ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Diary CM01/02

    ลำดับตอนที่ #15 : [ฤดูกาลที่ 9] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 5 ผลงานรวมปี 2009/2010

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 411
      3
      30 มิ.ย. 58

    สรุปรวมฤดูกาล 2009/2010 - ปีแห่งความล้มเหลว


    เปิดตัวมาเหมือนจะดีคือ ทีมขยายสนามอีกนิด
    ได้มา 3400 ที่นั่ง ทำให้จุได้สูงสุดขึ้นมาที่ 20850 คน ก็ดีขึ้นมาอีกหน่อย

    ภาพรวมการซื้อขายก็เหมือนจะดี
    โดยเฉพาะการขายที่เป็นไปตามนโยบายหลังจากแข่งได้ราวๆ 1/3 ของฤดูกาล

    เหตุที่ทำให้ต้องเรียกว่าความล้มเหลวก็เพราะจู่ๆผลงานภาพรวมก็ตกไปมากเลย จากที่ขึงเกมใส่คู่ต่อสู้บ่อยๆ แม้เจอทีมแกร่ง ปีนี้ก็ขึงได้บ้างไม่ได้บ้าง
    จากที่ควรยิงประตูมากใกล้เคียงกันก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด 
    จากที่ไม่ควรเสียประตูก็เสียแบบง่ายเหลือเชื่อ ปีนี้เซนเตอร์ฟอร์มตกลงที่สุด กระทั่งคู่หูชาวกรีซที่ฝากแผงหลังไว้มาหลายปีก็ตกราวรูด

    ผลก็คือปีนี้จบที่อันดับ 2
    เสียแชมป์ให้ลิเวอร์พูลไป แถมยังโดนแมนยูแซงไปจนถึงนัดสุดท้าย
    เรียกได้ว่าอยู่อันดับ 3 มาเกือบทั้งฤดูกาล


    ปีนี้ก็ต้องยอมรับอย่างว่าลิเวอร์พูลมาแรงจริงๆ จนท้อเลยด้วยซ้ำ 20 นัดสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นเลย เสมอแค่ 3-4 เกมเองด้วยซ้ำ นำห่างก็ห่างแบบขาดไป ช่วงหนึ่งนำห่างทีมเราไปมากกว่า 11 แต้มเลยทีเดียว
    จนเกือบถอดใจ แต่ท้ายๆฤดูกาล ลิเวอร์พูลก็สะดุด 3-4 นัดไล่ๆกัน พอเราฮึดหน่อยก็เกือบแซงแล้ว แต่ก็อย่างที่บอก เจอความห่วยของทีมที่จริงๆก็เริ่มออกแววจากปลายฤดูกาลก่อนเลยงาน ผลที่สุดก็ไม่ทัน..

    เสมอ 7 แพ้ 4 นี่พูดได้เลยว่าหลายนัดไม่ควรแพ้ แต่เหมือนถูกปล้นกันมากกว่า... เช่น
    เสมอพอร์ทมัสท์ โกล์ฟอร์ม 9


    แพ้เชลซี โกล์ 9 หลัง 9 กลาง 9 ปีก 9
    และที่น่าเคืองคือยิง 3 เข้า 3 ทางเรายิง 11 เข้า 2...


    เสมอนิวคาสเซิ่ลที่ตอนนั้นผลงานสุดแย่อยู่โซนตกชั้น
    เก่งฉิบ... จากฟอร์มห่วยก็มาได้ 10 กัน 2 คนเลย แล้วนัดต่อไปก็ดันสะดุดเหมือนกับเป็นคนละคน


    นัดเสมอซันเดอร์แลนด์ ยิงเข้ากรอบ 11 ลูกแปรเป็นประตูไม่ได้สักลูก
    แน่นอนว่าโกล์ MOM


    นัดแพ้ลิเวอร์พูลคาบ้าน เป็นอะไรที่โมโหสุดๆ อีกฝ่ายยิงเข้ากรอบ 3 เป็นประตู 2 ทันที ขณะทางนี้เข้ากรอบเท่ากันไม่ได้สักประตูล
    จุดเปลี่ยนก็ไม่ใช่อะไรอื่น ใบแดงครึ่งแรก กับความห่วยของโกล์นั่นล่ะ ไม่งั้นถ้านัดนี้จบที่เสมอ แชมป์คงเปลี่ยนมือไปแล้ว


