ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {BJIN} POSE SEXILY ❥ iKON

    ลำดับตอนที่ #5 : P O S E ❥ 3 | Long time no see

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 57


    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
     P O S E  S E X I L Y ❥ 3





    Long time no see
     

    HUNBIN TALK:

    In the morning @ ห้องซ้อมใหญ่คิมอะคาเดมี

                “ทุกคนรู้ใช่มั้ยครับว่าที่ถูกเรียกมาประชุมกันวันนี้เพราะเรื่องอะไร?”

                “ครับ

                งานครบรอบเจ็ดปีการก่อตั้งคิมอะคาเดมี พวกเราจะต้องเป็นตัวแทนในการขึ้นแสดงโชว์ ที่พี่เลือกพวกเราก็เพราะว่าพวกเราทั้งคู่มีศักยภาพที่สูงมาก พวกเราคงไม่ทำให้พี่ผิดหวังใช่มั้ย?”

                “ครับ

                “ดีมาก งั้น ฮันบินทีมและ จินฮวานทีมสิ่งที่ทั้งสองทีมต้องเตรียมก็คือเพลงที่แต่งทีมละหนึ่งเพลง พี่จะถือว่าเป็นเพลงที่พวกเราใช้สอบ และทั้งหมดต้องเต้นด้วยกัน ไปตกลงกันเองนะ พี่ฮงซอกพูดก่อนจะปรายตามามองผม

                ฮันบิน พี่จะเชื่อใจนายพูดจบเขาก็หันหน้าไปหาอีกทีม คิมจินฮวาน ใช่มั้ยครับ?”

                “ครับ

                ยินดีที่ได้รู้จักนะ พี่เองก็เพิ่งเคยเห็นเรา แต่เขาบอกว่าเราเก่งนี่นา แสดงให้พี่เห็นหน่อยละกันนะครับ พี่จะรอดูเราในวันงานนะครับ

                “ครับ

                “เอาล่ะ ปรึกษากันเอาเอง พี่คงต้องไปก่อน แล้วเจอกันวันงานในอีกสองอาทิตย์นะครับ

                พูดจบก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่วายหันมาส่งยิ้มหวานให้คนตัวเล็กที่ยืนโบกมือเบาๆ ให้ ครับ ได้ยินไม่ผิดหรอก ตอนนี้ผมอยู่กับ จินฮวานทีม

                จินฮวานทีมประกอบไปด้วยเด็กมัธยมปลายปีสอง จองจินฮยอง แผนกมหาลัยปีสอง ซงยุนฮยอง แผนกมหาลัยปีสาม นัมแทฮยอน และแผนกมหาลัยปีสี่ ซงมินโฮ และแน่นอนว่า ผมรู้จักทุกคนดี รวมไปถึงคนที่จบไปที่ถูกเชิญมาเป็น MC จำเป็นในงานอย่างพี่ชายผม คังซึงยูน เฮียอีซึงฮุน และคิมจินวู

                นี่มันรวมตัวท็อปของคิมอะคาเดมีชัดๆ

                “เอาล่ะ ผมว่าพวกเรารู้จักกันหมดแล้วใช่มั้ย?” ผมเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทุกคนหันมามองที่ผม ก่อนที่ เฮียมินโฮจะหยักยิ้มและเอ่ยทักผม

                ไม่ได้เจอกันนานนะ ฮันบิน

                “ครับ ผมเองก็ไม่ได้เจอทุกคนนานมากเลย ใช่มั้ย จองจินฮยอง เฮียยุนฮยอง พี่แทฮยอน แล้วก็พี่จินอูJประโยคหลังผมหันไปยิ้มให้กับคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ เฮียซึงยูน คนถูกมองยิ้มกลับบางๆ ก่อนจะโดนเฮียซึงยูนลากไปไว้ข้างหลังเขา

