คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : Chapter 31 : จุดหมายใหม่ [100%]
Chapter 31
จุดหมายใหม่
“ว้าว ! ทะเลสวยมากเลยซาสึเกะคุง!”
ซากุระร้องออกมาอย่างตื่นตาตื่นใจเมื่อเรือโดยสารแล่นมาถึงแคว้นคามินาริโนะหรือว่าแคว้นสายฟ้าซึ่งมี
พื้นที่เป็นเกาะที่ถูกโอบล้อมด้วยน้ำทะเลจากทุกทิศ และที่นี่ก็มีหมู่บ้านคุโมะเป็นหมู่บ้านหลักโดยมี ’ดารุย’
ชายฉกรรจ์ผิวเข้มดำรงตำแหน่งเป็นไรคาเงะรุ่นที่
5 ซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบัน
ซาสึเกะมองซากุระที่กำลังเพลิดเพลินไปกับความงามของทะเลแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย ตัวเขาเคยมาสำรวจ
ที่นี่แล้วครั้งนึงแต่ก็ยังสำรวจไม่ทั่วเสียทีเดียว เขาเลยตั้งใจจะกลับมาที่แคว้นนี้อีกครั้งเพื่อพาซากุระมาผ่อนคลาย
แล้วตัวเขาเองก็จะได้เดินทางสำรวจต่อด้วย
“เธอน่ะเลิกกินลมชมวิวได้แล้ว มาเก็บของเร็วเข้าเถอะ เรือจะเทียบฝั่งอีกไม่นาน”
ซาสึเกะบอกก่อนจะพาตัวเองกลับไปที่ห้องโดยสารเพื่อเอาสัมภาระหลังจากค้างอยู่บนเรือถึงสามวัน
ซากุระทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยเมื่อซาสึเกะไม่ได้อินไปกับวิวน้ำทะเลเหมือนเธอก่อนจะเดินตามเขาไปเก็บสัมภาระเพื่อ
เตรียมลงเรือ
“แวะพักที่นี่ก่อนแล้วกันนะ”
ซาสึเกะบอกกับซากุระหลังจากที่ทั้งคู่เดินทางออกจากท่าเรือเพื่อมุ่งสู่หมู่บ้านคุโมะ และตอนนี้ก็อยู่ระหว่าง
ครึ่งทางแล้วเขาจึงแวะพักเหนื่อยก่อนจะออกเดินทางต่อ เขาเดินไปยังลำธารที่อยู่ไม่ไกลเพื่อไปกรอกน้ำดื่ม
ซากุระจึงทิ้งตัวลงนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่พร้อมมองแผ่นหลังกว้างของเขาที่กำลังห่างไกลออกไปเรื่อยๆ
ตั้งแต่ออกจากแคว้นเท็ตซึโนะ เขาพูดกับเธอน้อยลงมาก ซึ่งซากุระคิดว่าเป็นเพราะเขายังงอนไม่หายแม้เธอ
จะพยายามง้อมาตลอดทางก็เถอะ พอได้ลองมาคิดๆดูแล้วเธอกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นฝ่ายผิด ในตอนที่ทะเลาะ
กันเธอมัวแต่เสียใจที่เขาไม่ไว้ใจเธอ แต่กลับไม่ได้ตระหนักว่าใจของเขาจะรู้สึกเช่นไรที่เห็นคนที่รักไปสนิทสนมกับ
ผู้ชายคนอื่น เขาใจเย็นมาตลอดและครั้งนั้นเขาคงเหลืออดแล้วจริงๆ
กลับกัน...ถ้าเธอเห็นเขาไปสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่น เธอก็คงโกรธไม่ต่างอะไรจากซาสึเกะ และเพราะ
คิดได้แบบนั้น...เธอจึงเดินหน้าที่จะง้อซาสึเกะไปเรื่อยอยู่แบบนี้จนกว่าเขาจะให้อภัยนั่นแหละ!