    ยังๆ ยังไม่หมด
    นัดแพ้แมนยูสุดยอดความห่วย ประตูเล่นได้ 4 แข่งจบเจอปรับยับ มีอย่างที่ไหนแมนยูยิงเข้ากรอบ 3 เป็นประตูหมด
    ทางเรายิงเข้ากรอบ 7 ได้มาแค่ 1


    นัดที่เสียดายที่สุดคือนัดนี้ เจอแบล็กเบิร์นโดยที่ถ้าชนะนัดนี้จะแซงทั้งแมนยู และลิเวอร์พูลขึ้นที่ 1 โดยที่เหลือการแข่งขันแค่ 2 นัด โดยที่ทั้งหมดแข่งในบ้าน
    พูดอีกอย่างคือชนะได้ก็ได้แชมป์ไปค่อนตัวแล้ว แต่ผลน่ะเรอะ..
    โกล์ MOM อีกนั่นล่ะ รวมถึงกลางฟอร์ม 9 ด้วย 


    ส่วนบอลถ้วยเรอะ
    ชวดเกือบหมด...

    ชาลิตี้ชิลด์ก็แพ้จุดโทษแมนยู
    ในเกมก็ลุ้นตีเสมอแทบตาย
    ตัวเลขนี้คงไม่ต้องบอกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำ(หรือการถูกปล้น) ของทีมในปีนี้


    UCL ก็จวนเจียนตั้งแต่แบ่งกลุ่มแรกเลย
    นัดแรกก็เสมอแบบบ่นได้คำเดียวว่า อะไรวะ...!?


    นัดต่อมาเจอบาเยิร์นนี่ เป็นอะไรที่โกล์เจ็บหนักมาก
    เจ็บจริงๆ จบนัดนี้เจอปรับไปบานข้อหาฟอร์มห่วยแตก และโดนดรอปยาว
    คะแนนขนาดนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ยิง 4 เข้า 4... ทางเรายิง 8 ได้แค่ 3

    ยังดี 4 นัดที่เหลือชนะรวดได้เลยเบียดอันดับ 1 ไปรอบต่อไป


    แต่รอบต่อไปนี่นัดแรกมาก็เฮงซวยเลย
    เสมอไฟร์บวก
    เห็นได้ชัดเลยทางนี้ได้ฟอร์ม 5 ทางโน้น 9+ MOM


    เสมอยูเวนตุส
    แน่นอนว่าประตูต้องได้ MOM ไม่ได้ถือว่าผิดผีของฤดูกาลนี้ จะเอาแต้มทีมเรามันต้องอะไรแบบนี้
    ยิง 2 ได้ 1 ส่วนเรายิง 7 ได้ 1 เท่ากับ


    กระทั่งบาเซโลน่าก็เอาด้วย
    9 ทั้งโกล์ทั้งกองหน้าเลย


    ตัดกันไปตัดกันมา สุดท้ายตกรอบแบบที่โหลเลยทีเดียว
    ยิงเยอะสุดในกลุ่มแต่ที่โหล่...
    ไม่แปลกใจเลยคือบทชนะนี่คือเขื่อนแตกครับ รับไม่อยู่ แต่บทนี่คือยิงน้อยแต่เข้าหมด แบบที่บ่นนั่นล่ะ 


    ส่วน FA Cup ก็ตกรอบ 4 นัดเจอเชลซี
    โดนคาบ้านเลยทีเดียว
    อ้อ... เชลซียิงเข้ากรอบ 3 เป็นประตู 2 เหมือนรูปแบบเดิม ส่วนทางนี้เข้ากรอบ 4 ประตู 0
    ผู้รักษาประตูมือ 1 เจ็บ พอส่งสำรองมาก็ได้ 9 เลยทีเดียว


    ยากครับ 
    แก้เกมในสิ่งที่เราพลาดยังง่ายกว่า แต่ถ้าอีกฝ่ายฟอร์มเทพจุตินี่แก้ยากมาก

