นักเลงบางกอก - นิยาย นักเลงบางกอก : Dek-D.com - Writer
×

    นักเลงบางกอก

    สิ่งที่อยากทำ และสิ่งที่ต้องทำ แตกต่างกัน เมื่อสิงห์เจอกับเรื่องต่างๆที่เข้ามารุมเร้า เค้าจะทำยังไง

    ผู้เข้าชมรวม

    448

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    448

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  ผจญภัย
    จำนวนตอน :  11 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 เม.ย. 56 / 00:08 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ปืนกล็อกไม่มีทะเบียนขนาด ๙ มิลลิเมตร ลำกล้องยาว ๓.๗๘ นิ้ว ถูกนำออกมาจากซองพกที่เอว ถอดแม็กกาซีนออกกระชากสไลด์เช็คลำกล้อง ๒-๓ ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีลูกกระสุนค้างรังเพลิง เจ้าของปืนสวมถุงมือยางชนิดบาง ถอดชิ้นส่วนอาวุธร้ายวางเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อยบนโต๊ะไม้ มีไฟจากโคมส่องให้เห็นอะไหล่แต่ละชิ้นเด่นชัด เมื่อแยกชิ้นส่วนออกหมดแล้วจึงลงมือทำความสะอาดชะโลมน้ำมันและประกอบเข้าด้วยกันใหม่ ชะโลมน้ำมันด้านนอกด้วยอีกครั้ง ใช้ผ้าสะอาดเช็ดส่วนที่น้ำมันไหลเยิ้มออกมามาก จากนั้นก็หันมาทำความสะอาดแม็กกาซีนปืน โดยที่ยังสวมถุงมือยางอยู่เช่นเดิม เช็ดทำความสะอาดลูกกระสุนแต่ละลูกลบลายนิ้วมือทั้งหมด พลางนึกถึงสถานที่ที่เขาจะไปในคืนนี้นึกตระเตรีมแผนที่คิดเอาไว้ขึ้นอีกครั้ง

    เมื่อรถจาคัวร์คันสีบรอนซ์เงินของสิงห์เข้ามาจอดเทียบข้างถนน ฟ้ามืดลงไปนานแล้ว ชายหนุ่มมองนาฬิกาที่ข้อมือ คนขับรถก็วิ่งมาเปิดประตูด้านคนนั่งข้างหลัง ชายหนุ่มก้าวออกมาพร้อมกับผู้ติดตามทั้งสองคน ในเสื้อคอโปโล กางเกงทหารตัวใหญ่มีกระเป๋าติดรอบตัว กระเป๋าข้างแต่ละข้างตุงห้อยหนักออกมาเป็นรูปร่างสิ่งของข้างใน ก้าวเดินเข้าภายในตรอกเล็กๆข้างถนน

    หญิงสาวในชุดน้อยชิ้น แต่งตัวยั่วอารมณ์ส่งเสียงร้องเรียก ชวนชายหนุ่มผู้รักสนุกยามค่ำคืนสองข้างทางของตรอกแคบ เส้นทางภายในทะลุอีกฝั่งของถนนอีกเส้นเป็นทางเข้าและทางออกคนละทาง ผู้ที่เข้ามาเที่ยวเป็นประจำต่างรู้ว่าทางไหนเป็นทางเข้า และจะรู้ว่าทางไหนเป็นทางออก ปลายทางจะมีรั้วกั้นเพื่อให้ผู้ที่สัญจรผ่านเดินเข้าเพียงทางเดียวอย่าง ข้างในเส้นทางแคบมีประตูบานเล็กบ้างเปิด บ้างปิดอยู่เป็นระยะ เพื่อให้หญิงสาวหลบเข้าไปเวลาตำรวจเข้ามาจับกุม ส่วนภายในทางเข้าไปในอาคารก็จะแบ่งเป็นห้องๆ เพื่อใช้เป็นสถานที่หาความสำราญชั่วคราว ซึ่งความสะดวกทั้งหมดจะต้องเสียค่าผ่านทางเป็นรายเดือน และชั่วคราวอีกต่างหาก หญิงสาวจะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่หลับนอนยามกลางวัน และใช้เป็นที่หากินยามค่ำคืน

