ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : [ฤดูกาลที่ 13] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 9 ผลงานรวมปี 2013/2014 (บอลโลก)
สรุปรวมฤดูกาล 2013/2014 - ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ
เปลี่ยนบรรยากาศบอลสโมสรมาคุมทีมชาติกันหน่อย...
หลังจากที่ได้ออกจากโค้ชทีมชาติอเมริกา ผมก็หาความท้าทายใหม่ด้วยการเป็นโค้มทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ
ปี 2014 ผลงานไอร์แลนด์เหนือก็น่าจะเรียกได้ว่าพื้นๆในภูมิภาคเลย
ประวัติบอลโลกตั้งแต่ปี 2006 มา...
ยังไม่เคยได้แข่งรอบสุดท้ายบอลโลกเลยครับ
ยูโรเปี้ยนคัพก็เช่นกัน ยังไม่เคยแข่งรอบสุดท้ายเช่นกัน
เรียกได้ว่าไม่มีอะไรเลย...
เป็นการคุมทีมที่ท้าทายมาก เทียบนักเตะแล้วทีมเยอะกว่าลีคอเมริกาก็จริง แต่นักเตะคุณภาพน้อยจริงๆครับ
พลังค่อนข้างบาง ไม่ก็หนาเป็นหย่อมๆ ไม่ค่อยสมดุลเลย
มีเวทีนานาชาติให้เล่นเยอะขึ้นก็จริง แต่ยากกว่าตอนคุมอเมริกาแน่นอน
เข้ามาปุ๊บก็เจองานท้าทายเลย รอบคัดเลือกในสายเรามี 6 ทีม
ประกอบด้วย
- N.Ireland
- Azerbaijan
- San Marino
- Spain
- Scotland
- Turkey
เหมือนจะง่าย แต่ยากครับ เพราะเอาที่ 1 เข้าไปทีมเดียว ที่ 2 ไปเพลย์ออฟ
เพราะฉะนั้นแล้ว ชนะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นดี
นัดแรกเจอกับตุรกี เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ชินกับผมนัก ก็ถลุงเอาฤกษ์เลยชนะไป 3-0 แบบทำเกมเหนือกว่า
น่าทึ่งว่าทีมพลังไม่หนาแต่เล่นดีกว่าที่คิด
นัดต่อมาก็สำคัญเจอสเปน ทีมตัวเก็ง แถมเล่นที่สเปนด้วย แต่ก็ไม่น่าเชื่ออีกนั่นล่ะ ครึ่งแรกกดไป 3 ลูกเฉยเลย เปิดก่อนได้เปรียบจริงๆ
ต่อมาสเปนก็บุกสู้ยิงได้อีก 2 ลูก แต่ไม่พอ... จบเกมก็ได้ 3 แต้มไปแบบยอดเยี่ยม
ต่อมาก็เจองานหนักอีกเปิดบ้านรับสก็อตแลนด์
แต่ทีมก็ยังคงแรงเหลือเชื่อชนะไป 4-0 แบบอีกฝ่ายแทบไม่ได้ยิงเลย
เท่ากับว่า 3 นัด 9 แต้ม ตัดคะแนนคู่แข่งได้หมด ขึ้นที่ 1 แบบลอยลำเลย เอาเป็นทุนไว้ก่อน เพราะยังเหลืออีกหลายนัด
ส่วนนัดเจออาเซอไบจันกับซานมาริโนก็เก็บ 6 แต้มได้หมดก็ลอยลำเข้าไปใหญ่
นัดที่ 6 ไปเยือนตุรกี เกมนี้ไม่ง่ายแล้วครับเมื่อตุรกีเปิดเกมใส่ไม่เกรงกลัว
