คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : P O S E ❥ 2 | Hang Over
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
Hang Over
HUNBIN TALK:
In the morning @ Hunbin’s room (หอพักคิมอะคาเดมี)
“คิมบับ ปวดหัวชิบหายเลย T^T” ผมครางหงิงๆ ขณะยกมือขึ้นกุมหัวตัวเองเอาไว้ อาการปวดจี๊ดแล่นขึ้นสมองตั้งแต่ผมลืมตา และตอนนี้มันก็กำลังทำให้ร่างทั้งร่างของผมยกไม่ขึ้น
“สมน้ำหน้า ซ่าดีนักนะมึง” จีวอนบ่น “ปกติไปคลับกูก็เห็นแดกแต่จินโทนิค เมื่อคืนดันผีบ้าเข้าสิงซัดวิสกี้ไปซะขนาดนั้น ไม่แฮงค์มึงก็เมพแล้ว”
“แล้วทำไมเมื่อคืนเฮียถึงดื่มเยอะจังล่ะครับ?” ชานอูที่ยกกะละมังน้ำแข็งกับผ้าขนหนูเข้ามาเอ่ยถามงงๆ
“โดนเล่นงานซะแสบ เจ็บใจล่ะสิ” จุนฮเวแค่นหัวเราะ
“เสียดายเมื่อคืนผมไม่เห็น” ดงฮยอกว่าพลางหยิบผ้าขนหนูมาวางแปะบนหน้าผม
“มึงมัวแต่เริงร่ากับฟาร์มโคนมไง” จุนฮเวพูดสวน
“ทำอย่างกับมึงไม่สนใจแหละ”
“กูไม่ได้บ้าขนาดมึงนะเว้ย กูเห็นนะว่ามึงหิ้วใครไปชั้นสองคลับอ่ะ อย่าให้กูฟ้องเฮียยูนนะ”
“ไอ้เวรจุนฮเว! ถ้ามึงฟ้องเฮียยูน กูจะไม่ทำการบ้านให้มึง”
“กูให้ชานอูทำให้ก็ได้เว้ย!”
“เฮ้ย! เกี่ยวอะไรกับผม”
“โว้ยยย! กูปวดหัวจะตายห่าแล้วเนี่ย พวกมึงจะมายืนทะเลาะอะไรกันอยู่ได้” ผมว๊ากขึ้นกลางวงก่อนจะตวัดสายตามองเรียงตัว “คิมดงฮยอก จองชานอู มึงสองคนมีเรียน ไปเรียนเดี๋ยวนี้!”
“ครับ” ดงฮยอกและชานอูรับคำผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“งั้นพวกกูไปคลาสเต้นก่อนละกัน” จีวอนพูดขึ้น
“เดี๋ยว! กูขอเวลาอาบน้ำแปป”
“มึงไม่ต้องไป” จุนฮเวพูดขัดผมที่กำลังจะลุกจากเตียง “จะตายห่าแล้วก็นอนไป”
“เออ เดี๋ยวกูมาสอนทีหลัง หัวไวอย่างมึงรับท่าเต้นจากกูได้อยู่แล้ว” จีวอนพูดเสริมก่อนจะคว้าผ้าขนหนูอีกผืนมาโปะหน้าผากผม “นอนไปเถอะ เดี๋ยวพวกกูกลับมาดูอีกทีละกัน”
“เออ เข้าใจแล้ว” ผมรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะหลับตาลงทันที เอาจริงๆ ผมว่าถึงผมไปคลาสผมก็ไม่มีสมาธิเต้นหรอกถ้าหัวผมยังปวดจี๊ดอยู่แบบนี้น่ะ
อาการแฮงค์นี่ทรมานชิบหายเลยครับ
“นอนดีๆ นะมึง” เสียงจุนฮเวพูดอีกครั้งก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงทั้งสองคนเปิดประตูและเดินออกจากห้องไป
“อ้าว พี่อยู่ห้องนี้หรอครับ?” ยังไม่ทันได้ยินเสียงปิดประตูห้อง เสียงจีวอนก็ดังลอดเข้ามาในห้องของผม ผมขมวดคิ้วเล็กๆ อย่างหงุดหงิด หมอนั่นเจอใครที่หน้าห้องแน่ๆ เลย แต่ว่าช่วยทักทายกันเบาๆ หน่อยดิวะ คนจะนอนเว้ย!
