ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Diary CM01/02

    ลำดับตอนที่ #16 : [ฤดูกาลที่ 10] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 6 ผลงานรวมปี 2010/2011

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 58


    สรุปรวมฤดูกาล 2010/2011 - ดราม่ากว่านี้มีอีกไหม?


    พาดหัวกันแบบนี้เลย เพราะมันดราม่าจริงๆครับ
    ตามที่เคยบ่นมาในปีก่อนว่าถูกปล้นหลายนัด และนักเตะพลิกเกมไม่ได้ ในปีนี้จึงมีการสังคายนาทีมครั้งใหญ่เลยทีเดียว

    นักเตะชุดนี้ส่วนใหญ่จะอายุใช้งานได้นานมีตั้งแต่เยาวชนอายุ 18 ไปจนถึงช่วงกลางอาชีพค้าแข้งที่ 24-28 แล้วก็สำหรับโรเตชั่นอีกนิดหน่อย
    ฉะนั้นแล้วก็เป็นอีกปีที่ใช้เงินสูงมาก 31m ทุบสถิติอีกแล้ว


    แต่งวดนี้ผมโละโค้ชชุดเก่าทิ้งไปมากเช่นกัน เพื่อจัดที่เข้าตามาเลย กะปั้นนักเตะเต็มที่กันเลย
    รวมถึงบรรดาแมวมองด้วย ก็จัดชุดที่พลังความสามารถสูงเข้ามาแทนที่

    ตำแหน่งบางตำแหน่งก็น่าเสียดายครับ เช่นอดีตผู้ช่วยผู้จัดการลุยมาด้วยกันตั้งแต่ลีคล่างๆ


    ก็แทนที่ด้วยโค้ชลูกรักที่มักเอามาในหลายเซฟ
    Pomaski ครับ
    1


    สรุปว่านอกจากนักเตะเข้ามาเยอะแล้ว ทีมงานก็เข้ามาเยอะเช่นกันรวมตั้งแต่โค้ชไปจนถึงแมวมองล่ะก็ ปาไปถึง 10 ชีวิตเลยทีเดียว
    แน่นอนว่านี่คือการปรับทีมเพื่อสร้างเยาวชนเต็มรูปแบบ ตามที่เคยลงมือจริงจังมาตั้งแต่ปีก่อน เพราะตอนนี้ทีมมีศูนย์ฝึกดีพอแล้ว ที่เหลือก็คือโค้ชและนักเตะนั่นเอง


    ในทางกลับกันทีมก็มีการปล่อยนักเตะที่ไม่เข้ากับแผน หรือวินัยไม่ดี ออกไป รวมถึงตัวโรเตชั่นที่โอกาสไม่มากแต่ทีมอื่นยื่นข้อเสนอมา ก็เป็นอีกปีที่ขายได้เยอะมาก
    ขายได้ 43m 


    เบ็ดเสร็จปีนี้กำไร 12m เลยทีเดียว ซึ่งก็ยังมีตัวที่เซ็นต์ซื้อและขายล่วงหน้าตอนเปิดตลาดโน่น ก็จะได้มาอีก 17m เลย ถ้าไม่มีปัญหาเช่นสโมสรปลายทางแกลบล่ะก็นะ
    ในแง่การตลาดก็ถือว่าสวยงามมากครับ


    ส่วนการแข่งขันปีนี้ก็ต้องถือว่าดีกว่าปีก่อนนิดหน่อย แต่บอกได้เลยว่าเจอดราม่าอีกแล้ว เพราะทีมชุดนี้ยังคงสร้างเกมรุกได้ดี บุกจนอีกฝ่ายโงหัวไม่ขึ้นได้หลายนัด แล้วถ้าถามว่ามีนัดที่เล่นไม่ออกจนสมควรแพ้ไหม ก็น้อยมาจนแทบไม่มีเลยมั้ง
    แต่กระนั้นมันก็มีนัดสะดุดจนได้ 
    ปีนี้ผลเมื่อครบ 38 นัดคือ ชนะ 28 เสมอ 5 แพ้ 5 ได้ 91 ลูก เสีย 29 ลูก แต้มรวม 89 แต้ม
    ขณะปีก่อนครบ 38 นัดคือ ชนะ 27 เสมอ 7 แพ้ 4 ได้ 91 ลูก เสีย 34 ลูก แต้มรวม 88 แต้ม