    ปีนี้ยังพอมีอะไรปลอบใจได้บ้างกับ ลีคคัพ ที่ห่างเหินไปนาน
    ปีนี้บดไปถึงรอบชิงแล้วชนะสเปอร์มาได้ในที่สุด
    รูปเกมสูสี แต่เฉือนมาได้แล้วยิงซ้ำให้ขาด ก็ได้มา 1 ถ้วยในฤดูกาลนี้



    ปีนี้นี่พูดจริงๆเลยว่าเป็นปีที่คุมแล้วหงุดหงิดที่สุด เพราะประเภทอีกฝ่ายฟอร์มเทพแบบจู่ๆก็จุติลงมาเกิดนี่ ไม่รู้จะแก้เกมยังไง มันไม่เหมือนเกมตัน แล้วปรับๆไปจนเข้าที่
    แถมทีมก็โดนใบแเดงโง่เง่าบ่อยๆ ตัวหลักก็เจ็บ ตัวที่เหมือนแทนที่ได้ก็แทนไม่ได้ ตัวแก่เริ่มฟอร์มตก

    เลยทำให้รู้สึกว่าคงต้องสังคายนาทีมกันอีกครั้งแล้วล่ะ อย่างน้อยถ้านักเตะมีประสิทธิภาพและโรเตชั่นได้ มันก็คงพอพลิกหลายนัดได้บ้าง
    ตอนแรกว่าจะจบที่ฤดูกาลนี้ สงสัยต้องลองปรับระบบอีกสัก 4-5 ปีดูกันก่อน

    เริ่มต้นจากการซื้อตัวนักเตะเลยว่าช่วงต้นฤดูกาลยังใช้นโยบายเดิมอยู่ แต่พอปลายฤดูกาล มีเงินก็ใช้เงินล่ะทีนี้ เอาตัวลูกรักมาได้คน ที่เหลือก็เซ็นต์ถูกพลังดี แต่ขอดูฟอร์มหน่อย ไม่เข้าทีมก็ขาย ซึ่งแน่นอนว่าลดช่วงอายุมาเป็นหนุ่มๆแล้ว อย่างน้อยก็ใช้งานได้นานกว่าเดิม และอาจขายได้เงินดีกว่าพวก 30+
    และด้วยเหตุนี้ยอดการใช้เงินก็ทุบสถิติที่ผ่านมาไปขาดลอยล่ะ 23.5m กันเลย


    แต่เห็นใช้เยอะแบบนี้ผมก็ยังบริหารแบบเกินดุลนะครับ เพราะนโยบายลดอายุนักเตะ และลดเพดานค่าเหนื่อย ปีนี้เลยมีนักเตะปล่อยออกมไปมาก และโชคดีที่มีทีมมาซื้อไปง่ายๆ
    ปีนี้ก็เลยทำสถิติขายนักเตะเป็นประวัติการ และน่าจะไม่มีปีไหนทุบสถิติได้อีกแล้วล่ะ
    ขายไป 80m ครับ
    ตัวที่ทำเงินเยอะสุดคงเป็น ซานตา ครูซ ที่ผมเซ็นต์มาฟรี แต่ปล่อยให้ฮัมบูร์กไป 16.5m แบบกำไรสุดๆ 


    นั่นล่ะครับที่มาของคำว่ามีเงินให้ใช้ก็ใช้ไป 
    แถมปีนี้นอกจากขยายสนามแล้วปลายฤดูกาลก็ยังพัฒนาระบบศูนย์ฝึกสำเร็จด้วย หมดเงินไปพอตัว แต่ตอนนี้ทีมก็มีศูนย์ฝึกและศูนย์เยาวชนครบเทียบเท่าทีมยักษ์ใหญ่อย่างแมนยู ลิเวอร์พูล นิวคาสเซิ่ล
    ถ้าถามว่ายังขาดอะไรอีก ก็ตอบง่ายๆเลย ขนาดสนามไงครับ แล้วก็พวกระบบละลายหิมะ อะไรพวกนี้
    จริงก็อยากให้มีหลังคาเปิดปิดได้แบบพวกบาเยิร์น หรือ อาแจ๊กซ์ แต่คงยากเพราะภาคนี้ขออะไรยากกว่าภาคหลังๆ ถึงแม้จะหาเงินให้สโมสรได้มากมายก็เถอะ

