ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Diary CM01/02

    ลำดับตอนที่ #13 : [ฤดูกาลที่ 7] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 3 ถ้วยสุดท้ายที่เหลืออยู่

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 58


    เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 3 ถ้วยสุดท้ายที่เหลืออยู่ - ฤดูกาล 2007/2008


    จากผลงานฤดูกาลนี้ผ่านมาที่สำเร็จและหยิบจับได้ ก็มีดังนี้ครับ
    1. FIFA Club World Championship
    2. Charity Shield
    3. Super Cup
    4. Premier League


    นอกจากถ้วยปกติอย่าง FA Cup , League Cup และ UCL 
    รายการล่าสุดที่ยังไม่เคยแข่งและได้แข่งในปีนี้ก็ยังมีอยู่อีก 1 รายการ และนัดเดียวจบด้วย นั่นก็คือรายการ Intercontinental Cup ซึ่งก็คือการเอาแชมป์ยุโรปมาชนกับแชมป์อเมริกาใต้นั่นเอง
    ในปีนี้ก็เป็นการพบกันระหว่าง Northwich กับ Boca Juniors

    เป็นรายการที่รู้ผลในนัดเดียว แต่ก็เป็นศึกศักดิ์ศรีเอาเรื่อง เพราะแต่ละทีมก็มีดรีกรีเป็นถึงแชมป์ทวีปนั้นๆ
    แต่ส่วนตัวแล้วค่อนข้างมั่นใจในทีมตัวเองที่สร้างมาตรฐานไว้แข็งปั๋ง ก็จึงจัดทีมโรเตชั่นไป



    ส่วนอีกฝ่ายก็เล่นแผน Diamond
    แต่ก็ไม่ได้เซ็ทให้บุกอะไร เล่นไปตามจังหวะล่ะนะ


    พอนกหวีดการแข่งขันเริ่มขึ้น Brennan ก็ยิงนำไวตั้งแต่นาทีที่ 3 เลย เกมดูจะง่ายขึ้น แล้วนาทีที่ 28 McPhee ก็บวกเพิ่มอีกลูกให้ห่างมากขึ้น
    อย่างไรก็ดีโบค่าก็สู้ไม่ท้อ ในนาทีที่ 43 ก็มาตีไข่แตกจาก La Paglia ก่อนที่ทีมเราจะเสีย Anastasiadis จากใบแดงในนาทีที่ 45
    ครึ่งหลังเลยต้องปรับเปลี่ยนแผนกันหน่อย แล้ว Skalidis ที่มาในตัวสำรองก็ยิงเพิ่งเป็นลูกที่ 3 ในนาทีที่ 61 ฝังเสียที และเป็นสกอร์สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป 90 นาที
    เป็นเกมที่สูสี แต่น่าจะเพราะผลของใบแดงนั่นล่ะนะ

    ก็ได้มาเพิ่มอีกรายการหนึ่ง



    ส่วนรายการอื่นก็ทะยอยร่วงไปหมด เริ่มจาก League Cup เลย

    เป็นรายการที่ตกรอบแบบไม่น่าตกรอบมาหลายปีติดล่ะ ปีก่อนก็ทีมรวน ปีนี้ก็โดนแดง...


    ส่วน UCL นั้น ช่วงแรกก็ทำได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น
    ในรอบแบ่งกลุ่มนั้น ทีมถูกจับไปอยู่ในสาย G ประกบกับ Hannover 96 , Galatasaray , IFK Goteborg
    ก็งานสบายเลยล่ะ 6 นัดเก็บชนะรวดได้


    พอแบ่งกลุ่มรอบสองเจองานหนักขึ้น ได้อยู่กลุ่ม B เจอกับ PAO , Real MAdrid , FC Bayern
    แทบกุมขมับ...

