คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : New World
KELfer Online
ตอน 02 - New World
------------------------------
กันยา รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกำลังอยู่ในสภาพจำศีล…
ทั้งที่รอบตัวนั้นมืดมิดจนไม่เห็นอะไรเลย แต่กลับไม่มีความรู้สึกชวนตระหนกใดๆ ตรงข้ามมันกลับสงบนิ่ง ไม่มีความหิว ไม่มีความกระหายใดๆ รู้สึกเพียงแค่เรื่องเดียวคืออยากจะนอนไม่ตื่นแบบนี้ไปอีกนานเท่านาน...
จนกระทั่งถึงช่วงเวลาหนึ่ง... จู่ๆแล้วกันยาก็สัมผัสได้ถึงแรงลมอ่อน มันพัดโชยกลิ่นใบหญ้า แซมด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ กลิ่นแห่งธรรมชาติที่ไม่ได้สัมผัสมานานมาก
พอจมูกตื่นตัวขึ้นมา ร่างกายก็เหมือนตอบสนองมากขึ้นเรื่อยๆ กันยาเริ่มง่วงน้อยลง เปลือกตาเปิดอ้าขึ้นเอง รู้ตัวอีกทีก็ลุกขึ้นมานั่งแล้ว...
กลิ่นอายแห่งธรรมชาติปลุกเร้าร่างกายให้มีชีวิตขึ้นอีกครั้ง... เขาอยากลองลุกขึ้นไปดูต้นตอของลมและกลิ่น แต่ติดที่ว่ารอบข้างนั้นมืดไปหมด ทำได้ก็เพียงแค่เปลี่ยนท่าจากนอนมานั่งเท่านั้น
แต่ทว่าไม่กี่อึดใจให้หลังจากที่เปลี่ยนอิริยาบท เขาก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกพาตัวไปสักที่ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ขาเขายังอยู่ท่าเดิม แต่ร่างกายนั้นกลับเคลื่อนไหวไปเอง ราวกับกำลังนั่งอยู่บนรางเลื่อนที่มองไม่เห็นในความมืดนั้น
มันเป็นปรากฎการณ์เหมือนฝัน กอปรกับความคิดยังไม่เข้าที่ดี กันยาเลยไม่ได้รู้สึกกลัวอย่างที่ควรจะเป็น ตรงข้ามกลับสนใจว่าการนำพาที่มองไม่เห็นนี้จะพาเขาไปยังจุดได้
ความเร็วในการเคลื่อนที่นั้นเริ่มต้นจากช้า และค่อยๆเร็วขึ้นตามลำดับ ยิ่งทีลมที่พัดมาก็ยิ่งแรงขึ้น กลิ่นอายธรรมชาติและกลิ่นแดดก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น จากรอบข้างที่มืดมิดก็เริ่มเห็นจุดสว่างปรากฎขึ้นเป็นจุดเล็กๆห่างไกลออกไป
"นี่มัน...?" กันยาเพ่งมองสงสัย แต่ใจหนึ่งก็เริ่มรู้สึกว่าตนกำลังจะหลุดพ้นจากความมืดมิดนี้แล้ว เขาหลับตาลงพลางกางแขนเตรียมรับสัมผัสแห่งการมีชีวิตที่กำลังจะมาถึง
เมื่อระยะทางใกล้จุดหมาย ภายใต้ดวงตาที่ปิดสนิทก็สัมผัสถึงแสงสว่างได้มากขึ้น จนกระทั่งถึงจุดสิ้นสุดของความมืดแล้วนั้นเอง กันยาก็ลืมตาขึ้น ภาพเบื้องหน้ามีแต่แสงสว่างอัดเจิดจ้า... มันไม่ได้ให้ความรู้สึกปวดตาแต่มันเป็นความรู้สึกเหมือนได้หลุดพ้นและเริ่มต้นใหม่ของชีวิตอีกครั้ง...
...............................................
แสงเจิดจ้าราวกับถูกสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่จากทุกทิศส่องจนต้องยกมือปิดหน้า แต่ช่วงสั้นๆเท่านั้น ความสว่างก็ลดระดับลงในทันใด เช่นเดียวกับดวงตาก็เริ่มคุ้นสภาพของแสงรอบตัวแล้ว
เพียงแค่ยกมือออกแล้วมองออกไปข้างหน้า กันยาก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ที่ทุ่งหญ้าโล่งแห่งหนึ่ง ส่วนด้านหลังมีกำแพงโอบล้อมเมืองขนาดใหญ่ไว้ พอมองไปรอบข้างก็ปรากฎว่ามีผู้คนอยู่ประปราย บ้างก็กำลังทำความคุ้นเคยกับร่างใหม่ บ้างก็พูดคุยกันถึงปรากฎการณ์พิเศษสุดของชีวิต
อาจจะจับต้นชนปลายได้ยากหน่อย แต่ด้วยสัญชาตญาณและด้วยการที่เล่นมันมากว่าครึ่งเวลาของชีวิตก็ทำให้เขาทำความเข้าใจกับมันได้โดยง่าย
"นี่มัน... เกมออนไลน์เสมือนจริงงั้นเหรอ...?"