                ไอ้เวรนี่ลามปาม เดี๋ยวเถอะ

                “มึงนี่ก็หวงเมียไม่เข้าเรื่อง น้องมันแค่ทักเฉยๆ เว้ยเฮียซึงฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆ หันไปตบหัวเฮียซึงยูนเบาๆ ก่อนจะได้สายตาโหดๆ จากอีกคนมองกลับมา ผมหัวเราะก่อนจะหันไปหาคนตัวเล็กที่ยืนมองเหตุการณ์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

                ว่าแต่เราจะเอาไงกันดีครับ?” คนถูกถามขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

                เราจะนัดกันซ้อมเต้นอีกทีวันพรุ่งนี้ วันนี้ให้ทุกคนลองไปหาเพลงที่อยากจะทำมาก่อนก็ละกัน พรุ่งนี้เจอกันที่นี่เจ็ดโมงเช้า ส่วนทีมเรา พรุ่งนี้หลังซ้อมเต้นนัดคุยเรื่องเพลงนะครับ

                ทุกคนพยักหน้าให้กับคำพูดของจินฮวาน ผมมองใบหน้าหม่นๆ ของคนตัวเล็ก ทำไมวันนี้สีหน้าของเขาถึงดูไม่ดีเลยนะ เป็นอะไรหรือเปล่า

                “อืม งั้นทีมเราก็เหมือนกัน พรุ่งนี้ค่อยคุยเรื่องเพลง ว่าแต่พี่.

                “ทุกคนแยกย้ายกันได้เลยนะจินฮวานพูดขัดผมที่กำลังจะเรียกเขาก่อนจะหันไปหาคนตัวสูงข้างๆ เฮียมินโฮ กลับไปก่อนเลยนะครับ ผมขอไปคิดเรื่องแต่งเพลงก่อน

                จะไปที่ไหนน่ะ?”

                “ที่เดิมแหละครับ อ้อ วันนี้ผมต้องไปคลับสินะ แล้วเจอกันนะครับพูดจบก็โค้งศีรษะให้เฮียซึงยูนกับเฮียซึงฮุนก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองผมเลยสักนิด

                เขาเป็นอะไรของเขานะ

                ตั้งแต่เรื่องโจ๊กวันนั้น ผมก็ไม่ได้เจอจินฮวานอีกเลย (เจอแต่ผมหลบเองแหละ) หรือเขาอาจจะโกรธผมหรือเปล่าที่ผมหลบเขา แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ อยู่ดีๆ เขาก็มาทำแบบนั้นกับผมแล้วจะให้ผมทำตัวยังไงเวลาอยู่ต่อหน้าเขาล่ะ

                เฮ้ย ฮันบิน กูไปก่อนนะผมหันไปตามเสียงของจีวอนถึงได้เห็นว่าทุกคนเดินออกจากห้องไปจนแทบจะหมดแล้ว ผมขมวดคิ้วงงๆ ก่อนจะหันไปเห็นคนที่เพิ่งเดินพ้นประตูออกไป จีวอนหันไปมองด้วยแววตาร้อนรน เห็นแบบนั้นผมเลยพยักหน้าเบาๆ จีวอนถึงรีบเดินตามเขาออกไป

                ถ้ามึงคิดถึงเขาขนาดนั้นก็อย่าลืมขอคืนดีล่ะ

                ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่เหลืออยู่ในห้อง เฮียซึงยูน พี่จินวู และพี่แทฮยอน ยังคงยืนอยู่ เฮียซึงยูนเดินมาตบบ่าผมเบาๆ

                เฮียไม่รู้เรื่องที่ประธานฮงซอกมันทำนะเว้ย ที่พวกเราถูกเรียกมาพร้อมๆ กันแบบนี้เป็นคำสั่งของพ่อทั้งนั้นแหละ

                “อืม ผมรู้ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันไปมองคนที่เฮียซึงยูนจับมืออยู่

                พาเมียเฮียไปเคลียร์เหอะ หน้าบูดเชียว เดี๋ยวก็งอนเรื่องที่เฮียซึงฮุนพูดหรอก ผมพูดขำๆ เฮียซึงยูนยื่นมือมาตบหัวผมเบาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้คนที่จับมืออยู่และพากันเดินออกไป

