ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Diary CM01/02

    ลำดับตอนที่ #5 : [ฤดูกาลที่ 5] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 1 การดิ้นรนและสร้างผลงาน

    • อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 58


    ปีแห่งการต่อสู้และไขว่คว้า พรีเมียร์ลีค - ฤดูกาล 2005/2006


    คุมทีมมา 5 ปีแล้ว เหมือนนานแต่ก็ไว เพราะทีมไม่หยุดนิ่งกับที่เลย จากแรกสุดที่เริ่มต้นในปี 2001/2002 จากลีคภูมิภาค ปีนี้ Northwic Victoria ก็ได้มายืนในเวทีของสุดของลีคอังกฤษแล้ว

    ไม่ใช่งานง่ายแน่นอน เพราะไวเกินไปนี่ล่ะ ทีมจึงยังไม่ได้ก่อร่างสร้างตัวได้แน่นพอ ทั้งฐานแฟนบอล และสนามที่ความจุน้อยมากๆ น้อยที่สุดของพรีเมียร์เลย...

    ขณะที่ทีมใหญ่ๆสามารถจุคนดูได้ 20-50k กันสบายๆ แต่ทีมเรากลับรองรับได้แค่ 15k เท่านั้น...
    มองโลกแง่ดี คนดูก็เต็มสนามทุกนัดที่แข่งในลีคล่ะนะ


    มาดูตัวนักเตะเข้ากัน
    ขึนชื่อว่าพรีเมียร์แล้ว ยังไงก็ต้องหานักเตะโหดๆไว้ในทีมตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งผมเองก็มีนักเตะประเภท 'ลูกรัก' อยู่เหมือนกัน
    อย่างว่าเล่นเกมนี้มาหลายปี หลายรอบแล้ว ยังไงก็ต้องมีนักเตะที่ไม่ว่าจะไปเล่นทีมไหนก็ต้องพาเขามาร่วมทีมให้ได้อยู่


    แต่ 5 ปีผ่านมานักเตะที่ว่าก็ย้ายไปอยู่ทีมอื่นกันหมดแล้ว ราคาก็สูงตามไปด้วย ฤดูกาลนี้กับทีมหน้าใหม่จึงดึงลูกรักมาได้ 2 คนนั่นคือ
    Skalidis

    โคตรกองหน้าที่เป็นลูกรักตลอดกาลจริงๆ ที่ผมจับเล่นแผนไหนก็ยิงได้หมด


    และ ตามด้วยแบ็กซ้ายที่มาด้วยกันเสมอๆ Kalogelas

    ซึ่งรายนี้เซ็นต์แบบสัญญาไม่ปกป้อง คือต้องจ่ายเงินให้สโมสรต้นสังกัดอยู่ แต่สามารถเจรจากับนักเตะได้เลย ไม่ต้องรอสโมสรอนุญาต
    แต่ด้วยการเซ็นต์ลักษณะนี้ นักเตะจึงมาช่วงกลางธันวาคมโน้นเลย... ช่วงนี้ก็ใช้นักเตะชุดเก่าไปก่อน


    หลักๆแล้วก็มีนำเข้ามาหลายคนอยู่



    เหมือนจะหว่านซื้อ แต่ก็ผสมไปล่ะนะครับ
    คือชุดบนคือซื้อตามใบสั่งของผู้จัดการเลย

    ที่เหลือแล้วแต่จังหวะจะเอื้อ เช่นราคากับพลังไปกันได้ก็ลองเอามา
    หรือบางคนที่เป็นนักเตะไม่เชิงลูกรัก แต่เคยใช้มาก่อนแล้วคิดว่าแก้ขัดได้ดี แล้วเมื่อราคากำลังงามก็สอยมาก็เช่นคนนี้

    Vagas แบ็กทีมชาติชิลี


    การซื้อตัวปีนี้จึงกลายเป็นประวัติการสโมสรครั้งแรก ขณะที่ปีก่อนใช้แค่หลักแสน มากสุดก็ล้านหน่อย แต่ปีนี้กดไป 8.25m แล้ว

    ขณะที่ขายออกไปก็ได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับดุลการใช้จ่าย

    ขายได้ 2.5m ภาพรวมติดลบแดงเถือก


    แต่ก็ต้องทำครับ ถ้าไม่เสริมทีมก็ไม่แข็งแกร่งพอ หากคิดจะหวังไปให้ไกล อย่างน้อยกลางตารางก็ต้องหามาเพิ่ม ซึ่งปกติแล้วผมนิยมพวกดาวรุ่งมากกว่า
    แต่ทีมขึ้นมาหมาดๆยังไงก็ต้องมีตัวเก๋าหรือพร้อมใช้ไว้ให้เพียงพอ ซึ่งในบรรดาที่ซื้อมาก็มีเข้าตาอยู่ 2 คน