“อ๋อ แฮงค์น่ะ นอนตายอยู่ในห้อง”
“……..”
“พี่อยากดูก็เข้าไปดิ ฝากด้วยนะฮะ”
เสียงที่ดังลอดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง (ได้ยินเสียงไอ้จีวอนคนเดียวเลย เสียงดังชิบหาย) ทำให้ผมต้องหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงอย่างหงุดหงิด โว้ย! ไอ้หัวบ้านี่ก็ปวดอยู่ได้ เดี๋ยวพ่อก็ตัดหัวทิ้งซะหรอก!
ปึง!
ผมได้ยินเสียงปิดประตูดังแว่วมาเบาๆ สงสัยคงไปกันหมดแล้วแหละ ผมหลับตาลงก่อนจะปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่นิทราทีละนิด
อา…ปวดหัวชิบหาย Zzzz
JINHWAN TALK
ปึง!
ผมปิดประตูห้องก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องโทนสีดำแดงให้ความรู้สึกดาร์กแต่ก็ร้อนแรงในเวลาเดียวกัน ผนังห้องสีดำสลับแดงมีวอลเปเปอร์รูปมิกกี้เม้าส์ติดอยู่เต็มไปหมด ผมหลุดขำออกมาเบาๆ ให้กับความเป็นเด็กของเจ้าของห้อง
…ว่าแต่ห้องนอนอยู่ตรงไหนนะ?
ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะสะดุดอยู่ที่ประตูสีขาวสะอาด ผมรีบเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะต้องหลุดขำออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นป้ายมิกกี้เม้าส์หน้าห้องที่ติดอยู่ที่ประตูถูกเขียนไว้ว่า…
‘Hunbin’s bedroom’
ไม่รอช้า ผมรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าคนที่ได้รับข้อมูลว่ากำลังแฮงค์จะกำลังนอนอยู่ และก็เป็นไปตามคาด ฮันบินกำลังนอนอยู่โดยมีผ้าห่มคลุมตัวไว้เห็นแค่ตาที่ปิดสนิท ผมเดินเข้าไปใกล้ก่อนที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงเบาๆ และดึงผ้าห่มให้ลงมาคลุมแค่หน้าอก ฮันบินขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ สงบลง
ใบหน้าใสๆ ที่เปื้อนสีแดงจางๆ ของคนนอนหลับทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา ในเวลานี้ผมคิดว่าฮันบินน่ารักมาก แพขนตายาวที่ทาบทับดวงตาที่ปิดสนิทกับลมหายใจที่เป็นจังหวะทำให้เขาดูเหมือนลูกแมวที่กำลังนอนหลับ ยิ่งท่านอนที่กอดตุ๊กตามิกกี้เมาส์นี่อีก เด็กน้อยชัดๆ เลย
อันที่จริงผมก็พอได้ ‘ข้อมูล’ มาบ้างแหละว่าเขาชอบมิกกี้เม้าส์มากๆ แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะคลั่งถึงขนาดทำทุกอย่างให้เป็นมิกกี้เม้าส์แบบนี้ ไม่ว่าจะผนังห้อง โซฟามิกกี้เม้าส์ ผ้าปูที่นอนลายมิกกี้เม้าส์ หมอน หมอนข้าง ตุ๊กตา หรือแม้แต่ผ้าห่มก็เป็นมิกกี้เม้าส์ทั้งหมด
อ้อ… ไอ้ชุดนอนลายมิกกี้เม้าส์นี่ด้วย
จริงๆ ผมกะจะเอาเสื้อคลุมมาคืนเขาเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอเขาในสภาพนี้ จีวอนกับจุนฮเวบอกว่าฮันบินดื่มวิสกี้เข้าไปเยอะมาก แล้วตื่นขึ้นมาเขาก็แฮงค์ ผมเองก็ไม่อยากจะคิดหรอกนะว่าไอ้ที่เขาทำแบบนั้นมันเป็นเพราะผมน่ะ
แต่ถ้ามันเป็นเพราะผมจริงๆ ล่ะก็เยี่ยมไปเลยครับ J
“อื้อ...”