    แต่แข่งจริงแล้วก็ทำได้ดีเกินคาด โดยไม่แพ้ใครเลย แถมชนะไปเสีย 5 อีกด้วย
    จากที่เดาไม่ออกว่าจะได้อันดับเท่าไหร่ โดยลุ้นที่ 2-3 แต่กลับได้ที่ 1 แบบขาดลอยซะงั้น


    ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจองานหนักกับ AS Roma
    แต่ว่าก็สู้มาได้ นัดแรกเสมอ 1-1 นัดสองเล่นในบ้านยิง 3 ลูก ชนะ 4-1 ผ่านไปสู่รอบต่อไป


    แต่แล้วพอมาถึงรอบรองชนะเลิศ ทีมก็ต้องมาหยุดที่ป้ายนี้เอง เมื่อต้องเจอกับ Man Utd.
    ซึ่งตรงนี้ล่ะที่ทำให้ผมโกรธผู้จัดการทีมทีมชาติกรีซมาก ที่ดึง Skalidis ไปแล้วเอาเล่นแค่นัดกระชับมิตร แล้วทำให้เจ็บ 3 เดือนในนัดสำคัญ
    ซึ่งตอนนั้นทีมก็เคราะห์เยอะอยู่แล้วตัวรุกเจ็บเพียบ เช่น Joe Cole เจ็บ Brennan ก็ไม่ฟิตเพิ่งหายหมาดๆ กลางอย่าง Movilla ก็เจ็บต้องโยกตัวกันอุตลุต แล้วยังมาช้ำกับ Skalidis อีก

    คือผมนะก็คุมทีมชาติอเมริกาอยู่ แต่ไม่เคยคิดเยอะกับนัดกระชับมิตรเลย จริงๆอยากใช้เป็นเวทีลองนักเตะด้วยซ้ำ พักตัวหลักไว้รายการสำคัญหรือนัดคัดเลือกยังจะดีกว่า
    พอเอาตัวจริงจัดเต็มลงแบบนั้นแล้วเจ็บนี่้ ทีมชาติก็แย่ ทีมสโมสรที่จ่ายเงินค่าเหนื่อย จ่ายค่ารักษา คอยดูแลอาการบาดเจ็บและฝึกฝนก็เดือดร้อนกันหมด...

    ผลที่สุดก็แพ้ไป
    นัดแรกเสมอ 1-1 แต่นัด 2 นี่ แมนยูองค์ลงตั้งแต่โกล์ยังกองหลัง กลางหน้าเลย เหมือนนัดเยือนครั้งแรกในลีคเลยว่าสู้แทบตาย ทรงเกมไม่ได้เป็นรอง ออกจะดีกว่าด้วยซ้ำ แต่เพราะ Buffon คนเดียวจริงๆ ไม่งั้นได้แบ่งแต้มอย่างน้อยแล้ว
    นัดนี้ไม่มีหน้าตัวหลักยิ่งเป็นรองเข้าไปใหญ่ แต่ก็สู้เท่าที่ทำได้และสูสีเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็อาการเดิมกับนัดที่ว่า... แพ้ไป 2-0
    โดนแกรี่ เนวิลล์ยิงไวตั้งแต่นาทีที่ 3 ทำให้แผนที่วางไว้เริ่มมีปัญหา แล้วตอเรสก็มาซ้ำนาทีที่ 56 จบเส้นทาง UCL เพียงเท่านี้

    ซึ่งแมนยูก็ผ่านไปรอบชิง เจอกันดอร์ทมุนด์ แล้วก็ชนะไป 1-0 ด้วยฝีมือ ตอเรสเจ้าเก่า คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง


    พลาดไปอีกรายการ และก็เหลืออีกรายการสุดท้าย และเป็นรายการที่ Northwich ยังไม่เคยสัมผัสถ้วย นั่นก็คือ FA Cup
    เส้นทางที่พูดเต็มปากเลยว่า ไร้ซึ่งโชคอย่างมากมาตั้งแต่เล่นมาเลย