    Miccoli

    ปีกสัญชาติอิตาลี


    และ Bolic

    กองหน้าตัวรุกจากบอสเนีย

    ผลงานไม่โดดเด่น แต่ว่าก็ยิงหรือจ่ายให้ได้ประตูชัยหลายนัดเลย
    ใช้แก้ขัดได้ดี แล้วปีหน้าที่ทีมมีชื่อเสียงและขนาดใหญ่ขึ้นก็น่าจะดึงดูดนักเตะแกร่งมาเสริมได้อีก


    โดยรวมก็ถือว่าซื้อตัวมาได้น่าพอใจดี
    แต่ทว่าดราม่าเริ่มตั้งแต่ตอนแรกเลย
    Skalidis ที่หมายมั่นปั้นเหมาะว่าจะมาเป็นกำลังหลัก ก็เจ็บตั้งแต่นัดกระชับมิตรเลย

    ลงมาสำรองครึ่งหลังแล้วก็เจ็บ อาการแปลกๆเลยส่งให้แพทย์สโมสรดู ก็พบว่าเขาเจ็บเรื่องรังอยู่แล้ว ต้องส่งไปผ่าตัดซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือน

    4 เดือน...
    นั่นหมายถึงกว่าเขาจะกลับมาก็เดือนธันวาคมเข้าให้แล้ว
    กองหน้าที่คิดว่าจะมาเพื่อสร้างความแตกต่างก็ได้เจ็บเข้าให้แล้ว จึงต้องฝากฝังกับกองหน้าผลงานดีสมัยดิวิชัน 1 อย่าง Gislason กับ Phillips


    ทีมกลับมาเป็นรองอีกครั้ง แต่ผลงานก็ดีอย่างน่าปรบมือ
    3 นัดเก็บได้ถึง 7 แต้ม!
    แถมที่ชนะได้ 2 นัดแรกก็มาจากผลงานทีมเยือนเสียด้วย

    และยังชนะต่อในยูโรป้าลีคนัดคัดเลือกถึง 5-0
    ทุกอย่างเหมือนจะดูดี

    แต่ทว่าพอนัดที่ 4 ในลีคที่ต้องเจอกับอาร์เซน่อลแล้ว ความแตกต่างระหว่างทีมเล็กกับทีมใหญ่ก็ปรากฎชัดเจนจริงๆ
    เมื่อถูกถล่มไปถึง 1-5 คาบ้าน... แล้วก็แกว่งอีก 2 นัดคิดกันคือเสมอโบลตันในบ้าน แล้วไปแพ้แมนยูนอกบ้าน
    3 นัดต่อมาเก็บได้แค่ 1 แต้มเท่านั้น...



    ผลงานเรียกได้ว่าแกว่งครับ
    คือทีมรับแย่มาก แต่ทีมรุกก็ขึ้นกับจังหวะ ถ้ายิงนำได้ก็พอประคองได้ มีลุ้นชนะหรือเสมอ
    แต่ถ้าเกิดโกล์อีกฝ่ายฟอร์มมาก็อาจเสมอหรือแพ้ เพราะแผงหลังกับกลางยังไม่นิ่งเลย ผู้รักษาประตูเองก็ฝากผีฝากไข้ไม่ได้ขนาดโรเตชั่นก็ยังเสียบานน้ำกันทั้งคู่ เป็นอีกจุดที่ต้องเสริมมากๆในปีหน้า

    แต่ช่วงแรกๆก็ประคองไหวอยู่ ถึงมีแพ้มีเสมอ แต่อันดับก็ยังไม่ตกเกินไป
    จนฝืนมาได้ถึงธันวาคมที่ได้ Skalidis กลับมา และ Kalogelas ก็ย้ายมาเสริมพอดี ก็อุดรูโหว่ไปได้อย่างน้อยๆ 2 ตำแหน่งคือหน้ากับซ้าย
    กลางรับยังหวังพึ่ง Lee Andrew ส่วนหลังก็พอพึ่งเซนเตอร์อย่าง Vagas ได้บ้าง แต่ก็มีเจ็บมีแบนให้ปวดหัวเป็นระยะๆ

