คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Shopaholic
“ทำไมมันถึงแตกต่างจากนิตยสารช็อปปิ้งเตียงคลื่นสมองที่บ้านฉันอย่างนี้ละ" เคทพูดอย่างตื่นเต้น
“นิตยสารบ้านเธอใช่เตียงธรรมดา เรียบๆแบบเป็นแคปซูนปิดเพื่อกันไม่ให้ถูกรบกวนใช่ป่ะ" รีอาถาม
“ใช่แล้ว เธอรู้หรอว่ามันมีเตียงแบบนี้ด้วย" พูดไปก็ชี้ไปยังเตียงหลากสีสันที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า
“จากการคาดการณ์ของเรานะ นี่ต้องเป็นเตียงที่บริษัทนี้ทำขึ้นเป็นพิเศษอย่างที่เค้าว่ากันแน่ๆ" น้ำค้างพูดขึ้นทั้งๆที่ใจลอยไปถึงเตียงในแบบที่เธอต้องการเรียบร้อยแล้ว
“ไม่รู้ว่าพวกเค้าทำได้ไงเนอะ เหมือนเตียงธรรมดามากกว่าเตียงคลื่นสมอง บางทีก็ดูเจ๋งเหมือนมาจากนอกโลก ล้ำสุดๆ" เพลงขลุ่ยพูดเบลอๆพลางนึกถึกความล้ำหน้าของอุปกรณ์ตรงหน้า ไฮเทคสุดๆ
“สงสัยมนุษย์ต่างดาวมาออกแบบให้มั้งยัยเพลง บ้าสิ 555 อย่ามัวแต่ตะลึงเลย ไปดูกันเถอะ" รีอาเอ่ยชวนพร้อมสวมจิตวิญญาณนักช็อป แน่นอนเรื่องนี้สาวๆอย่างพวกเธอพลาดไม่ได้เด็ดขาด
หลังจากตะลุยเดินจนครบทุกซอกทุกมุม เห็นครบทุกแบบ พวกเธอก็ได้เตรียงนอนแบบใหม่กันไปคนละอัน แถมคนละสไตล์กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า สี่สาวสี่แนวสี่สไตล์อย่างแท้จริง เริ่มจากน้ำค้างที่ออกแนวประเภทเตียงสีหวานแหวว เป็นเจ้าหญิงในโลกแห่งความฝันของเด็กผู้หญิงหลายๆคน เป็นเตียงสี่เสาที่มีม่านบางๆห้อยลงมาอย่างสวยงามสมราคาเจ้าหญิง ที่พิเศษก็คือผ้าม่านนั่นดันมีคุณสมบัติกันเสียงและการรบกวนทุกประเภท ซึ่งไม่รู้ทำได้ไงแต่เจ๋งสุดๆ ไม่หมดแค่นั้น เมื่อม่านบางๆนั้นถูกปล่อยให้พริ้วไหวไปมาจะสร้างคลื่นแสง โทนสี pastel แต่ละครั้งจะมีลวดลายไม่เหมือนกันบางทีก็เหมือนแสงออโรร่า บางทีก็เหมือนแสงประกายวิบวับที่ริบหรี่ นั่นละที่สร้างความตื่นตะลึงให้เธอจนเลือกเจ้าเตียงเจ้าหญิงนี่ในที่สุด
ถัดมาเป็นเคทที่ไม่น่าแแปลกใจกับสไตล์ของคุณเธอ ออกแนวสีสันแสบตา รับรองว่าไม่มีทางจะมีความเศร้าแน่นอนหากได้ลองเข้ามาสัมผัสบรรกาศสดใสที่แผ่กระจายออกมาจากเตียงสีแสบสำหรับเด็กแนวเตียงนี้ มองภายนอกอาจเป็นเตียงธรรมดาแต่ถ้าจะเข้าเกมจะมีฝาครอบเตียงสีใสขนาดใหญ่มาคลุมเป็นโดมเล็กๆ เปรียบเสมือนมีอาณาจักรส่วนตัวที่ตัดขาดจากดลกภายนอกเลยทีเดียว