กันยาพยายามคิดวิเคราะห์ ความทรงจำเขาไม่ปะติดปะต่อดีนัก ลางๆว่าเคยอยากเล่นเกมแบบนี้มาก แต่นึกไม่ออกว่าเข้ามาในเกมได้ยังไง มารู้ตัวอีกทีก็โผล่ในนี้แล้ว...
"เอ... มันยังไงกันนี่... รู้สึกเหมือนจะลืมอะไรบางอย่างไป" เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง "ได้เข้ามาในเกมออนไลน์เสมือนจริงที่สุดในโลกเกมแรกมันก็น่าดีใจอยู่หรอก... แต่มันตงิดใจเป็นบ้า..."
กันยาหลับตานึกลำดับเหตุการณ์ แต่จนแล้วจนรอดก็นึกไม่ออก... ซึ่งปัญหานี้มันก็ย้อนไปถึงช่วงอดีตหลายๆเรื่องด้วยที่เขาจำไม่ได้ ตอนนี้ที่จำได้ก็มีเพียงแค่เรื่องทั่วไป ตัวตนของตัวเองส่วนหนึ่ง แต่อดีตก่อนหน้านี้โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเกมนั้น เหมือนถูกแยกออกไป ไม่ได้เอามารวมด้วยกับตัวตนในเกมตอนนี้
"จะว่าไปแล้ว... เหมือนจะเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนนี่นา... ใช่แล้ว... กวางเคยบอกไว้..."
พอเค้นสมองให้มากขึ้นกันยาก็พอจะจับจุดนั่นนี่ ความทรงจำที่หลงเหลือมาช่วยไขปริศนาได้บ้าง
ครั้งหนึ่งแฟนสาวเคยเล่าให้ฟังว่าระบบการเชื่อมต่อกับคลื่นสมองจะใช้คลื่นลักษณะเดียวกัน ทำให้การสั่งการของสมองไปยังระบบเคลื่อนไหวเสมือนตัวแทนทำงานได้ เพียงแค่คิดเท่านั้น ภาพในคอมพิวเตอร์ก็จะขยับตาม
เดิมทีอาจทำได้แค่เคลื่อนไหวแบบง่ายๆ แต่ถ้าการเชื่อมต่อทำได้ลึกขึ้นและเสถียรขึ้นก็อาจดึงข้อมูลไปได้มากกว่านั้น แม้กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ก็ยังสามารถเรียกความทรงจำมาได้เกือบทั้งหมด ซึ่งก็ขึ้นกับร่างกายคนนั้นๆและระบบการเชื่อมต่อ
แต่ถ้าการเชื่อมต่อมีปัญหาก็อาจทำให้การดึงข้อมูลบางอย่างไม่สมบูรณ์ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจแต่อย่างใด อาจแก้ไขได้ด้วยการ Disconnect แล้ว Connect ใหม่เหมือนตัดต่อเน็ต เพื่อหาช่องสัญญาณที่ดีกว่า ซึ่งถ้าร่างกายพร้อมการเชื่อมต่อไม่สะดุดก็อาจดีขึ้น หรือไม่อย่างงั้นก็ทนอยู่ในสภาพเดิมต่อไปทั้งแบบนั้น มันอาจเป็นเหมือนคลื่นที่สะดุดอยู่ เหมือนเครื่องบินตกหลุมอากาศ ถ้าผ่านช่วงนั้นไปได้การเชื่อมต่อก็อาจดีขึ้น
กันยาจำได้ลางๆประมาณนี้ ซึ่งเมื่อมานึกดูแล้วการจำอะไรไม่ได้ จับต้นชนปลายไม่ถูกไม่น่าจะส่งผลอะไรมาก อย่างน้อยๆตอนนี้ก็รู้ตัวเองดีแล้ว และรู้ว่ากำลังจะทำอะไรอยู่ด้วย
ดังนั้นแล้วในฐานะที่เป็นเกมเมอร์ติดอันดับของโลก การได้เข้ามาเล่นเกมระบบใหม่ทั้งทีแล้วจะออกจากเกมโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยและอ้างว่ากลัวก็ดูจะเป็นการกระทำที่เสียศักดิ์ศรีมิใช่น้อย
"เอาล่ะ...! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ระหว่างรอให้ความจำกลับมา ก็มาลุยกับเกมระบบใหม่นี้ฆ่าเวลาก่อนเลยดีกว่า" เขาตัดสินใจได้โดยไม่มีความลังเล
...............................................