    ส่วนปรับระบบทีม ซื้อนักเตะเน้นจุด ลดจำนวนโรเตชั่นเพื่อให้เค้นฟอร์มให้เต็มที่แล้ว
    ผลจะเป็นยังไง คงต้องไปดูต่อกันฤดูกาลหน้าล่ะนะ ฤดูกาลนี้ขอใช้เงินกับตัวที่อยากได้ก่อนละกัน ปั้นได้ปั้น ปั้นไม่ได้ก็ซื้อ 




    ส่วนท้ายฤดูกาลก็มีบอลโลกครับ
    และดูเหมือนว่าความเฮงซวยอับโชคเรื่องดวงจะตามผมมาถึงกระทั่งแมชต์ทีมชาติ...

    อุตส่าห์ผ่านรอบคัดเลือกแบบคะแนนขาด แต่จับฉลากอยู่สายเดียวกับ โปรตุเกส เยอรมนี และ รัสเซีย...
    แบบนี้เข้าที่ 2 ตอนรอบคัดเลือกจะดีกว่าไหม...? อย่างเม็กซิโกเนี่ย ประกบคู่แล้วได้เจอกับ อุรุกวัย โรมาเนีย สเปน
    หรือที่ 3 แบบแคนาดา ได้เจอกับจีน กรีซ บราซิล

    อยู่สายนี้นี่ไม่รู้จะลุ้นอะไรเลย
    นัดแรกมาก็เกือบตายเสมอโปรตุเกส 1-1
     
    โกล์อีกฝ่ายก็มาทีม Northwich เรานี่ล่ะ ดันเหนียวไม่รั่วยิง 2 เข้า 2 แบบในลีคฟะ...


    นัดสองเจอรัสเซีย ที่เพิ่งชนะเยอรมันแบบถล่มทลาย มา 6-0 น่าเหลือเชื่อมากครับ แต่ก็พอเป็นไปได้เพราะเยอรมันถูกไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 5 และโกล์ฟอร์ม 5...
    ก็หวังว่าขอแอบชนะเถอะ จะได้เหนื่อยน้อยหน่อยในนัดที่ 2
    แต่ก็ไม่เลย...
    แพ้ 1-0 แบบใบแดง 2 ใบ... พูดจริงๆว่าถ้านี่คือนัดในสโมสร เจ้า 2 คนที่โดนใบแดงแบบไม่มีเหลืองคั่นนี่โดนคนละ 4 อาทิตย์แต่ๆ จะปรับค่าโง่แบบไม่ต้องเอาเงินทั้งเดือนเลย นัดสำคัญแบบนี้ทำไมไม่คิดก่อนทำว่าเหลือคนน้อยกว่าจะเอาอะไรไปสู้


    แล้วนัดสุดท้ายที่เจอเยอรมัน ก็ไร้ซึ่งปาฏิหาริย์
    ตรงข้ามเจอความอัปรีย์เล่นงานอีก ด้วยใบแดงในสภาพที่ทีมกำลังได้เปรียบ
    โกล์กับหลังก็โคตรฟอร์มเข้าฝัก แถมลูกแรกที่ผมยิงได้ก็ดันล้ำหน้าอีก


    สุดท้ายบอลโลกปีนี้ตกรอบแต่หัววันเลย ทั้งที่เบียดชนะสักทีมก็มีโอกาสได้เข้ารอบแล้วแท้ๆ (ประตูได้เสียดีกว่าโปรตุเกส)
    ทำเต็มที่แล้ว แต่เรื่องอีกฝ่ายฟอร์มเทพนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ ยิ่งอเมริกามีนักเตะที่เลือกมาใช้ได้น้อยสุดๆเป็นทุนยิ่งแล้วใหญ่


    บอลโลกก็จบที่ฮอลแลนด์ชนะเวลล์ไป 2-1 ได้แชมป์โลกไป
    แต่ดูเหมือนผมจะไม่ถูกอเมริกาไล่ออกแฮะ ก็ว่ากันต่อไปในรอบคัดเลือกล่ะนะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×