ต่อมาก็เพลงขลุ่ยที่มากับแนวที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว นั่นก็คือแนวเทคโนโลยีแบบล้ำยุคที่เห็นปุ๊ปก็รู้เลยว่าคงเพิ่งพัฒนาออกมาใหม่อย่างแน่นอน มองทีแรกยังไงๆก็คงต้องคิดว่าเป้นเตียงลอยได้ แท้จริงคือมีขารับน้ำหนักเป็นแก้วสีใสที่มองไม่เห็น พร้อมทั้งระบบแสงเลเซอร์ที่ตรวจจับคลื่นรบกวน ทำให้เป็นอาณาเขตที่ไม่มีใครสามารถรุกล้ำได้ ทั้งทีทั้งนั้นเพลงขลุ่ยก็ไม่พลาดที่จะถามรายละเอียดอย่างถี่ยิบ ถ้าไม่เกรงใจเพื่อนและฝูงชนที่เริ่มเยอะคงยาวไปถึงวัตถุดิบที่ใช้ผลิต แน่นอนว่าก่อนซื้อต้องได้รับคำยืนยันว่าปลอดภัย 100% ไม่มีรังสีหรือสารตกค้างที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างแน่นอน
สุดท้ายก็อารีอาน่า ยัยคุณหนูผู้อ่อนหวานประจำโรงเรียน มาพร้อมกับเตียงแนว vintage ซึ่งมีลวดลายโครงร่างสลักสวยงามคล้ายเถาวัลย์ที่เกาะเกี่ยวกันขึ้นมาเป็นรูปร่างซึ่งเป็นส่วนของหัวเตียงและปลายเตียง เป็นเตียงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นพร้อมกับบรยากาศเก่าๆที่ดูอบอวลด้วยความรัก โครงสร้างของโดมที่ป้องกันการรบกวนของเตียงรูปแบบนี้จะเป็นลวดลายเลื้อยพันกันคล้ายๆลวดลายบนหัวเตียงที่จะค่อยๆเกาะเกี่ยวเลื้อยพันกันจากหัวเตียงเป็นรูปโดมขนาดเล็กและสิ้นสุดลงที่ปลายเถาวัลย์หรือปลายเตียง แน่นอนว่าคงเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่แปลกตาแต่สวยงามคล้ายหลุดไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ
หลังจากเลือกเตียงเสร็จกันไป แน่นอนว่างานเปิดเกมที่แสนจะยิ่งใหญ่นี้คงไม่ได้มีแค่เตียง การแนะนำเกม และการทดลองเล่น แน่นอนว่าสำหรับพวกที่ชอบช็อปปิ้ง อาจเรียกงานนี้ว่ามหกรรมการตกแต่งบ้านครั้งใหญ่ที่ทำให้คุณเสียเงินมากกว่าปกติถึง 3 เท่า!!
แต่ก่อนที่สาวๆทั้งสี่ของเราจะไปช็อปต่ออย่างเมามัน คุณเธอทั้งหลายต้องเลือกชิพเกมหรือการ์ดเกมที่จำเป็นต้องใช้ในการปลดล็อกเพื่อเข้าเกม โดยที่การ์ดหรือชิพ 1 อันจะสมัครได้ 1 ไอดี ถ้าต้องการสร้างตัวละครใหม่ก็ต้องมาซื้อการ์ดหรือชิพใหม่ แน่นอนว่าราคาย่อมต้องแพงแสนแพง จริงๆก็มีทั้งแบบการ์ดหรือชิพธรรมดา แต่ก็มีแบบไม่ธรรมดาเช่นกัน อาจเป็นแบบของตกแต่งชิ้นเล็กๆที่นำมาวางหรือติดตั้งใกล้ๆเตียงคลื่อนสมองได้ หรืออาจเป็นแบบพกพาที่ต้องใส่ติดตัว ทั้งสี่เดินเข้ามามองรูปแบบที่หลากหลายของการ์ดหรือชิพต่างๆ แต่เนื่องด้วยความไม่ธรรมดาของพวกเธอแต่ละคน ทำให้พวกเธอตัดสินใจเข้ามาดูเข้ามาดูในโซนพิเศษที่มีราคาเป็น 2 เท่า ทั้งหมดเป็นข้าวของตกแต่งที่ดูสวยงามน่าซื้อไปซะหมดจนไม่อาจเรียกว่าการ์ดหรือชิพได้เพราะดูยังไงก็ไม่ใช่อย่างแน่นอน