“หืม?” เสียงครางเบาๆ ของฮันบินปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ ผมเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะเอียงหูเพื่อให้ได้ยินคำที่เขาพึมพำได้ชัดขึ้น
“หิว…”
หิว?
❥
ผมทวนคำกับตัวเองในใจก่อนจะยกข้อมือขึ้นเพื่อดูนาฬิกา แล้วก็พบว่าตอนนี้มันเกือบๆ สิบโมงเช้าได้แล้ว นี่ถ้าเขานอนอยู่แบบนี้ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาแล้วล่ะก็ เขาต้องยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าแน่ๆ
ผมไปทำอะไรไว้ให้เขากินดีกว่า…
คิดได้ผมก็ค่อยๆ เดินออกจากห้องปิดประตูเบาๆ ก่อนจะมองหาห้องครัว อืม…ทำอะไรดีล่ะ? ถ้าแฮงค์ก็ควรกินอะไรเบาๆ สินะ ผมเปิดตู้เย็น (แม้แต่ตู้เย็นยังมีสติ๊กเกอร์ลายมิกกี้เม้าส์ เด็กจริงๆ นะหมอนี่) ก่อนจะกวาดสายตามองหาวัตถุดิบเพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้เขากิน แต่ตู้เย็นกลับว่างเปล่า มีเพียงแค่น้ำเปล่าสี่ห้าขวดเท่านั้น
เฮ้อ…หมอนี่ใช้ชีวิตยังไงเนี่ย -__-^
ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับ ผมว่าผมควรไปเอาอะไรสักอย่างที่ห้องของตัวเองแทน ไม่อย่างนั้นคนแฮงค์คงได้นอนตายคาเตียงด้วยความหิวแน่ๆ
“อ้าวจินฮวาน วันนี้มีคลาสเต้นไม่ใช่หรอ?” เสียง ‘เฮียมินโฮ’ ทักผมที่เดินเข้ามาในห้อง เขาเป็นรูมเมทผมเองครับ ห้องผมอยู่ห้องตรงข้ามกับฮันบินเพราะงั้นเมื่อกี้ผมเลยเจอจุนฮเวกับจีวอนไงล่ะ
“ก็มีฮะ แต่ตอนนี้ผมไปไม่ได้” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าครัว เปิดตู้เย็น ชิบหายละ ไม่มีอะไรสักอย่างเลยนอกจากหมูสับอย่างเดียว แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะเนี่ย -___-‘
“เฮีย ตู้เย็นเราไม่เหลืออะไรเลยฮะ” ผมตะโกนบอก เฮียมินโฮเดินเข้ามาหาผมในครัวก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น
“เออ ลืมซื้อว่ะ โทษ” คนขี้ลืมยกมือสองข้างขึ้นเหนือหัวยอมรับผิด
“แล้วไม่มีอะไรเหลือเลยหรอฮะ?”
“มีนะ” เฮียมินโฮหันไปหยิบซองอะไรสักอย่างบนหลังตู้ก่อนจะชูมันขึ้นตรงหน้าผม
“โจ๊กซอง?”
“อือ มีแค่นี้ หิวมากป่ะล่ะ เดี๋ยวลงไปซื้ออะไรให้ก็ได้นะ”
“ผมไม่ได้กินเองหรอก” ผมดึงโจ๊กซองออกจากมือของอีกคนก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินออกจากห้อง
“แล้วเอาไปให้ใครน่ะ?”