                นายเองก็ควรไปเคลียร์เหมือนกันนะ หมอนั่นดูท่าทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนี่นา เขาอยู่ที่ดาดฟ้าน่ะพี่จินวูหันมาพูดทิ้งท้ายให้ผม ก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินออกจากห้องไป

                นั่นสิ เขาเป็นอะไรไปนะ
          








                  
    @ ดาดฟ้าของห้องซ้อมใหญ่คิมอะคาเดมี

                ผมปิดประตูดาดฟ้าเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตามอง ไม่นานก็เห็นคนตัวเล็กที่นั่งชันเข่าก้มหน้าใช้หลังพิงกำแพงดาดฟ้าเอาไว้ ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาเขา

                พี่จินฮวานเสียงเรียกของผมส่งผลให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามอง จินฮวานขมวดคิ้วงงๆ ที่เห็นผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขา

                พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?”

                เลิกหลบหน้าพี่แล้วหรอ?” แทนที่จะตอบคำถามของผม จินฮวานกลับยิงคำถามใส่ผมแทน

                ใครบอกว่าผมหลบหน้าพี่?” ผมเถียง คนตัวเล็กหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขันเล็กๆ

                โอเค ไม่หลบก็ไม่หลบครับ

                “ว่าแต่พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?” ผมยิงคำถามอีกครั้ง คนตัวเล็กเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งด้วยความแปลกใจก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

                ไม่ได้เป็นอะไรหรอก พี่แค่เครียดๆ

                “เรื่องแต่งเพลง?”

                “ก็ทำนองนั้นมั้งจินฮวานถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ เราเก่งเรื่องแต่งเพลงอยู่แล้วนี่นา คงไม่กดดันใช่มั้ยล่ะ ตอนสอบก็ผ่านครั้งเดียวตลอดเลยนี่

                “พี่รู้ได้ไง?” ผมขมวดคิ้วก่อนจะมองหน้าอีกคนนิ่ง เขารู้ได้ยังไงว่าผมเก่งเรื่องแต่งเพลงและมักจะสอบผ่านภายในครั้งเดียวเสมอ

                คิมอะคาเดมีจะมีการสอบโดยการแต่งเพลงและแสดงอยู่แล้ว แน่นอนว่าการสอบพวกนั้นต้องทำเป็นทีม ทีมของผมมักจะได้รับการตอบสนองที่ดีเสมอ และผมก็มักจะผ่านสอบภายในครั้งเดียวโดยไม่ต้องแก้อีกด้วย นี่ถ้าไม่ติดว่าการสอบวิชาทั่วไปผมโง่ ผมคงได้เรียนแผนกมหาลัยไปแล้วล่ะครับ

                จะไม่รู้ได้ไง พี่ย้ำกับเรากี่ครั้งแล้วนะว่าพี่สนใจเราไม่ตอบเปล่า จินฮวานยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมแบบที่ชอบทำประจำอีกด้วย ผมถอยหน้าหนีก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น

                ทำไมพี่ขยันเต๊าะผมวะ พี่ต้องการอะไรเนี่ย?”

                “ก็พี่สนใจเรา นั่นไม่ใช่คำตอบหรอ?” คนตัวเล็กเอียงคอน้อยๆ ก่อนจะเสยผมหน้าที่ลงมาปิดตาเขาก่อนจะใช้สายตาบ้องแบ้วแบบที่ชอบทำมองผม โว้ยยย ไอ้ท่าทางแบบนี้นี่ไงที่มันเรียกว่าอ่อย!

