คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ถนนเส้นเดิม (1)
เหนือเอกรีบวิ่งไปยังจุดเดิมที่ดุจดาวจะมานั่งประจำ เมื่อใกล้ถึงจุดเขาก็เห็นแผ่นหลังไหล่อันคุ้นเคย ฝีเท้าของเขาแผ่วเบาลงจนหยุดนิ่ง ก่อนจะเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอ่อนโยน
“ดาว”
หญิงสาวสะดุ้งตัวเล็กน้อยยกมือเช็ดน้ำตาลวกๆ ฝืนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันมา
“เหนือ นายมาทำอะไรที่นี่” แม้จะพยายาทปรับน้ำเสียงอย่างไร ก็ยังคงสั่นเครืออยู่ เมื่อเธอหันมาแววตาหม่นเศร้าไม่สดใส ยิ่งทำให้เหนือเอกคล้ายหัวใจบดขยี้
“เรามาเดินเล่นนะ พอดีเราได้รับบทละครมาใหม่มีบางฉากที่ใกล้เคียงกับที่นี่ เลยมาท่องบทอ่ะ”
เหนือเอกก็ไม่กล้าบอกความในใจไป เขายังคงไม่กล้าพอ
เหนือเอกเป็นดาราดังเวลาไปไหนมาไหนมั้งจะมีบอดี้การ์ดประกบกายเมื่อดาวชำเลืองมองไปกลับไม่เห็นใครข้างกายชายหนุ่มจึงถามขึ้น
“อ่อจ๊ะ นายมาคนเดียวหรอ”
“ฮืม..เรานั่งด้วยได้ไหม” เหนือเอกนั่งลงข้างกายหญิงสาว มือใหญ่ของเขากำแน่นอยากจะจับมือบาง ๆ นั้นมากุมอยากถ่ายทอดความอบอุ่นปลอบประโลมแต่เขาทำได้เพียงนั่งเงียบอยู่ข้างกาย
ดุจดาวเห็นหน้าเหนือเอกคล้ายมีเรื่องภายในใจ เป็นเพื่อนกันมาหลายปีสีหน้าของชายหนุ่มบอกอารมณ์อย่างไรเธอย่อมดูออกจึงเอ่ยถามขึ้น
“งานหนักหรือ”
“ฮืม..ไม่สบายใจอ่ะ” เหนือเอกตอบ
“เราได้อ่านข่าว เห็นว่านายจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวสนใจเรื่องราวตนเองเหนือเอกก็รู้สึกใจพองขึ้นมา
“เราเปลี่ยนใจแล้วล่ะ เราไม่อยากที่นี่ไป” ก่อนหน้าเหนือเอกตั้งใจจะหนีและไปรักษาแผลใจที่ต่างประเทศ แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนใจแล้ว เขาไม่อาจจะทิ้งดุจดาวไว้แบบนี้
“เหนือทานข้าวมายัง เราไปทานข้าวด้วยกันไหม” ชายหนุ่มหัวใจเต้นระรัว นานแล้วที่ดุจดาวไม่ชวนเขาทานข้าว
“ยังเลยวันนี้ทำงานหลายอย่างจนลืมทานข้าวไป”
“เราเองก็ยังไม่ได้ทานตั้งแต่มื้อเที่ยง”
ดุจดาวลุกขึ้นแล้วครุ่นคิดเล็กน้อย
“แต่ว่า เหนือจะสะดวกไหมเราไปคนเดียวก็ได้นะ” ด้วยความเป็นซุปตาร์ ดุจดาวพลันรู้สึกเกรงใจเหนือเอกขึ้นมาการไปทานข้าวสองต่อสองอาจจะทำให้เกิดเป็นข่าวได้
“ไม่ ไม่ เกรงใจอะไรกัน ดาวมองเราเป็นคนอื่นเหรอ” ชายหนุ่มรู้สึกน้อยใจขึ้นมาสีหน้าสลด ดุจดาวกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้น