“ฮันบิน” ผมยิ้มขณะตอบ เฮียมินโฮขมวดคิ้วมุ่นทันทีที่ได้ยินชื่อของ ‘เขา’ ก่อนจะถอนหายใจอย่างหงุดหงิดและมองหน้าผมด้วยแววตาจริงจัง
“ตกลงว่าเอาจริงสินะ”
“ผมคือ ‘คิมจินฮวาน’ นะครับJ”
“จินฮวาน อย่าทำแบบนี้เลย นี่ไม่ใช่ทางที่ดีหรอก ‘เขา’ เองก็คงไม่อยากให้นายทำแบบนี้ แล้วก็นะ…ฉันไม่อยากให้สุดท้ายแล้วคนที่เจ็บที่สุดคือนายด้วย” เฮียมินโฮถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะบ่าผมเบาๆ “หยุดสิ่งที่นายกำลังทำดีกว่า”
ผมเหยียดยิ้มมุมปากก่อนจะมองหน้าเฮียมินโฮด้วยแววตาจริงจังพลางดึงมือเขาออกจากไหล่
“ผมไม่สนว่าสิ่งที่ผมกำลังทำมันจะทำให้ใครเจ็บ ไม่สนแม้กระทั่งว่าตัวผมเองจะต้องเจ็บ สิ่งที่ผมสนมีเรื่องเดียวคือผมต้องทำมันให้สำเร็จเท่านั้น” ผมกำซองโจ๊กในมือแน่นก่อนจะเหยียดยิ้มอีกครั้งและหมุนตัวเตรียมเดินออกจากห้อง
“ขอบคุณที่เป็นห่วงผม แต่ช่วยรอยินดีกับความสำเร็จของผมดีกว่าครับJ”
HUNBIN TALK:
“งืม…” ผมค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นช้าๆ อาการปวดหัวเริ่มดีขึ้น แต่ตอนนี้กลิ่นหอมๆ กำลังทำให้กระเพาะผมกรีดร้องอย่างหนัก ใครมาทำอะไรวะ หอมชิบหาย หิวโว้ยยยยยยยย
ผมยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเปิดประตูเดินตามกลิ่นหอมๆ นั่น โว้ยยย ยิ่งออกมาข้างนอกก็ยิ่งหอม หิวชิบหาย ผมนี่แทบจะแดกไส้ตัวเองได้อยู่แล้วครับ
(Song : eye nose lips ver.eng by eric)
เสียงหวานใสทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นได้อย่างไม่มีเหตุผล ภาพคนตัวเล็กที่กำลังหันซ้ายหันขวาหยิบโน่นหยิบนี่ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว จินฮวานกำลังฮัมเพลงเบาๆ ในขณะที่จัดอะไรสักอย่างใส่จาน เสี้ยวหน้าใสของคนตัวเล็กน่ารักมาก ผมมองภาพตรงหน้าที่เหมือนกับภาพวาดอย่างไม่คิดจะหันหนีหรือเรียกเขาเลยสักนิด
…น่ารักชะมัด
“ตื่นแล้วหรอ?”
จนกระทั่งเสียงใสๆ ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ จินฮวานถือถาดอะไรสักอย่างก่อนจะเอียงคอมองผม ผมสะบัดหัวไล่อาการจิตหลุดของตัวเองก่อนจะโวยวายใส่อีกคน
“พี่เข้ามาห้องผมได้ยังไงวะ!”
“อย่าเพิ่งบ่นสิ หิวไม่ใช่หรอเรา?” คนตัวเล็กไม่ฟังที่ผมโวยวายเลยสักนิด เขาก้าวมาประชิดตัวผมก่อนจะใช้ไหล่กระแทกผมเบาๆ เป็นเชิงให้ผมเดินตามเขาไปที่ห้องนั่งเล่น
จินฮวานวางถาดลงบนโต๊ะก่อนจะดึงผมให้นั่งลงตาม ผมมองถาดที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะเห็นว่ามันเป็นโจ๊กหน้าตาน่ากิน นี่เขาทำไอ้นี่ให้ผมหรอ?
“กินสิ เดี๋ยวเย็นหมดนะ” จินฮวานหันมายิ้มให้ผมก่อนจะส่งช้อนให้ ผมมองช้อนในมืออีกคนนิ่งๆ พลางนั่งขมวดคิ้วมุ่นและยิงคำถามใส่อีกคนแทนที่จะรับช้อน
“พี่มาอยู่ในห้องผมได้ยังไง?”