    ด้วยผลงานรวมปีก่อนดีมากๆ ปีนี้ไม่รู้ยังไงถูกจับมาแข่งรอบ 5 เลย
    เหมือนจะดี แต่จริงๆแล้วอยากเล่นแต่รอบแรกมากกว่านะ เพราะจะได้ใช้ทีมสำรองเล่นเรียกฟอร์ม ปรับตัวก่อน
    และพอประกาศผลจับคู่ ก็ทำให้ต้องขบฟันจริงๆ เช่นเคย เจอกับทีมระดับพรีเมียร์ไม่พอ ยังเล่นนอกบ้านอีก...

    รอบ 5 ต้องเจอกับ Man City ที่ Maine Road 
    ตอนแรกก็เล่นแบบผ่อนหนักผ่อนเบาไป คือโรเตชั่นแล้วลุย แล้วผลก็ออกมาดีเกินคาด แม้จะถูกยิงนำไปก่อน แต่สุดท้ายก็แซงไปแบบขาดเลย


    ผ่านไปได้ก็เหลืออีก 3 รอบจะได้แชมป์
    แต่พอประกอบคู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้วก็รู้สึกเลยจริงๆว่าแชมป์ไม่มาง่ายๆแน่
    คือทีมที่ผ่านมาได้มีสเปอร์ ซันเดอร์แลนด์ เบอร์มิ่งแฮม ปอร์ทมัทธ์ (ดิวิชั่น1) แอสตันวิลล่า (ดิวิชั่น1) ลีดส์ และนิวคาสเซิ่ล

    ถ้าผมบอกว่าดวงแตกคงเดากันไม่ยากนะว่าจะเจอใคร?

    ใข่... ใช่เลย... ผลการจับฉลาก Northwich ได้เจอกับ นิวคาสเซิ่ล และแน่นอนแน่แท้ว่าต้องเล่นที่บ้านนิวฯ ด้วย
    เห็นผลการจับฉลากแล้วเป็นอีกครั้งที่ต้องหลุดปากสบถจริงๆว่า พ่อง...!
    แค้นอะไรกันหนักนา จับไปเจอทีมระดับลุ้นแชมป์นอกบ้านทุกครั้งร่ำไปเนี่ย!?

    เอ้า จับได้แบบนี้ก็ต้องแข่ง
    วันที่ 8 มีนาคม 2008 สนาม St.James's Park

    ผมด้วยความโมโหกับผลจับฉลากก็ไม่โรเตชันยกทีมแบบเดิมมันแล้ว ใช้ชุดผสมแบบเน้นตัวแกร่งว่าเลยดีกว่า


    เจ้าถิ่นบดไวเลย แล้วก็ได้ประตูนำไปตั้งแต่นาทีที่ 9 
    แต่พอครึ่งหลังก็ได้ประตูตีเสมอไวเช่นกันจาก Skalidis ในนาทีที่ 47
    แต่นิวฯก็ยังบุกใส่ และได้ประตูนำอีกครั้งในนาทีที่ 58 โดย Govou
    ทว่า Northwich ก็ไม่แพ้เมื่อ Henry ยิงตีเสมอได้นาที 64 
    จากนั้นก็ไม่มีใครทำอะไรได้อีก เอาตัวรอดออกมาได้สำเร็จ และไปตัดสินกันนัด Replay ที่ Wincham Park ในอีก 11 วันข้างหน้า


    ซึ่งในนัดแข่งใหม่นั้น ความที่แข่งในบ้านผมก็จึงกลับมาโรเตชั่นอีกครั้ง และหนนี้ก็ไม่พลาด
    โดยชนะไป 2-0 ด้วยประตูของ Karagounis และ Brennan 
    รูปเกมไม่เป็นรองแบบนี้ เล่นสบายใจหน่อย


