คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 19 : คู่ปรับ [100%]
ภาพของบ้านเรือนหลายหลังที่มีลักษณะแบบสมัยโบราณปรากฎสู่สายตาของซาสึเกะ
และซากุระ พวกเขาเปลี่ยนเป้าหมายจากป่าแถบตะวันออกของแคว้นเท็ตซึโนะมาเป็นหมู่บ้านหลัก
หลังจากได้รับภารกิจด่วนมาจากคาคาชิ ตลอดเวลาสามวันแห่งการเดินทางมายังที่นี่นั้นเต็มไปด้วย
ความรู้สึกหลากหลายของทั้งคู่ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า...
‘นารูโตะกับฮินาตะ...พวกเขากำลังมีทายาทด้วยกันแล้วนะ’
‘ว....ว่ายังไงนะปั๊กคุง!’ ซากุระถามย้ำเพื่อความมั่นใจว่าเธอฟังไม่ผิด
‘ฮินาตะจังกำลังมีลูกให้กับเจ้านารูโตะน่ะสิ
ฮ่าๆๆ’
‘นี่เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ’
‘ใช่ เจ้าพวกนั้นเข้ามาบอกคาคาชิในห้องทำงานเมื่อเดือนก่อน ฉันเองก็อยู่ด้วย เหมือนว่าอายุครรภ์จะหกสัปดาห์ได้ล่ะมั้ง’
‘หกสัปดาห์...’ ซากุระพึมพำก่อนจะนิ่งเงียบไปซักพัก เธอยังตกใจไม่หาย ไม่นึกว่าทั้งคู่จะมี
ทายาทด้วยกันเร็วขนาดนี้ แต่คิดอีกทีก็ไม่เร็วเพราะพวกเขาแต่งงานกันมาได้ซักระยะนึงแล้ว ถ้าจะมีลูก
ด้วยกันก็คงไม่แปลกอะไร
‘ฝากแสดงความยินดีด้วยนะ’ ซาสึเกะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวข้างกายยังคงอึ้งกิมกี่อยู่
ไม่รู้ว่าในหัวของเธอคิดอะไรไปไกลแค่ไหนแล้ว
‘ได้สิ เจ้าพวกนั้นคงจะดีใจไม่น้อย
ว่าแต่...ไม่คิดจะมีเป็นของตัวเองบ้างเหรอ’
คำถามของปั๊กคุงดึงสติเธอกลับมาแทบจะในทันที ใบหน้าของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ขณะเถียงอีกฝ่ายกลับไป
‘พ...พูดบ้าอะไรน่ะปั๊กคุง! ฉันยังไม่-‘
‘นี่ยังไม่แต่งงานกันอีกเหรอ’
‘กะ...ก็ไม่เห็นจำเป็นนี่!’ ประโยคนี้ทำเอาซาสึเกะหันสายตาไปมองเธอแวบนึงแต่ก็ไม่ได้
พูดอะไรต่อ
‘ไม่ได้เรื่องเอาซะเล้ย~’
‘นี่ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะย่ะ’ ซากุระรีบปิดการสนทนา(ที่ไม่น่าฟัง)ก่อนจะพูดขึ้นต่อ ‘ยังไงก็...
ฝากแสดงความยินดีด้วยนะ บอกเจ้านารูโตะว่าให้ดูแลฮินาตะจังดีดีล่ะ ถ้าไม่งั้นฉันจะกลับไปชกให้
หน้าหงายเลย!’
ย้อนกลับมาที่ปัจจุบัน...
“ซากุระ”
“…”
“ซากุระ!”
“ฮะ...จ๊ะ” เธอขานรับเมื่อเขาเรียกชื่อเธอเป็นครั้งที่สอง พักนี้เธอชอบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับ
ตัวหลังจากทราบว่าเพื่อนรักกำลังมีทายาทด้วยกัน
“เหม่ออะไรของเธอ”
“ขอโทษนะซาสึเกะคุง ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย”
“ช่างเถอะ” เขาบอกอย่างไม่ใส่ใจ “คืนนี้เราคงต้องนอนโรงแรมกันไปก่อนเพราะมันค่ำแล้ว
พรุ่งนี้เช้าค่อยไปที่คฤหาสน์ก็ยังทัน”
“เอาอย่างนั้นก็ได้จ้ะ” เธอบอกอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินตามเขาไปบนถนนที่คราคร่ำไปด้วย
ผู้คนและแสงไฟจากร้านค้ายามค่ำคืนซึ่งผิดกับบรรยากาศภายในป่าที่พวกเขาเดินทางมาอย่างลิบลับ
................................................................
“เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก...จะไปด้วยกันหรือเปล่า”
ซาสึเกะเอ่ยขึ้นหลังจากนำกระเป๋าสัมภาระมาเก็บไว้ในห้องพักของโรงแรมซึ่งมีเตียงเดี่ยวสอง
เตียงตั้งชิดผนังห้องคนละฝั่งแถมยังมีม่านกั้นเพื่อนความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายเสียด้วย
“อ้อ
ซาสึเกะคุงไปเถอะจ้ะ ฉันว่าจะอาบน้ำแล้วนอนเลย รู้สึกเพลียนิดหน่อย”
“งั้นก็ตามใจเธอละกัน ฉันคงกลับไม่เกินเที่ยงคืน”
เขาบอกก่อนจะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมทับอีกครั้ง ขายาวก้าวเดินไปที่ประตู ปรายตามองมา
ที่เธอแวบนึงเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วก็ผลักบานประตูออกไป
ซากุระเป่าปากด้วยความเบาใจ ที่เธอไม่ได้ตามเขาออกไปด้วยเพราะเธอคิดว่าเขาอาจจะ
ต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง เธอไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดบ้างไหมเมื่อต้องมีเธอมาอยู่ด้วย เขาเป็นคนที่
มีโลกส่วนตัวสูงมาตั้งแต่เด็กแล้ว ดังนั้นการให้เขาออกไปเดินเล่นคนเดียวคงช่วยคลายความอึดอัดลง
ไปได้บ้าง
..........................................................
เวลาล่วงเลยมาจนถึงสี่ทุ่มกว่าหลังจากที่ซาสึเกะออกไปข้างนอกได้ซักพักใหญ่ ซากุระที่อาบน้ำ
เรียบร้อยแล้วก็นอนมองเข็มนาฬิกาบนผนังพลางถอนหายใจ
จะว่าไปแล้วเธอก็คิดว่าเธอกำลังทำตัวเหมือนภรรยาที่ต้องมารอสามีกลับบ้านยังไงอย่างงั้น
ทว่าความจริงแล้วความสัมพันธ์ของเขากับเธอยังเป็นแค่...
นี่ฉันกับซาสึเกะคุง...เป็นแฟนกันหรือยังนะ..?
คิดแล้วก็เขินจนนอนไม่หลับเอาเสียดื้อๆ ซากุระผุดลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวังเพราะ
เจ้าแมวน้อยสลัดกำลังหลับอยู่บนที่นอนของเธอ เธอไม่อยากทำให้มันตื่นเพราะมันก็คงเหมือนกับ
มนุษย์ที่ต้องการพักผ่อนบ้าง
เธอยืนมองไปรอบห้องอย่างต้องการหาอะไรซักอย่างทำ และแล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ม้วน
กระดาษกับแฟ้มข้อมูลที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงฝั่งของซาสึเกะ เธอจำได้ว่านั่นเป็นของที่ปั๊กคุงส่งให้
กับเขา คงจะเป็นรายละเอียดของภารกิจที่เขาบอกว่าจะต้องไปรายงานตัวกับผู้ว่าจ้างในวันพรุ่งนี้
ขาเรียวยาวของเธอเดินตรงไปที่โต๊ะของเขาก่อนจะหยิบม้วนกระดาษขึ้นมาอ่าน ข้อความข้าง
ในอธิบายถึงภารกิจที่จะต้องไปคุ้มกันคุณหนูแห่งแคว้นเท็ตซึโนะเป็นเวลาเกือบๆสองเดือน ซากุระม้วน
กระดาษเก็บไว้เหมือนเดิม ข้อมูลพวกนี้เธอพอจะทราบมาจากซาสึเกะบ้างแล้ว
แฟ้มข้อมูลอีกเล่มที่วางข้างกันถูกยกขึ้นมาเปิดดู ดวงตาสีมรกตมองภาพชายวัยกลางคนผู้เป็น
ผู้ปกครองแคว้นเท็ตซึโนะแห่งนี้ เขาเป็นลูกชายคนแรกของมิฟุเนะ ชายชราผู้มีจิตวิญญาณความเป็น
ซามูไรอยู่เต็มเปี่ยมและยังเป็นหน่วยประสานงานให้กับสงครามโลกนินจาครั้งที่ผ่านมา เธออ่านประวัติ
ของเขาอีกซักพักนึงก่อนจะพลิกหน้าถัดไป
ทันใดนั้นเอง รูปผู้หญิงวัยใกล้เคียงกันก็ปรากฏแก่สายตาของเธอ ความงดงามที่ส่งผ่าน
รูปถ่ายทำให้ซากุระถึงกับอุทานเบาๆ
“สวยจังเลย...”
ในรูปถ่าย เธออยู่ในชุดกิโมโนสวยงาม ใบหน้าของเธอเป็นรูปไข่ ผิวเธอขาวราวกับหิมะ
ริมฝีปากบางกระจับได้รูป ผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงกลางหลังถูกรวบมัดไว้อย่างสวยงาม และสุดท้าย
คือดวงตาสีเฮเซลนัทอันแสนทรงเสน่ห์คู่นั้น
“ทากะฮาชิ อายากะ...”
เธอพึมพำชื่อในใบประวัติ “สวยขนาดนี้ ซาสึเกะคุงคงจะไม่...”
อ๊า~ หยุดคิดอะไรแบบนี้นะยัยซากุระ!