“กินก่อนมั้ย?” คนตัวเล็กยังคงส่งช้อนให้ผมพลางยิ้มหวาน โว้ย! ถามก็ไม่ตอบ ผมขมวดคิ้วมุ่น ไม่ยอมรับช้อนจากอีกคน ต่อให้ผมต้องแดกไส้ตัวเองผมก็จะไม่มีทางกินหรอก!
โครก คราก ~
ชิบหาย กระเพาะผมคำรามแล้ว = =;;
“ฮะๆ ก็บอกแล้วไงว่าให้กินก่อน” จินฮวานหัวเราะเบาๆ “หรือที่เล่นตัวนี่อยากให้พี่ป้อนครับJ”
“ไม่ต้องเลย!” ผมดึงช้อนออกจากมือเขาทันทีที่ได้ยินคำเสนอนั่น จินฮวานหัวเราะสดใสทันทีที่เห็นผมยอม ผมล่ะหมันไส้ไอ้ท่าทางชอบอกชอบใจของเขาจริงๆ
“ตกลงพี่จะไม่บอกผมจริงๆ ใช่มั้ยว่าเข้ามาได้ยังไง?” ผมตักโจ๊กเข้าปากพลางหันไปถาม จินฮวานยิ้มให้ก่อนจะตอบ
“พี่เอาเสื้อมาคืนเรานั่นแหละ วางไว้ให้ในห้องแล้วครับ”
“ห๊ะ?! นี่พี่เข้าไปในห้องนอนผมด้วยหรอ?!” ผมร้องเสียงหลง จินฮวานหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพยักหน้ารับและพูดต่อ
“ห้องพี่อยู่ตรงข้ามกับเรานั่นแหละ พี่บังเอิญเจอจุนฮเวกับจีวอนออกมาจากห้องเรา แล้วพวกนั้นก็บอกว่าเราแฮงค์ พี่ก็เลยเข้ามาดู”
“ไอ้เวรจุนฮเว ไอ้ชั่วคิมบับ” ผมคำรามในลำคออย่างหงุดหงิด ไอ้พวกนี้อย่าให้เจอนะ พ่อจะโดดกัดหูเรียงตัวเลย แง่ง!
“ฮันบินครับ”
“ครับ?” จินฮวานยิ้มทันทีที่ผมเผลอครางรับเขาอย่างไม่รู้ตัว ก็เล่นเรียกชื่อผมซะเพราะ ผมก็เลยเผลอตอบไปโดยอัตโนมัติน่ะสิ เสียฟอร์มชะมัด!
“เลอะปากน่ะ” คนตัวเล็กชี้มุมปากตัวเอง ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากทันที แต่เขาก็ยังคงส่ายหน้ารัวๆ พลางชี้นิ้วแม้ว่าผมจะพยายามใช้หลังมือถูปากตัวเองจะแทบจะถลอก
“โว้ย! ผมถูจนหน้าจะลอกแล้ว มันติดตรงไหนอีกวะครับ!” ผมโวยวายอย่างหงุดหงิด คนตัวเล็กหัวเราะเบาๆ พลางเอื้อมมือมาจับหน้าผมไว้และมองผมด้วยแววตาวิบวับ
“ที่เช็ดไม่ออกเพราะอยากให้พี่เช็ดให้หรอครับ?” จินฮวานเอียงคอน้อยๆ พลางยิ้มหวาน ในขณะที่ใช้นิ้วลูบแก้มผมเบาๆ
“อยากเช็ดก็เช็ดสิครับ”
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมตอบเขาไปแบบนั้น จินฮวานเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งราวกับประหลาดใจที่ผมท้าทายเขา ผมกระตุกยิ้มมุมปากพลางมองอีกคนด้วยสายตาที่เขาใช้มองผมเช่นเดียวกัน ผมมักจะเป็นฝ่ายยอมเสมอเวลาที่เขาอ่อยหรือพยายามเต๊าะผม แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วครับ ผมเองก็ไม่ได้เป็นลูกแมวน้อยในกำมือคนตัวเล็กๆ อย่างเขาสักหน่อย
ผมคือ ‘เสือฮันบิน’ ต่างหากครับ!