เมื่อลุกขึ้นยืนแล้วก็พบว่าการสนองของเกมนั้นไม่แตกต่างกันชีวิตจริง... สภาพร่างกายสูงราวๆเกือบ 180 ซม. ซึ่งเป็นความสูงจริงของกันยาอยู่แล้ว น้ำหนักและแขนขาเองก็ดูจะได้รูปเหมือนกับตัวจริง ทำให้การขยับตัวแบบปกตินั้นดูเป็นธรรมชาติมากจนนึกไม่ออกเลยว่านี่คือเกมที่จำลองขึ้นมา...
จะต่างไปหน่อยก็คือร่างกายจะดูกำยำสักเล็กน้อย และเมื่อได้ลองส่องหน้าตัวเองกับภาพสะท้อนของผิวน้ำที่ทะเลสาปใกล้ๆกำแพงเมืองก็พบว่าหน้าตานั้นจะไม่ใช่หน้าดั้งเดิมของตน แต่จะละม้ายไปทางตัวละครโปรดจาก FanFiction Ragnarok Online
ซึ่งไม่แค่หน้าเท่านั้นที่เหมือน แต่พอเห็นภาพสะท้อน มันก็มีชื่อเป็นตัวอักษรสีขาวปรากฎขึ้นเหนือศีรษะตัวเองที่เหมือนด้วยเช่นกัน
"Emic (อิมิค) งั้นเหรอ..." เขาอ่านตามพลางพยักหน้าพอใจ
Emic Landford คือพระเอกของแฟนฟิค RO นิยายดังในอดีต ซึ่งอิมิคจะมีบทเริ่มต้นในตำนานรักอามัตสึภาคแรก และโดดเด่นที่สุดในภาคการลงทัณฑ์กลาสต์เฮลม์
ด้วยความหลงไหลนิยายและตัวละครดังกล่าว กันยาจึงใช้ชื่อ Emic แทนนามแฝงในเกมออนไลน์มาโดยตลอด แม้ทุกวันนี้เกม Ragnarok Online ที่เป็นเกมยุคบุกเบิกจะตกกระแสไปแล้ว เขาก็ยังคงติดใจและใช้ชื่อนี้เสมอมา
หลังจากเห็นค่าหน้าตาของตัวเองแล้วต่อไปก็คือการสำรวจภาพรวมของร่างกายก่อนออกแรงจริง
ชุดที่ใส่นั้นไม่มีอะไรพิเศษ เป็นเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว รองเท้าหนังสัตว์เหมือนรองเท้าบู๊ต ที่เอวมีดาบไม้ยาวหนึ่งช่วงแขน ขนาดกำลังพอเหมาะกับมือ
พอสังเกตที่แขนซ้ายก็พบว่ามีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ดูแปลกแยกจากชุดที่สวมอยู่ คล้ายๆแท็บเล็ตขนาดพอดีแขน ซึ่งเมื่อแตะแล้วมันก็ปรากฎภาพเหมือนจอแก้วกลางอากาศ
"โอ้... นี่เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อสินะ" กันยาขยับแขนซ้ายไปมา ก็ทำให้รู้สึกว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่มีน้ำหนักเลย
ด้วยความที่มีความคิดแบบนักวิทยาศาสตร์ เขาจึงได้ทดสอบต่อด้วยการเอาแขนข้างนั้นเหวี่ยงเบาๆไปที่กิ่งไม้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เมื่อกิ่งไม้ทะลุผ่านแท็บเล็ตนั้นไปชนแขนราวกับเป็นวัตถุที่ไม่มีตัวตน ยืนยันข้อสันนิษฐานว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำหรับเชื่อมต่อที่แยกออกจากวัตถุในเกมอย่างชัดเจน
กันยาลองใช้นิ้วสไลด์ดูอุปกรณ์ดังกล่าวก็ปรากฎหน้าต่างเหมือน OS โทรศัพท์มือถือแบบง่ายๆ ตรงกลางเซ็ทไว้ให้เป็นหน้าจอสถานะผู้เล่น ซึ่งมีหลักๆ 4 อย่างด้วยกันเป็น HP MP FATIGUE และ STAMINA