                “พี่แม่งขี้อ่อยผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะหลับตาและพยายามสะกดสติอารมณ์ของตัวเอง บ้าชะมัด เวลาผมอยู่กับเขาทีไร หัวใจแม่งเต้นเป็นจังหวะสามช่า (?) ทุกทีเลย

                คิมจินฮวานเขตพื้นที่อันตราย! (ต่อหัวใจ)

                ฮันบิน

                “หืม?” ผมครางรับเสียงเรียก ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น แต่ก็ต้องหลับตาลงอีกครั้งเมื่อพบว่าคนตรงหน้ากำลังค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเอง

                พะพี่ทำบ้าอะไรอีกวะเนี่ย!” ผมโวยวายเสียงหลงก่อนจะหันหน้าหนีโดยไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นด้วยซ้ำ

                จะหันหน้าหนีพี่ทำไม หันมานี่หน่อยสิครับ เสียงใสเอ่ยอ้อนๆ โว้ยยยย ผมจะหันไปทำไม พี่แม่งจะแก้ผ้าต่อหน้าผมหรือไงวะ เป็นบ้าอะไรเนี่ย!

                “พี่จะถอดเสื้อทำไม!”

                “พี่ก็แค่ร้อนเสียงใสเอ่ยตอบก่อนจะใช้มือเล็กๆ พยายามดันไหล่ผมให้หันกลับไปหาเขาแต่ผมก็ขืนตัวไว้อย่างถึงที่สุด

                “ถ้าพี่ไม่ใส่ผมก็ไม่หัน!” ผมโวยวาย นี่เขาทำแบบนี้กับผมสองครั้งแล้วนะเว้ย ครั้งแรกก็ที่บาร์นั่น และครั้งนี้เขาก็กำลังถอดเสื้อทั้งๆ ที่ผมนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ นี่มันจะอ่อยกันเกินไปแล้ว ฮันบินไม่อยากจะทนแล้วนะเว้ยครับ!

                “พี่ใส่เสื้อแล้วเนี่ย หันมาครับ

                ผมค่อยๆ หันหน้าไปและเปิดตาขึ้นก็พบว่าคนตัวเล็กใส่เสื้อเรียบร้อยแล้ว ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะตีหน้าดุและเอ่ยต่อว่าเขา

                ทำไมพี่ชอบทำแบบนี้ต่อหน้าผมวะ?”

                “ก็แค่ร้อน พี่ก็ทำแบบนี้เป็นประจำ แล้วพี่ก็ไม่ได้จงใจทำแบบนี้ต่อหน้าเราสักหน่อยคนตัวเล็กเบ้หน้า ผมขมวดคิ้วด้วยความขัดใจทันทีที่ได้ยินประโยคระคายหูจากเขา เขาพูดว่าไม่ได้จงใจทำแบบนี้ต่อหน้าผม? ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว?

                ต่อหน้าคนอื่นพี่ก็ทำแบบนี้ด้วยงั้นหรอ?” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คนตัวเล็กขมวดคิ้วงงๆ ที่เห็นอารมณ์ผมเริ่มไม่ดี เขาเอื้อมมือมาแตะไหล่ผมเบาๆ แต่ผมก็เผลอสะบัดมันออกด้วยอารมณ์

                “เป็นอะไรน่ะฮันบิน?”

                ผมถามว่าพี่ทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นด้วยงั้นหรอ?” ผมย้ำคำถามอีกครั้ง จินฮวานมองหน้าผมด้วยความสงสัยแต่ผมก็ทำเพียงแค่มองกลับไปนิ่งๆ เท่านั้น คนตัวเล็กถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นสายตาจริงจังของผมก่อนจะเอ่ยตอบ

                ก็แค่ถอดเสื้อ

                “ก็แค่?” ผมทวนคำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด งั้นพี่ก็เทไวน์ต่อหน้าคนอื่นด้วยงั้นสินะ แล้วพี่ก็ชอบยื่นหน้าเข้าไปหาคนอื่นด้วยใช่มั้ย อ้อ กินโจ๊กกับคนอื่นด้วยสินะครับ

                ผมเค่นหัวเราะในลำคอก่อนจะมองอีกคนด้วยสายตาหงุดหงิด เขาทำแบบนี้กับคนทั่วไปได้ง่ายๆ ได้ยังไง แค่เขาชอบยิ้มแล้วก็ทำท่าทางน่ารักต่อหน้าคนอื่นมันก็มากพออยู่แล้ว แต่กับคนที่เขาพูดว่าเขา สนใจอย่างผม เขาก็ทำกับผมเหมือนที่ทำกับคนอื่นเนี่ยนะ

                เหอะ! คนขี้อ่อย อ่อยไปเรื่อย อ่อยไม่เลือก!