“เมื่อกี้ ฮันบินพูดว่าอะไรนะครับ?” จินฮวานกระพริบตาปริบๆ พลางมองหน้าผมด้วยแววตาไม่เชื่อ ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้คนตัวเล็กและเอ่ยเสียงนุ่ม
“ผมบอกพี่ว่า เช็ดให้หน่อยสิครับJ” ผมยิ้ม จินฮวานนิ่งไป เห็นแบบนั้นผมเลยหัวเราะหึในลำคอราวกับผู้ชนะทันที
หึ…เขานั่นแหละครับ ลูกแมวตัวน้อยๆ
….!!!!
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถอยหน้ากลับ มือเล็กๆ ก็ประคองหน้าผมไว้ก่อนที่ริมฝีปากบางจะทาบทับลงมาบนริมฝีปากผมอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจกับการกระทำที่อุกอาจของเขา จินฮวานเอียงคอน้อยๆ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากผมเบาๆ อย่างหยอกล้อ สัมผัสหวานๆ ที่ปลายลิ้นของเขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังจะหยุดเต้นเอาดื้อๆ
จินฮวานยังคงทำให้ผมอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาได้เป็นอย่างดี มือเล็กๆ ที่ประคองใบหน้าผมอยู่ก็ใช้ปลายนิ้ววนลูบแก้มผมเบาๆ ในขณะที่ริมฝีปากก็ยังคงไล้อยู่บนริมฝีปากผมอยู่อย่างนั้น บ้าชะมัด! เขาทำบ้าอะไรของเขาวะเนี่ย!
พลั่ก!
ผมรวบรวมสติทั้งหมดผลักคนตัวเล็กออก จินฮวานเหยียดยิ้มที่ริมฝีปากบางสวยก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ อย่างยั่วยวน
“ตอนนี้ไม่เลอะแล้วนะJ”
“ทำบ้าอะไรของพี่วะ!” ผมโวยวายพลางมองคนตัวเล็กด้วยแววตาสับสับงุนงง จินฮวานลุกยืนก่อนจะก้าวเดินออกจากห้อง โดยไม่วายหันมาเอ่ยทิ้งท้ายก่อนปิดประตูด้วยรอยยิ้มหวานๆ ที่ทำเอาจิตผมหลุดหายไปกับคำพูดนั่น
“จริงๆ โจ๊กที่พี่ทำมันก็อร่อยดีนะ ไว้มา ‘กิน’ ด้วยกันอีกนะครับฮันบินJ”
ปึง!
HUNBIN KNOCK DOWN!
มาพูดคุยกับดินสอกัน :3
อันยองฮาเซโย >_____<
อัพเต็มร้อยเปอร์ให้แล้วนะคะ ขอโทษที่ช้าไปนิด ไม่ใช่อะไร ดินสอลืม 5555555
จบด้วยน็อคดาวน์ของฮันบิน นางเงิบกับพี่จินไปแล้ว 5555555555
บอกแล้วว่าบทนี้มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด แซ่บป่ะล่ะ
พี่จินนางไวไฟ ทำไมมายเมนช่างรุกหนักขนาดนี้ แต่งไปเขินไป เอร๊ยยย
ชอบคำนึงในคอมเม้น ฮันบินคนกาก 5555555555555555555555
คือชอบอ่ะ ชอบมาก อิห่านคิดจะสู้กับพี่จินเร็วไปนะจ้ะ 555
ขอบคุณฟีตแบ็คดีๆ คอมเม้นฟินๆ มาก อ่านแล้วอยากอัพต่อจริงๆ
ยังไงก็ขอให้สนุกกับการอ่อยของพี่จินและความกากของฮันบินนะคะ
รักฟีตแบ็ค รักคอมเม้น รักสกรีม มั๊ววววววววววว <3
IDOL FIC THAILAND
INDY_LIQUEUR
ทวิตเตอร์ IndyLiqueur
สกรีมลงแท็กที่
#จินฮวานคนขี้อ่อย
เชิญชวนให้ต่อแท็ก #อันบินคนกาก
555555555555555555555555555555
ความคิดเห็น