ด้านบนจอเป็นขอบเล็กๆเหมือนเมนูในวินโดว์ ข้างล่างมีกรอบเวลาอยู่ซึ่งก็นับถอยหลังเรื่อยๆ ตอนนี้ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 17.40 และนับถอยหลังไปเรื่อยๆอย่างแม่นยำ... เป็นนาฬิกาที่เขายังไม่เข้าใจความหมายของมันนัก
"เหมือนจะคงรูปแบบเกมออนไลน์ แต่มันก็ใหม่จริงๆนั่นล่ะนะ" เขาพูดขึ้นลอยๆพลางถอนหายใจ
สำหรับกันยาแล้ว ประสบการณ์เกมเมอร์ที่โชกโชนอาจช่วยให้ปรับตัวเข้ากับเกมใหม่ได้ไม่ยาก แต่ในฐานะที่เป็นเกมแรกเริ่มและต่างฝ่ายต่างไม่รู้ อีกทั้งไม่มีคู่มือใดๆให้มาอีก เขากลับมองว่าแทนที่จะเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์กับการลองผิดลองถูก ก็สู้หาข้อมูลพื้นฐานไว้ก่อนจะดีกว่า ซึ่งบรรดาเกมทั้งหลายก็มักมี NPC ดังกล่าวไว้ให้อยู่แล้ว
"สูงสุดสู่สามัญล่ะนะ นานๆจะได้เจอเกมที่ไม่มีคู่มือ ไม่มีอะไรเลยแบบนี้สักที น่าจะแข่งกันแฟร์ๆได้สนุกล่ะ" ถึงทุกอย่างจะดูลึกลับเป็นปริศนา แต่กันยาก็เต็มเปี่ยมด้วยสัญชาญาณของเกมเมอร์ที่เป็นท็อปสิบของโลก และทะเยอทะยานทันที
...............................................
สิ่งแรกหลังจากที่ร่างกายและจิตใจพร้อมดีแล้ว ก็คือ ข้อมูล
พอเหลือบตามองเห็นผู้เล่นคนอื่นในเครื่องแบบเดียวกันกำลังไล่ตีสไลม์อยู่ มีบ้างก็ตีชนะ และก็มีบ้างก็ฝืนเกินตัวหรือบังคับไม่ชำนาญแล้วแพ้จนเด้งหรือถูกวาร์ปออกไปจากเกม...
ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี คนชนะยังมีพักเหนื่อยเหมือนคนกำลังออกมาแรงมาจริงๆ ถ้าบาดเจ็บก็มีเลือดไหลจริง หากไม่ใช้อุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่มีติดตัวแต่เริ่ม ก็อาจต้องรอให้หายเอง แต่ดูเหมือนว่าจะมีผลกับการฟื้นพลัง
ส่วนที่คนแพ้จนตาย ก็สลายไป เห็นภาพถูกดึงไปเป็นเส้นๆเหมือนกำลังถูกเทเลพอร์ท แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย ทำให้เดาไม่ถูกว่าตายแล้วจะกลับไปจุดเซฟโดยอัตโนมัติ หรือว่าผู้เล่นกดกลับไปเอง เพราะดูช่วงเวลารอยต่อนั้นสั้นเอาเรื่อง... แต่ที่แน่ๆคือตอนจะตายกันยาก็ได้ยินเสียงสบถของผู้เล่นหน้าใหม่นั้นทำนองว่าต้องเสียเวลารออีกชั่วโมง... ซึ่งก็เดาได้ง่ายๆว่าน่าจะหมายถึงเป็นการลงโทษที่ตายนั่นเอง
เห็นอะไรที่แปลกๆติดกันสองกรณีแล้ว กันยาเลยยิ่งมั่นใจว่าควรต้องหาข้อมูลก่อนเล่นจริงๆ เพราะขนาดมอนสเตอร์เลเวลแรกสุดก็ยังเห็นผู้เล่นใหม่แพ้กันง่ายๆ บางทีแล้วอาจมีเงื่อนไขการต่อสู้เฉพาะอยู่ ไม่ใช่เหมือนอดีตแค่คลิกค้างหรือคลิกรัวฟันไปเรื่อยๆก็จบไม่ต้องมีเลือกเป้า ส่วนถ้าจะหลบระบบก็จะหลบให้เอง... แต่ดูเหมือนเกมนี้จะไม่ใช่แบบนั้น โดยทุกอย่างนั้นจะเป็นระบบบังคับด้วยตัวผู้เล่นเอง
กันยาไม่เสี่ยง... แทนที่จะเสียเวลาเปล่าๆไปหนึ่งชั่วโมง ก็สู้ใช้เวลาส่วนนี้ไปค้นคว้าเพิ่มเติมให้เป็นรูปธรรมกับผู้ที่รู้จะฉลาดบริหารกว่า