“เหม่ออะไรอยู่”
ซาสึเกะถามขึ้นเมื่อเห็นซากุระเอาแต่นั่งนิ่งจนไม่ได้สังเกตว่าเขายื่นกระบอกน้ำดื่มให้เธอนานแล้วแต่เจ้าตัว
กลับไม่รับไปเสียที
“ห...หา เอ่อ เปล่าจ้ะ”
“นี่ น้ำดื่ม”
“ขอบคุณจ้ะซาสึเกะคุง”
เธอรับกระบอกน้ำดื่มมาจากเขาก่อนจะยกขึ้นดื่มเพียงเล็กน้อย
“อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะถึงตัวหมู่บ้านแล้ว เราจะพักที่นั่นกัน” เขาบอกขณะที่กางแผนที่ลงบนพื้นแล้วใช้
ดินสอเขียนขยุกขยิกลงไปบนนั้น
ซากุระที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามองซาสึเกะด้วยความเคลิบเคลิ้ม เธอชอบสีหน้าของเขาตอนกำลังจมอยู่กับอะไรบางอย่าง...
มันดูน่ารักดี...
“ยิ้มอะไรของเธอ”
ซาสึเกะถามขณะที่มือยังขีดเขียนไปบนแผนที่อยู่ เมื่อสักครู่เขาเหลือบหางตาไปมองก็พบว่าเธอแอบมองเขาแล้วนั่งปั้นยิ้มเหมือนคนบ้า
“ป...เปล่าซักหน่อยนี่!” ซากุระสะดุ้งโหยงพร้อมกับปฎิเสธทันควัน ทว่าหลักฐานก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าที่แดงเป็นลูกมะเขือเทศสุกของเธอ
ซาสึเกะไม่ได้พูดคุยอะไรต่อ เขาม้วนแผนที่หลังจากเขียนข้อมูลเสร็จลงในกระเป๋าสะพายสีดำพร้อมกับหาวหวอดจนน้ำตาซึม เมื่อคืนเขาไม่ค่อยได้นอนเท่าไรเพราะเพิ่งจะเขียนรายงานภารกิจเสร็จก่อนจะส่งไปให้คาคาชิโดยนกเหยี่ยวของตน ซากุระเห็นเขาดูราวกับคนพักผ่อนมาน้อยจึงเอ่ยถามขึ้น
“ง่วงเหรอ”
“อือ นิดหน่อย”
“ถ้าอย่างนั้น...งีบซักแปบไหม”
ซากุระว่าก่อนจะตบมือไปที่ตักเบาๆเป็นสัญญาณให้เขาใช้เธอตักเธอเป็นหมอนหนุนได้ แต่ซาสึเกะกลับทำสีหน้านิ่ง เขาเขยิบตัวไปแนบแผ่นหลังพิงกับต้นไม้แล้วหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ซากุระเห็นแบบนั้นก็ถึงกับคอตก ใบหน้าหวานเปลี่ยนเป็นเศร้าสลดทันทีเพราะความเย็นชาของเขา
ซาสึเกะคุง...ฉันเริ่มหมดมุกที่จะง้อแล้วนะ…
ซาสึเกะที่เห็นสีหน้าผิดหวังของเธอจึงพยายามกลั้นยิ้ม เขาจะมาใจอ่อนตอนนี้ไม่ได้ ยังไงต้องให้เธอได้รับ บทเรียนเรื่องที่มาบังอาจเข้าข้างผู้ชายคนอื่นมากกว่าเขาเสียก่อน แต่ทว่า…
ตุบ!
“อีกครึ่งชั่วโมง ช่วยปลุกหน่อยก็แล้วกัน”
“อะ อื้อ!”
