คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : Chapter 38 : บุคคลที่คาดไม่ถึง [100%]
Chapter 38
บุคคลที่คาดไม่ถึง
ซากุระกำลังนั่งมองแผ่นหลังของชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีอยู่ที่โต๊ะอาหารพลางยิ้มเล็กน้อย
เขากำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเช้าอย่างขมักเขม้นจนเหงื่อผุดซึมขึ้นมาตามขมับ
ช่วงนี้ซาสึเกะแทบจะไม่ให้เธอได้หยิบจับอะไรหรือออกเดินทางไปไหนเพราะกลัวว่าการเดินทางนานๆจะทำให้เธอไม่สะดวกสบายและเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายจนสุดท้ายก็มาเช่าบ้านอาศัยอยู่ชั่วคราวที่หมู่บ้านคุสะซึ่งติดกับชายแดนของแคว้นโคโนฮะจนกระทั่งอายุครรภ์ของเธอเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว
ซาสึเกะหยิบจานอาหารเช้าแบบง่ายอย่างขนมปัง
ไข่ดาว พร้อมผัดสดนานาชนิดโดยเฉพาะมะเขือเทศที่ใส่มาเยอะเป็นพิเศษมาเสิร์ฟให้ภรรยาถึงที่โต๊ะ
ซากุระมองอาหารในจานก่อนจะทำสีหน้าพะอืดพะอมเมื่อเห็นมะเขือเทศ
“ไม่กินมะเขือเทศได้ไหม”
“ทำไมล่ะ”
“ไม่รู้สิ ช่วงนี้ฉันรู้สึกเหม็นเขียวมะเขือเทศมากๆ
แค่เห็นก็พะอืดพะอมแล้ว”
“แต่มันมีประโยชน์สำหรับเธอและลูก” ซาสึเกะบอกอย่างไม่ยอมแพ้
เขาแค่อยากให้ภรรยาได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนโดยเฉพาะมะเขือเทศ
มันเป็นสิ่งที่เขาชอบ บางทีลูกอาจจะชอบเหมือนเขาก็ได้
“ขอโทษนะซาสึเกะคุง
แต่ฉันไม่อยากกินมันจริงๆ เธอกินเถอะ”
ไม่รู้ว่าเธอตาฝาดไปเองหรือไม่ที่เห็นว่าเขากำลังทำสีหน้าสลดลงเล็กน้อย
แต่ไม่นานเขาหันหลังเดินกลับไปพร้อมกับจานมะเขือเทศที่ตั้งใจจะเอามาให้เธอกิน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอปฏิเสธเขา
เธอพอจะได้ศึกษามาบ้างว่าคนท้องมักจะมีอารมณ์แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา
และมันก็เป็นจริงดังนั้นเพราะปกติเธอไม่เคยที่จะทำร้ายจิตใจ วีนหรือเหวี่ยงใส่ซาสึเกะเหมือนที่ทำกับนารูโตะเลยสักครั้ง แต่เมื่อเธอตั้งครรภ์
เธอก็เริ่มที่จะทำกิริยาอาการแบบนั้นออกไปอย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
ทว่าซาสึเกะก็ไม่เคยโต้ตอบกลับ เขาใจเย็นกับเธอมากจนบางครั้งเธอรู้สึกผิดอยู่หลายต่อหลายครั้งจนถึงขั้นตื่นมาร้องไห้กลางดึกเลยก็มี
และก็เป็นซาสึเกะที่ลุกขึ้นมาปลอบอีกนั่นแหละ
เรียกว่าในแต่ละวันนั้นเธอจะมีหลากหลายอารมณ์มากเสียจนเขาเริ่มชินไปเสียแล้ว
“ฉันจะออกไปข้างนอก อยากได้อะไรไหม”
ซาสึเกะเอ่ยขึ้นอีกครั้งขณะหยิบเสื้อคลุมสีดำขึ้นมาสวม
เขายังคงต้องออกเดินทางไปสำรวจพร้อมกับทำภารกิจให้กับโคโนฮะอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าหลังๆจะทำได้ไม่เต็มที่เพราะต้องกลับบ้านมาดูแลภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์
แม้จะรู้ว่าเธอเป็นถึงนินจาแพทย์และมีความสามารถสูงแต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้
“ฉันอยากกินอันมิทซึ” ซากุระที่กำลังจัดการกับอาหารเช้าที่ปราศจากมะเขือเทศหันมาบอกเขาด้วยแววตาเป็นประกาย
ทุกวันนี้เธอแทบจะกินของหวานวันละสามเวลาแทนข้าวไปแล้วหากซาสึเกะไม่คอยห้ามปรามเอาไว้เพราะมันไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพเท่าไรนัก
“เมื่อวานเธอก็กินไปแล้วไม่ใช่หรือ”
“ก็มันคนละวันกัน วันนี้ฉันยังไม่ได้กินนี่!”