    แลดูเหมือนว่าโละล้างสร้างใหม่แล้วทีมดีขึ้นมาระดับหนึ่ง เสียน้อยลง 5 ลูก ได้เพิ่มมา 1 แต้ม แต่หลายต่อหลายนัดทีมเสียแต้มแบบไม่น่าเสียจริงๆครับ โดยเฉพาะต้นฤดูกาลที่สะดุดต่อเนื่องเลย


    เช่นนัดนี้
    แพ้โบลตัน 1-0
    อย่าแปลกใจที่ฟอร์มโบลตันดีมากเพราะผมยิงไป 15 ลูก เข้ากรอบ 7 ประตู 0
    ส่วนโบลตันยิงทั้งหมด 2 ลูก เข้ากรอบ 1 ลูก และ 1 ลูกนั้นคือประตูชัย...


    นัดเสมอพาเลซ 2-2 ในบ้าน
    ห่วยแตกกว่าเดิมที่ทีมเกือบแพ้ด้วยซ้ำโดนยิงนำไป 2 รอบเลย
    แล้วสถิติเหรอครับ เช่นเคย... ผมยิงเข้ากรอบ 11 ลูกได้ 2 ประตู ส่วนอีกฝ่ายยิงเข้ากรอบแค่ 4 ลูก ได้ 2 ประตูเท่ากัน...


    เป็น 2 นัดที่ได้แค่แต้มเดียว แล้วนัดต่อมาชนะนิวคาสเซิ่ลได้ 1-0 ในสภาพที่กระหน่ำแหลกยิงไป 10 ลูก ได้มาแค่ประตูเดียว ยังโชคดีที่ได้แต้ม และแน่นอนว่าโกล์นิวฯได้ mom 9 คะแนน...


    นี่ก็เป็นอีกนัดที่โมโหมาก 
    แพ้คาบ้านให้กับซันเดอร์แลนด์ 3-2
    เรียกได้ว่าฟ้ากลั่นแกล้งเลยทีเดียวเรายิงแทบตายไม่เข้า อีกฝ่ายแค่สะกิดบอลก็ได้ประตูแล้ว...
    นัดนี้ซัดไป 21 ลูก เข้ากรอบ 13 ลูก ได้แปรเป็นประตูได้แค่ 2
    ส่วนอีกฝ่ายน่ะเรอะได้ยิง 9 เข้ากรอบ 5 ประตูถึง 3 ...


    จากนัดที่ว่า ทีมยังคงสะดุดต่อเนื่องเมื่อสเปอร์อุดจนแบ่งแต้มสำเร็จ
    ยิงเข้ากรอบ 10 แต่ไม่ได้ประตูเลย...


    ยังครับยังไม่จบ...
    จากสเปอร์ก็เปิดบ้านรับแบล็คเบิร์นและผลก็แบ่งแต้มอีกเช่นเคย...
    โกล์อีกทีมไม่ได้ mom เพราะเกมรุกผมไม่เด็ดขาดนัก แต่ก็ใช่ย่อยครับยิงไป 12 เข้ากรอบ 5
    อันนี้ไม่เคืองเท่าไหร่ แต่ที่โมโหคือทั้งเกมอีกฝ่ายมีโอกาสยิงแค่ 1 ลูก แล้วมันก็เป็นประตูเสียด้วย...

    3 นัด 2 คะแนน... 