เรายิงได้ไวแต่ก็โดนยิงตีเสมอและโดนต้อนเกือบเสียประตู แต่พอแก้เกมแล้วทีมก็มีลูกฮึดพลิกชนะ โดยได้ประตูชัยในนาที 88
นัดที่ 7 เกมเปิดบ้านรับสเปนก็ชนะได้ 3-1
21 คะแนนเต็มๆถึงตอนนี้โอกาสทำประวัติศาสตร์ชาติด้วยการเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกอยู่รำไรแล้ว
แต่นัดที่ 8 ทีมก็สะดุดแล้วครับด้วยการเสมอไปกับสก็อตแลนด์ 3-3 สู้กันมันหยดเลยนัดนี้
แต่ว่า 2 นัดที่เหลือคือการเปิดบ้านรับอาร์เซอไบจัน และซานมาริโน ก็ไม่ใช่งานยากเกินไปนัก ชนะได้ 2 นัดติด ถึงสกอร์ไม่ขาดก็เถอะ
สุดท้ายจากที่คิดว่าจะต้องไปลุ้นเพลย์ออฟ กลับกลายว่าลอยลำเข้ารอบไปแบบทิ้งห่างเนิ่นๆเลย
สร้างประวัติศาสตร์ให้ทีมได้แล้ว! ที่เหลือก็ว่ากันต่อในบอลโลกรอบจริง
ในรอบจริงก็จัดว่าอยู่สายโหดครับ แถมเจอทีมรักทีมแค้นในรอบคัดเลือดอย่างสเปนอีก...
อาร์เจนสิน่า ไอร์แลนด์เหนือ ไนจีเรีย สเปน...
นัดแรกเจอกับไนจิเรีย ดีกรีแชมป์แอฟริกันเนชันคัพปีล่าสุด
คุณภาพทีมสู้ไม่ได้จริง โกล์ก็ดันมากากอีก ยิงนำไปก่อนแท้ๆ แต่โดนบวกกลับ 3 ลูกรวดแพ้ขาดเลย...
เห็นคะแนนแล้วได้แต่เซ็ง
นัดที่ 2 ก็แพ้อาร์เจนติน่าแบบหมดรูปอีก
ไม่มีตัวจริงๆ ขนาดโกล์ยังกากไม่เลิกเปลี่ยตัวก็แล้วอะไรก็แล้ว
นัด 3 ไม่มีผลแล้วล่ะครับ แต้มแบบนี้
แต่ก็ต้องเล่นให้ดีที่สุดไป
แล้วก็ตามคาดแพ้สเปนแบบหมดรูป
คือ... ประตูมีเหมือนไม่มีจริงๆ 3 นัด 3 คน กากมันทุกคน...
ยิงเป็นเข้าพูดกันตรงๆงี้เถอะ
ลำพังทีมก็ไม่มีตัวอยู่แล้ว พอเล่นไปบางตัวก็แขวนสตั๊ด บางตัวก็เจ็บ บางตัวก็แก่ ดาวรุ่งก็โตไม่ทัน สุดท้ายก็อย่างที่เห็น
พูดแบบไม่เกรงใจคือเหมือนเอาทีมระดับดิวิชั่น 3 มาแข่งกับทีมระดับพรีเมียร์ คุณภาพนักเตะมันต่างกันแบบนั้นเลย แผนก็ไม่ช่วยอะไรครับ
จบเห่ 0 แต้ม ยิงได้ 2 ประตู แต่เสียไป 10...
ส่วนแชมป์ปีนี้ก็เป็นของสเปน
หลังจากเอาชนะอาร์เจติน่าไป 2-0
สรุปว่า... Group of death จริงๆครับ 2 ทีมในสายเดียวกันไปเจอกันในรอบชิงเนี่ย...
และควันหลงจากนั้นก็คือถูกปลดจากตำแหน่งครับ
ก็เอาเถอะอิ่มตัวแล้วเหมือนกัน ถ้าคิดว่าหาที่ดีกว่านั้นมาคุมได้ก็ลองดู
ตกรอบก็ว่ากันไปแต่อย่างน้อยก็ยกอันดับทีมจากที่ 101 ขึ้นมาที่ 71 ในช่วงที่คุมได้ก็แล้วกัน
เปลี่ยนบรรยากาศบอลสโมสรมาคุมทีมชาติกันหน่อย...
