใช้เสียงมากไปจนทำให้ลำคอ

    เกิดความระคายเคือง เวลานี้ร่างกายเขาช่างอ่อนแอจนน่าหงุดหงิด


                เอาล่ะ เรื่องนั้นฉันจะไม่ถามเหตุผล และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากจะรังแก คนป่วยแบบนายด้วย แต่ยังไงก็

    เอาข้อเสนอของฉันไปคิดดูแล้วกัน ด้วยจรรยาบรรณนินจาแพทย์ของฉันขอรับรองว่าฉันจะรักษานายอย่างไร้อคติ 

    ขอเพียงแค่นายให้ความร่วมมือกับฉันก็พอ


                “เธอจะมาช่วยฉันทำไมเซอิจิถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่นั่นไม่ใช่ว่าเขายอมคุยกับเธอดีดีหรอกนะ 

    เป็นเพราะว่าเขาเจ็บคอเพราะตะเบงเสียงมากไปต่างหาก


                ก็ไม่มีเหตุผลอะไรนักหรอก ฉันอยากช่วยก็เพราะอยากช่วยน่ะ


                “เหอะ ฉันไม่ไว้ใจเธอเลยจริงๆ”  


                “ก็แล้วแต่นายเถอะ อีกไม่นานชาวบ้านก็จะรู้ว่านายมันไม่สามารถมีทายาทได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือนายจะ

    ไม่ได้สัมผัสกับคำว่าครอบครัว การมีลูกน่ะมันวิเศษขนาดไหนคนแบบนายคงไม่เคยรู้


                แล้วเธอเคยมีลูกมีผัวมาแล้วหรือไงถึงได้รู้ดีขนาดนั้น


                กรี๊ดดดด ! หยาบคาย ฉันยังไม่มีย่ะ!“  ซากุระแว้ดเสียงใส่เขาแทบจะในทันที ใบหน้าเธอขึ้นสีแดงเข้มไม่แพ้

    เซอิจิที่กำลังป่วย  แต่สำหรับเธอนั้นเป็นเพราะความโกรธและความอายเสียมากกว่า


                “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอกับไอ้หมอนั่น..."


                มะ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน!” เธอรีบตัดบทเสียงเข้ม ว่าแต่นายน่ะ ตัดสินใจได้หรือยัง ฉันต้องเตรียมการ

    รักษาหลายอย่างนะ!”


                เมื่อซากุระพูดจบ เซอิจิจึงใช้เวลาในการตัดสินใจอยู่ซักพัก เขากำลังคิดถึงผลดีผลเสียหลายอย่าง 

    ส่วนไดสุเกะที่เพิ่งจะเก็บอาการกลั้นหัวเราะจากคนทั้งคู่ได้ก็หันไปทางเจ้านายหนุ่มอย่างลุ้นในการตัดสินใจ  

    ในที่สุดดวงตาสีสนิมก็มาหยุดที่ผู้หญิงคนเดียวในห้องนี้แล้วเอ่ยขึ้นกับเธอ


                ก็ได้...แต่ถ้าฉันเป็นอะไรไป รับรองว่าเธอจะไม่มีชีวิตกลับไปหมู่บ้านเธอแน่นอน!”



    ................................................................


    กลับมาอัพแล้วค่ะ 50% หายหัวไปอีกตามเคย งานเยอะจริงๆค่ะ ไม่รวมความขี้เกียจนะ ฮ่าๆๆ แฟนคลับเป็ดรอก่อนนะเดี๋ยวมันมา ตอนนี้ให้คู่กิ๊กพริกกะเกลือเปิดฉากไปก่อน อิอิ ชอบแต่งคู่นี้ ตลกดี 

    อ้อ เดี๋ยวจะขออนุญาตรีไรท์บางบทที่เคยอัพไปนะคะ เพราะรู้สึกอยากให้คงคาร์แรกเตอร์จริงๆไว้มากกว่านี้ พวกเลิฟซีนคงหลุดหายไปเยอะอย่าว่าเค้านะ  เดี๋ยวไถ่โทษให้ตอนอื่น T.T

    ถ้าไม่เบื่ออ่านซ้ำได้นะ 5555+

    20.11.16

    .........................................................


    ต่อจ้า

    .

    .

    .


                 “วันนี้ต้องขอบคุณคุณซาสึเกะมากเลยนะคะที่ออกไปเป็นเพื่อนดิฉัน


                อายากะเอ่ยกับร่างสูงที่เดินเคียงคู่มากับเธอเมื่อพวกเขาเดินทางกลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลาเย็น ริมฝีปาก

    บางที่เคลือบลิปสติกสีสวยคลี่ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน รอยยิ้มของเธอที่บุรุษคนไหนเห็นเป็นต้องละลายกลับไม่ได้

    ทำให้คนตรงหน้ารู้สึกสะทกสะท้านเท่าไรนัก เขายังคงมีสีหน้าที่สงบนิ่งเหมือนเช่นทุกครั้ง