ซากุระเริ่มหน้าง้ำ
นั่นทำให้เขารู้ได้เลยว่าตอนนี้อารมณ์ของสตรีมีครรภ์เริ่มแผลงฤทธิ์อีกแล้ว
หากไปต่อความยาวสาวความยืดวันนี้เขาคงไม่ได้ออกจากบ้านแน่ๆ
“ก็ได้
ถ้ามีก็จะซื้อมาให้”
เขาบอกก่อนจะเดินเข้ามาเธออีกครั้งแล้วทำสิ่งที่เขาทำทุกวันก่อนจะออกไปข้างนอกนั่นก็คือการบอกลาลูก
ซากุระบอกเขาว่าพัฒนาการของเด็กในครรภ์ช่วงห้าเดือนเริ่มที่จะได้ยินเสียงของพ่อแม่แล้ว
เพราะฉะนั้นเขาจึงชอบที่จะเข้ามาคุยกับลูกอยู่บ่อยครั้งเพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับเด็กในครรภ์
มือข้างขวาลูบไปบนหน้าท้องที่เริ่มนูนใหญ่แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆพร้อมกับเอ่ยอย่างนุ่มนวล
“พ่อไปก่อนนะ”
เสียงตุ้บๆที่ส่งตอบกลับมาจากในครรภ์ทำให้พ่อแม่มือใหม่หันหน้ามองกันก่อนที่ซากุระจะส่งยิ้มบางๆไปให้เขา
“ลูกตอบรับเธออีกแล้ว”
“อือ แล้วจะรีบกลับมา”
“เดี๋ยวสิ ลืมอะไรหรือเปล่า” ซากุระว่าก่อนจะชี้มือไปที่แก้ม
นั่นทำให้ซาสึเกะชะงักไปเล็กน้อยแต่ไม่นานเขาก็ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้
จากนั้นซากุระก็ยกมือโอบลำคอเขาเอาไว้แล้วจุมพิตลงไปที่แก้มทั้งสองข้างของเขาอย่างรวดเร็ว
“โชคดีนะคะที่รัก”
.
.
.
หลังจากที่ซาสึเกะออกไปสักพัก
ซากุระก็เริ่มที่จะทำหน้าที่แม่บ้านด้วยการทำความสะอาด
แม้ว่าซาสึเกะจะบอกว่าไม่ให้เธอทำแต่เธอก็ไม่อาจอยู่เฉยได้
หากไม่ได้หยิบจับอะไรเลยเธอจะรู้สึกหงุดหงิดตัวเอง
ซากุระเดินไปยังโต๊ะทำงานของซาสึเกะที่จัดวางอย่างระเบียบเมื่อเห็นของบางอย่างตกอยู่ข้างโต๊ะ
“หืม เขาลืมม้วนคัมภีร์เอาไว้นี่” ซากุระหยิบม้วนคัมภีร์ที่มีตัวอักษรประหลาดขึ้นมาพิจารณาคร่าวๆ
เมื่อคืนเธอก็เห็นเขานั่งถอดความอยู่จนดึกดื่น
บางทีสิ่งนี้อาจจะสำคัญต่อการทำงานของเขา
คิดได้ดังนั้นซากุระจึงหยิบมันมาใส่กระเป๋าสัมภาระของตัวเองแล้วสวมผ้าคลุมของโคโนฮะเพื่อที่จะนำมันไปส่งให้เขา
ซากุระเดินมาหยุดอยู่ที่ย่านชุมชนในตัวหมู่บ้านพลางสอดสายตาหาร่างสูงในชุดคลุมสีดำของซาสึเกะ
แต่เพราะมีชาวบ้านเดินกันอยู่เป็นจำนวนมากบวกกับอาการที่ไวต่อกลิ่นเป็นพิเศษทำให้เธอเริ่มรู้สึกเวียนหัวและคลื่นไส้จนแทบอยากอาเจียน
บางทีเธอต้องหาที่พักสักหน่อยอาจจะดีขึ้น ทว่ายังไม่ทันจะก้าวขาเดินต่อเธอก็รู้สึกหน้ามืดเฉียบพลันจนประคองตัวไว้ไม่อยู่
ขณะที่กำลังจะล้มลงก็มีมือหนาของใครบางคนเข้ามาประคองไว้ได้ทันท่วงที
“เฮ้ๆ ระวังตัวเองหน่อยสิคุณแม่”
ซากุระเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าของบุคคลที่ช่วยเธอไว้ก่อนดวงตาสีมรกตจะขยายกว้างขึ้นอย่างตกใจเพราะคนตรงหน้าเธอนั้นได้หายสาบสูญไปตั้งแต่ฐานลับของคิจิโร่ถล่มลงมาแล้ว
“นะ นาย...ยูมะ!”