เธอจ้องมองชื่อแล้วหันมาบอกเหนือเอก
“ยัยสาโทรมา แปบนะ”
เหนือเอกยิ้มบาง ๆ ให้หญิงสาวและยืนนิ่งข้าง ๆ เอียงหูฟังเล็กน้อย
“จ๊ะสา ฮืม…เรากำลังจะไปกินข้าวกับเหนือ จ๊ะขอบใจนะ..จ้า”
ในอีกฝากหนึ่งในสายมือถือ สาลิกาวางโทรศัพท์ลงพลางถอดใจในกลุ่มเพื่อนสนิท 3-4 คนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม ต่างก็รู้ว่าเหนือเอกแอบชอบดุจดาว
แม้พวกเขาจะแอบเชียร์มาตลอดทว่าเมื่อเหนือเอกไม่อยากแสดงตนพวกเธอเองก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อวานยังบอกว่าจะไปเรียนที่ต่างประเทศตัดใจได้แล้ว ทว่าเมื่อได้ยินข่าวว่าดุจดาวกำลังเสียใจ ไม่ทันไรก็วิ่งไปอยู่ข้างกายเขาแล้ว
สาริกาค้ำคางเหม่อมองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง ภายในใจก็รู้สึกอิจฉาดุจดาวเล็ก ๆ มีชายหนุ่มหล่อคอยรักคอยดูแลแบบไม่หวังผลตอบแทนแบบนี้ ถ้าเป็นเธอ เธอคงหลงรักผู้ชายคนนี้ไปตั้งนานแม้อีกฝ่ายไม่เอ่ยบอกความในใจก็ตาม
ส่วนดุจดาวเมื่อวางโทรศัพท์ก็เงยหน้ายิ้มละมุนให้เหนือเอก
“งั้นเราไปกันเถอะ”
พวกเขาเลือกร้านอาหารเล็ก ๆ ข้างทาง ส่วนมากเป็นคนวัยทำงานจึงไม่มีใครสนใจพวกเขามากนัก เหนือเอกใส่หมวกปิดบังใบหน้าก็เพียงพอแล้ว เขาหยิบกระดาษจากบนโต๊ะขึ้นมาสั่งอาหารชายหนุ่มรู้ของชอบหญิงสาวทั้งหมด เมื่อหญิงสาวชำเลืองมองอ่านก็ยิ้มพยักหน้าให้สั่งตามเมนูนั่นได้เลย
สั่งอาหารเสร็จ เหนือเอกก็ถามขึ้น
“บ้านดาวใกล้เสร็จยัง วันขึ้นบ้านใหม่ต้องชวนเรานะ” การได้พูดถึงบ้านถึงครอบครัวดุจดาวจะเกิดประกายความสุขในใจ เหนือเอกจึงตั้งใจที่จะเอ่ยถามเบี่ยงเบนความรู้สึกหญิงสาว
“ได้สิ แต่น่าจะอีกหลายเดือน ตอนนี้เพิ่งเริ่มลงเสาเข็มเอง”
ดุจดาวเอ่ยยิ้มบาง ๆ พอพูดถึงบ้านก็นึกถึงความวุ่นวายเล็ก ๆ ของแม่ในการเลือกสีบ้านเอ่ย สีหลังคาเอ่ย ลายกระเบื้องเอ่ย และตอนนี้แม่คงยุ่งอยู่กับการปลูกต้นไม้รอบ ๆ บ้านกระมัง ใบหน้าของหญิงสาวอ่อนโยนขึ้นเหนือเอกจึงเหยียดปากยิ้มอย่างยินดี เอ่ยถามต่อ
“ดาวกู้เฉพาะสร้างบ้านใช่ไหม"
ความเป็นเพื่อนมาสิบปีการถามเรื่องแบบนี้เป็นการถามไถ่ทั่วไป เธอจึงเอ่ยตอบทันที
“ใช่จ๊ะ ที่ดินเป็นเงินเก็บเรากับแม่รวมกันซื้อ ตอนแรกเราก็ไม่ยังไม่อยากจะกู้แต่แม่เริ่มอายุมากขึ้นน้องก็ใกล้จะเรียนจบแล้วไม่ได้ไป ๆ มา ๆ เช่นเดิม ห้องเช่าสำหรับพวกเรามันเล็กเกินไป ยอมจ่ายดอกเบี้ยไปก่อนมีเงินมากพอเราก็ไถ่ถอดได้”