เธอรีบห้ามความคิดฟุ้งซ่านของเธอทันที เธอควรจะเชื่อใจและเบาใจเสียมากกว่าเพราะเธอไม่
เคยเห็นซาสึเกะสนใจผู้หญิงคนไหนเลยซักครั้งแม้ว่าจะสวยงามราวกับเทพธิดาขนาดไหน และสมัยเป็น
เกะนิน นารูโตะเคยใช้คาถาฮาเร็มแปลงเป็นผู้หญิงเปลือยกายมายั่วต่อหน้า เขายังไม่สนใจแถมยังโต้
กลับจนนารูโตะสะบักสะบอมไปทั้งตัว ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าเธอก็เคยคิดว่าซาสึเกะตายด้านไป
เสียแล้วด้วยซ้ำ
ซากุระไล่อ่านประวัติเธออีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้มีความเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วสมกับเป็นหญิง
สูงศักดิ์ซึ่งตรงข้ามกับเธอทุกอย่าง ทว่าเธอก็ไม่ได้น้อยใจอะไร เธอชอบที่จะเป็นตัวของตัวเองแบบนี้
มากกว่า
หน้าถัดไปถูกเขียนด้วยหมึกตัวหนาว่า ‘ข้อมูลเสริม’ ซากุระเลิกคิ้วแปลกใจ มือบางพลิก
กระดาษต่อไปอย่างอยากรู้
ตุบ
!
แฟ้มประวัติที่เธอถือไว้ในมือร่วงลงสู่พื้นทันทีที่เห็นใบหน้าของชายคนหนึ่งในรูปถ่ายพร้อมกับประวัติคร่าวๆ
หมอนี่มัน...ไอ้นายน้อยบ้าที่ตลาดนี่!
ซากุระค่อยๆคุกเข่าลงไปมองข้อมูลบนแฟ้มใหม่อีกครั้ง เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้นแบบนี้
ดวงตาสีสนิมแบบนี้ ใบหน้าหล่อเหลาแต่ดูเหี้ยมโหดแบบนี้ และสิ่งสุดท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว
คือแท่งไปป์ไม้ที่คาบไว้ในปากแบบนี้...
ไม่ผิดแน่! ผู้ชายในรูปนี้คือคนเดียวกันกับผู้ชายที่เธอมีเรื่องด้วยเมื่อสามอาทิตย์ก่อนอย่าง
แน่นอนหมอซากุระฟันธงได้
“ทากะฮาชิ เซอิจิ ลูกชายของทากะฮาชิ เก็นจิโร่... งั้นไอ้บ้านี่ก็เป็นพี่ชายของคุณหนูอายากะ”
เธอพูดขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“โอ๊ยยย! ซวยอะไรอย่างนี้นะยัยซากุระ”
อุตส่าห์คิดไว้ว่าภารกิจนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ทำไมกลับกลายเป็นภารกิจที่มีปัญหา
ตั้งแต่ยังไม่เริ่มไปเสียได้
แถมคู่ปรับยังเป็นถึงลูกชายของผู้ว่าจ้างอีกต่างหาก
รับรองว่างานนี้เธอเละเทะแน่นอน...
ซากุระนั่งไว้อาลัยให้กับโชคชะตาของตัวเองอยู่ซักพักก่อนจะหยิบแฟ้มประวัติไปวางไว้ที่เดิม
แล้วพาตัวเองมาล้มตัวนอนห่อเหี่ยวอยู่ที่เตียง แต่ไม่นานเสียงกุกกักที่บานประตูก็ดังขึ้น เป็นซาสึเกะที่
ไขประตูเข้ามา เขามองมาที่เธออย่างแปลกใจเล็กน้อย
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“อะ อ้อ ฉันรอซา เอ้ย ฉันนอนไม่หลับน่ะจ้ะ” เธอรีบพลิกลิ้นอย่างรวดเร็ว ไม่อยากจะดูเป็นฝ่าย
ที่เกาะติดเขาเกินไปแม้ความจริงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ
“อืม งั้นเหรอ”
ซาสึเกะพาดเสื้อคลุมไว้กับราวแขวนข้างประตู ใช้ปากดึงถุงมือสีดำออกจากมือข้างขวาก่อนจะ
เลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดโดยมีซากุระมองภาพนั้นด้วยแววตาวาววับ
ซ...เซ็กซี่มากเลย ~
เธอนึกขึ้นในใจ พยายามเก็บอาการประหม่าเอาไว้ด้วยความยากลำบาก คิดว่าอาการหื่นแบบ
นี้จะลดลงไปจากตอนเป็นเกะนินแล้วเชียว แต่พอเห็นอะไรที่เป็น ‘ซาสึเกะ’ มันก็ทำให้เธอเกิดอาการ
แบบนี้ขึ้นมาเสียทุกรอบ
“เธอจะ...อาบน้ำหรือจ๊ะ”
“อือ”
“งั้นฉันไปเตรียมน้ำอุ่นให้นะ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันทำเองได้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันทำให้ รอแปบนึงนะ” เธอบอกอย่างกระตือรือร้นแล้วเคลื่อนตัวไปที่ห้องน้ำ
ทันทีโดยที่ซาสึเกะยังไม่ทันได้แย้งอะไร
ระหว่างรอน้ำร้อนใกล้เต็มอ่าง มือบางก็กวักน้ำเล่นไปเรื่อยขณะที่สมองก็คิดว่าจะทำอย่างไรกับ
วันพรุ่งนี้ดี เรื่องของเซอิจิวกเข้ามาในหัวอีกครั้งหลังจากความเซ็กซี่ของซาสึเกะทำให้ลืมเรื่องของเขาไป
ชั่วขณะ ระยะเวลาเกือบสองเดือนเธอคงหลบหน้าเขาไม่ได้ทุกวันแน่
หรือว่าเธอควรจะปลอมตัวดีนะ...?