หลังจากที่ได้ออกจากโค้ชทีมชาติอเมริกา ผมก็หาความท้าทายใหม่ด้วยการเป็นโค้มทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ
ปี 2014 ผลงานไอร์แลนด์เหนือก็น่าจะเรียกได้ว่าพื้นๆในภูมิภาคเลย
ประวัติบอลโลกตั้งแต่ปี 2006 มา...
ยังไม่เคยได้แข่งรอบสุดท้ายบอลโลกเลยครับ
ยูโรเปี้ยนคัพก็เช่นกัน ยังไม่เคยแข่งรอบสุดท้ายเช่นกัน
เรียกได้ว่าไม่มีอะไรเลย...
เป็นการคุมทีมที่ท้าทายมาก เทียบนักเตะแล้วทีมเยอะกว่าลีคอเมริกาก็จริง แต่นักเตะคุณภาพน้อยจริงๆครับ
พลังค่อนข้างบาง ไม่ก็หนาเป็นหย่อมๆ ไม่ค่อยสมดุลเลย
มีเวทีนานาชาติให้เล่นเยอะขึ้นก็จริง แต่ยากกว่าตอนคุมอเมริกาแน่นอน
เข้ามาปุ๊บก็เจองานท้าทายเลย รอบคัดเลือกในสายเรามี 6 ทีม
ประกอบด้วย
- N.Ireland
- Azerbaijan
- San Marino
- Spain
- Scotland
- Turkey
เหมือนจะง่าย แต่ยากครับ เพราะเอาที่ 1 เข้าไปทีมเดียว ที่ 2 ไปเพลย์ออฟ
เพราะฉะนั้นแล้ว ชนะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นดี
นัดแรกเจอกับตุรกี เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ชินกับผมนัก ก็ถลุงเอาฤกษ์เลยชนะไป 3-0 แบบทำเกมเหนือกว่า
น่าทึ่งว่าทีมพลังไม่หนาแต่เล่นดีกว่าที่คิด
นัดต่อมาก็สำคัญเจอสเปน ทีมตัวเก็ง แถมเล่นที่สเปนด้วย แต่ก็ไม่น่าเชื่ออีกนั่นล่ะ ครึ่งแรกกดไป 3 ลูกเฉยเลย เปิดก่อนได้เปรียบจริงๆ
ต่อมาสเปนก็บุกสู้ยิงได้อีก 2 ลูก แต่ไม่พอ... จบเกมก็ได้ 3 แต้มไปแบบยอดเยี่ยม
ต่อมาก็เจองานหนักอีกเปิดบ้านรับสก็อตแลนด์
แต่ทีมก็ยังคงแรงเหลือเชื่อชนะไป 4-0 แบบอีกฝ่ายแทบไม่ได้ยิงเลย
เท่ากับว่า 3 นัด 9 แต้ม ตัดคะแนนคู่แข่งได้หมด ขึ้นที่ 1 แบบลอยลำเลย เอาเป็นทุนไว้ก่อน เพราะยังเหลืออีกหลายนัด
ส่วนนัดเจออาเซอไบจันกับซานมาริโนก็เก็บ 6 แต้มได้หมดก็ลอยลำเข้าไปใหญ่
นัดที่ 6 ไปเยือนตุรกี เกมนี้ไม่ง่ายแล้วครับเมื่อตุรกีเปิดเกมใส่ไม่เกรงกลัว
เรายิงได้ไวแต่ก็โดนยิงตีเสมอและโดนต้อนเกือบเสียประตู แต่พอแก้เกมแล้วทีมก็มีลูกฮึดพลิกชนะ โดยได้ประตูชัยในนาที 88
นัดที่ 7 เกมเปิดบ้านรับสเปนก็ชนะได้ 3-1
21 คะแนนเต็มๆถึงตอนนี้โอกาสทำประวัติศาสตร์ชาติด้วยการเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกอยู่รำไรแล้ว
แต่นัดที่ 8 ทีมก็สะดุดแล้วครับด้วยการเสมอไปกับสก็อตแลนด์ 3-3 สู้กันมันหยดเลยนัดนี้
แต่ว่า 2 นัดที่เหลือคือการเปิดบ้านรับอาร์เซอไบจัน และซานมาริโน ก็ไม่ใช่งานยากเกินไปนัก ชนะได้ 2 นัดติด ถึงสกอร์ไม่ขาดก็เถอะ
สุดท้ายจากที่คิดว่าจะต้องไปลุ้นเพลย์ออฟ กลับกลายว่าลอยลำเข้ารอบไปแบบทิ้งห่างเนิ่นๆเลย
สร้างประวัติศาสตร์ให้ทีมได้แล้ว! ที่เหลือก็ว่ากันต่อในบอลโลกรอบจริง
ในรอบจริงก็จัดว่าอยู่สายโหดครับ แถมเจอทีมรักทีมแค้นในรอบคัดเลือดอย่างสเปนอีก...