“พี่คะๆของตกแต่งพวกนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนการ์ดหรือชิพที่ใช้เข้าเกม ไม่ทราบว่ามันมีวิธีการทำงานยังไงหรอคะ?” เพลงขลุ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย แน่ละแต่ละอย่างดูธรรมดาแถมไม่รู้ว่าจะเชื่อมต่อกับเตียงวิธีไหน พวกเธออาจจะเดินเข้ามาผิดทางจนเลยบูธการ์ดและชิพมาก็ได้ ใครจะรู้
“อ้อ ง่ายๆจ๊ะ ถ้าเป็นของตกแต่งแค่เอามาวางไว้บนตัวเตียงหรือข้างหมอน ตรงไหนก็ได้ที่จะทำให้มันอยู่ในรัศมีที่กันการถูกรบกวนจากภายนอก ส่วนแบบพกพาแค่ใส่ติดตัวไว้ก่อนจะเข้านอนแค่นั้นก็พอจ้า ส่วนเรื่องการทำงานพี่รู้สึกว่าของพวกนี้จะมีระบบตอบสนองกับเตียงคลื่นสมองโดยตรงซึ่ง 1 เตียงจะจูนได้ดี 100% กับอุปกรณ์อันแรก ไม่ว่าจะการ์ดธรรมดาหรือสิ่งต่างๆ ส่วนอันต่อๆมาเปอร์เซ็นต์การทำงานก็จะลดลงไปเรื่อยๆแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะลดเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับผู้เล่นและระยะเวลาที่ใช้เตียงนั้นๆ บางคนใช้แค่วันเดียวแล้วซื้อการ์ดใหม่การทำงานลดไปตั้ง 75% แต่บางคนเล่นตั้งนานหลายเดือน พอซื้อใหม่การทำงานดันลดไปแค่ 15% เท่านั้น พี่ก็ไม่เข้าใจระบบความคิดของเครื่องนี้สักเท่าไหร่นะ แต่ถ้าน้องๆสนใจพี่แนะนำให้ซื้อแบบดีๆสวยๆไปเลยก็ได้ ถ้าเล่นนานจะได้ไม่เบื่อแถมสวยงามอีกต่างหาก เพราะน้องๆเป็นผู้หญิงคงไม่พลาดเรื่องข้าวของพวกนี้หรอกเนอะ"
“แน่นอนค่ะ ว่าแต่พี่มีอะไรดีๆที่คิดว่าเหมาะที่จะพกติดตัว สะดวกและดูปกติบ้างอ่ะคะ" เคทอดไม่ได้ที่จะถามหลังจากมองไปรอบๆแล้วเจอแต่ของที่คิดว่า ถ้าพกติดตัวไปคงต้องเป็นจุดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย
“ส่วนใหญ่สำหรับน้องผู้หญิงที่ไม่อยากเด่นจนเกินไปก็คงเป็นพวกนาฬิกา สร้อยข้อมือ กิ๊บติดผม สร้อยคอ สร้อยข้อเท้า อืมมม.. อ้อ มีเข็มกลัดอีกอย่าง ที่เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างธรรมดาทั่วไปมากๆจ๊ะ ที่แปลกหน่อยก็มีถุงมือ ถุงเท้าที่มีสีสันสุดจี๊ด กระโปรงตุ๊กตา เนกไท ตุ๊กตาหมี ที่ห้อยโทรศัพท์ในกรณีที่น้องพกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลาอ่ะนะ มีอีกอย่าง อันนี้น่าจะเป็นภาระสุดๆ หนังสือจ๊ะ สำหรับพวกหนอนหนังสือที่ชอบถือหนังสือติดตัวตลอด ในกรณีนี้แอบทำมาเอาใจนักอ่านโดยเฉพาะ เพราะว่าเป็นหนังสือที่สามารถกดลิ๊งให้มันกลายเป็นหนังสือเรื่องไหนก็ได้ที่น้องมีอยู่แต่ว่าน้องต้องเอามาเข้าโปรแกรมสแกนหนังสือก่อน