“เธอทำหน้าอย่างกับเห็นผีแน่ะ ฮ่าๆ” เขาบอกพลางยิ้มขบขัน
ซากุระยังคงมองไปที่เขาอย่างไม่วางตาเพื่อพิจารณาว่าเธอไม่ได้มองคนผิดไป
ทว่าคนตรงหน้านั้นมีดวงตาสีสนิมแบบเดียวกับเซอิจิ
ผมสีดำขลับที่เคยยาวจนถึงกลางหลังตอนนี้ถูกตัดสั้นจนเหลือประบ่าจนดูแปลกตาไปเล็กน้อย แต่ไม่ว่ายังไงคนตรงหน้าก็คือทากะฮาชิ
ยูมะอย่างแน่นอน
“ทะ...ทำไม”
“อย่าเพิ่งถามเลย เข้าไปนั่งพักก่อนเถอะ”
ยูมะบอกพร้อมกับประคองร่างซากุระเข้าไปนั่งในร้านน้ำชาที่อยู่ไม่ไกล
.
.
.
“ไม่คิดเลยว่านายจะยังมีชีวิตอยู่น่ะ”
ซากุระบอกหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามานั่งอยู่ในร้านน้ำชาเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้อาการเวียนหัวของเธอแทบจะหายเป็นปลิดทิ้งตั้งแต่เจอหน้าเขา
“นี่เธอแช่งฉันหรือไง”
“เปล่าสักหน่อย
แต่วันนั้นที่ฐานลับของคิจิโร่ถล่มลงมา นายติดอยู่ข้างในนั้น?!”
“วันนั้นฉันพาตัวเองหนีออกมาได้ก่อนที่ฐานลับจะถล่มแต่ก็ใกล้หมดสภาพเต็มที แต่ว่าหมอนั่น...เจ้าเซอิจิกลับไม่ยอมให้คนไปตามจับตัวฉัน
มันน่าเจ็บใจชะมัดที่ต้องติดบุญคุณของมัน”
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่สีหน้าของเขาก็ไม่ได้มีความโกรธเคืองอยู่แม้แต่น้อย
ซากุระยิ้มออกมาบางๆเพราะไม่ว่ายังไงพวกเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
เรื่องราวร้ายๆที่ผ่านไปแล้วคงจะทำให้ทั้งคู่ได้เปิดใจให้กันมากขึ้น
“ฉันเองก็ดีใจนะที่เห็นว่านายยังมีชีวิตอยู่”
“งั้นเหรอ
แต่ฉันเสียใจที่เห็นเธอกำลังจะเป็นแม่คน บอกตามตรงฉันสงสารเด็กในท้องชะมัด!”
พลั้วะ!
ซากุระฟาดมือเข้าที่ไหล่ของเขาอย่างแรงจนยูมะมีสีหน้าเหยเก ถึงจะตั้งครรภ์แต่เรี่ยวแรงช้างสารก็ไม่ได้ตกไปเลยแม้แต่นิด
“อยากตายหรือไงฮะ!”
“ก็มันจริงนี่
ดูเธอสิเหมือนผู้หญิงซะที่ไหน”
“ยังไม่หยุดอีกนะ!”