    เซ็นเตอร์นี่เป็นอะไรที่โรเตชั่นไม่แพ้โกล์ นอกจากเหตุผลข้างต้นก็ยังมีเรื่องฟอร์มไม่นิ่งด้วย เซ็นต์ใครมาดันใครมาก็ไม่ค่อยลงตัว

    จนแมวมองไปเจอเจ้าหนู Stuart MacDonald คนนี้

    ผมก็เลยซื้อมาด้วยสนนราคา 110k แต่ด้วยอายุและผลงานแล้ว น่าจะถือว่าเป็นตัวที่คุ้มค่ามากตัวหนึ่งของฤดูกาลนี้เลย


    เช่นนั้นแล้วพอเข้าสู่ปลายธันวาคม และขึ้นปีใหม่มา ผลงานก็เข้ารูปเข้ารอยเสียที คือได้แต้มมากกว่าจะเสียแต้ม
    คือพอจะหวังเบียบดชนะทีมกลางๆตารางได้แล้ว เล่นบ้านตัวเองก็มีโอกาสมากขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังสู้กับทีมหัวตารางใหญ่ๆ อย่าง อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล แมนยู นิวคาสเซิ่ล ไม่ได้สักที คือลุ้นเสมอนี่ก็เหนื่อยสุดๆแล้ว เว้นแต่ดวงให้จริงๆ ถึงจะบดได้



    และทีมก็ขยับจากพื้นที่กลางตารางขึ้นมา
    ซึ่งก็ไม่ใช่พื้นที่ยูโรป้าคัพเท่านั้น แต่ยังสูงถึงพื้นที่ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีคเลย

    และช่วง 1-2 เดือนก่อนปิดฤดูกาลทีมมีโอกาสลุ้นแชมป์เลยด้วยซ้ำ เพราะห่างจากแมนยูหัวตารางเพียงแค่ 2 แต้มเอง...


    แต่สภาพทีมที่แตกต่างก็ส่งผลถึงการยืนระยะ ในช่วงท้ายก็จึงมีแผ่วไป จนถูกทิ้งห่างไปอีก
    และเมื่อครบ 38 นัด Northwich Victoria ก็จบในอันดับที่ 4 พื้นที่สู่ UCL ที่ไม่คาดคิดมาก่อนเลยจริงๆว่าขึ้นมาปีแรกแต่ก้าวมาได้ไกลขนาดนี้



    เกมรุกจัดจ้านมาก ประตูยิงมากกว่าทุกทีมในลีค สะท้อนแผนการบุกจริงๆ
    แต่ว่าเกมรับก็ยวบจนน่าอนาถไม่แพ้กัน 11 อันดับบนตาราง ทีมเราเป็นทีมที่เสียประตูเยอะที่สุด เป็นอะไรที่ต้องปรับต่อไป

    ผลงานการรุกต้องยกเครดิตให้ Skalidis จริงๆ

    ดาวซัลโวแทนคำตอบทุกสิ่ง


    แต่นักเตะคนอื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยกันยิงยามที่ Skalidis เจ็บ เล่นไม่ออก หรือโรเตชั่น

    กระจายบทบาทกันไป


    เป็นการจบฤดูกาลที่น่าจะประทับใจทั้งนักเตะ แฟนบอล และสโมสรกันไป นอกจากจะไม่ต้องลุ้นตกชั้นแล้ว กลับมาได้ลุ้นแชมป์แทนซะงั้น

    มีช่วงที่บดกับทีมแชมป์กันอย่างสนุกเสียด้วย สู้ตายสุดแรงเกิด


    ภาพรวมก็สร้างสถิติที่น่าสนใจหลายอย่างเลย

    - ทีมที่ทำประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีค  (91 ลูก)
    - นัดที่ผู้ชมน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีค (เจอ Bristol C จำนวน 14951 คน) (ก็ไม่ถือว่าน้อยนะเมื่อเทียบกับสนามที่จุได้ 15000 คน)
    - กองหน้าที่ทำประตูได้มากที่สุด (Skalidis 34 ลูก)
    - นักเตะผลงานดีที่สุด (Skalidis 8.71)


    ส่วนตัวผมก็ได้รางวัลผู้จัดการทีมประจำปีของพรีเมียร์ลีคไป



    ผลงานในพรีเมียร์ลีคปีแรกจึงจบกันไปเพียงเท่านี้
    แต่ว่าผลงานอื่นๆยังไม่หมดนะครับ สิ่งที่ทำให้ถูกเรียกว่าปีแห่งการต่อสู้และไขว้คว้าไม่ได้จบที่พื้นที่ UCL เท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอื่นที่น่าประทับใจอยู่



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×