“ซากุระ”
เสียงเรียกชื่อของเธอทำให้ต้องพับแผนการลงไปก่อน ดวงตาสีมรกตหันไปมองที่มาของเสียงได้
เพียงชั่วครู่ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่นแทบไม่ทัน ซาสึเกะที่มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันแค่ท่อนล่างเดิน
ตรงมาที่อ่างอาบน้ำ เป็นอีกครั้งที่เธอได้เห็นเขาเปลือย(ท่อนบน)แบบนี้
“น...น้ำอุ่นได้แล้วจ้ะ”
เธอบอกเขาเสียงสั่น ยันตัวขึ้นจากขอบอ่างโดยไม่มองเขาแม้แต่น้อย
“อือ ขอบใจนะ”
“…”
“จะดูฉันอาบน้ำหรือไง” เขาถามเมื่อเห็นว่าเธอยังไม่เคลื่อนตัวออกไปจากห้องน้ำ ซากุระสะดุ้ง
เล็กน้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอควรออกไปได้แล้ว แต่ด้วยสติสตังที่กระเด็นหายไปตอนเห็นเรือนร่างของ
ผู้ชายตรงหน้าทำให้เธอเดินสะดุดเก้าอี้ไม้ตัวเล็กเข้าอย่างจังจนหน้าเกือบทิ่ม โชคยังดีที่เขายึดต้นแขน
เธอไว้ได้ทัน
“เฮ้ ไม่เป็นอะไรนะ”
เมื่อเห็นว่าหน้าไม่ได้ฟาดเข้ากับพื้นห้องน้ำเธอจึงลืมตาขึ้นมองเขาก่อนจะไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ
ตั้งแต่ลำคอที่มีลูกกระเดือกนูนเด่นชัด
แผ่นอกแข็งแกร่ง และ...
“อ๊ายยย ! ขะ ขอโทษจ้ะ!” เธอรีบชักมือออกจากกล้ามหน้าท้องของเขาแล้วเร่งฝีเท้าออกจาก
ห้องน้ำอย่างรวดเร็วด้วยความอับอาย ซาสึเกะหลุดขำออกมาพลางส่ายหัวเล็กน้อย จากนั้นก็ปลดผ้า
ขนหนูออกวางพาดไว้ที่ราวแขวนก่อนจะหย่อนตัวลงอ่างอาบน้ำโดยที่ยังยิ้มขันเรื่องเมื่อครู่ไม่หาย
.............................................................
“เสร็จหรือยังซากุระ”
ซาสึเกะถามขึ้นเมื่อเก็บของต่างๆใส่กระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย เช้านี้พวกเขาต้องเดินทางไป
คฤหาสน์ของตระกูลทากะฮาชิที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้หมู่บ้าน ดวงตาสองสีมองไปยังร่างบางที่กำลังทำ
อะไรบางอย่างกับศีรษะของตัวเองอยู่
“เธอกำลังทำอะไรน่ะ”
ซากุระหันมาพร้อมกับหมวกที่ปิดมิดชิดจนไม่เห็นเส้นผม ใส่ผ้าคาดปากเหมือนกับคาคาชิ
และสวมแว่นตาสีดำที่บดบังดวงตาสีมรกตเอาไว้
“อ้อ
คือว่า...อากาศข้างนอกมันหนาวมาก ฉันเลยใส่หมวกไว้กันหนาวน่ะจ้ะ”
ซาสึเกะทำหน้าฉงน ปกติเธอมักจะใส่เพียงเสื้อคลุมยามออกเดินทาง แต่ทำไมรอบนี้ถึงนึก
เพี้ยนแต่งตัวประหลาดขึ้นมา
“เธอไม่สบายเหรอ”
“หา ฉันเปล่าไม่สบาย เอ้ย คือฉันสบายดี เหะๆ”
วันนี้ทำตัวแปลกชะมัดยัยนี่...