เมื่อตัดสินใจเดินผ่านประตูเมืองเข้ามา ซึ่งชื่อที่สลักบนแผ่นหินว่า Hiland ก็บ่งบอกชื่อของเมืองนี้ ซึ่งก็ตรงตามตัว ว่าเป็นประเทศในที่ราบสูงทางตอนเหนือของทวีป ดูจาก NPC ทั่วไปในเมืองที่เคลื่อนไหวได้แล้วนั้นก็สะท้อนชัดเจนว่าเป็นเมืองแห่งทหารราบ ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดโผ เขาก็ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนอาชีพต่อไปเป็น Knight หรืออัศวิน ตามอิมิคที่เป็นต้นแบบนั่นเอง
ในเมืองมีถนนใหญ่ที่เป็นเส้นตรงยาวไปถึงตัวปราสาท ซึ่งระหว่างทางนั้นก็จะมีถนนย่อยไปยังตรอกซอกซอยต่างๆ มีเชื่อมถนนสายกลางไปยังประตูเมืองทางอื่นด้วย ถือเป็นเมืองที่กว้างและใหญ่ สมกับที่ถูกยกว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งของเคลเฟอร์
ระหว่างที่เดินชมบรรยากาศอยู่นั้น กันยาก็เห็นผู้เล่นรายอื่นกำลังเข้าไปคุยกับ NPC อยู่
ซึ่งมี NPC อยู่ประปรายกระจายกันไป ส่วนใหญ่จะสวมชุดคนใช้ (Maid) อยู่ ซึ่งความที่แตกต่างอย่างจากชุดท้องถิ่นอย่างชัดเจน ก็น่าจะสื่อได้ว่าเป็น NPC สำหรับอำนวยความสะดวกผู้เล่นโดยเฉพาะ
กันยาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วมันก็เป็นไปดังคาด ผู้เล่นเข้าไปคุยกับ NPC แล้วก็ได้ข้อมูลพื้นฐานมาดังที่ต้องการ นอกจากนี้ NPC ก็ยังช่วยเชื่อมต่อคลังเก็บของเอนกประสงค์ บริการจุดเซฟด้วย... ดูแล้วน่าจะช่วยกระจ่างวิธีเล่นได้มาก แต่ปัญหาหนึ่งก็คือ NPC ตัวเดียวจะรับงานผู้เล่นได้ไม่มากนัก จนต้องต่อคิวกันใช้บริการ ถ้าสักสองถึงสามคนก็ยังพอจัดการธุระให้ได้ แต่ถ้าเกินกว่านั้นก็ต้องเสียเวลารอต่อคิวอย่างเดียวเท่านั้น
"จะสมจริงเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?" กันยายืนมองพลางเกาศีรษะแปลกใจ แต่นั่นก็เพราะยังไม่รู้ว่า NPC เกมนี้เป็นอะไรที่มากกว่าตุ๊กตารับคำสั่งเท่านั้น
อย่างไรก็ดี NPC ก็มีกระจายอยู่พอสมควร จึงไม่มีปัญหาเรื่องการบริการนัก และยังมีตั้งแต่เพศชาย เพศหญิงในชุดเมดหรือพ่อบ้านแแตกต่างกันไป มีทั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่
กันยาอดนึกไม่ได้ว่าเป็นเพราะต้องการความแปลกใหม่ หรือเป็นรสนิยมส่วนตัวของผู้ออกแบบระบบกันแน่...
...............................................
แต่การที่มีจำนวนมากให้เลือกแบบนี้ก็ถือเป็นผลดีที่ทำให้เขาไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิว กันยาเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ดูผังเมืองไปในตัวเพราะคิดว่าอาจต้องพักที่นี่อีกหลายวัน และถ้า NPC แนะนำร้านรวงมาก็จะได้เดินไปทีเดียวถูก
ซึ่งเมื่อเดินหลบแดดมาในซอยใกล้ๆโรงแรมที่ตรอกหนึ่ง เขาก็พบกับ NPC ที่ถูกชะโลกจนได้...