“ขนมได้แล้วจ้า”
ก่อนที่สงครามขนาดย่อมจะกำเนิดขึ้น
หญิงวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของร้านก็ถือถาดน้ำชาพร้อมกับขนมดังโงะมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ
ดวงตาเรียวเล็กมองผ่านแว่นสายตาไปยังยูมะที่จับข้อมือของซากุระไม่ให้ทำร้ายเขาได้อีกเป็นครั้งที่สองพลางยิ้มออกมาเพราะในสายตาของหญิงวัยกลางคนกลับเห็นว่าทั้งคู่กำลังหยอกล้อกันอยู่เสียอย่างนั้น
“แหม น่ารักจังเลย
พาภรรยาออกมาเดินเล่นหรือจ๊ะ”
“มะ
ไม่/ครับ” ซากุระที่กำลังจะปฎิเสธหันไปถลึงตาใส่ยูมะที่พูดแทรกเธอแถมยังโกหกไปอย่างหน้าระรื่น
“นี่ลูกคนที่เท่าไรแล้วล่ะพ่อหนุ่ม”
“คนที่สองแล้วครับ”
“ยูมะ!
…คือว่าป้าคะ ไม่ใช่-“
“อุ้ยตาย!
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องกินเยอะๆนะจะได้แข็งแรง” ยังไม่ทันที่ซากุระจะได้บอกความจริงหญิงวัยกลางคนก็เดินไปหยิบดังโงะอีกจานมาให้เธอก่อนจะเดินฮัมเพลงออกไปอย่างอารมณ์ดี
“นายทำบ้าอะไรเนี่ย!”
ซากุระหันไปแวดใส่ยูมะที่ยังคงหัวเราะขบขันแล้วเคลื่อนจานดังโงะทั้งสองจานไปตรงหน้าเธอ
“เอาน่า
ได้ขนมแถมมาตั้งเยอะ เธอไม่ชอบเหรอ”
เมื่อได้ยินยูมะบอกแบบนั้นเธอก็นิ่งไปสักพักก่อนจะเริ่มลงมือหยิบขนมในจานขึ้นมากินจนสีหน้าที่บูดบึ้งค่อยๆเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติ
“ดูเหมือนเธอจะชอบกินแต่ของหวานๆนะ อาการแพ้ท้องเหรอ”
“คงงั้นมั้ง ถ้าไม่ได้กินแล้วฉันจะอารมณ์ไม่ดี ”
"แบบนี้สามีเธอก็คงต้องรองรับอารมณ์แปรปรวนของเธออยู่ตลอดเลยล่ะสิ เอ...แต่ว่าเธอรักหมอนั่นจะตาย คงไม่กล้าทำหรอกมั้ง"
ยูมะบอกอย่างผ่อนคลายะพร้อมกับยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ
เท่าที่สังเกตดูตอนที่อยู่แคว้นเท็ตซึโนะ
ซากุระดูเหมือนจะเกรงใจเจ้านินจาสายเลือดอุจิวะอยู่ไม่น้อย แต่พอได้เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของหญิงสาวตรงหน้าก็ทำให้เขาอดที่จะระเบิดหัวเราะออกมาไม่ได้
“นี่เธอวีนใส่หมอนั้นงั้นเหรอ! น่าสงสารชะมัด ฮ่าๆๆ”
“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันน่า” ซากุระตอกกลับอย่างขุ่นเคืองก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง
“แล้ว...เซอิจิเขารู้หรือเปล่าว่านายอยู่ที่นี่”
“ถึงจะทำเป็นไม่รู้ก็รู้นั่นแหละ
ไม่งั้นจะส่งจดหมายมาถูกที่ได้ไง”
“จริงหรือ
แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง”
“ถามถึงผู้ชายคนอื่นแบบนี้ระวังสามีเธอตามมาเก็บนะ”
เขาบอกพลางทำหน้าจริงจังเพราะต้องการที่จะแกล้งเธอ
“ฉันถามในฐานะเพื่อนย่ะ!”
“อ้าว งั้นเหรอ หมอนั่นมันก็ยังเป็นเจ้าแคว้นที่บ้างานเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ที่น่าสมเพชไปกว่านั้นคือมันยังหาเมียไม่ได้ ไม่สิเรียกว่าปฏิเสธทุกคนที่พ่อมันเสนอมาให้มากกว่า”
“แหงล่ะ
ก็เขาเกลียดผู้หญิงจะตายชัก”
“หรือไม่ก็ยังตัดใจจากเธอไม่ได้”
“...”
“เฮ้ ไม่เอาน่า
อย่าเครียดสิ ไม่งั้นเด็กจะเครียดไปด้วยนะ” ยูมะพูดพลางตบบ่าเธอเบาๆแต่ซากุระก็ปัดออกอย่างรวดเร็วอย่างโกรธเคือง
“ก็เพราะนายนั่นแหละ!”