    จริงๆแล้วภาพรวมถือว่าสะดุดน้อยนะครับ เพราะส่วนใหญ่ทำเกมรุกได้ดุจริง และเสียน้อยลง แต่ปัญหาคือทีมคู่แข่งปีนี้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของอุลลิเย่ต์ ที่เป็นแชมป์ปีก่อน เบียดผมในนัดสุดท้ายน่ะ
    ปีนี้ก็ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง... ทั้งที่นักเตะเจ็บวนเวียน แต่ก็ยังเก็บแต้มได้ไม่หยุด หลายนัดมากที่ชนะ 1-0 แต่นั่นก็คือ 3 แต้ม ในช่วงแรกๆที่ผมสะดุดนั้นแต้มห่างไปถึง 8 แต้มเลยทีเดียว จนนึกว่าอาจต้องถอดใจแล้วก็ได้ เพราะอีกฝ่ายไม่แผ่วเลยสักนิด...


    แต่ก็เพราะนักเตะหลักเจ็บนั่นล่ะนะเกมรุกลิเวอร์พูลปีนี้เลยเจอปัญหามาก และจบที่ผลเสมอหลายนัดมาก ผมเลยฉวยโอกาสนั้นตีตื้นไล่ไป

    และเกมที่เป็นจุดเปลี่ยนของฤดูกาลนี้ก็ต้องยกให้ เกมที่ Wincham Park สนามเหย้าบ้านเราเอง โดยเปิดบ้านรับลิเวอร์พูล...
    ตอนแรกผมนึกว่าจะเป็นเกมที่ยาก แต่ไม่ใช่เลยครับ เล่นแล้วลิเวอร์พูลทำเกมได้ก็จริง แต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คาด
    3-0 ไม่ใช่แค่ 3 แต้มอย่างเดียว แต่ยังถึงประตูได้เสียที่สำคัญด้วย เพราะลิเวอร์พูลปีนี้เหนียวสุดๆ ช่วงต้นถึงกลางฤดูกาลมาทีมเราเป็นรองเรื่องประตูรวมมาก... นัดนี้จึงนอกจากจะลดความห่างของคะแนนแล้วยังลดความห่างของประตูรวมด้วย


    จากนั้นผมก็พาทีมฮึดชนะมากเท่าที่จะทำได้ ส่วนลิเวอร์พูลก็มีสะดุดบ้างแล้ว จนผมมีโอกาสแซง ทีมเป็นรอง 6 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 2 นัด
    ซึ่งนัดตกค้างนัดแรกนั้นผมชนะเชลซีนอกบ้านมาได้ 4-1
    ต้องบอกว่านัดนี้โชคดีที่โกล์เชลซีฟอร์มตก เลยเก็บ 3 แต้มสำคัญได้มา


    อีกแค่นัดเดียวก็จะแซงได้ แต่ว่าปีนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ เพราะต้องไปเยือนอาร์เซน่อล 
    เล่นนอกบ้าน 2 นัดติดกันเลย... 
    ทรงเกมช่วงแรกกกำลังจะดีเลย แต่พอนาทีที่ 39 เท่านั้นล่ะ ใบแดงไม่น่ามาก็มาจนได้... บูดิสโซ่เข้าบอลสองเท้าแบบไม่ระวัง
    แล้วเกมก็เปลี่ยนเลย อาร์เซน่อลมีสวน แล้ว 3 ประตูที่เข้ากรอบ ก็แปรเป็น 1 ประตู และประตูชัยนัดนี้
    ทีมก็ยังตามหลังลิเวอร์พูลอีก 3 แต้มเช่นเคย...