                “โกรธพี่หรอ?” คนตัวเล็กยื่นมือมาดึงมือผมไปจับและแม้ว่าผมจะสะบัดออกเขาก็คว้ามันไว้อีกครั้ง พี่อาจจะทำแบบนั้นกับคนอื่นด้วย แต่ว่า…”

                ทิ้งคำพูดไว้เพียงเท่านั้น คนตัวเล็กก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาก่อนจะทาบริมฝีปากลงบนปากผม มือเล็กที่กุมมือผมอยู่ค่อยๆ ใช้นิ้ววนลูบไปมาเหมือนที่เขาชอบทำ ผมอึ้งกับการกระทำของเขาเลยได้แต่นั่งนิ่งๆ และปล่อยให้คนตัวเล็กคอนโทลไว้ได้อีกครั้ง

                สองครั้งแล้วที่เขาขโมยจูบผมไปง่ายๆ แบบนี้ จินฮวานไม่ได้จูบผมนานเหมือนครั้งที่แล้ว เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกก่อนจะกุมมือผมไว้แน่น

                พี่ไม่เคยจูบกับคนอื่นเขาต่อประโยคที่ค้างไว้ก่อนจะส่งยิ้มน่ารักให้ผม ผมกระพริบตาปริบๆ อย่างงงๆ ก่อนจะค่อยๆ เรียกสติตัวเองกลับมา

                พี่ทำแบบนี้กับผมอีกแล้วนะ!” ผมโวยวายก่อนจะสะบัดมือออกจากมืออีกคนอย่างแรง จินฮวานหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผมด้วยความหมันเขี้ยว

                เราอยากหึงพี่ไม่เข้าเรื่องเองนี่นา

                “ใครหึง!” ผมสวนแทบจะในทันที ใครหึงวะ ผมไม่ได้หึงสักหน่อย ผมแค่ไม่ชอบใจที่ได้รับการปฎิบัติเหมือนคนอื่นเท่านั้นเอง คนอย่างคิมฮันบินต้องพิเศษเว้ย!

                “เอาเถอะ งั้นเดี๋ยวพี่กลับห้องก่อนละกัน ต้องเปลี่ยนชุดคนตัวเล็กยิ้มบางๆ ให้ก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินออกประตู

                ดะ...เดี๋ยว!” ผมเรียก จินฮวานหยุดเดินก่อนจะหันมามองผมและเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

                พี่…” ผมกัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะก้มหน้าลงเอ่ยโดยไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย “…ถึงจะร้อนแค่ไหนก็อย่าไปทำแบบนี้ต่อหน้าใครที่ไหนอีก

                คิก ~” เสียงใสหัวเราะออกมาเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมอง จินฮวานกำลังยกมือขึ้นปิดปากด้วยท่าทางน่ารักพลางพยายามกลั้นหัวเราะ ผมเดินเข้าไปใกล้เขาก่อนจะดึงมือเล็กออก จินฮวานมองผมก่อนจะหัวเราะออกมาอีกครั้ง

                ฮ่า ๆ ๆ ๆ

                ยังไม่หยุดอีก -____-^

                “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ^^”

                ผมเผลอมองใบหน้าเล็กที่กำลังหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำไมเขาถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะ ไอ้รอยยิ้มสวยๆ นั่นกำลังสะกดให้ผมทำอะไรไม่ถูกจนได้แต่ยืนมองคนตรงหน้าหัวเราะ จนกระทั่งจินฮวานใช้มือเล็กๆ แตะที่ไหล่ผมเบาๆ

                ฮันบิน?”