“ก็ได้ ฉันขอโทษ
แต่ไม่ต้องห่วงหรอก สักวันคงจะมีผู้หญิงที่คล้ายกับเธอเข้าไปดามใจมันได้ ดีไม่ดีอาจจะเป็นผู้หญิงจากหมู่บ้านของเธอก็ได้นะ”
“นี่เขาเดินทางไปหมู่บ้านโคโนฮะงั้นหรือ”
“อืม คงไปเจรจาเพื่อเข้าเป็นแคว้นพันธมิตรล่ะมั้ง ว่าแต่เธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ”
“ฉันมา...อ๊ะ จริงสิ! ฉันจะเอาเอกสารมาให้ซาสึเกะคุงนี่ ตายล่ะ !!!"
“เฮ้ อย่ารีบลุกพรวดพลาดแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็น่ามืดอีกหรอก เอ้า กินยานี่เสียก่อน"
ยูมะส่งยาสมุนไพรเม็ดเล็กให้เธอ แต่ซากุระไม่ได้ยื่นมือไปรับ ดวงตาสีมรกตยังคงมองอย่างสงสัย
"ยาอะไรน่ะ"
"ยาแก้วิงเวียนนี่แหละ ฉันทำเอง ไม่อันตรายหรอก"
“เห นี่นายเป็นแพทย์งั้นเหรอ”
“อ้าว
นี่ไม่รู้หรือว่าเป็นซามูไรแพทย์ของเท็ตซึโนะมาก่อน”
“ถึงว่า...รู้เรื่องสมุนไพรดีจัง”
ซากุระว่าพร้อมกับลูบปลายคางพลางคิดไปถึงตอนที่ยูมะเคยพยายามใช้ยาสมุนไพรมารักษามือของเธอ แต่ตอนนั้นเธอปฏิเสธเพราะเห็นว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังในการจับตัวอายากะไป
“ว่างๆ ก็แวะมาสิ
ฉันมีคลินิกเล็กๆอยู่ตรงโน้น อ้อ แล้วฉันก็มีเครื่องอัลตร้าซาวนด์ด้วยนะ
เผื่ออยากเห็นหน้ายัยหนู”
“ยัยหนู...รู้ได้ไงว่าเป็นผู้หญิงน่ะ”
“ไม่รู้
แต่เขาว่าพวกอดีตวายร้ายมักจะมีลูกสาวนะ เฮ้ สามีเธอเดินมาโน่นแล้ว ฉันไปก่อนละกัน
เดี๋ยวโดนจิตสังหาร”
ยูมะบอกขณะที่มองไปยังด้านหลังของเธอ ร่างสูงในชุดคลุมสีดำนั้นดูโดดเด่นจนเห็นได้ในระยะไกลๆ ส่วนซากุระก็รู้สึกชาวาบไปทั่วสรรพางค์กายทั้งๆที่เธอเพียงแค่จะเอาเอกสารมาส่งให้ซาสึเกะเฉยๆ จนลากยาวมาถึงตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังยิ้มส่งท้ายให้เขา
"ถ้างั้น โชคดีนะ "
"อือ ยังไงก็ขอให้เป็นครอบครัวที่มีความสุขแล้วกัน"
ยูมะพูดเพียงเท่านั้นก็เดินหายเข้าไปในกลุ่มฝูงชน ซึ่งคลาดกับซาสึเกะที่เดินเข้ามาหาเธอพอดี ซากุระจึงหันไปยิ้มใจดีสู้เสือ
"อ๊ะ! ซาสึเกะคุง กำลังตามหาอยู่พอดีเลย"
"..."
ความเงียบที่ส่งกลับมาบวกกับหน้าตาเคร่งขรึมแบบนี้สงสัยเธอจะต้องโดนเทศนายาวเหยียดแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
.............................................................
TO BE CONTINUED
Ps. คิดถุงยูมะเลยเอามาใส่ในบทอีกครั้ง ส่วนรอบหน้านุ้งดะมาแน่นวล ????
Ps2. ขอโทษน้าาาา มาเก็บตัวเรียนภาษาญี่ปุ่น ไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ต้องพิมพ์ในโทรศัพท์เอา เพราะฉะนั้นมันก็จะแปลกๆหน่อยนะ
ความคิดเห็น