มีเมดคนหนึ่งยืนให้บริการอยู่ใกล้ๆโรงแรม ที่จริงแล้วมันเป็นจุดที่ดีมากๆจุดหนึ่ง นอกจากจะร่มสงบแล้ว ยังอยู่ใกล้กับโรงแรมที่จะมีความจำเป็นในช่วงเวลาต่อไปด้วย แต่ข้อเสียคือมันหลบมุมไปหน่อย คนเข้าออกโรงแรมถ้าไม่สังเกตให้ดีจะไม่เห็น และถูก NPC ขายของทั่วไปบังได้
กันยาไม่ค่อยเรื่องมากกับ NPC ให้บริการนัก แต่เขาก็คิดว่าถ้าจะคุยอะไรหลายเรื่อย เปิดคลังของหรือยังไงแล้วก็ใช้พื้นที่สงบจะดีที่สุด ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปหาเมดดังกล่าว
เมื่อมายืนใกล้ๆก็ทำให้เห็นว่าเมดผู้นี้ดูแล้วก็ให้ความรู้สึกว่าหน้าตาดี ผมยาวสลวย รูปร่างก็ดูอิ่มเอิบไปหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าอ้วน กันยามองว่าเธอสวยจริงแต่ก็ให้ความรู้สึกชวนสงสัยบางอย่างในใจเหมือนกัน
เมื่อเห็นกันยาเดินเข้าไปใกล้แล้ว NPC ดังกล่าวก็ตอบสนองแบบเกือบอัตโนมัติโดยการรีบโค้งตัวแล้วทักทายอย่างมีมารยาททันที
"สะ... สวัสดีฮะ...!" เธอประหม่าพอตัวกับลูกค้าคนแรก "KELfer Maid Company ยินดีต้อนรับฮะ"
"เอ้อ อื้ม"
กันยามองพิจารณาสนใจ ไม่ใช่ในตัวของเมด แต่เป็นรูปแบบการตอบโต้ ซึ่งปกติแล้ว NPC จะมีรูปแบบการพูดที่วนลูปชัดเจนตายตัว มีแรนด้อมได้บ้างแต่ก็จะอยู่ในช่วงข้อความที่วางไว้... แต่ NPC เมดเหล่านี้เหมือนจะมีวิธีอื่นที่ใช้การตอบโต้แทนไดอะล็อคคำพูดแบบดั้งเดิม
"KELfer Maid Company งั้นเหรอ?" เขาเริ่มจากการถามใกล้ตัวดูก่อน "มันคืออะไรเหรอ?"
"เป็น NPC พิเศษที่ใช้บริการแก่ผู้เล่นฮะ... ถ้าชื่อเรียกยาก จะเรียกว่าคุณเมดก็ได้นะครับ"
"อืม... คุณเมดนะ"
"ซึ่งปกติแล้วเกมออนไลน์ก็จะมีรูปแบบคล้ายกันคือต้องมีการเซฟ ต้องมีการเปิดคลังเก็บของ ต้องมีการให้ข้อมูล แล้วก็อาจมีเควสพิเศษ รวมถึงเวลาตั้งกิลด์ก็ต้องจ้างเมดสักคนไปประจำด้วยนะฮะ"
"โฮ่... มีส่วนร่วมกว่าที่คิดนะน่ะ" กันยาจับคางฟังด้วยความสนใจ "มิน่าล่ะ ถึงได้มีเมดกระจายไปทั่วเลย"
"เกมนี้เปิดให้เล่นด้วยจำนวนคน 5,000 คน โดยมีเมืองหลักๆ 4 เมืองฮะ เมดคนหนึ่งสามารถรับงานพื้นฐานได้ไม่ยาก ถ้าแค่เซฟ เปิดคลังเก็บของล่ะก็ สิบคนพร้อมกันจะใช้เวลาแค่นาทีเดียวยังได้เลยฮะ แต่ถ้าเป็นข้อมูลอาจใชเวลาหน่อย ดังนั้นจึงมีการกระจายเมดให้ไปอยู่ตามจุดมากขึ้นน่ะฮะ ว่ากันว่าถ้าสนิทกับเมดมากๆก็อาจทำเควสได้ด้วย"
"เป็นมากกว่า NPC จริงๆแฮะ"
"ข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญของเกมนี้น่ะฮะ... เพราะว่ามีเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะที่ปราบบอสใหญ่ได้สูงถึง 5,000,000 บาท เพื่อความยุติธรรมจึงต้องเริ่มต้นเหมือนกันใหม่ทุกคน แม้แต่คู่มือเกม รายละเอียดมอนสเตอร์ก็ยังเป็นความลับฮะ บริษัทมีแผนจะจำหน่ายสักราวๆ 3 เดือนหลังจากเกมเปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่ง ณ จุดนั้นผู้เล่นแรกๆคงเก็บเลเวลไปไกลแล้ว... แต่ว่าตอนแรกทุกคนเริ่มจากศูนย์เหมือนกันหมด ไม่มีใครรู้อะไรมากกว่าใคร ฉะนั้นงานนี้จึงเป็นหน้าที่ของเมดอย่างพวกเรานี่ล่ะฮะ"
"เข้าท่าดีนี่ แถมยังเพิ่มบทบาทให้กับ NPC ช่วยเหลือ ที่ในอดีตมักมีความสำคัญแต่เป็นจุดเซฟหรือฝากของเท่านั้น"
"ฮะๆ... ใช่เลยฮะ" เธอหัวเราะภูมิใจ "นอกจากนี้ก็มีการจัดอันดับด้วยนะฮะ ตอนนี้ก็มีเมดอยู่ 100 คน กระจายไปเมืองละ 25 คน"
"จัดอันดับ... เพื่ออะไรล่ะนั่น แล้วผู้เล่นจะได้อะไรไหม?"