    หมดจากนัดอาร์เซน่อล ก็จะเหลืออีกแค่ 8 นัดเท่านั้น ซึ่งเหมือนชะตาเล่นตลกเพราะนัดสุดท้ายทีมผมต้องบุกไปเยือนลิเวอร์พูลถึงถิ่นแอนฟิลด์...
    โชคยังเข้าข้างผมเล็กๆคือนัดที่ 31 ลิเวอร์พูลไปแพ้โบลตัน 0-1 ถ้าผมชนะได้ก็แซง 

    แต่ว่าช่วงปลายฤดูกาลนั้นลิเวอร์พูลตกรอบ UCL รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนผมทะลุไปต่อ นั่นคือลิเวอร์พูลจะได้แข่งก่อนผมหลายนัด โยนความกดดันมา

    ซึ่งผลงาน 7 นัดก่อนนัดสุดท้ายลิเวอร์พูลชนะถึง 5 เสมอ 1 แพ้ 1
    ยอมรับเลยตั้งแต่เล่นมาไม่มีฤดูกาลไหนเลยที่จะแช่งคู่แข่งขนาดนี้ แล้วก็อยากโหลดใหม่ขนาดนี้ ด้วยความสัตย์จริงเลยว่าถ้าไม่ได้เล่นเก็บภาพมาเขียนบทความล่ะก็ ผมโหลดใหม่ตั้งแต่ต้นฤดูกาลไปแล้วครับ มีช่วงหนึ่ง 8 นัดติดกันเลยที่ประตูอีกฝ่ายได้คะแนน 8-9 และ

    ขณะที่ทีมผมก็กัดฟันสู้สุดตัวเลย 7 นัดก่อนนัดสุดท้ายเก็บมา 7 นัดรวดแบบสบายบ้างเหนื่อยบ้าง เพราะมีช่วงหนึ่งแข่งบอลถ้วยรอบชิงถึงขั้นต่อเวลาพิเศษจนยิงจุดโทษ 2 วันต่อมาต้องเล่นพรีเมียร์ต่อ กรอบสุดๆ... โรเตชั่นกันวุ่น
    สรุปคือในนัดที่ 37 ผมก็พลิกกลับมาแซงได้สำเร็จ และนัดที่ 38 เจอกับลิเวอร์พูลจะเป็นเกมตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีคกันจริงๆ


    ดราม่าไม่ได้มีเท่านี้ แต่ต้องเล่นกันจนถึงที่สุดเลย

    ผมขอแค่เสมอเท่านั้นทีมก็จะได้แชมป์โดยปริยาย แต่เกมก็ไม่ง่ายเลยเมื่อนาทีที่ 53 Miller กลางรุกวัย 35 สัญชาติสกอร์ตแลนด์ยิงให้ทีมลิเวอร์พูลนำ...
    จากนั้นเวลาก็ไหลไปเร็วมาก ลิเวอร์พูลอุดน่ากลัวจริง สมเป็นทีมที่รับเหนียวที่สุดในพรีเมียร์ลีคปีนี้ ผมเองก็วัดใจล่ะ สั่งเปิดเกมรุกเต็มรูปแบบ ยกเลิกการเพรสซิ่ง เปิดบอลโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ ส่งกลางรุกลงมาแทนเพื่อเพิ่มโอกาสปั้นเกม

    และแล้ว... ฟรีคิกส์ในนาทีที่ 87 Anastasiadis กองหลังของทีมก็เปิดบอลให้กับ Skalidis นักเตะชาติเดียวกันซัดบอลเข้าตุงก้นตาข่าย...
    ซึ่งนั่นก็เป็นประตูตีเสมอ... แล้วก็เป็นประตูสุดท้ายของเกมนี้ปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีค ด้วยแชมป์ของเรา Northwich Victoria...!!

    ภาพรวมเกมแล้วสุดอึดอัดครับ แล้วพูดจริงๆว่าถ้ายิงประตูคืนไม่ได้ มันคงเป็นอะไรที่ชวนโมโหสุดๆเลยล่ะ ตามภาพเลยครับ...
    ยิง 1 เข้า 1 ... จะเป็นแชมป์ทั้งทีก็ลงทุนให้มันมากกว่านี้ สมศักดิ์ศรีกว่านี้หน่อยดีไหม... ไม่งั้นก็ปล้นกันชัดๆเลย