มีคู่มือให้ลองเอาไปศึกษาได้พร้อมแถมรหัสโหลดโปรแกรมสแกนหนังสือ ที่ใช้ได้ไม่ยาก อ้อ ใช่ๆมีหูฟังสุดล้ำรูปร่างแปลกตา ที่เหลืออีกมากมายแต่ก็สุดโต่งเกินไปนะน้อง บอกไว้เผื่ออยากลองของแปลก มีตั้งแต่มงกุฎเจ้าหญิงไปจนถึงรองเท้ายาจกเลยล่ะ ประเด็นคือ ของแต่ละชิ้นจะมีแค่อย่างละชิ้นเท่านั้น จะไม่มีใครมีลวดลายซ้ำกันอย่างแน่นอน แต่อย่าลืมว่าของชิ้นนั้นๆจะอยู่กับพวกเธอไปตลอดการเล่นเกม ทำให้บางคนขี้เกียจคิดมากเลยไปเอาแบบธรรมดาซะเลยไงล่ะจ๊ะ อิอิ คิดดูดีๆละกันลองเดินดูก่อนได้จ้า"
“ขอบคุณที่แนะนำนะคะ งั้นพวกเราไปเดินดูกันเถอะ" น้ำค้างตอบอย่างอารมณ์ดีเพราะอยากช๊อปเป็นกำลัง
หลังจากใช้เวลาเดินดูและสอบถามเป็นเวลานานทุกคนก็ได้สิ่งที่ตนต้องการและเข้ากับสไตล์ของแต่ละคน เริ่มจากรีอาที่เลือกได้เป็นคนแรกมาพร้อมสายรัดข้อเท้าลวดลายกิ๊บเก๋ เป็นเชือกธรรมดาๆที่ร้อยเกี่ยวพันด้วยลูกปัดสีฟ้าใสที่ดูเข้ากับความเป็นตัวเธออย่างน่าประหลาด ตามด้วยเคทที่เลือกแหววสีสวยสดใสมาประดับนิ้ว น้ำค้างเดินมารวมกลุ่มพร้อมสร้อยคอรูปมงกุฏเจ้าหญิงที่ระยิบระยับตามแสงไฟ ส่วนเพลงขลุ่ยที่กลับมาอย่างผิดคาดเพราะที่เธอเลือกดันไม่่ใช่หนังสืออย่างที่ใครๆคิดแต่เป็นหูฟังสุดแนวที่ทำให้เธอดูเท่เข้าไปอีก ช่างต่างจากชื่อหวานๆของเธอเสียจริง
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่างเรียบร้อยทั้งสี่หน่อก็แยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อรอคอยที่จะได้เล่นเกมพร้อมกันทั้งประเทศอย่างตื่นเต้น เกมจะเปิดให้ชาวไทยได้เล่นในอีก 3 วันนับจากวันนี้ ระบบของ Cappella แทบจะครอบคลุมไปทั่วโลก ในส่วนที่ไม่ใช่เกมแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือ ส่วนโลกมนุษย์นั้นเป็นแบบที่ทั่วทั้งโลกใช้เชิร์ฟเวอร์เดียวกัน สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั้งโลก ทุกชาติ ทุกภาษาภายในโลกแห่งคลื่นสมอง แต่ในส่วนที่ 2 หรือส่วนตัวเกมนั้นจะแยกเป็นเชิร์ฟเวอร์ของแต่ละประเทศ เพราะในเกมจะมีทั้งผู้เล่นและตัวละครต่างๆภายในเกมมากมายอยู่แล้ว ไม่สามารถเชื่อมให้เป็นเชิร์ฟเวอร์ใหญ่ให้คนทั้งโลกเล่นเกมพร้อมกัน แน่นอนว่าคิดมาขนาดนี้ เจ้าของเกมนั้นสุดแสนจะมั่นใจว่า Cappella World ที่พวกเขาสร้างขึ้นจะต้องดังระดับโลกจนไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น แต่ใครจะคาดคิดว่าเบื้องหลังของความยิ่งใหญ่นี้ มีบางสิ่งที่กำลังควบคุมและสอดส่องพฤติกรรมมนุษย์ทุกคนที่หลุดเข้ามาอยู่ในโลกจำลองของพวกมัน เพื่อที่จะค้นหาบางสิ่งที่เรายังคงรักษาไว้ ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร เพียงแต่พวกมันรู้พวกเราว่ามีอยู่อย่างแน่นอน