หญิงสาวเอ่ยเล่าโดยไม่รู้สึกอายกับความยากจนของตัวเองแม้จะมีคนผู้คนอีกมากมายต้องดิ้นรนไม่ต่างจากเธอทว่าเมื่อเทียบกับเหนือเอก พวกเขาแตกต่างกันเหลือเกิน
“เมื่อหลายเดือนก่อนเราได้ลงทุนกับเพื่อนสร้างโรงพยาบาล ดาวจะเป็นไปได้ไหมถ้าเธอจะย้ายมาเข้าเวรที่โรงพยาบาลของเราแทน ที่นี่เราให้ค่าตอบแทนสูงกว่าโรงพยาบาลใกล้เคียงเลยนะ”
เหนือเอกไม่เคยสนใจเรื่องการลงทุนความจริงเขาเองก็พึ่งตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อไม่กี่นาที เพื่อดุจดาวเขาจะเป็นเจ้าของโรงพยาบาล
“แน่นอนสิ มีค่าตอบที่ดีกว่าทำไมเราจะไม่รับ เป็นโชคดีของเราที่มีเพื่อนดี ๆ แบบเหนือเอก” คำว่าเพื่อนดี ๆ กระแทกเข้ากลางใจเหนือเอกอย่างรุนแรงเขาไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว จังหวะนั้นพนักงานก็เข้ามาเสริมอาหาร ทำให้พอกลบเกลือนหน้าสลดชายหนุ่มได้
เหนือเอกจึงได้เล่าเรื่องราวของโรงพยาบาลให้ดุจดาวฟังอย่างมีความสุข เขาตั้งใจอยากมีธุรกิจสักอย่างวงการบันเทิงสำหรับเขาดูเหมือนไม่แน่นอน
“ใจจริงเราอยากให้ดาวมาบรรจุเป็นพนักงานที่โรงพยาบาลเลย หากมาทำงานสัก 5 ปีดาวก็เก็บเงินได้ก้อนโตเลยนะ”
“เราก็คิดเรื่องนี้ แต่ว่าคงต้องรอน้องเรียนจบเสียก่อนถ้าน้องสามารถสอบทำงานรัฐได้เราก็จะหมดห่วง”
เพราะเคยสูญเสียพ่อไปเพราะพ่อกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทำให้ไม่ยอมไปรักษาจนกระทั่งสายเกินไป เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่เธอกังวลใจหากเธอหรือน้องทำงานรัฐก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้
“ไม่เป็นไรเรารอดาวได้”
น้ำเสียงของเหนือเอกอ่อนโยนแฝงความในใจมากกว่าที่พูดออกไป
“ขอบใจนะ” ดุจดาวกลับมายิ้มสดใสภายจะแฝงความเศร้าหมองอยู่บ้างทว่าก็ดีกว่าเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
เหนือเอกเม้มปากบาง ๆ คะยันคะยอให้หญิงสาวทานข้าวเยอะ ๆ
เมื่อทานข้าวเสร็จเหนือเอกก็เรียกรถมารับ
“เราจะไปส่ง จะได้ไปเยี่ยมคุณแม่ด้วย” เหนือเอกพร้อมกลุ่มเพื่อนแวะมาส่งดุจดาวอยู่หลายครั้งทำให้รู้จักชิดเชื้อกับคุณแม่ไปด้วย
“จ๊ะ คุณแม่ก็ถามถึงเหนือเมื่อหลายวันก่อน” นับตั้งแต่วันที่ดุจดาวตัดสินใจคบหากับหมอนั้นเป็นเวลาเกือบปีกว่า เหนือเอกก็พยายามไม่มาวุ่นวายกับหญิงสาวอีก
“งั้นไปกันเถอะ”
ความคิดเห็น