                “ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ของฉัน เขาบอกเสียงราบเรียบ


                แหม คุณพูดอย่างกับว่าบันทึกประโยคนี้ไว้อย่างนั้นล่ะค่ะ


                “…”   


                เมื่อเห็นว่าเขาเงียบไปเธอจึงหัวเราะออกมาเล็กน้อยราวกับต้องการเปลี่ยนให้เป็นเรื่องตลกขบขัน


                “คิกๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ว่าแต่...ฉันอยากเรียนวิชาการต่อสู้ของนินจาบ้าง คุณซาสึเกะพอจะสอนให้ฉันหน่อยได้

    ไหมคะ เธอถามพลางเอียงคออย่างน่ารัก


                ฉันไม่ถนัดสอนวิชาให้ใครน่ะ ขอโทษด้วย


                “น่าเสียดายจังเลยนะคะ


                “แต่ซากุระน่าจะสอนให้เธอได้ ถ้าเธอขอ...ยัยนั่นคงไม่ปฏิเสธ


                “จริงสิคะ ลืมไปเลยว่าคุณซากุระก็เป็นนินจาแพทย์ที่เก่งกาจ


                “อืม...


                ให้ตายเถอะ...เป็นครั้งแรกที่อายากะคิดว่าซาสึเกะเป็นผู้ชายที่รับมือยากที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา 

    เขาแทบไม่หลงเสน่ห์ในตัวของเธอเหมือนอย่างที่ผู้ชายส่วนใหญ่เป็น 


                  รืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอเดินเกมเร็วเกินไปกันแน่

                 เห็นทีว่าจะต้องถอยไปตั้งหลักมาใหม่เสียก่อน... 


                ถ้าอย่างนั้น เชิญคุณซาสึเกะไปพักผ่อนได้เลยนะคะ วันนี้ฉันไม่มีอะไรต้องทำแล้วล่ะค่ะ


                อายากะบอกก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับคาซุโกะ สาวรับใช้คนสนิทแล้วทั้งคู่ก็พากันเดินออกไปเพื่อกลับ

    เรือนรับรองของอายากะ แวบนึงที่เธอหันไปมองเขาเผื่อว่าเขายังคงมองเธออยู่บ้าง ทว่าชายหนุ่มกลับเดินตรงลิ่วไป

    ยังเรือนรับรองฝ่ายชาย เธออดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่เห็นเขาดูเร่งรีบขนาดนั้น แต่จะให้ตามไปก็คงจะดูไม่งาม

    สำหรับเธอ


                มีอะไรหรือคะคุณหนู


                คาซุโกะหันมาถามเจ้านายสาวเมื่อเห็นว่าดวงตาคู่สวยยังมองไปยังร่างสูงของชายหนุ่มที่กำลังเดินหายออก

    ไปอย่างสงสัย


                เปล่า...ไม่มีอะไรหรอก ไปเถอะ



    ......................................................



                ซากุระกำลังเดินผ่านสวนที่เป็นคอร์ทตรงกลางที่เชื่อมระหว่างเรือนรับรองฝั่งชายและฝั่งหญิงหลังจากที่เธอ

    ได้ข้อตกลงระหว่างเซอิจิเรียบร้อย ขณะก้าวเท้าเดินภายในหัวเธอก็ยังคงคิดถึงอาการของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งเจอมา

    จนไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนกำลังเดินตามหลังเธอก่อนที่เขาคนนั้นจะเอื้อมมือมาปิดปากเธอเอาไว้พร้อม

    กับลากเธอมายังส่วนที่เป็นตรอกแคบๆระหว่างเรือนรับรองกับโรงฝึกธนูที่ไม่ค่อยมีคนสัญจรผ่านมาเท่าไรนัก

    เนื่องจากเป็นจุดที่คนมักจะทำอุปกรณ์สำหรับฝึกที่ใช้การไม่ได้แล้วมาทิ้งไว้


                “ซะ ซาสึเกะคุง !” เธอเรียกชื่อเขาเมื่อเห็นหน้าบุคคลที่ลากเธอมาที่นี่กลับมาแล้วงั้นหรือ


                “เธอมาทำอะไรแถวนี้...ซากุระ


                “คือฉันมา...


                ซากุระกำลังบอกว่าเธอมายื่นข้อเสนอเรื่องการรักษาอาการของเซอิจิ แต่แล้วคำกำชับสุดท้ายที่เขาบอกกับ

    เธอก่อนออกมาก็แล่นเข้ามาในหัวทันที


                อย่าบอกเรื่องนี้กับใครแม้กระทั่งกับไอ้คนจากอุจิวะนั่น...ไม่งั้นฉันจะเล่นงานเธอแน่ยัยเถิก!!!


                “อะ อ้อ ฉันออกมาเดินเล่นน่ะ อยู่แต่ในห้องมันน่าอึดอัดจะตายไป


                เลยออกมาเดินเล่นแถวเรือนฝั่งผู้ชายงั้นหรือ เขาถามแกมจับผิดเธอ


                คะ คือ...ฉันมารอซาสึเกะคุงนั่นแหละ!”


