The last Swan's tear

ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

เสียงปืนดังสนั่นกึกก้องไปทั่วตึกสูงระฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางมหานครใหญ่  หมอกควันทั้งจากไฟและระเบิดต่างก็ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ  รอยเลือดไหลเป็นทางไปตามแนวทางเดินกระเบื้องสีเงินสะท้อนแสงที่บัดนี้ถูกย้อมไปด้วยเลือดสดๆ   ซากศพเจ้าหน้าที่หลายนายถูกเฉือนเนื้อเหวอะหวะกองทับกันอยู่บนบันไดขึ้นชั้น 3  เศษกระจกแตกกระจัดกระจาย ป้ายสีเงินสะท้อนแสงสวยงามสลักคำว่า แกรนด์เฮฟเว่น ฮอล แตกหักเป็นสิบๆท่อนหล่นกระจัดกระจายไปทั่ว เสียงฝีเท้าของเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ค่อยๆดังขึ้นจากด้านล่างซึ่งพร้อมกับเสียงปืนที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงเท้ายังคงดังต่อไปจากชั้น 1 ขึ้นมาสู่ชั้น 2 และมาถึงชั้น 3 ในที่สุด  หลอดไฟที่ยังคงใช้งานได้อยู่ตอนนี้ค่อยๆดับลงทีละดวงๆโดยไม่มีสาเหตุ  เจ้าหน้าที่ทุกนายต่างก็วิ่งไปประจำที่อยู่หน้าประตูเหล็กบานใหญ่สีเงินมันวาวแล้วนั่งลงอยู่ในท่าพร้อมยิง  ปืนทุกกระบอกชี้ไปยังประตูเงินนั้น  ทุกๆอย่างค่อยๆสงบลงจนสามารถได้ยินเสียงหายใจหอบระคนตื่นเต้นของเจ้าหน้าที่แต่ละคน  จากนั้นประตูตรงหน้าก็ค่อยๆเลื่อนเปิดออก  แสงสว่างจ้ากระทบเข้าตาพวกเขาจนมองเห็นทัศนะวิสัยรอบข้างได้ยาก พวกเขาจึงต้องยกมือขึ้นบังแสงนั้น ทุกอย่างยังคงเงียบสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความวังเวงพิกล  เสียงฝีเท้าคู่1ดังขึ้นช้าๆ และถี่ขึ้น ถี่ขึ้น เงาจางๆค่อยๆขยับออกมาจากแสงสว่างหลังประตูสีเงินนั้น  ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเดินต่อไป เสียงของเงานั้นก็เอ่ยขึ้นเบาๆ

            “สวัสดี พวกมนุษย์ ข้าแค่จะมาบอกว่า ... ถึงเวลาแล้วล่ะ” ว่าแล้วทุกอย่างก็เงียบสงัด ไม่มีใครไหวติง แต่หากมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงเคลื่อนไหว มันค่อยๆก้าวออกมาจากข้างหลังเงาลึกลับนั้นแล้วกางปีกมโหฬารของมันออกแล้วคลุมเงาลึกลับนั้นไปจนหมด แล้วมันก็คลายปีกออกในไม่ช้าแต่ทว่าเงานั้นได้หายไปจากตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว มันส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วบริเวณจนเรียกสติของเจ้าหน้าที่ทุกคนกลับมาได้  เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นแล้วตามมาด้วยนัดที่2และนัดต่อๆไป แต่เสียงร้องนั้นไม่ใช่จากตัวประหลาดหลังประตูนั่น  แต่หากเป็นเสียงของเจ้าหน้าที่เอง  เสียงปืนค่อยๆเบาลงๆและกลับมาสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง  มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่เป็นครึ่งคนครึ่งนกเท่านั้นที่กำลังชูหัวใจดวงหนึ่งที่ยังคงเต้นตุบๆอยู่บนมือของมัน  และแล้วมันก็ประกาศชัยชนะด้วยการบีบหัวใจดวงนั้นจนแตกกระจายแล้วคำรามก้องไปทั่ว 

            เหตุการณ์นี้ในที่สุดก็ตกเป็นข่าวดังอันดับ 1 ถึง 3 อาทิตย์ซ้อน  ผู้สื่อข่าวบางคนถึงกับทำหน้าเซ็งเมื่อต้องพูดถึงข่าวนี้อีกรอบแต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆเลย   หนังสือพิมพ์ทุกฉบับนำเอาภาพในตึกนั้นมาวางไว้กินพื้นที่หน้าแรกไปเกือบครึ่ง  ประชาชนหลายคนตั้งข้อสงสัยไปกันเองหลายอย่าง  บ้างก็บอกว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้นายกเทศมนตรีออกจากตำแหน่ง  บ้างก็บอกว่าเป็นการลงโทษของพระผู้เป็นเจ้า  แต่ข้อสันนิษฐานไหนๆก็คงไม่เป็นที่น่าสนใจเท่ากับข้อสันนิษฐานที่ว่า เป็นการมาเยือนของอีกโลกหนึ่ง