    เป็นปีที่สู้เหนื่อยที่สุดตั้งแต่เล่นเกมนี้มาเลยจริงๆครับ เพราะไม่ใช่แค่ 38 นัดเท่านั้น แต่ยังลุ้นไปถึงนาทีที่ 87 กว่าจะได้ประตูปลดล็อคมา แล้วก็มาเครียดต่อว่าช่วงเวลาที่เหลือจะอุดอยู่ไหม

    ลิเวอร์พูลทำได้ยอดจริงๆ ขึ้นป้ายที่ 1 แล้วก็ไม่ลงจากตรงนั้นอีกเลย... จนนัด 37 นั่นล่ะ อันดับถึงมีการเปลี่ยน แล้วก็เป็นการเปลี่ยนแชมป์เลย


    ผลงานโดดเด่นไปคนละด้าน ผมเด่นเกมรุก ลิเวอร์พูลเด่นเกมรับ

    บอลลีคเลยจบไปแบบสนุกสุดเหวี่ยงด้วยประการฉะนี้


    ถึงจะเฉือนชนะแต่ที่ผมบอกว่าผลงานดีขึ้น ก็เพราะว่าในรายการอื่นนั้นทั้ง FA Cup LeagueCup และ UCL 
    ผมพาทีมทะลุเข้ารอบชิงได้ทั้ง 3 รายการครับ และเข้าได้แบบไม่เหนื่อยมากด้วยในปีนี้

    เพียงแต่ผลมันไม่เป็นอย่างที่คิดครับ... คือธรรมดาก็โดนปล้นอยู่แล้ว พอรอบชิงนี่โอกาสโดนก็ยิ่งสูง..
    พลาดตั้งแต่รายการเลย

    League Cup เจอกับนิวคาสเซิ่ลแล้วก็แพ้ 3-0 แบบอึ้งไปข้าง...

    ฟอร์มต่างกันเหลือเกิน...
    แต่พอมาดูสถิติแล้ว ทำไมมันตรงข้ามกันแบบนี้...
    เป็นอีกนัดที่อยากโหลดใหม่จริงๆให้ตายสิ


    ต่อมาก็ FA Cup เจอกับสเปอร์ แล้วก็ไปดวลจุดโทษหลังในเกมเสมอไป 2-2
    ไอ้นัดนี้ก็เป็นอะไรที่ผมคาใจอีกนัด ก่อนอื่นดูภาพรวม เช่นเคยว่าอีกฝ่ายคะแนนดีจริงๆ แทบยกทีม

    แล้วดูหมอนี่ที่คะแนน 9...
    พลังมันไม่น่าใช่เลยนะ...
    ฟอร์มในฤดูกาลก็ไม่ดีด้วยนะ คือพ้องกับพลังนั่นล่ะครับ แต่นัดชิงดันผีเข้าเล่นโคตรเก่งซะงั้น...

    รูปเกมเหมือนจะสูสี แต่ผมเหนือกว่าแน่ๆครับ
    แต่เหมือนเกมจะแกล้งยิงนำได้นาที 47 ก็ถูกตามนาที 49
    ยิงนำอีกรอบนาที 109 แต่ถูกตีเสมอนาที 116
    คือเราไม่ยิงมันก็ไม่ยิง แต่พอเรายิงปุ๊บมันเอาคืนทันที...
    สุดท้ายแพ้จุดโทษที่สกอร์ 4-5
    โหลดได้ก็คงโหลดไปแล้วล่ะ และผมเชื่อว่าเจออีกทีมันไม่ลงเอยสกอร์แบบนี้แน่ๆ


    สรุปเข้ารอบชิง 3 รายการแต่ชวดไปแล้ว 2 
    ก็เหลือแค่รายการสุดท้าย UCL ซึ่งผมว่านี่คงเป็นงานง่ายสุดเมื่อเทียบกับ 2 ถ้วยข้างต้น แต่เพราะทีมไปพลาดมาเลยกดดันหนักแทน...

