Diary CM01/02

ลำดับตอนที่ #7 : [ฤดูกาลที่ 5] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 1 มหกรรมบอลโลก

ปี 2005/2006 ที่ยาวนาน

 

หลังจากปิดฤดูกาลไปแล้ว แต่งานของผมยังไม่จบ เมื่อมีรายการบอลโลกให้ต้องกรุยศึกต่อ

 

ประสบการณ์ทีมชาติเองก็มีอยู่ แต่ไม่ใช่กับสิ่งที่เป็นอยู่แน่ๆ

เพราะหลังจากที่อเมริการับให้คุมทีมชาติแล้ว ทีมก็ไม่ได้มีการแข่งกระชับมิตรเลย นั่นคือนัดแรกที่ต้องแข่งก็คือบอลโลกในทันทีเลย กับนักเตะที่เกือบทั้งหมดไม่รู้จักหน้าตา คัดมาด้วยผลงานและพลังล้วนๆ

 

U.S.A. อยู่ใน Group A ที่มี Denmark  Paraguay และ Czech

เป็นสายที่หินจริงๆ แถมทีมเหมือนจะไม่มีความพร้อมเลย เป็นการลองนักเตะในการแข่งขันจริง

 

และนัดแรกของ U.S.A. ก็เจอกับ ปารากวัย

ระบบแผนยังใช้แผนเดิม ส่วนนักเตะก็มีแต่ต้องเชื่อมั่นล่ะนะ

 

ผลการแข่งก็ออกมาน่าพอใจ แต่ก็กดดันเอาเรื่อง เพราะ 3 นัดไม่มีอุทฑรณ์ ฎีกา ตกรอบแล้วตกรอบเลย
 

แต่นัดแรกก็เอาตัวรอดมาได้ด้วยสกอร์ 2-1

แม้ว่าภาพรวมจะเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ที่ต้องบอกว่าเอาตัวรอดก็เพราะ 3 แต้มยังไงก็สำคัญกว่า 1 แต้ม อีกทั้งยังจะตัดแต้มทีมคู่แข่งด้วยนั่นเอง

 

นัดสองเจอกับเช็ค ก็สู้กับทีมหินอีกทีม

เปิดเกมมาน่าตบหัวเซนเตอร์มาก เมื่อเล่นไปแค่ 9 นาที แต่กลับไม่ระวังเข้าบอลสองเท้าและเจอใบแดงออกไปแต่ไก่โห่

แต่วิกฤตก็คือโอกาสถ้าผ่านมันไปได้ เพราะเมื่อเหลือ 10 คน เชคก็จะเล่นเกมรุกกว่าเดิม นั่นคือโอกาสสวนกลับและช่องว่างก็มากขึ้น ก็เลยเปิดหน้าแลกกัน และกองหน้าที่ผมเลือกมาก็เน้นที่รุกเก่งๆเป็นหลักเสียด้วย

พอเดิมพันวัดดวงกันแล้ว ผลก็ออกมาแบบคาดไม่ถึง เมื่อสามารถเอาชนะขาดลอยได้ถึง 5-1 เลยทีเดีย

 

2 นัด 6 แต้ม 

ส่วนปารากวัยก็แพ้เดนมาร์ค ทำให้ผลขาดไปแล้ว ที่เหลือก็คือศึกชิงที่ 1 เท่านั้นเอง

 

ในนัด 3 เจอกับ Denmark ก็... จัดทีมแบบกึ่งโรเตชั่นนิดหนึ่ง เพราะมีทั้งเจ็บและโดนแบน

ผลก็ออกมาแพ้ไป 3-2

ต้องบอกเลยว่ารูปเกมดีกว่าเห็นๆ แต่หลังเหนียวเป็นบ้า ส่วนทางเราก็ห่วยบัดซบ โชคดีแล้วที่เป็นทีมชาติ เพราะถ้าเป็นสโมสรเล่นแบบนี้ โดนปรับแน่ๆ 

 

แล้วผลของการเข้าที่สอง พอจับคู่รอบต่อมาก็... นะ...

เจอ อาร์เจนติน่า

 

แต่แล้วพอวันแข่งจริง วันที่ 26 มิถุนายน 2006 ณ สนาม AWD-Arena Hannover

บอลลูกกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ กับแผนรุกและนักเตะที่สนองกับแผนได้ 

 

เกมงัดไปมา จนนาทีที่ 19 เท่านั้น Carrieri ศูนย์หน้าจาก Colorado ก็ยิงนำให้ก่อน

แต่อาร์เจนติน่าก็ไม่ใช่ทีมทั่วไป นาทีที่ 57 ตัวรุกระดับโลกจากบาร์เซโลน่าก็ยิงตีเสมอให้เป็นผลสำเร็จ
 

แต่แล้วนาทีที่ 75 Carrieri  คนเดิมก็ซัดประตูที่ 2 และเป็นประตูให้ทีมชนะอาร์เจนติน่าเข้ารอบได้อย่างหักปากกาเซียน

และจาก 2 ประตูที่ว่าก็ทำให้ Carrieri  ขึ้นนำดาวซัลโวไปชั่วคราวแล้ว

 

 

หลุดจากอาร์เจนติน่ามาได้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายก็ยังมีงานหนักรออีกนั่นก็คือ เยอรมนี เจ้าภาพ..

ก็สู้กันอีกสักตั้งละกัน

 

แต่ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง...

ทีมมาได้ไกลสุดที่รอบ 8 ทีมเท่านั้น หลังจากแพ้ให้กับเยอรมนีไป 2-1 

รูปเกมค่อนข้างสูสี แต่ก็เป็นรองบ้าง ซึ่งทำว่าบ้างนี่ล่ะที่ทีมยักษ์ใหญ่ นักเตะดีๆจะใช้มันสร้างจุดเปลี่ยนได้... สำหรับอเมริกาแล้ว คงต้องยอมรับความพ่ายแพ้และชมเชยว่าเก่งมากแล้วที่มาถึงจุดนี้ได้

 

แล้วรอบชิงก็ได้ผู้ชนะคือ อิตาลี ที่ชนะ ฮอลแลนด์ไปถึง 5-0 ด้วยกัน

ส่วนที่ 3 ก็คือเดนมาร์กที่ชนะเยอรมันไป 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

 

ก็ถือว่าแผนใช้ได้ดีกระทั่งกับทีมชาติ 

ดาวซัลโวสูงสุดในรายการนี้ยิงไป 7 ลูก ที่สองยิง 5 ลูก ก็ห่างพอตัวเลย ทั้งที่ตกรอบไปก่อน

พลังไม่เด่นเลย แต่ผลงานยอดเยี่ยม

 

ก็ปิดฉากบอลโลกและฤดูกาลนี้ไปเพียงเท่านี้