เขานึกอยู่ในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป ทว่าซากุระแปลความหมายของสายตาเขาออก เธอยอมให้
เขามองเธอพิลึกดีกว่าต้องไปเชือดเฉือนกับเซอิจิอีกครั้งก็แล้วกัน
“ไปกันเถอะ”
“ดะ เดี๋ยว ซาสึเกะคุง” ซากุระรั้งเสื้อเขาเอาไว้ ใบหน้าก้มลงต่ำอย่างไม่มั่นใจว่าควรจะถาม
คำถามงี่เง่าที่ติดอยู่ในใจเธอมาตั้งแต่เมื่อคืนออกไปดีหรือเปล่า
“มีอะไรงั้นเหรอ”
“เอ่อ...คือ เธอคิดว่าคุณหนูอายากะเป็นยังไงบ้าง...” เธอถามแล้วพูดขึ้นต่ออย่างกระท่อน
กระแท่น “ ฉะ ฉันหมายถึงว่าเธอสวยดีนะว่าไหม”
ซาสึเกะรู้สึกได้ถึงความเป็นกังวลของซากุระ เขาคิดว่าเธอคงจะเห็นรูปลักษณ์ของอายากะแล้ว
จึงได้ถามขึ้น
เอาล่ะ...
เขาพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
“เธออ่านแฟ้มประวัติแล้วใช่หรือเปล่า”
“อือ...”
ซาสึเกะนิ่งเงียบไปซักพักก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ มือขวายื่นไปถอดแว่นเธอออกเพื่อจะได้มอง
ดวงตาสีมรกตได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็ดึงผ้าคาดปากลงมาแล้วประทับริมฝีปากลงไปบนริมฝีปาก
ของเธอด้วยความนุ่มนวลและอ่อนโยน
“ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันมีแค่เธอคนเดียวนั่นแหละ”
เขาบอกหลังจากถอนริมฝีปากออก ส่วนซากุระก็ได้แต่นิ่งอึ้ง หัวใจของเธอเต้นถี่รัวไม่ยอมหยุด
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดคำหวาน(?)กับเธอ แต่ยังไม่ทันซึมซับได้นาน เขาก็หมุนตัวเดินตรงไปที่ประตู
เสียก่อน
“นี่ พูดอีกทีได้หรือเปล่า” ซากุระเดินเข้าไปเกาะแขนเขาพร้อมส่งสายตาเป็นประกาย
“นะ น้า...ฉันอยากฟังอีก”
ซาสึเกะหน้าขึ้นสีเล็กน้อยก่อนจะผลักหัวเธอเบาๆอย่างกลบเกลื่อนความเขิน ให้ตายยังไงเขาก็
จะไม่พูดประโยคน้ำเน่าแบบนั้นเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด
“ไปได้แล้วน่า”
……………………………………………..
ภายในห้องรับแขกอันโอ่อ่าของคฤหาสน์ทากะฮาชิ มีชายวัยกลางคนที่ดูสุขุมเยือกเย็นกำลังนั่ง
อยู่บนเบาะรองนั่งประจำตำแหน่งของท่านเจ้าแคว้น เขาคือ ‘ทากะฮาชิ เก็นจิโร่’ ผู้เป็นนายใหญ่ของ
คฤหาสน์ทากะฮาชิและเป็นผู้ปกครองแคว้นเท็ตซึโนะคนปัจจุบัน
ถัดมาริมขวามือก็มีหญิงสาวในชุดกิโมโนที่ตัดเย็บอย่างดีนั่งคุกเข่าอยู่อย่างเรียบร้อย หน้าตาที่
สะสวยอยู่แล้วเมื่อถูกแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมจึงทำให้เธอดูงดงามมากขึ้นไปอีก
“ลูกสาวของพ่อดูมีความสุขกว่าทุกวันนะ”
เก็นจิโร่ทักขึ้นอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นว่าลูกสาวกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่เสียนาน ตอนนี้พวกเขา
กำลังรอการมาถึงของนินจาคุ้มกันจากแคว้นฮิโนะอยู่
“ไม่หรอกค่ะท่านพ่อ
ลูกก็เป็นปกติเช่นเดิม”
“อย่างนั้นหรอกรึ…” เขายิ้มอ่อนโยนให้กับลูกสาว เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอ
กำลังมีความรัก ไม่แน่...อาจจะเป็นคนที่กำลังมาถึงก็ได้
“อ๊ะ
สงสัยจะมาถึงแล้วค่ะ”
อายากะพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าด้านนอกมีเสียงสนทนากันเบาๆ และเมื่อประตูถูกเลื่อน
เปิดออก ใบหน้าของชายที่เธอหลงรักก็ปรากฎขึ้นมาทันที อายากะมีแววตาเป็นประกายเมื่อได้เห็นเขา
อีกครั้ง
ทว่าเขากลับมองเธอนิ่งเหมือนจำไม่ได้ว่าเคยพบกับเธอมาก่อน
แต่แล้วอายากะก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามายืนเคียงข้างเขา
เธอคนนั้นสวมหมวกคลุมปกปิดศีรษะ สวมแว่นตาสีดำ และใส่ผ้าคาดปาก อายากะจึงไม่รู้ว่าหน้าตา