ซากุระรับคำอย่างดีใจที่จู่ๆเขาก็ทิ้งตัวลงมานอนบนตักเธอ แต่ซาสึเกะก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรอีกนอกจากหลับตาลงอีกครั้ง ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็เข้าสู่ห้วงนิทราเพราะความอ่อนเพลียสะสม ซากุระมองคนที่กำลังหลับตาพริ้มพลางยิ้มออกมาน้อยๆ เธอยกมือขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมสีดำที่เริ่มยาวจนบดบังดวงตาของเขาไปด้านข้าง ใบหน้าที่หล่อเหลาปนสวยหวานนั้นช่างน่าดึงดูดจนซากุระอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบา
…………………………………………………
ซาสึเกะกับซากุระเดินมาถึงตัวหมู่บ้านในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง นับว่าพวกเขาเดินทางมาถึงกันไวมากเพราะตะวันยังไม่ตกดิน เขาไม่รอช้าที่จะเดินเข้าบริเวณย่านชุมชนเพื่อหาโรงแรมเพื่ออาศัยอยู่สำหรับคืนนี้ และแล้วเขาก็เจอกับโรงแรมที่มีพื้นที่ด้านหลังติดทะเลพร้อมกับป้ายที่เขียนว่าว่างอยู่
“ขอจองห้องพักหนึ่งห้องครับ”
“อุ้ย ได้เลยจ้ะ” หญิงวัยกลางคนมองหน้าทั้งคู่แล้วยิ้มออกมา เธอหยิบแผ่นเอกสารขึ้นมากางบน เคานทเตอร์ “ขออนุญาตแนะนำโปรโมชั่นหน่อยนะจ๊ะ พอดีช่วงนี้เรามีห้องสำหรับคู่รักที่มาฮันนีมูลที่โรงแรมของเรา เป็นห้องที่มีออนเซนส่วนตัวติดกับทะเลด้านหลัง แถมยังลดราคาเป็นพิเศษถ้าหากจองสามวันติดกัน เชื่อป้าสิ คุ้มกว่าห้องธรรมดาอีกนา”
“เอ่อ...” ซากุระถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ฟังรายละเอียดอันยาวยืด หญิงวัยกลางคนเห็นสีหน้าของสองหนุ่มสาวก็ถามขึ้นมาอีกครั้งอย่างแปลกใจ
“หรือว่าพวกเธอไม่ได้เป็นคู่รักกันงั้นเหรอ”
“เอ่อ...คือ...”
“เอาห้องนั้นก็ได้ครับ”
ซาสึเกะตัดบทอย่างรวดเร็ว
ยังไงซะเขากับเธอก็ต้องอยู่ที่หมู่บ้านนี้ไปซักพักอยู่แล้ว
จะจองห้องอะไรก็ไม่ต่างกัน
อีกอย่างถ้ามัวแต่ต่อความยาวกันต่อไปเขาคงไม่ได้ออกไปทำอะไรบางอย่างที่ตั้งใจไว้เสียที
“วิเศษที่สุดจ้ะ! ถ้างั้นตามป้ามาเลย เดี๋ยวจะพาไปส่งที่ห้องนะจ๊ะ!”
…………………………………………….
ซากุระวางกระเป๋าสัมภาระไว้ที่มุมหนึ่งของห้องก่อนจะพาตัวเองไปที่หน้าต่างบานใหญ่เพื่อมองวิวทะเลที่เห็นอยู่ไกลๆ เมื่อเดินไปเลื่อนบานประตูด้านข้างก็เจอห้องออนเซนขนาดเล็กทว่าจัดพื้นที่ได้อย่างน่ามองด้วยพืชพรรณไม้ธรรมชาติ ซากุระเพลิดเพลินไปกับการสำรวจห้องเป็นอย่างมากก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เตียงนอนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวมากขึ้น เพราะมันหมายถึงเธอกับซาสึเกะจะต้องนอนด้วยกันบนเตียงสีขาวนั่น!
แต่ถ้าคิดว่าซาสึเกะจะล่วงเกินเธอล่ะก็...คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้!
ตลอดสองเดือนที่อยู่แคว้นเท็ตสึโนะเขาและเธอก็พักแยกกันอยู่คนละส่วน
แถมยังมีเรื่องเข้ามามากมายไม่หยุดหย่อนจนไม่มีเวลาไปสวีทกันเหมือนแต่ก่อน...แต่ก่อนก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าสวีทได้ไหม
เอาเป็นว่า...ซาสึเกะดูเหมือนจะเป็นคนตายด้านเรื่องโรแมนติกจริงๆ
ถ้าให้นับว่าจูบกับเขาไปกี่ครั้งนับนิ้วยังได้เลย ล่าสุดก็เมื่อสองเดือนที่แล้ว
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก...
“ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อยนะซากุระ”
ซาสึเกะบอกหลังจากที่เขาจัดเก็บสัมภาระส่วนตัวเข้าที่หมดแล้ว
เขาลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายสีดำคู่ใจแล้วก้าวไปยังประตูห้อง
“ฉันไปด้วยสิ
ขอหยิบของแปบนึงนะ” ซากุระที่ทำท่าว่าจะไปหยิบกระเป๋าตังค์ก็ต้องชะงักเมื่อเขาเอ่ยขัดเธอขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่ต้องไปหรอก
เธออยู่ที่ห้องนั่นแหละ เห็นบ่นว่าปวดขาอยู่ไม่ใช่หรือไง”
“แต่ฉันดีขึ้นแล้วนะ”
“ไม่ต้องไป”
“ใจร้าย!”