    ผ่านนิวฯ มาได้ก็ไม่เครียดล่ะ เพราะรอบนี้ไปเล่นสนามกลาง ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ และทีมที่หลุดมาก็อยู่ในขั้นที่มีลุ้นชนะได้ทั้งสิ้น
    ซึ่งผลการประกบคู่ก็ได้เจอกับ ซันเดอร์แลนด์

    วันแข่งจริงก็จัดโรเตชั่นไป แล้วส่งอองรีลงหน้าเป้า
    ซึ่งอองรีก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เมื่อซํดไป 4 ลูก ให้ทีมนำขาดเข้ารอบไปทั้งแบบนั้น


    และในรอบขิงก็ได้พบกับ ลีดส์ที่เอาชนะเบอร์มิ่งแฮมมาได้ช่วงต่อเวลาพิเศษ


    ในรอบชิงที่ Wembley ในวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2008
    มาถึงจุดนี้จนได้ สำหรับ Northwoch ก็กวาดมาทุกถ้วยที่มีแล้วจะเหลือก็แค่รายการนี้ล่ะ ใกล้สุดก็ปีที่แล้ว แต่เพราะกลางเจ็บหมดเลยทำให้แพ้แมนยูไป
    ปีนี้เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็นัดกระชับมิตรทีมชาตินั่นล่ะที่ทำให้ Skalidis ต้องพักยาว

    มาถึงจุดนี้ ยังไงก็อยากจะชนะให้ได้
    แต่นักเตะก็ยังกรอบกับการเจอม Man Utd. พักได้แค่ 3 วันก็ต้องแข่งรายการนี้อีก ก็แน่นอนว่าโรเตชั่นผสมฝืนนักเตะกันบ้าง
    โดยรวมก็ถือว่าทีมแน่นอยู่ล่ะนะ


    ส่วนลีดส์ก็ตามนี้
    ขาด Alan Smith ไป แล้ว Fowler เองก็ยังน่ากลัวอยู่ แม้วัยจะ 33 ก็เถอะ

    ลีดส์เปิดเกมบุกเข้าแลกเช่นเคย
    แต่เราก็ได้ประตูก่อนโดย Karagounis ในนาทีที่ 21
    โอกาสได้แชมป์มารำไรแล้ว แต่งานก็ไม่ง่ายครับ ในนาทีที่ 64 Fowler ที่เพิ่งพูดถึงก็ยิงตีเสมอ แล้วก็ทำอะไรกันไม่ได้อีกเลยใน 90 นาที 

    แชมป์สุดท้ายช่างมายากจริงๆ
    แต่ว่าการเปลี่ยนตัวในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหมดเวลาก็มาแสดงผลเอาช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังนี้เอง
    เมื่อ Brennan ยิงนำอีกครั้งในนาทีที่ 110 
    การถูกนำช่วงนี้บีบให้ลีดส์ต้องเปิดหน้าแลกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนั่นก็กลายเป็นช่องโหว่รูเบ้อเริ่มให้เราได้สวนกลับ 
    และนาทีที่ 116 Karagounis  ก็ยิงเพิ่มให้ขาดกว่าเดิม
    ก่อนที่ Dalla Bona สำรองอีกรายจะยิงลูกที่ 4 ปิดฉากสกอร์ 4-1 คว้าแชมป์มาแบบเต็มหมัดเลย

    ในที่สุด... ก็ได้มาครองจนได้


    เท่ากับว่าตอนนี้สามารถคว้าทุกถ้วยในระดับสโมสรมาประดับในตู้ของสโมสรได้สำเร็จ
    ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 ปีครับ



    ถือว่าเป็นแผนที่ดีมากๆเลยทีเดียว

    บทความรำลึกความหลังก็น่าจะมาถึงจุดสิ้นสุดเพียงเท่านี้
    อนึ่ง แต่ในๆก็ลากยาวมาถึงจุดนี้แล้ว ผมจะลองเล่นไปให้ถึง 10 ปี แล้วสรุปผลงานดูอีกทีก็แล้วกันนะครับ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×