"สำหรับเมดก็ได้ชื่อเสียงล่ะฮะ ผู้จ้างเมดหรือทำให้เมดดังได้เช่น ไปบริการกิลด์ที่ผลงานดีๆ ชื่อเสียงก็อาจยกระดับขึ้นไปอีก ถึงตอนนั้นก็อาจมีรางวัลไม่เงินก็สิ่งของไปให้กิลด์เป็นการตอบแทนด้วยนะคะ"
"ฟังดูน่าสนใจ NPC พื้นฐานสำคัญก็จะได้มีบทบาทด้วยล่ะนะ"
"ใช่ไหมล่ะฮะ..." เมดยิ้มเล็กๆออกเมื่อคุยกับกันยาได้เป็นธรรมชาติและในอารมณ์ที่เป็นมิตร
ซึ่งในจุดนี้เองพอเห็นเมดยิ้มให้แล้ว กันยาก็เริ่มเอะใจว่ามันจะเกินธรรมชาติไปหน่อยไหม?
พูดจาตอบโต้แบบจับหลักสาระได้ยังพอเข้าใจ แต่สีหน้าท่าทางและอารมณ์ที่ไปกันได้นี่ มันเหมือนกับว่า NPC เมดพวกนี้มีระบบพิจารณาคำและความหมายเพื่อตีความตอบกลับในขอบเขตที่ถูกกำหนดไว้อย่างดี และเป็นธรรมชาติมากๆ ซึ่งถ้ามีใครบอกว่ามีคนสวมบทเล่น NPC ล่ะก็ เขาอาจจะเชื่อเลยก็ได้
แต่ AI ที่ทำได้สมจริงเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะในช่วงยุคราวๆ ปี 2545 ก็มีการสร้างบอทที่ตอบโต้คำที่พิมพ์ลงไปได้มาแล้ว แม้จะไม่เป็นธรรมชาติหรือกวนๆไปนิด แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เริ่มต้นไปสู่ระบบสั่งการและตอบโต้ด้วยเสียง
เมื่อเวลาผ่านมาอีกกว่ายี่สิบปีแล้วนั้น ด้วยเทคโนโลยีแต่การต่อยอด มันก็เป็นไปได้ว่าจะมีวิวัฒนาการให้ไปถึงขั้นรับฟัง ตอบโต้ และแสดงสีหน้าได้... เขาคุ้นว่าเคยมีงานวิจัยลักษณะนี้มาหลายชิ้น และแต่ละชิ้นก็เปิดทางสู่อนาคตที่ว่าได้จริงๆ โดยเฉพาะงานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับการตอบโต้เหมือนมีชีวิต อย่างน้อยๆพวกขั้นคำพูดจาพื้นฐานนั้น คอมพิวเตอร์สามารถตอบกลับได้ใกล้เคียงมนุษย์จริงมาก
กันยาคิดไปแล้วเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก แต่ก็ยังเชื่อมความคิดได้ไม่ดีนัก จำได้แค่คอนเซฟท์แต่จำชื่องานวิจัยไม่ได้... จนกกระทั่งเมดเห็นนิ่งไปจึงทักด้วยความหวังดี และอยากสร้างผลงานแรกเต็มแก่
"เอ้อ... มีอะไรสงสัยไหมฮะ? ถ้าเป็นเรื่องระบบการเล่น หรือประวัติในเกมล่ะก็ ถามผมได้นะฮะ?"