“ขอบคุณ”
ปัง !
ซากุระมองประตูที่เพิ่งปิดสนิทด้วยความฉงนใจเล็กน้อย
วันนี้เหมือนเขาจะดูรีบร้อนแปลกๆ แต่ปกติเขามีอะไรก็ไม่ค่อยจะบอกเธออยู่แล้วนี่นะ
เพราะเขาน่ะ..ความลับเยอะจะตายไป
.............................................................
ซากุระลงมาหาอาหารเย็นกินแถวใกล้ๆบริเวณโรงแรมหลังจากที่รอซาสึเกะมาหลายชั่วโมงแต่เขาก็ไม่กลับเข้ามา โชคดีที่โรงแรมนี้อยู่ในตัวเมืองทำให้ย่านนี้ดูครึกครื้นเป็นอย่างมาก ผู้คนต่างพากันออกมาดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แต่ซากุระกลับทำหน้าเซ็งๆอยู่ในร้านราเม็ง อุตส่าห์ได้ผ่อนคลายทั้งทีแต่ซาสึเกะดันหายหัวไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เย็น และเพราะความเซ็งนั้นทำให้เธอไม่ได้สังเกตว่ามีชายผิวสีร่างสูงใหญ่เดินเข้ามานั่งข้างๆเธอ ใบหน้าเข้มที่สวมแว่นกันแดดทรงรีอันเป็นเอกลักษณ์เลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อเห็นหญิงสาวที่มีเรือนผมสีชมพูอ่อนผู้ซึ่งเป็นเพื่อนทีมเดียวกันกับนารูโตะ
“โย่ ! ว่าไงสาวน้อย!”
ซากุระหันมาตามเสียงแร๊พของชายที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างเมื่อได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่ปรับเก่าของซาสึเกะ
เจ้าของร่างสถิตแปดหางและเป็นนินจาคู่หูของไรคาเงะรุ่นที่ 4
“ลุงบี!”
“ไหนมาชนหมัดกันหน่อยสิ!” คิลเลอร์
บีพูดพลางยื่นหมัดไปตรงหน้าซากุระ
“ชะ ชนหมัด?!”
“ก็แบบนี้ไง ชนหมัดน่ะชนหมัด มาสิ!”
เขาย้ำอีกครั้งก่อนจะแสดงท่าชนหมัดให้ดูเป็นขวัญตา
ซากุระทำได้เพียงกระพริบตาปริบๆแล้วยื่นหมัดไปแตะกับเขาอย่างงงๆ
“แปลกใจจริง มันน่าแปลกใจจริงๆที่เห็นเธอที่นี่น่ะสาวน้อย!”
“คือฉัน...ออกมาเดินทางกับซาสึเกะคุงเขาน่ะค่ะ”
“โอ้ ไอ้บ้านั่น
มันกลับมาอีกแล้วงั้นเรอะ!”
คิลเลอร์ บีถามด้วยภาษาแร๊พโย่วตามแบบฉบับของเจ้าตัว
แต่คำนั้นทำให้ซากุระเกิดความสงสัย
“กลับมาอีก...หมายความว่าเขามาที่นี่บ่อยงั้นหรือคะ”
“จะว่าบ่อยก็ไม่ จะว่าไม่บ่อยก็ไม่ใช่”
ซากุระรู้สึกงงไปกับคำพูดของเขาจนต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ
ขนาดว่าพูดแร๊พยังฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง นี่ยังต้องมาแกะความหมายของประโยคพวกนั้นอีก
“สรุปว่าก่อนหน้าเขาก็มาแล้วรอบนึงใช่หรือเปล่าคะ”
“เยส! เหมือนจะมาหาใครซักคน”
“ใครหรือคะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันสาวน้อย แต่เป็นผู้หญิงคนนึง”
“ผู้หญิง...หรือคะ”
“แดทส์ ไรท์ ! ผู้หญิง...พร้อมกับเด็กผู้ชาย”
“ดะ เด็ก!”