                เธอโกหกคำโต แต่มันดูเหมือนจะได้ผลเมื่อเขาคลายสีหน้าคาดคั้นเธอลง ทำเอาซากุระแอบถอนหายใจด้วย

    ความโล่งอก


                เธอมารอฉันทำไม


                “ก็เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย ฉันก็อยากจะหาเวลามาคุยกับเธอบ้าง แต่กลับเป็นเธอที่ลากฉันมาแบบนี้ 

    แสดงว่าอยากคุยกับฉันสองต่อสองใช่ม้า


                 เธอหยอกเหย้าเขา ทว่าเจ้าตัวกลับทำหน้านิ่งซึ่งเป็นบุคลิกที่เห็นบ่อยๆตั้งแต่เขาเป็นเกะนิน แต่แตกต่างกัน

    นิดหน่อยตรงที่สายตาของเขามองเธอด้วยสถานะที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมทีมเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว


                “แผลเธอเป็นยังไงบ้าง


                เขาไม่ตอบคำถามเธอแต่เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยแทน


                อ้อ ไม่เป็นอะไรมากหรอกจ้ะ เหลือแค่รอยฟกช้ำ พรุ่งนี้ก็คงหายแล้วล่ะ


                “งั้นเหรอ...


                อื้อ แล้ววันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับอายากะจังใช่ไหม


                “ม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก


                ดีแล้วล่ะ


                “…”


                "อะไรกัน แค่นี้เหรอ"  


                 เธอถามเมื่อเขาจบการสนทนาไปแบบดื้อๆทั้งที่มีโอกาสได้คุยกันตามลำพังแล้วแท้ๆ



                 "แล้วเธอมีอะไรจะถามฉันล่ะ"


                 ก็เรื่องคุณหนูอายากะ...


                   ไม่สิ... เธอไม่ควรถามเขาแบบนั้น 

                   แบบนั่นมันจะ...ทำให้เธอดูงี่เง่าในสายตาของเขา


                 “นี่...ฉันเชื่อใจซาสึเกะคุงนะ


                เธอบอกพร้อมกับเลื่อนมือไปกุมมือใหญ่ของเขาไว้แล้วบีบมันเบาๆ ดวงตาสีเขียวมรกตสบกับดวงตาสองสี

    อย่างลึกซึ้งและเขาก็รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร ใช่ว่าเขาเองจะดูไม่ออกว่าอายากะคิดอย่างไรกับเขา หากแต่ว่าเขาไม่ใช่

    คนที่สนใจผู้หญิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อให้สวยแค่ไหนเขาก็คงไม่รู้สึกหวั่นไหวได้ง่ายๆ


                จะยกเว้นให้ก็แต่ผู้หญิงตรงหน้าเท่านั้นแหละ แถมตอนนี้เธอยังมองมาที่เขาด้วยสายตาวิบวับก่อนจะ

    หลับตาพริ้มพลางยื่นใบหน้ามาใกล้เขาราวกับว่ากำลังรอจุมพิตจากเขาอยู่


                แล้วแบบนี้เขาควรจะ...


                เป๊าะ !


                โอ๊ย!”


                ความเจ็บบริเวณหน้าผากทำให้ซากุระถึงกับอวดครวญออกมา ซาสึเกะดีดหน้าผากเธอเสียเจ็บจี๊ดจน

    ทำลายความโรแมนติกที่(คาดว่า)จะเกิดขึ้นเสียจนหมดสิ้น


                ไปเถอะ...เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้า


                เขาบอกก่อนจะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแล้วเดินออกไปโดยทิ้งให้หญิงสาวที่กำลังสัมผัสกับคำว่า หน้าแตก’ 

    ยืนนิ่งเป็นตอไม้อยู่คนเดียว ตอนนี้เธอทั้งโกรธทั้งอายจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด  ริมฝีปากบางบ่นอุบถึงคนที่เดิน

    ออกไปอย่างขุ่นเคือง


                ซาสึเกะคุง...บ้าที่สุดเลย!”

     


    .................................................................




    - TO BE CONTINUED -






    Ps1. มาต่อให้จบ 100 % จ้า  มาน้อยแต่ฟิน(?)นะจ๊ะ จะเห็นได้ว่าอิเกะชอบแกล้งเมียตั้งแต่วัยสะรุ่นละ(อันนี้มโนเอานะ) เพราะภาคไกเด็นมันก็หันหลังให้เมียอย่างนี้แหละ ฮ่าๆๆๆๆ 

    Ps2. ครั้งต่อไปคงมาอัพเร็วขึ้นแล้วนะเพราะส่งงานไฟนอลไปแล้ว พอจะมีเวลาว่างมากขึ้นเพราะปิดเทอมสั้นๆ น่าจะได้ซักสองสามตอนอยู่นา(เหรอวะ!) เอาล่ะ มือที่สามเริ่มรุกและ จะมาม่าไหมโปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ 

    05.12.16



                                                           - Thank you for reading-







                   

    Sasuke Shinden : อิเกะเป็นทาสเเมว....น่าร้ากกกก ! >..<





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×