    ผนังทั้งสองข้างตรอกเป็นสีปูนดิบๆ ความสูงของตึกสามชั้นไม่มีช่องหน้าต่างระบายอากาศ สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิงบริการ และยาเสพติดตามความยาวของทางเดินราวๆ สองถึงสามร้อยเมตรมีแสงไฟสีนวลสว่างเป็นช่วงๆตลอดระยะทางไม่ไกลกันมาก สาวๆที่นี้ยืนเรียงกันตลอดรายทางบ้างสูบบุหรี่ บ้างเล่นโทรศัพท์ บ้างจับกลุ่มคุยกัน เวลาผู้ชายมาก็จะส่งเสียงเชิญชวนไปขึ้นห้องหาความสำราญ กลิ่นน้ำหอมสารพัดชนิดลอยมาตามลมแตะจมูกขณะชายทั้งสามคนเดินเข้าด้านใน

    สถานที่แห่งนี้มีหลายจุดอับอันตรายที่บรรดาหนุ่มเจ้าสำราญเท่าไหร่ จุดอับที่ว่านั้นจะมีพ่อค้ายายืนสลับกับกลุ่มของหญิงสาวเป็นระยะ สิงห์คิดว่าที่ไหนมีพ่อค้ายาละก็ สถานที่แห่งนั้นก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดอาชญากรรมขึ้น จะเรียกได้ว่าระยะทางสองสามร้อยเมตรที่เค้าจะต้องเดินผ่านนั้น มีแต่ผู้ที่ผิดกฎหมายทั้งขายตัว ค้ายา หัวขโมยหรือแม้กระทั่งผู้เดินมาในทางแคบก็ยังแน่ใจไม่ได้ว่าคนไหนมีวัตถุประสงค์อะไรที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร นอกจากเดินผ่านแล้วบรรดาพ่อค้า แม่ค้าจะร้องเรียกถามกันเอาเอง เหมือนเดินเข้าไปให้คนในตรอกเลือกกันว่า “คนนี้ลูกค้าของชั้นนะ”

    ปลายทางที่เค้ามุ่งหน้าจะไปก็เป็นประตูไม้บานใหญ่คล้ายๆกับประตูที่หญิงสาวใช้หลบหนีต่างกันเพียง ที่ประตู มีป้ายทองเหลืองไฟนีออนติดด้านบนส่องแสงเหนือระดับสายตาเพียงนิดหน่อยว่า “สำนักงานเช่า” พอเปิดประตูเข้าไปจะพบประตูอีกบานหนึ่ง มีพนักงานรักษาความปลอดภัยร่างใหญ่สองคนยืนใส่ชุดสีดำขนาบสองข้างประตู ลักษณะยักษ์ยืนเฝ้าประตูทวารท้าทายคอยจับตาดูผู้มาเยือนทุกราย

    เมื่อสิงห์แนะนำตัวและยื่นจุดประสงค์ที่จะเข้าไปพบกับผู้ดูแลของสถานที่แห่งนี้ กับพนักงานยักษ์ใหญ่แล้ว ยักษ์คนที่หนึ่งหันไปกดโทรศัพท์พูดสองสามประโยคแล้วจึงปล่อยให้เขาและผู้ติดตามเข้าประตูบานที่สองไป ป้ายที่ประตูติดห้ามนำอาวุธเข้าไป คนติดตามคนหนึ่งของสิงห์จึงยืนรออยู่ที่ประตู ส่วนคนติดตามคนที่สองฝากปืนพกของตนเองเอาไว้กับคนที่รอด้านนอก สิงห์ชักปืนลูกโม่ .๓๕๗ ของตัวเองยื่นฝากตาม

    พอผลักประตูผ่านด่านแรกเข้ามาได้ ก็พบกับเสียงเพลงดังสนั่น ไอเย็นๆกับกลิ่นของเหล้าชั้นดีลอยอบอวลแตะจมูก ชายหนุ่มกวาดตามองออกไปรอบบริเวณ หญิงสาวเปลือยเต้นยั่วยวนหนุ่มๆที่นั่งล้อมรอบ ดูหญิงสาวบนพื้นที่ยกสูงจากพื้นรูปวงกลมใต้แสงปอร์ตไลท์สีชมพู สาวๆที่มองเห็นมีเป็นจำนวนมากทั้งเปลือยเปล่าอยู่บนพื้นที่รูปวงกลม และอีกหลายคนเปลือยอกเดินบริการเครื่องดื่มแก่นักท่องราตรีทั่วบริเวณคลับ          ภายในมีแสงเพียงน้อยนิด ส่วนใหญ่เป็นแสงจากสปอร์ไลท์สีชมพู สีเขียว สีแดงดวงใหญ่กวัดแกว่งจากบนเพดาน อย่างกับว่าจะชะโลมคลับทั้งบริเวณให้กลายเป็นภาพเขียนชั้นยอด อากาศด้านในเข้ามาปะทะ เจือกลิ่นอับภายใน ท่าทางคลับจะไม่ค่อยได้เปิดรับแสงแดดภายนอกซักเท่าไหร่