ของเธอเป็นอย่างไร ได้แต่หวังว่าเธอคงจะไม่ใช่คนพิเศษของเขา
ซาสึเกะเดินนำซากุระเข้ามาภายในห้อง ทั้งคู่โค้งคำนับแสดงความเคารพอย่างนอบน้อมแล้ว
นั่งคุกเข่าลงบนพื้นด้วยท่าทางสงบนิ่ง เก็นจิโร่จึงเริ่มบทสนทนาทันทีโดยไม่ต้องการให้เสียเวลา
“เธอคงเป็นอุจิวะ ซาสึเกะ ทายาทของตระกูลอุจิวะอันเลื่องชื่อสินะ เพิ่งจะเคยเห็นหน้าค่าตา
หล่อไม่เบาเหมือนกันนี่ ฮ่าๆ” เก็นจิโร่พูดพร้อมกับชำเลืองสายตาไปที่อายากะ เธอทำท่าเอียงอายเมื่อ
เห็นว่าบิดาเหมือนจะรู้ว่าเธอคิดอย่างไร
“ขอบคุณครับ”
“เอ้อ แล้วอีกคนล่ะ” เมื่อเก็นจิโร่มองมา ซากุระก็รีบถอดแว่นตาพร้อมกับดึงผ้าคาดปาดออก
ทันที
เธอลืมเสียสนิทว่าตัวเองแต่งตัวแบบไหนอยู่ เผลอทำเรื่องเสียมารยาทไปเสียได้
“ขออภัยที่ไม่ได้แนะนำครับ เธอชื่อฮารุโนะ ซากุระ เป็น-“
“เป็นเพื่อนร่วมภารกิจของซาสึเกะคุงค่ะ” ซากุระพูดตัดขึ้นมา ในการทำภารกิจควรจะต้อง
แยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน อีกอย่าง...เธอกลัวว่าซาสึเกะจะถูกกล่าวหาในทาง
เสียหายได้ถ้ารู้ว่าเธอและเขามีสถานะพิเศษต่อกัน
“โอ้ งั้นเหรอ... ดีๆ
แบบนี้ก็ได้คนเก่งมาถึงสองคนเลยสิเนี่ย”
ซาสึเกะมองซากุระด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่เธอไม่ยอมสบตากับเขา เขาจึงหันมาสนทนากับ
เก็นจิโร่ต่อ
“ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกไว้ล่วงหน้า”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรๆ” เก็นจิโร่บอกอย่างไม่คิดมาก “ส่วนนี่ลูกสาวของฉันเอง เธอชื่ออายากะ
ทำความคุ้นเคยกันไว้ซะสิ”
“สวัสดีค่ะ คุณซาสึเกะ คุณซากุระ ...ยังไงดิฉันก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้กับพวกคุณด้วยนะคะ”
อายากะยิ้มให้ทั้งคู่อย่างมีมารยาท ซากุระมองเธอด้วยความชื่นชม เธอบอกได้อย่างจริงใจเลย
ว่าอายากะนั้นสมกับเป็นคุณหนูจริงๆเพราะกิริยามารยาทเธอนั้นดีเยี่ยมทุกอย่าง
“จะว่าไปก็ดีจริงๆนะที่ได้หนูซากุระมาด้วย ลูกจะได้มีเพื่อนผู้หญิงบ้าง” เก็นจิโร่เอ่ยขึ้นมา
อีกครั้ง ลูกสาวเขาน่ะ.... ไม่ค่อยมีเพื่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันซักเท่าไร และมันเป็นความผิดเขาเองที่
เลี้ยงเธอมาแบบไข่ในหิน
“ค่ะ ท่านพ่อ ” อายากะตอบพร้อมกับยิ้มละไม “ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็...ดิฉันอยากจะขอเป็น
เพื่อนกับคุณซากุระได้ไหมคะ”
ซากุระได้ฟังแล้วก็รู้สึกยินดี อายากะดูเป็นมิตรกว่าที่เธอคิดไว้มาก เห็นแบบนี้แล้วเธอก็ใจชื้น
ขึ้นมาหน่อยที่อย่างน้อยน้องสาวก็มีนิสัยต่างกันคนละขั้วกับพี่ชาย
“โอ้ เป็นเกียรติมากเลยค่ะคุณหนู”
“เรียกดิฉันว่าอายากะก็พอค่ะ”
“ค่ะ คุณหนู เอ้ย อายากะจัง”
“คิกๆ” อายากะยกมือขึ้นปิดปากขณะหัวเราะก่อนจะหันสายตาไปมองที่ชายหนุ่มข้างๆเธอ
“เอ่อ...คุณซาสึเกะคะ ไม่รู้ว่าคุณจะจำดิฉันได้ไหม...”
ครืดดดดดดด!
ยังไม่ทันที่อายากะจะได้พูดจบ เสียงเคลื่อนประตูก็ดังขึ้นก่อนชายร่างสูงในชุดฮากามะสีดำ
จะเดินตรงเข้ามาในห้องรับแขกของคฤหาสน์อย่างไร้มารยาท ซากุระถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อหัน
ไปเห็นเขา เธอพยายามก้มหัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อุตส่าห์คิดว่าวันนี้จะปลอดภัยแล้วแท้ๆ
“ท่านพ่อ! ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาคนเป็นพี่ชายอย่างผมก่อน!”
“ท่านพี่...อย่าเสียมารยาทต่อหน้าแขกนะคะ!”
“แขกเหรอ...พูดอะไรของเธออายากะ เธอคิดว่าพี่ไม่สามารถปกป้องเธอได้หรือไงถึงต้องไปว่า
จ้างไอ้นินจาพวกนี้น่ะฮะ!”