อีกด้านหนึ่ง
"แพรไหมของเด๊ดดี๊~~" แพรไหมได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของพ่อลอยมาแต่ไกล
“แพรไหม ลูกบาดเจ็บหรือเปล่าเนี่ย ชอบทำให้พ่อใจหายใจคว่ำอยู่เรื่อย" แซมร้องเรียกพร้อมวิ่งเข้ามาเมื่อเห็นแพรไหมอยู่ไม่ไกล และกำลังยืนอยู่ใกล้ๆตำรวจ ที่ได้คุยกับแพรไหมและกล่าวขอบคุณกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นก็ไม่มีอะไรมากนอกจากรายละเอียดของคดีที่เกิดขึ้น เธอแค่บังเอิญช่วยจับโจรได้ ก็เท่านั้น
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ แค่นี้สบายมาก 555” แพรไหมตอบอย่างร่าเริง ถึงจะตกใจอยู่บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอไม่อยากทำให้พ่อไม่สบายใจ เดี๋ยวอารมณ์ติสแตกที่เคยมีจะหายไปเหลือแต่วิญญาณคุณพ่อสุดหวงเข้าน่ะซี้
"ไปกลับบ้านเรากันเถอะ เราควรย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ปลอดภัยกว่านี้ดีมั้ยนะ?” แซมเอ่ยชวน ส่วนปลายประโยคนั้นก็พึมพำกับตัวเอง
“ค่ะ พ่อ กลับบ้านกันเถอะเนอะ โอ๊ยอย่าทำหน้าเครียดแบบบนั้นสิคะ" แพรไหมพูดยิ้มๆพร้อมเดินไปกอดแขนผู้เป็นพ่อและเดินไปด้วยกัน
“เดี๋ยว แม่หนูอย่าเพิ่งไป อ่ะนี่ ลุงให้เป็นรางวัลที่ช่วยเหลือลุง อ๊ะๆอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ มันไม่ใช่ของมีค่าที่อยู่ในถุงนั้นหรอก แต่เป็นชิพรุ่นเก่าของเกม Cappella ส่วนถุงที่หนูช่วยไว้เป็นสินค้าออกใหม่ที่เพิ่งเริ่มวางขายในอเมริกาเป็นที่แรกนี่ละ แต่ลุงยังไม่แน่ใจว่าของมันดีและปลอดภัยแค่ไหนเลยให้หนูไม่ได้ ขอโทษนะแล้วก็ขอบคุณจริงๆ รับไว้เถอะนะ" ลุงพูดรวดเดียวจนเกือบหายใจไม่ทัน ทำให้แพรไหมที่ตอนแรกจะปฏิเสธจริงๆต้องเปลี่ยนใจ ก็ไหนๆก็ของเก่านี่เนอะ
“ขอบคุณค่ะคุณลุง แต่ที่ลุงให้หนูมาแบบนี้ลุงจะไม่ลำบากใช่มั้ยคะ" แพรไหมถามเพื่อความแน่ใจ
“โอ๊ย จะไปลำบากอะไร สบายมากเรื่องแค่นี้ ถ้าไม่ได้แม่หนูช่วยลุงอาจจะล้มละลายเลยนะ" ลุงพูดยิ้มแย้ม
“แล้วก็วันไหนที่ผ่านแถวร้านลุง แวะเข้ามาบ้างนะเดี๋ยวลุงเลี้ยงขนม 555” ลุงพูดอย่างอารมณ์และเดินจากไปเมื่อเห็นแพรไหมพยักหน้ากลับและยิ้มให้เช่นกัน เมื่อเริ่มเดินห่างออกมาจากพวกตำรวจ แพรไหมก็เริ่มสังเกตเห็นพ่อของเธอกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย
“แซมมี่ แพรไม่เป็นไรจริงๆ อย่าเงียบไปแบบนี้สิคะ วันนี้กินอะไร ซุปเห็ดละกันเนอะ ง่ายดี มื้อดึกที่อากาศเย็นๆแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าซุปร้อนๆกับขนมปังอุ่นๆอีกแล้วละ เนอะ" แพรไหมเริ่มชวนคุยเพื่อไม่ให้พ่อของเธอเครียดจนเกินไป แม้กับคนอื่นๆเธอออกจะเย็นชาไปบ้าง แต่รับประกันได้เลยว่าเมื่อเธออยู่กับคุณพ่อสุดเพี้ยนแล้วละก็ เธอจะกลายเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้
“แพร ต่อไปอย่าทำอะไรเสี่ยงๆแบบบนี้อีกเข้าใจมั้ยลูก พ่อเป็นห่วง 555 แต่เอาจริงๆก็เท่ไม่หยอกนะเนี่ย เหมือนซุปเปอร์เกริล์เลยล่ะ" พ่อพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะร่าแล้วรีบลากแพรไหมกลับบ้าน เนื่องจากอากาศที่เริ่มเย็นลง และจินตนาการถึงซุปร้อนๆที่คุยกันไว้ ทำให้สองพ่อลูกแข่งกันวิ่งกลับบ้านแทบไม่ทัน เมื่อทั้งสองถึงบ้าน พ่อก็เป็นคนอาสาทำซุปเห็ดให้ก่อนจะไล่แพรไหมไปอาบน้ำแล้วลงมากินมื้อดึกด้วยกัน
“ว่าแต่ ชิพอะไรที่ลุงคนนั้นให้ลูกมาน่ะ ใช่ที่ใช้กับเกมคลื่นสมองเหมือนที่ลูกเล่นมั้ย พ่อซื้อให้ตั้งสองสามเดือนแล้วทำไมไม่เคยเห็นลูกเล่นเลยล่ะ" แซมเอ่ยถามถึงแคปซูนที่เค้าซื้อให้ลูกสาวเล่นเมื่อเห็นว่าเป็นของที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา
จากการเลือกดูหลายยี่ห้อหลายแบบ เค้าพบว่าแคปซูนของ Cappella Castle เกมที่กำลังมาแรงสามารถเล่นกับเกมได้ทุกเกมเหมือนอันอื่นแต่ถ้าซื้อแคปซูนของที่อื่นจะเล่นเกมของ Cappella ไม่ได้ ทำให้เค้าตัดสินใจซื้อเจ้าเครื่องที่ค่อนข้างแพงนี้ให้ลูกสาว เจ้าของ Cappella คงต้องมั่นใจมากทีเดียวในการแยกตัวมาตั้งเครื่องเล่นของตัวเองโดยไม่ขึ้นตรงกับบริษัทผลิตเครื่องเล่นเกม เหมือนบริษัทเกมอื่นๆ ถึงแม้จะมีหลายรูปแบบ แน่นอนว่าคุณพ่อคนนี้ทุ่มเทสุดๆในการเลือกซื้อสินค้า ทำให้พนักงานขายเป็นงงไปตามๆกันเมื่อพ่อคุณเล่นลองนอนในเครื่องเล่นเกมทุกแบบ ทั้งแคปซูนและแบบเตียงจริงๆ ถึงจะมีเงินแต่แน่ละว่าเขาก็รู้จักประหยัด หากไม่พบความแตกต่างหรือข้อดีของสิ้นค้าที่ต่างกันเพียงรูปลักษณ์แล้วละก็ เขาไม่มีทางใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง อีกทั้งการซื้อแคปซูนแบบนี้จะทำให้เขาสามารถรู้ได้ว่าลูกกำลังเล่นเกมอยู่หรือกำลังนอนหลับ