ตอนได้ยินคำว่าผู้หญิงยังไม่ตกใจเท่ากับได้ยินคำว่าเด็ก หน้าตาที่อึ้งกิมกี่ของเธอทำให้คิลเลอร์บีแทบจะ
หลุดหัวเราะออกมา
“บางที่ไอ้บ้านั่น มันอาจจะซ่อนเบบี๋ไว้ก็ได้นะ สาวน้อย ~”
คิลเลอร์บอกปิดท้ายด้วยภาษาแร็พเพราะราเม็งที่สั่งไว้ได้ถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้า จากนั้นเขาก็ก้มลงจัดการ
กับอาหารของตัวเองทันที ส่วนซากุระที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถึงกับหยุดการกินราเม็งที่เหลืออยู่อีกครึ่งถ้วยทันทีเพราะกำลัง
คิดไม่ตกกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับรู้
...............................................................
ซาสึเกะกลับเข้ามาในห้องพักในช่วงดึก เขามองไปยังซากุระที่หลับไปแล้วด้วยสายตาที่ไม่บ่งบอกความ
หมาย
จากนั้นเขาก็ปลดเสื้อคลุมออกแขวนไว้ที่ราวไม้แล้วคว้าชุดยูกะตะของทางโรงแรมตรงไปยังห้องน้ำ
“กลับมาแล้วเหรอ”
ซากุระถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เสียงกุกกักที่ประตูทำให้เธอตื่นหลังจากเพิ่งจะหลับไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
เพราะมัวแต่คิดเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำอยู่
มันรบกวนจิตใจของเธอจนพานทำให้นอนไม่หลับ
“อือ ขอโทษที่ทำให้เธอตื่น”
“ฮื่อ ไม่เป็นไรหรอก ฉันเพิ่งงีบไปแปบเดียวเอง”
“งั้นเหรอ เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำแล้ว เธอนอนต่อเถอะ”
ซาสึเกะว่าก่อนจะผลักบานประตูห้องน้ำเข้าไปโดยไม่ได้สนใจเธอต่อ ทว่าหลังประตูเข้ากลับยิ้มพรายออก
มาอย่างเจ้าเล่ห์
หึ...ถือว่าฉันให้โอกาสเธอไปแล้วนะ
เสียงประตูห้องน้ำที่ถูกเปิดออกอีกครั้งทำให้ซากุระลืมตาขึ้นหลังจากพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็ไม่สามารถ
ทำได้เธอหันไปมองซาสึเกะที่เดินไปนั่งอยู่บนโซฟา เขาสวมชุดยูกาตะแบบหลวมๆเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนกับ
กล้ามท้องที่ขึ้นเป็นเชพบางๆ มือข้างขวาเลื่อนไปร่นแขนเสื้อข้างซ้ายลงเพื่อดึงผ้าพันแผลอันเก่าออก
“ซาสึเกะคุง...ฉันช่วยเปลี่ยนผ้าพันแผลให้นะ”
เธอถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาใช้ปากกัดผ้าพันแผลเอาไว้ขณะพันผ้าผืนใหม่ที่แขนด้านซ้าย เขาชะงักก่อนจะเงย
หน้ามองเธอเล็กน้อยแล้วยื่นผ้าพันแผลให้ ยอมรับว่าตอนจะเปลี่ยนแต่ละครั้งมันสร้างความลำบากให้เขาอยู่ไม่น้อย
อีกอย่างคือเขาไม่ถนัดที่จะทำอะไรแบบนี้ด้วย
ซากุระลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างๆเขา มือบางรับผ้าพันแผลมาถือไว้แล้วเริ่มพันไล่
ตั้งแต่ข้อพับจนถึงปลายแขนโดยไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังมองเธอตาไม่กระพริบ ใบหน้าสวยดูจริงจัง ริมฝีปากอวบอิ่ม
เผยอออกเล็กน้อยจนเขาอยากจะ...