    บาร์เครื่องดื่มตั้งอยู่ทางด้านขวามือของประตูทางเข้า คลับแห่งนี้เข้าได้เฉพาะคนพิเศษผู้เป็นสมาชิกเท่านั้น ค่าสมัครสมาชิกแบบที่จะเรียกว่าคนพิเศษก็คงจะแพงสูงมากด้วยเช่นกัน คนติดตามของชายหนุ่มคิดอยู่ว่าค่าสมัครคงจะสูงมากกว่าเงินเดือนของเขาสองถึงสามเดือนเป็นแน่ แล้วมองตามก้นสาวเปลือยอกที่เพิ่งจะเดินผ่านไป มองตามด้านหลังของหญิงสาวไปอีก สิงห์เรียกบริกรมาถามทางไปยังห้องทำงานของ ต้นพระราม บุคคลซึ่งทำหน้าที่ดูแลทั้งหมด ตั้งแต่อาคารปูนเปลือยสองข้างตรอกที่เพิ่งเดินผ่านมา ห้องพักที่ให้หญิงสาวเช่าเพื่อขายบริการ รวมถึงคลับที่เข้าได้เฉพาะสมาชิกพิเศษแห่งนี้

    บริกรชี้ไปที่ประตู ชายหนุ่มกับลูกน้องก็ผลักเข้าไปเจอกับบันไดทอดขึ้นสู่ข้างบน เมื่อเดินสุดบันไดที่ชั้นสองมีแสงไฟจากโคมส่องเป็นวงสีขาวสว่างอยู่ด้านหน้าของประตูอีกหนึ่งบาน หน้าประตูไม้บานใหญ่ท่าทางหนาหนักมีชายร่างใหญ่อีกคนเฝ้าประตูทางเข้าเอาไว้อีกชั้น คนเฝ้าประตูเปิดประตูเข้าไปถามด้านใน แล้วจึงหันกลับมา ปล่อยให้สิงห์เดินเข้าไป ปล่อยให้คนที่ตามมาด้วยรออยู่ข้างนอก ชายหนุ่มพยักหน้าบอกลูกน้องแล้วบิดลูกบิดประตูเปิดออก ชายหนุ่มเห็นชายสามคนอยู่นั่งอยู่รอบชุดรับแขกหนังอย่างดี ด้านขวามือของชุดรับแขกเป็นประตูกระจกเปิดออกไปสู่ระเบียงได้ ส่วนด้านหลังของชุดรับแขกดูคล้ายจะเป็นโต๊ะทำงาน ทั้งสามคนนั่งดื่มน้ำเมาสีอำพันหัวเราะกันร่วนจนเมื่อชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปเสียงหัวเราะก็หยุดไปโดยปริยาย หนึ่งในสามนั่นมีคนหนึ่งชื่อ ต้นของกลุ่มพระรามธุระคืนนี้

    ต้นพระราม เป็นสมาชิกของกลุ่มพระรามอันเลื่องชื่อ เขาเข้ามาอยู่ในกลุ่มจากระดับล่าง จากขี่มอเตอร์ไซค์ทวงหนี้ เลื่อนมานั่งโต๊ะดูแลปล่อยเงินกู้ และก็ไต่ลำดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนได้เข้ามาคุมลูกน้องและกิจการของกลุ่มในพื้นที่

    สิงห์เข้ามาพบกับต้นวันนี้เพราะเรื่องเมื่อสองคืนก่อน เค้าพาลูกน้องไปทำร้ายคนของสิงห์ ในพื้นที่ของกลุ่มพระนครที่สิงห์สังกัดอยู่ สุดท้ายลูกน้องของเค้าเสียชีวิตไปสองคน บาดเจ็บสาหัสอีกสองคน และเสี่ยงดวงอยู่ว่าจะพิการหรือไม่อีกหนึ่งคน