คอมพิวเตอร์ตัดสินใจที่จะให้ความช่วยเหลือเพราะเห็นสีหน้าและอารมณ์ที่กำลังสับสน... ยิ่งเห็นท่าทีแบบนี้ยิ่งชัดเจนว่า NPC กลุ่มนี้ได้รับการพัฒนาให้ตอบโต้กับผู้เล่นได้จริงๆ ทำให้รู้สึกว่าเป็นระบบที่แปลกใหม่แต่ก็มีอะไรที่ชวนคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
แต่ก็เช่นเดิมว่าเพราะการเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์เลยทำให้ปะติดปะต่อความทรงจำบางเรื่องไม่ได้ ซึ่งเทคโนโลยีบางส่วนก็รวมในนั้นด้วย กันยากลับมาจากภวังค์และมองว่าเริ่มเล่นเกมอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยน่าจะดีกว่า มีข้อมูลหลายอย่างที่เขาอยากรู้ และเมดคนนี้ก็น่าจะช่วยชี้แจงได้ทั้งหมด แต่อย่างไรเสียเขาก็รู้สึกผิดปกติถึงการพูดจา(โดยเฉพาะ)ของเมดผู้นี้อยู่ไม่น้อย สาระที่พูดคุยไม่มีปัญหา ถ้าจะมีก็เป็นเรื่องหางเสียง แล้วก็คำแทนตัวที่หลุดมาแล้วคำหนึ่ง...
อย่างน้อยๆก็อาจต้องใช้บริการ NPC คนนี้ไปอีกนาน ดังนั้นก่อนอื่น ถ้าไม่รู้สถานะที่แท้จริงแล้วก็เห็นท่าจะวางตัวลำบาก เช่นนั้นแล้วถามให้จบๆไปจะดีกว่า
"ขอเสียมารยาทถามอะไรหน่อยได้ไหม?"
"ได้สิฮะ?"
กันยามองดู NPC ที่ตัวต่ำกว่ากันสักเล็กน้อย... เมื่อตาจ้องตากันแล้ว เขาก็ตัดสินใจถามออกไปตรงๆ...
"เธอเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายน่ะ?"
เป็นคำถามสั้นๆ ง่ายๆ ที่มีช้อยส์ตอบให้เรียบร้อย แต่ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องยากที่จะให้เลือกตอบในทันที
"อ่า... เอ่อ..." เมดหน้าสวยออกอาการอ้ำอึ้ง
"พูดมาเถอะ ฉันไม่เอาไปโวยวายกับใครหรอก" กันยาต่อรอง "อีกอย่างทำเลตรงนี้ก็ดีด้วย ฉันชอบนะ... ถ้าไม่มีปัญหาอะไรจะมาใช้บริการกับเธอนี่ล่ะ"
"กะ... ก็ได้ฮะ... ยังไงรู้แล้วอย่าไปว่าร้ายนะฮะ... ถ้าเกิดข่าวลือไม่ดีจนทำให้ผมติดที่โหล่อันดับ 100 ล่ะก็มีหวังถูกพี่สาวลงโทษแน่ๆ"
"สัญญาน่ะ" กันยายิ้มเล็กๆยืนยัน
เมดคนดังกล่าวก้มหน้ากระมิดกระเมี้ยนเหมือนจะไม่อยากตอบ แต่สุดท้ายก็ยอมตอบจนได้
"จริงๆแล้วผมเป็นผู้ชาย..." มันเป็นคำตอบที่ขัดกับน้ำเสียงมาก เพราะถ้าดูเผินๆ คุยเผินๆ ก็แทบมองว่าผู้นี้เป็นเมดสาวจริงๆ สีหน้า ท่าทาง การแสดงออก รวมไปถึงเสียงพูดนั้นดูยังไงก็เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งนี่เอง แม้กระทั่งอายก็ยังดูเหมือนผู้หญิงจริงๆ... จะมีก็แค่หางเสียงคำแทนตัวเท่านั้นที่หลุดออกมาแบบจงใจ...
ความแปลกเช่นนี้ และการที่อ่านการ์ตูนแนวแทร็ปมาพอควรทำให้กันยานึกสังหรณ์ใจอยู่เหมือนกันว่าอาจใช่ เพียงแต่ไม่นึกว่าจะเนียนได้ขนาดนี้
"งั้นเหรอ..."
"ตะ... แต่ว่าผมไม่ได้เบี่ยงเบนนะฮะ แค่มีเหตุผลความจำเป็นอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง..." เธอมองกันยาอ้อนน้ำตาปริให้เชื่อ ยิ่งดูน่าสงสารเข้าไปใหญ่
"เอาๆๆ ว่ากันตามนั้นก็ได้ ฉันจะไม่เซ้าซี้เรื่องนี้แล้วก็ได้" ดูท่าคุยประเด็นนี้แล้วอาจจะยาว เขาจึงตัดบทเพื่อเตรียมเข้าสู่คำถามระบบเกมต่อไป
แต่ถึงอย่างงั้นก็ตาม พอเจอแบบนี้แล้วกันยาก็ชักรู้สึกว่า... บางทีแล้ว การที่ไม่มีคนมาใช้บริการ อาจไม่ได้เป็นเพราะทำเลไม่ดีเพียงอย่างเดียวเสียแล้วกระมัง...
ความคิดเห็น