“เธอออกไปไหนมางั้นเหรอ”
ซากุระถามขณะที่ยังคงพันผ้าพันแผลให้อยู่ ซาสึเกะที่กำลังคิดเรื่องไม่ดีก็เปลี่ยนมาตอบคำถามเธอโดย
พยายามที่จะใช้น้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
“ทำธุระนิดหน่อย”
‘บางที่ไอ้บ้านั่น มันอาจจะซ่อนเบบี๋ไว้ก็ได้นะ สาวน้อย ~’
คำพูดอของคิลเลอร์ บีวกกลับเข้ามาได้หัวอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่ ซากุระพยายามสะบัดหน้าเพื่อไม่ให้ตัวเอง
คิดมาก
ซาสึเกะมองปฏิกิริยาของเธออย่างสงสัย
“เป็นอะไรของเธอ”
“อ๊ะ ปะ...เปล่าจ้ะ ไม่ได้เป็นอะไร”
“งั้นเหรอ”
“เรียบร้อยแล้วจ้ะ” เธอบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาก่อนจะพบว่าดวงตาสองสีนั่นจ้องมองเธออยู่
ก่อนแล้ว ซากุระรู้สึกว่าครั้งนี้สายตาของเขาดูมีประกายบางอย่างจนทำให้เธอต้องหลุบตาลงต่ำอย่างไม่กล้าสบตา
ความรู้สึกภายในราวกับมีสัญญาณเตือนให้ระวังอันตราย เห็นทีเธอจะต้องพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
เสียแล้ว
ทว่ายังไม่ทันที่ซากุระจะได้เอื้อนเอ่ยคำใดๆ ซาสึเกะก็คว้าหมับเข้าที่ท้ายทอยของเธอเอาไว้แน่นแล้วบดริม
ฝีปากร้อนผ่าวลงบนริมฝีปากเธอทันที
ซากุระเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกจู่โจมอย่างกะทันหัน มือบางดันแผ่นอกแข็งแกร่งให้ถอยออกตาม
สัญชาตญาณแต่ก็ไม่เคยจะเป็นผล หนำซ้ำเขายังสอดแทรกลิ้นอุ่นเข้ามาในโพรงปากอย่างร้อนแรงและดุดันจนเธอ
เริ่มหายใจติดขัดเพราะรสจูบที่กินเวลาเนิ่นนาน สติของเธอเริ่มถดถอยด้วยความมึนงง และร่างกายเริ่มอ่อน
ปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
ซาสึเกะถอนริมฝีปากออกก่อนจะลากต่ำลงมาซุกไซร้ที่ลำคอขาวเนียน
“ดะ เดี๋ยวก่อนซาสึเกะคุง!”
“หืม...”
“คะ คือว่าจะทำตรงนี้ไม่ได้นะ!” ซากุระทำหน้าตาตื่นเมื่อได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปเพราะความลนลานจน
ใช้ประโยคมั่วไปหมด
“เอ่อ...ฉันหมายถึง อ๊ะ!”
ซากุระยังไม่ทันได้อธิบายอะไรต่อเขาก็อุ้มเธอขึ้นพาดบ่าแล้วเดินไปยังเตียงกว้าง จากนั้นก็จัดการทิ้งร่างเธอ
ลงบนเตียงอย่างไม่ปราณีพร้อมกับโถมตัวลงมาทับร่างเธอไว้ เข่าของเขาแทรกลงไปตรงกลางหว่างขาเธอจนเธอรู้สึก
ขนลุกซู่ไปทั่วร่าง
“ตรงนี้ได้ใช่หรือเปล่า”
ซาสึเกะถามเสียงราบเรียบ ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของอีกฝ่าย
ทว่าซากุระก็รีบยกมือขึ้นประคองใบหน้าเขาไว้พร้อมกับวิงวอนเสียงสั่น
“ดะ เดี๋ยวสิ! ฉะ ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม”
“เวลาอะไร”
“คือ...ฉัน...ฉันยังไม่พร้อม!”
“…”
“นะ...”
“ก็ได้” เขาตอบรับอย่างว่าง่ายพร้อมกับผละตัวออกมาจากร่างเธอ ซากุระถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วคลาน
ออกไปยังฝั่งที่นอนของตัวเอง ทว่ายังไม่ทันไปถึงไหนขาของเธอก็ถูกยึดเอาไว้แล้วดึงลงมาอย่างรวดเร็วจนร่างไถลลง
มานอนแผ่หราอีกครั้ง
“กรี๊ดดดดดด!”
“หมดเวลาแล้ว”
“วะ ว่ายังไงนะ!”
“บอกแล้วไงว่าฉันจะคิดบัญชีกับเธอน่ะ เธอจะไม่ได้สิทธิ์ต่อรองอะไรทั้งนั้น...ซากุระ”
ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างทันทีเมื่อได้ยินคำว่าคิดบัญชี
เพราะไม่คิดว่าคำนั้นจะหมายถึง...เรื่องอย่างว่าน่ะ!