“อ้าวพ่อ ก็แพรยังไม่ว่างไปซื้อชิพเกมนี่นา ขี้เกียจด้วย ช่วงที่ผ่านมาแพรก็กำลังติดหนังกับนิยายอยู่ไง แถมยังรับจ๊อบทำงานเพิ่มรายได้ด้วยนะ ไม่มีเวลาเล่นเกมหรอก แต่เดี๋ยวจะลองเล่นนี่ละ โชคดีจังที่ได้ชิพมาฟรีๆ ชิพนี่ไม่ใช่ถูกๆนะพ่อ แพรถึงเกรงใจลุงเขาตอนแรกๆไง แต่ก็ดีละแพรกำลังสนใจเกมนี้อยู่พอดีเลย" แพรพูดขึ้นหลังจากกลืนขนมปังอุ่นๆคำโต
จริงๆเธอลองเดินดูชิพมาแล้วครั้งนึงเพราะพ่อให้เงินเธอมาซื้อหลังจากให้เครื่องเล่นเกมนั้นมา เพื่อที่เธอจะได้เลือกเกมเอง แต่เมื่อเห็นราคาแล้วแพรไหมจึงขอกลับมาคิดดูดีๆก่อนตัดสินใจเพราะแต่ละอันไม่ใช่ถูกๆเลย แม้จะเป็นแบบธรรมดาก็เถอะ ชิพบางชิพแพงกว่าเครื่องเล่นเกมบางรุ่นเสียอีก ถ้าหากแพรไหมรู้ราคาเครื่องเล่นที่พ่อซื้อให้คงได้เป็นลมกันละคราวนี้ พอมัวแต่คิดหาข้อมูลตัดสินใจ แพรไหมก็ดันไม่ว่างอย่างที่บอกพ่อจริงๆทำให้เธอยังไม่ได้ไปซื้อเกมที่เลือก จะเกมไหนละถ้าไม่ใช่ Cappella เล่นมาใหม่มาแรงขนาดนี้ ถึงจะไม่ชอบเมาท์แตกกับกลุ่มเพื่อนแต่ก็ไม่เคยตกเทรนตามประสาวัยรุ่นอเมริกัน โชคดีอย่างนึงคือ พ่อสอนให้เธอพูดได้ทั้ง ภาษาอังกฤษ ไทย และ ฝรั่งเศส พ่อเคยบอกว่าแม่เป็นคนไทย พ่อเป็นคนฝรั่งเศส แต่พบรักกันที่อังกฤษ แพรไหมย้อนคิดแล้วก็งงๆ แล้วทำไมเธอถึงเติบโตในอเมริกาละ
“จริงๆเลยยัยตัวดี มัวแต่กลัวว่าจะใช้เงินสิ้นเปลืองล่ะสิ คิดว่าพ่อรู้ไม่ทันหรอ ที่พ่อให้เงินแพรไปเพื่อจะได้เลือกเกมเองไง ลูกต้องมีสังคมกับคนอื่นเค้าบ้างนะ ส่วนเรื่องเงินเราก็มีไม่น้อย ใช้ๆไปบ้างไม่ต้องกลัวเปลืองหรอก 555” พ่อพูดอย่างอารมณ์ดี
อย่างน้อยลูกเขาก็รู้จักใช้เงิน ช่างน่าภูมิใจโตไปจะได้ไม่ลำบาก พูดแล้วก็นึกถึงแม่ของลูก ยัยนั่นช่างตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ไม่รู้ลูกอีกคนของเขาจะเป็นยังไง น่าเป็นห่วงจริงๆเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตกลงกันแล้งว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก
“ไงก็ได้พ่อ ถ้าพ่ออนุญาติแล้ว ต่อไปแพรจะใช้ให้แหลกเลยดีมั้ย พ่อวาดรูปขายไม่ทันแน่ บอกเลย" แพรตอบเพียงประเด็นเดียว ใครจะอยากพูดเรื่องเพื่อนๆกันละ ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีนะแค่ไม่สนิทจนเกินไปเท่านั้น
“แหม่!! ถ้าลูกใช้ได้ก็ใช้เลย พ่อจะคอยดู กร๊ากๆๆๆ คิดภาพลูกไปช็อปปิ้งก็ทำให้พ่อมีความสุขได้นะ"
“พ่อต้องมีความสุขขนาดนั้นเลยหรอ หนูไม่ได้ขี้งกขนาดไม่ใช้เงินซะหน่อย แซมนั่นแหละสอนมาแบบนี้น่ะ"
สองพ่อลูกก็นั่งถกเถียงและคุยตามประสาพ่อลูกต่อไป ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ไม่บอกก็รู้ว่าบ้านหลังเล็กๆนี้อบอุ่นแค่ไหน
ความคิดเห็น