    สามกลุ่มใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่เมืองหลวง เคยมีข้อตกลงกันเอาไว้ว่าจะไม่เข้าไปก่อเรื่องนอกเขตของกันและกัน โดยเส้นแบ่งเขตเป็นถนนสายหลักผ่ากลางเมืองกรุงเทพพระนคร กลุ่มทั้งสามแบ่งจากส่วนของพื้นที่คือกลุ่มพระราม กลุ่มฝั่งธน และกลุ่มพระนครของสิงห์ ปัญหาแบบที่เกิดขึ้นเมื่อสองคืนก่อนเกิดเป็นประจำ มีเรื่องกระทบกระทั่งกันนอกพื้นที่อยู่บ่อยๆ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดต้องเสียชีวิตเลยซักครั้ง สาเหตุหลักที่เค้ามาเองในวันนี้เพราะกลุ่มพระรามเข้าไปก่อเรื่องในพื้นที่ของพระนคร ทำให้เพื่อนกับลูกน้องของเค้าต้องจบชีวิตลง สิงห์ไม่ต้องการเป็นคนที่ยอมอ่อนให้ ทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดต้นพระรามเข้าไปก่อเรื่องถึงในพื้นที่ที่เค้าดูแลนั่นเอง

    ภายในห้องอากาศเย็นเต็มไปด้วยควันบุหรี่ แสงไฟจากหลอดยาวกลางห้องส่องสว่าง ปลายสุดสายตามีโต๊ะทำงานไม้หนา ซ้ายมือเป็นตู้วางหนังสือกฏหมายที่มีเพียงปก เอาไว้ประดับบารมีของเจ้าถิ่น ทางด้านขวามือเป็นประตูกระจกมีม่านลูกไม้บางๆปิดกั้นด้านนอก ตรงกลางมีชุดรับแขกชายสามคนนั่งล้อม ขวดเหล้ายี่ห้อฝรั่งวางอยู่ตรงกลางโต๊ะ ชายร่างสูงโปร่งเชื้อเชิญสิงห์ลงมานั่งร่วมวงเสวนาด้วย แต่ชายร่างสันทัดหน้าออกแดงผิวสองสีอีกคนหนึ่งพยักหน้าแล้วชี้ออกไปยังประตูกระจกที่กระเบียง อาคันตุกะมองหน้าคนในห้องไล่ทีละคน ต้นพระรามหัวเราะเสียงดัง แล้วลุกขึ้นมาแนะนำตัวเอง เค้าคือชายร่างสันทัดหน้าแดงที่พยักหน้าชี้ออกไปที่ระเบียงเมื่อซักครู่ เจ้าบ้านยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนเดินนำหน้าสิงห์ออกไปยังประตูระเบียง โดยไม่สนใจแนะนำคนอื่นที่นั่งร่วมอยู่ด้วย

    ต้นหยุดที่ระเบียงแล้วหยิบบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงผ้าจุดไฟแช็คลนให้แดง แล้วพ่นควันออกมาแรงๆถาม “มีธุระอะไรกับผมหรอครับ สิงห์พระนคร รู้ไหมชื่อของคุณดังมากในเขตพระราม” ต้นยิ้มหน้าแดงมือคีบบุหรี่ แต่สายตาจับจ้องแข็งเข้าไปในดวงตาของสิงห์ แขกคิดว่าเจ้าของบ้านคงมีอายุไม่มากไปกว่าตนเองซักเท่าไหร่เมื่อดูจากริ้วรอยของเจ้าบ้านที่ใบหน้า

    สิงห์ถามกลับ “เค้าว่ากันว่าอย่างไรหรือ” เค้าไม่ต้องการจะเล่นตีสนิทกับคนที่ทำร้ายคนของเค้าเองซักเท่าไหร่ น้ำเสียงของสิงห์ราบเรียบแล้วเย็นชา จ้องสายตาไปที่ดวงตาของอีกฝ่าย

    “เค้าลือกันว่าคุณเป็นจอมยุทธ์หน้าหยก รูปหล่อ ฉลาดและโหด” ต้นพ่นควันสีเทาออกมาจากปาก ควันที่ออกมาไหลยาวออกเป็นสาย บุหรี่กลิ่นฉุนถูกคาบอยู่ระหว่างนิ้วข้างขวา