พอเข้าใจความหมายของมันแล้ว หัวสมองอันชาญฉลาดก็คิดหาวิธีให้ตัวเองหลุดพ้นไปจากตรงนี้
และในที่สุดเธอก็คิดออกจนได้ถึงแม้ว่าเรื่องนี้มันจะน่าอายนิดหน่อยก็เถอะ
“ก็ได้ๆ! ฉันยอมแล้ว แต่จะ เอ่อ ไม่ป้องกันหน่อยเหรอ”
เธอพูดไปด้วยความกระดากปาก คนเเป็นนินจาแพทย์อย่างเธอน่าจะคุ้นชินกับเรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้ว
ทำไมพอสถานการณ์จริงมันถึงได้ดูยากเย็นแบบนี้
แต่บางทีถ้าเธอยกเรื่องนี้มาอ้างอาจจะทำให้เขาเปลี่ยนใจก็ได้
สำหรับเธอแล้ว...อยากจะถอยไปตั้งหลักใหม่เสียก่อน!
“เธอเคยบอกว่าเธออยากมีลูก…”
“ธะ เธอ...จำได้ด้วยเหรอ”
ซากุระถามอย่างตะกุกตะกักเพราะซาสึเกะเคลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซร้ลำคอหอมกรุ่นของเธอ ริมฝีปากหยัก
ได้รูปจูบซับไปทั่วลำคอจนเธอเริ่มที่จะโอนอ่อนไปตามเกมของเขาอีกครั้ง
“ได้สิ...เธอบอกว่าอยากได้เด็กผู้หญิง”
“เด็กผู้หญิงงั้นเหรอ...”
“อือ...อาจจะเหมือนเธอ”
“เหมือนฉัน...งั้นเหรอ”
“อือ...”
“ตะ แต่ว่าฉันยังไม่พร้อมจะมีลูกนะ!”
ซากุระที่เรียกสติกลับมาได้หลังจากโดนเขาหว่านล้อมอยู่นานก็พูดขึ้นอย่างหนักแน่น นั่นทำให้ซาสึเกะยอม
ผละออกจากลำคอขาวเนียนแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอราวกับราชสีห์ที่เห็นเหยื่อกำลังพยศต่อต้าน ส่วนเหยื่อ
อย่างเธอกำลังรู้สึกโล่งใจที่เขาหยุดการคุกคามได้ในที่สุด
“ฉันว่า...นี่ก็ดึกแล้ว เราเข้านอน...”
”ไม่มีทาง”
เขาค้านเสียงแข็งก่อนจะยื่นมือไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงทั้งที่ยังทาบทับตัวเธอไว้อยู่ มือขวาล้วงไปควานหาอะไร
บางอย่างออกมาแล้วใช้ปากฉีกห่อฟอยล์สี่เหลี่ยมอันเล็กจนขาด
นั่นทำให้ซากุระถึงกับเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง!
เขามี...ของแบบนั้นได้ยังไงกัน!
“ยังไงคืนนี้เธอก็ไม่รอดหรอกนะ...ซากุระ”
…………………………………………..
-TO BE CONTINUED-
Ps1. อิเกะมันร้ายค่ะคุณนักอ่านนน ! ซากุระเอ้ยย มันวางแผนมาทุกอย่างแล้วลูกกก 55555+ เอาจริงๆเราว่ามันแอบร้ายจริงๆนะ(ในมังงะ) ไม่งั้นหนูดะจะเกิดก่อนเพื่อนรึ เนี่ย ข้อมูลตรงนี้เราพลาดมากกก! ไม่คิดว่ามันจะมีน้องดะก่อนใครเพื่อน แต่มาถึงขั้นนี้และ ให้ดะเกิดหลังโบลท์ละกัน ยังไงก็ไม่รู้วันเกิดโบลท์ 55555+
Ps2.โปรดติดตามต่อไปว่าคำพูดลุงบีใช่เรื่องจริงหรือไม่ วาร์ปจะปล่อยมาตอนไหน แต่ตอนนี้ยังไม่บอก(โดนตบ) ไว้เเจกันจ้ะ ! จุ๊บๆ -3-
27.05.60
ความคิดเห็น