    เหตุผลที่ว่าง่ายก็คือเจอกับทีม Club Brugge นั่นเอง ทีมม้ามืดจริงๆ...
    แต่เห็นแบบนี้จะประมาทก็คงไม่ได้เพราะในรอบแรกเขาเข้ามาเป็นอันดับ 1 ของสาย ทั้งที่ในสายนั้นมีมิลาน มีซันเดอร์แลนด์(แชมป์ UCL ปีที่แล้ว) และบียาลีล
    ในรอบสองก็เข้ามาในอันดับ 1 ของสาย ทั้งที่ในสายนั้นมีบาเซโลน่า บาเยิร์น และพีเอสวี
    รอบ 8 ทีมผ่านมิลานมาได้
    รอบ 4 ทีมผ่านมาดริดมาได้...

    เส้นทางยากเอาเรื่องแต่ผ่านมาได้เหมือนหมูๆเลย...
    แต่ทางผมเองก็โดนมาหนักไม่ต่างกัน เจอประกบสายแบบส่ายหน้าเลย มาดริดงี้...
    แต่ก็ผ่านมาได้แบบไม่ยากล่ะนะ


    รอบสองก็แทบกุมขมับเหมือนกันเจอทีมที่แบบว่าแพ้ทางทั้งนั้น... มิลานก็ไม่อยากเจอ ดอร์ทมุนด์ก็ไปแพ้นัดชิงเมื่อปีก่อนโน้น...
    แต่ก็นั่นล่ะรอบนี้ไม่โหดเท่ารอบชิง ก็บดผ่านมาได้แบบที่ 1


    เอ๊ะ แต่จะว่าไป... Club Brugge ก็เจอทีมที่ผมชนะมาทั้งนั้นนี่นะ...
    ส่วนผมก็ไปเจอทีมที่เขาชนะมา
    คือรอบ 8 ทีมผมผ่านบาซ่ามา
    รอบ 4 ทีมอันนี้ไปเจอกับ โอลิมปิก ลิยง ที่ชนะลิเวอร์พูลมาได้ 

    และในรอบชิงที่อัมสเตอร์ดัมอาริน่า... ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2011
    Kourtoglou ลูกรักที่ผมทุ่มซื้อจากอาร์เซน่อล สนนราคา 6.75m (พูดเหมือนจ่ายเยอะ แต่สำหรับนักเตะอายุ 30+ แล้วล่ะก็ ผมไม่นิยมจ่ายเกิน 3m หรอกนะครับ เว้นแต่ต้องการจริงๆ)
    ซึ่งเขาคนนี้ที่ผมส่งลงบอลถ้วยเป็นการณพิเศษ (เพราะเก็บไว้เล่นในลีคเป็นหลัก) แล้วเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อยิงให้ทีมนำไปก่อน 1-0 ในนาที 27 
    จากนั้นทีมก็ขึงบุกข้างเดียวจนนาทีที่ 67 นักเตะเซ็นต์ฟรีหมายจะใช้ประสบการณ์และชื่อเสียงอย่าง Trezeguet ก็ยิงห่างเป็น 2-0 ฝังและปิดฉากนัดนี้ในที่สุด...


    เป็นเกมที่ไม่ขาดนัก แต่ภาพรวมนั้นง่ายจริงๆครับ
    บุกอยู่ข้างเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ..



    สรุปปีนี้ก็คือทะลุได้ลุ้นแชมป์ทุกรายการที่ไปได้ครับ แต่ได้มา 2 คือ พรีเมียร์ลีค และ UCL
    ก็ถือว่าไม่เลวเลย ถ้าปลงเรื่องที่ถูกปล้นไปหลายๆได้ล่ะก็นะ... 

    เอาน่ะอย่างน้อยก็ได้ถ้วยใหญ่สุดมาล่ะนะ...
    ก็ดูกันต่อไปว่าปีหน้าจะทำได้ดีเช่นนี้อีกไหม กับนักเตะที่เอามาปั้น ขณะที่ตัวหลักเองก็เริ่มมีโรยรากันแล้ว




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×