                สิงห์นิ่งเงียบยังไม่พูดอะไรในทันที ปล่อยให้ต้นยืนพ่นควันบุหรี่ออกจากปากก่อน เมื่อบุหรี่หมดมวนต้นดีดบุหรี่ออกไปนอกระเบียงถาม “คุณมาที่นี่เพราะเรื่องเมื่อสองคืนก่อนใช่ไหม” สิงห์ตอบ “ใช่” ต้นถามต่อ “แล้วยังไง”

                ต้นพูดจบคำ ชั่วพริบตาเดียวสิงห์ล้วงมือขวาเข้าไปหยิบในกางเกง กดสลักพร้อมสะบัดกางใบมีดบางคมออก ใช้มือซ้ายยกขึ้นขย้ำปากของเจ้าถิ่นไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา อาคันตุกะยกใบมีดขึ้นแนบลำคอของเจ้าของบ้าน

    แม้มือซ้ายของสิงห์จะเล็กแต่ก็ทรงพลัง นิ้วมือเรียวยาวแต่กล้ามเนื้อบนนิ้วขมวดเกร็งเห็นเส้นเลือด ผู้มาเยือนบีบนิ้วเข้าที่ปิดปากของต้นพระราม จากนั้นจึงกดข้อมือข้างขวาลงค่อยๆให้ใบมีดบาดลึกลงไป เลือดสีแดงค่อยๆไหลออกมาเป็นทาง ตาของต้นพระรามอ้ากว้าง ปากทำท่าจะร้องเรียกให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดออกมา สิงห์บรรจงกดใบมีดลงเพื่อให้เลือดไหลออกมาช้าๆ จะได้ไม่เปื้อนเสื้อและกางเกง ใบมีดผ่านจากซ้ายไปจนขวาสุดลำคอ ดวงตาของต้นพระรามนิ่งค้าง ร่างไร้วิญญาณของเจ้าของบ้านหมดลม ร่วงไปกองกับพื้น สิงห์เอ่ย “น้องผมเสียชีวิตไปสองคน ผมว่าคุณต้องชดใช้”

    ชายหนุ่มสะบัดเลือดที่ติดที่มือข้างขวาไปติดยังผนังของอาคาร เปิดประตูกระจก เลิกม่านเดินเข้าในห้อง

                ก่อนที่ทั้งสองคนในห้องจะยืนทันขึ้นชักปืนขึ้น ผู้มาเยือนใช้ความได้เปรียบในสถานการณ์ที่ทั้งคู่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เข้าประชิดโดยไว เอามีดแทงคอคนที่นั่งโซฟาด้านขวาในขณะที่กำลังยืน สิงห์กวาดใบมีดผ่านคอไปยังคนที่นั่งด้านซ้ายก่อนที่จะลุกตั้งตัวได้ ทั้งสองคนที่นั่งรออยู่ในห้องกองเป็นร่างไร้วิญญาณตามคนในระเบียงไป ทั่วทั้งห้องมีแต่เลือดของคนทั้งสอง เลือดสดๆนองไปทั่วพื้นกระเบื้องสีขาวตัดสีแดงของเลือด

    สิงห์กวาดสายตามองรอบห้อง เมื่อแน่ใจว่าคนทั้งสองนอนนิ่งจึงหยิบ ”ไฟแช็คชนิดดับยาก” ขึ้นมาจุดไฟ โยนไปที่ชั้นวางหนังสือ รอดูเพื่อให้แน่ใจว่าไฟจะไม่ดับก่อนเวลาอันควร แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้อง

    ชายผู้เฝ้าประตูบนชั้นสองนอนจมอยู่บนกองเลือดอยู่เช่นกัน ผู้ติดตามสิงห์ยืนเฝ้าประตูแทน สิงห์พยักหน้าครั้งหนึ่งเป็นสัญญาณให้ผู้ติดตาม ชายทั้งสองจึงเดินลงบันไดไปชั้นล่างเปิดประตูมองรอบคลับ มือคลำอยู่ตรงอาวุธที่เอว แต่ไม่มีวีแววความเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น ทั้งคู่จึงเดินผ่านออกมาสมทบกับผู้ติดตามคนแรกด้านนอก รับปืนจากผู้ติดตามแล้วเดินออกจากตรอกไปยังรถที่จอดติดเครื่องรออยู่ริมทางเท้า ปล่อยยักษ์ทั้งคู่ยืนเฝ้าประตูเอาไว้ด้านหลังต่อไป.......

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น