อาร์เจนสิน่า ไอร์แลนด์เหนือ ไนจีเรีย สเปน...
นัดแรกเจอกับไนจิเรีย ดีกรีแชมป์แอฟริกันเนชันคัพปีล่าสุด
คุณภาพทีมสู้ไม่ได้จริง โกล์ก็ดันมากากอีก ยิงนำไปก่อนแท้ๆ แต่โดนบวกกลับ 3 ลูกรวดแพ้ขาดเลย...
เห็นคะแนนแล้วได้แต่เซ็ง
นัดที่ 2 ก็แพ้อาร์เจนติน่าแบบหมดรูปอีก
ไม่มีตัวจริงๆ ขนาดโกล์ยังกากไม่เลิกเปลี่ยตัวก็แล้วอะไรก็แล้ว
นัด 3 ไม่มีผลแล้วล่ะครับ แต้มแบบนี้
แต่ก็ต้องเล่นให้ดีที่สุดไป
แล้วก็ตามคาดแพ้สเปนแบบหมดรูป
คือ... ประตูมีเหมือนไม่มีจริงๆ 3 นัด 3 คน กากมันทุกคน...
ยิงเป็นเข้าพูดกันตรงๆงี้เถอะ
ลำพังทีมก็ไม่มีตัวอยู่แล้ว พอเล่นไปบางตัวก็แขวนสตั๊ด บางตัวก็เจ็บ บางตัวก็แก่ ดาวรุ่งก็โตไม่ทัน สุดท้ายก็อย่างที่เห็น
พูดแบบไม่เกรงใจคือเหมือนเอาทีมระดับดิวิชั่น 3 มาแข่งกับทีมระดับพรีเมียร์ คุณภาพนักเตะมันต่างกันแบบนั้นเลย แผนก็ไม่ช่วยอะไรครับ
จบเห่ 0 แต้ม ยิงได้ 2 ประตู แต่เสียไป 10...
ส่วนแชมป์ปีนี้ก็เป็นของสเปน
หลังจากเอาชนะอาร์เจติน่าไป 2-0
สรุปว่า... Group of death จริงๆครับ 2 ทีมในสายเดียวกันไปเจอกันในรอบชิงเนี่ย...
และควันหลงจากนั้นก็คือถูกปลดจากตำแหน่งครับ
ก็เอาเถอะอิ่มตัวแล้วเหมือนกัน ถ้าคิดว่าหาที่ดีกว่านั้นมาคุมได้ก็ลองดู
ตกรอบก็ว่ากันไปแต่อย่างน้อยก็ยกอันดับทีมจากที่ 101 ขึ้นมาที่ 71 ในช่วงที่คุมได้ก็แล้วกัน
ปล. ควันหลงในอีก 1-2 ปีต่อมา ทีมที่เปลี่ยน ผจก. ใหม่ตกรอบคัดเลือกบอลยูโรแบบหมดลุ้นเป็นที่เรียบร้อย...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น