“หยุดได้แล้วเจ้าเซอิจิ ! แกอย่าไปว่าน้อง ฉันเป็นคนจ้างพวกเขามา
แกมีปัญหาอะไร”
“มีแน่....” เขาบอกพร้อมกับหันไปทางซาสึเกะ ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร “ท่านพ่อ
กล้าจ้างนินจาที่เป็นอดีตอาชญากรแบบนี้มาคุ้มกันยัยอายากะได้ยังไง”
“เขามีความสามารถมากพอที่จะดูแลอายากะได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องในอดีตมันไม่เกี่ยวกัน
แล้ว แยกแยะหน่อยเซอิจิ”
“เหอะ! ยังไงผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด!” เซอิจิยังค้านหัวชนฝา นี่ถ้าเขาไม่ได้รับแจ้งจากลุงมาบุจิ
เขาคงจะไม่รู้ว่าบิดาของตนได้จ้างให้นินจามาคุ้มกันน้องสาวของเขา
อายากะถอนหายใจที่อยู่ๆพี่ชายของเธอก็เข้ามาก่อความวุ่นวาย ดวงตาสีเฮเซลนัทเบือนหนี
ภาพตรงหน้าอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะไปสะดุดเข้ากับอาการของซากุระ
“คุณซากุระ...เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” อายากะถามขึ้นเมื่อเห็นซากุระกำลังก้มหน้าก้มตาราวกับ
ว่าบนพื้นห้องมีเหรียญเงินตกอยู่ ตอนนี้เองที่เซอิจิได้สังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างซาสึเกะกำลังทำตัว
มีพิรุธ สุดท้ายซากุระก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และนั่นทำให้เซอิจิถึงกับเบิกตากว้าง
ดวงตาสีมรกตแบบนี้ มีผนึกรูปทรงข้าวหลามตัดกลางหน้าผากแบบนี้ และสิ่งสุดท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวคือเส้นผมสีชมพูที่โผล่พ้นมาจากหมวกคลุมแบบนี้
ไม่ผิดแน่! ผู้หญิงคนนี้คือคนที่เคยมีเรื่องกับเขาที่ตลาดแถบชายแดนเมื่อสามอาทิตย์ก่อนอย่าง
แน่นอนท่านเซอิจิฟันธงได้
“ เฮ้ยยย ! เธอ...ยัยไม้กระดาน!”
เขาตะโกนขึ้นพร้อมกับชี้หน้าซากุระ ทุกคนจึงหันไปมอง ‘ยัยไม้กระดาน’ ที่กำลังทำหน้าเหวอไม่
เว้นแม้แต่ซาสึเกะ เขามองเธออย่างแปลกใจเช่นกัน
กรี๊ดดด
! อุตส่าห์ใส่หมวกอำพรางแล้วยังจำได้อีกเรอะ!
“เอ๊ะ ท่านพี่รู้จักคุณซากุระเธอด้วยหรือคะ”
“ไม่! ทำไมฉันต้องรู้จักคนอย่างยัยบ้านี่!”
“แบบนี้เขาเรียกว่ารู้จักนะคะ”
“ก็บอกว่าไม่รู้จักไงเล่า!”
“เซอิจิ! เงียบแล้วก็นั่งลงซะ!”
เก็นจิโร่ตะโกนขึ้นอย่างหมดความอดทน ปกติแล้วลูกชายของเขาค่อนข้างหัวรั้นและดื้อด้าน
ก็จริงแต่ที่ผ่านมาก็ถือว่ายังมีขอบเขตอยู่บ้าง จะยกเว้นก็ตอนนี้ที่เจ้าตัวดูเกรี้ยวกราดเป็นพิเศษ นั่นคง
เป็นเพราะว่าเขาจ้างพวกนินจาที่ลูกชายเกลียดแสนเกลียดมาทำการคุ้มกันอายากะอย่างแน่นอน
“ยังไงผมก็ไม่ยอมให้พวกนินจาเข้ามายุ่งเรื่องนี้ โดยเฉพาะยัยนั่น !”
“นี่เซอิจิ หนูซากุระเป็นผู้หญิงนะ และฉันก็ไม่เคยสอนให้แกพูดจาหยาบคายกับผู้หญิงแบบนี้!”