                “คะ...ครับ?” ผมหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะมองคนตรงหน้า จินฮวานเอียงคอน้อยๆ เหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง ผมสะบัดหัวไปมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม

                พี่ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ที่ผมพูดแบบนั้นผมไม่หึงไม่ได้อะไรอย่าเข้าใจผิดผมสูดหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ยต่อ ทำแบบนั้นมันไม่ดีต่อตัวพี่เอง นี่เป็นผมนะ ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็พี่อาจจะโดนลากไปทำอะไรต่ออะไรไปแล้ว

                “แล้วทำไมฮันบินไม่ทำล่ะครับJไม่พูดเปล่า เขายังยื่นหน้าเข้ามายิ้มให้ผมพลางทำหน้าบ้องแบ้วอีกต่างหาก ผมใช้สองมือจับไหล่เล็กไว้ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                ที่ผมไม่ทำเพราะผมไม่อยากให้พี่มาเสียใจกับการกระทำของตัวเองทีหลัง แต่ถ้าพี่ยังอ่อยผมด้วยการทำแบบนี้บ่อยๆ ผมคงทนไม่ได้นานหรอก

                จินฮวานมองสบตาผม แต่ผมก็ทำแค่เพียงมองตอบกลับไปด้วยแววตาจริงจัง คนตัวเล็กเผยยิ้มน้อยๆ ออกมาก่อนจะเลื่อนมือเล็กๆ มาดึงแก้มผมเบาๆ

                เข้าใจแล้วครับ พี่จะพยายามไม่ทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น

                ดีแล้วผมถอนหายใจอย่างโล่งอก

                แต่พี่จะทำกับฮันบินแค่คนเดียวJ

                “เฮ้ย!” ผมเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ นี่เขาเข้าใจที่ผมพูดจริงป่ะว่ะ โอ้ยยย ฮันบินอยากจะบ้า!

                พี่ต้องไปทำงานแล้วคนตัวเล็กก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเอ่ยอีกครั้ง พรุ่งนี้เลื่อนนัดเด็กๆ ไปเป็นอีกวันแทนซะ แล้วเจอกันที่หน้าสวนสนุกเวลาเก้าโมงนะครับ

                “ห๊ะ? หมายความว่าไง?”

                ไม่ได้ชวนเดทสักหน่อยอย่าเข้าใจผิดสิครับคนตัวเล็กยิ้มน้อยๆ ให้ แค่จะชวนไปหาแรงบันดาลใจใจการแต่งเพลงก็เท่านั้นเอง ^^”

                จินฮวานส่งยิ้มสดใสให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ผมยืนงงกับคำพูดของเขา เมื่อกี้เขาบอกว่าไปหาแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง แต่ไปกับผมเนี่ยนะ? สองคน? แล้วมันไม่ได้เรียกเดทตรงไหนกันวะครับ!

                โอ้ยยย! ผู้ชายอะไรเข้าใจยากชิบหายเลย

            

     

           To be continued.




     

              มาพูดคุยกับดินสอกัน :3            



    *สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนนนนนนนน
    เก็บมืด เก็บปืนได้แล้ว ฮือออออออออออออออ
    เราไม่ได้ตั้งใจจะไม่อัพ แต่เรายังไม่ได้อ่านทวนไง เลยขอเวลานิดเดียว
    มาต่อให้ครบแล้วนะคะ บทนี้จะงงนิดนึงแหละ แต่อ่านไปเถอะ 5555555  
    ก็หวังว่าจะสนุกกันน่ะเนอะ ฮันบินเริ่มหวงแล้ว คึคึ :3
    แล้วเจอกันตอนหน้า มั๊วววววววววววววว <3

    ** ตอนหน้าเป็นตอนพิเศษของบ้อบยุนนะคะ
    ส่วนที่พี่จินเดท (?) กับบินจะลงเป็นตอนถัดไปอดใจรอหน่อยเนอะ 



    ติดต่อกันได้ทั้งสองเพจเลยนะคะ
    IDOL FIC THAILAND
    INDY_LIQUEUR
    ทวิตเตอร์ IndyLiqueur

    สกรีมลงแท็กที่ 
    #จินฮวานคนขี้อ่อย

    เชิญชวนต่อแท็ก
    #ฮันบินคนกาก


     




                                                 

     

     
     

     

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×