“น้องว่าท่านพี่ใจเย็นๆก่อนนะคะ” อายากะช่วยเสริมบิดาอีกแรง
“ใจเย็นเหรอ เธอคิดว่าพี่ไม่รู้เหรอว่าเธอเป็นคนขอร้องท่านพ่อเองน่ะฮะ!” เซอิจิต่อว่าน้องสาว
ด้วยความหงุดหงิด อายากะเองก็มองหน้าพี่ชาย(ตัวแสบ)ด้วยสายตาไม่พอใจเช่นกันที่กล้าหักหน้าเธอ
ต่อหน้าทุกคนแบบนี้ โดยเฉพาะกับซาสึเกะ เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอจงใจเรียกเขาให้มาคุ้มกันเธอ
“ไดสุเกะ เข้ามาเอาตัวเจ้านายของแกออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้!” เก็นจิโร่ตะโกนเรียกไดสุเกะที่นั่ง
รออยู่ด้านนอกให้เข้ามาทันที ไม่นานประตูก็ถูกเลื่อนออกอีกครั้งพร้อมกับชายร่างสูงที่ซากุระคุ้นตาดี
เดินเข้ามาพร้อมกับซามูไรรับใช้ ไดสุเกะส่งรอยยิ้มบางให้ซากุระพลางก้มหัวเล็กน้อย เขาจำได้เธอได้ดี
เหมือนกับนายน้อยของเขานั่นล่ะ ทว่าต่างกันตรงที่เขาไม่ได้เกลียดเธอ
“เราไปข้างนอกกันเถอะขอรับนายน้อย” เขาบอกกับเซอิจิอย่างนอบน้อม แต่คนที่กำลัง
เดือดดาลกลับไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
“ไม่ ! ฉันจะไม่ออกไปจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง!”
“คนที่ไม่รู้เรื่องน่ะมันแกต่างหาก ไป รีบพามันไปสงบสติข้างนอกซะ” เก็นจิโร่บอกกับไดสุเกะ
ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจกับความเกรียนของลูกชาย พวกซามูไรรับใช้จึงตรงเข้าไปหมายจะพาตัวเจ้านาย
หนุ่มไปยังด้านนอก แต่ยังไม่ทันถึงตัวก็โดนหมัดลุ่นๆกระแทกเข้าที่ใบหน้าจนล้มลงมากองตรงหน้า
ซากุระ เธอจึงต้องกระเถิบตัวหนีก่อนจะโดนลูกหลง ส่วนซาสึเกะยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาสองสีมอง
ความวุ่นวายตรงหน้าด้วยความเรียบเฉย แต่ในใจมีคำถามที่อยากจะถามผู้หญิงข้างๆเต็มไปหมด
“เซอิจิ/ท่านพี่! หยุดนะ!” เก็นจิโร่กับอายากะตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน และเป็นอายากะที่ลุกขึ้น
ไปห้ามความดิบเถื่อนของพี่ชายตัวเอง เขาจึงต้องหยุดชะงักก่อนจะโดนไดสุเกะล็อกแขนเอาไว้ได้ใน
ที่สุด
“ปล่อยฉันไดสุเกะ! บอกให้ปล่อยโว้ย!“ เซอิจิตะคอกเสียงพลางสะบัดตัวออกแต่ก็ต้านแรงเหล่า
ซามูไรรับใช้ทั้งหกคนที่ลุกขึ้นมาช่วยไดสุเกะล็อกตัวเขาเอาไว้อีกครั้งไม่ได้ แต่ถึงจะโดนล็อกตัว ดวงตา
สีสนิมก็ยังมิวายหันไปมองผู้หญิงที่เคยด่าเขาอย่างเจ็บแสบด้วยความเกลียดชัง
“ฉันจะฆ่าเธอแน่ยัยหัวเถิกกกก!”
คำเรียกของเขาทำเอาซากุระแอบเดือดดาลอยู่ในใจไม่น้อย แต่เธอกลับกระตุกยิ้มเยาะพลาง
ยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท ไหนๆก็เผชิญหน้ากันแล้ว แถมเก็นจิโร่ก็ยังมีความเป็นกลางโดยไม่เข้าข้าง
ลูกชายอย่างเขา เธอก็พร้อมจะเปิดศึกได้ทุกเมื่อ ส่วนเซอิจิเองก็ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ
เพราะทำอะไรไม่ได้ในเมื่อพ่อของเขายังคงนั่งอยู่ แต่เขารับรองได้เลยว่าหลังจากนี้....เขาจะเอาคืนเธอ
เป็นหลายเท่าอย่างแน่นอน!
....................................................................
Ps.มาลงให้ครบ 100% แล้วจ้าาา ! ตอนนี้เป็นตอนที่ค่อนข้างยาวจริงๆ และก็ชอบมากด้วยเพราะมันครบรสในตอนเดียว ทั้ง ฟิน หวาน มึน ฮา และเกรียนนนน ! 55555+
Ps2. ตอนนี้วุ่นวายพอสมควร คงจะรู้แล้วสินะสังเวียนนี้มีใครบ้าง เดี๋ยวมีให้เหวอกว่านี้อีกแต่ขออุ๊บไว้ไม่บอก อิอิ
Ps3. เจอกันตอนหน้า ช้าหน่อยแต่มาอัพแน่นวล ไม่ทิ้งหรอก(กำลังมันส์ ไม่ใช่นิยายนะ แต่เป็นเกมโปเกมอน) :P
credit: us.ohmaydollz.com
'เซอิจิ' ผู้ชายสุดเกรียนแห่งเท็ตซึโนะ พร้อมจะไฟท์กับ 'ซาสึเกะ' (อดีต)ผู้ชายสุดเกรียนแห่งฮิโนะแล้วจ้า 5555+
thank you for reading!
10.08.16
ความคิดเห็น