ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : [ฤดูกาลที่ 7] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 3 ภารกิจปกป้องแชมป์พรีเมียร์ลีค
ภารกิจปกป้องแชมป์พรีเมียร์ลีค - ฤดูกาล 2007/2008
สำหรับเส้นทางในพรีเมียร์ลีคปีนี้นั้น อิงจากมาตรฐานปีก่อน คงไม่มากเกินไปหากจะตั้งเป้าสูงที่แชมป์พรีเมียร์ แล้วตั้งเป้าต่ำที่ UCL ซึ่งก็คืออันดับ 1-4
มีคำกล่าว่า การได้แชมป์ว่ายากแล้ว การปกป้องแชมป์นั้นยากกว่า
ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะการปกป้องแชมป์มันก็เท่ากับว่าเราต้องได้แชมป์ดีๆนี่ล่ะ
ปีนี้ทีมที่เสริมทัพน่ากลัวก็มีทั้งแมนยู อาร์เซน่อล นิวคาสเซิ่ล
ส่วนคุณภาพทีมที่ไม่ได้เสริมมากนักอย่างลิเวอร์พูล สเปอร์เองก็ไม่เลว
ก็อยู่ที่ว่าทีมเราเองนี่ล่ะที่จะนิ่งได้ขนาดไหน
ซึ่งปีนี้ถือว่าปีเป็นแตกของทีมอย่างไรชอบกล
แตกแรกคือ ดวงแตก เพราะเป็นอะไรที่โดนทั้งจุดโทษและใบแดงมาก ซึ่งหลายนัดก็ส่งผลถึงแพ้-ชนะกันเลย
ต้องยอมรับอย่างว่าแผนนี้ทำให้ทีมรุกได้เร้าใจ แต่ก็ทำให้ทีมได้รับใบมากแผนหนึ่ง เดาว่าน่าจะมาจากการต้องตัดเกม หรือถูกสวนกลับ พอหยุดจังหวะหลุดเดี่ยวก็จึงทำให้ได้ใบเหลืองอย่างน้อย
อย่างในฤดูกาลนี้เล่นมา 31 นัด ดูจำนวนใบเหลือง...
อันดับ 1 ร่วมกับลีดส์เลย
ทั้งที่นักเตะเองก็ไม่ใช่พวกก้าวร้าวอะไร แสดงว่าโดนเพราะรูปเกมเป็นส่วนใหญ่จริงๆ
ใบแดงก็อันดับ 2
แล้วจำนวนที่โดนนี่ยังไม่นับบอลถ้วยอีก ซึ่งถ้ารวมก็เพียบบานเบอะ
จริงๆเหลือง แดงน่ะเรื่องปกติ แต่ปีนี้มันดันออกมาเยอะเป็นพิเศษ แถมหน้าเดิมๆก็ชอบพลาดซ้ำซาก แล้วยังเป็นจุดเปลี่ยนผลอย่างที่ว่า
เช่นนัดนี้...
เหลือแค่ 10 นาทีจะจบ มันควรจจะจบเกมที่ 2-1 ได้ 3 แต้มอยู่แล้ว แต่ผู้รักษาประตูดันไปโดนใบแดง แถมเสียจุดโทษอีก เกมเลยจบแบบแบ่งแต้มไปต่อหน้าต่อตา
ตกรอบบอลถ้วยก็เพราะใบแดงเช่นกัน
แถมประตูคนเดิมอีก เตือนไปหนักหนายังจะพลาดซ้ำซากอีก
สู้แทบตาย โกล์เราดันเสียง่ายๆ อีกฝ่ายก็ดันองค์ลง ไม่แพ้ยังไงไหว เป็นการตกรอบบอลลีคคัพที่ผมโมโหที่สุดเลย และผู้รักษาประตูก็โดนปรับไปบานเล่นฟรีเป็นเดือน
และไอ้เจ้าเก่าหน้าเดิมก็ยังทำผิดซ้ำซากต่อเนื่อง หนนี้โดนแต่ต้นเกมเลย และจบที่แพ้แบบกำลังสู้เพื่อป้องกันแชมป์อยู่ด้วย
ครั้งนี้ก็โดนลงโทษปรับทั้งข้อหาถูกไล่ออกไม่ระวัง และไม่เชื่อฟังคำสั่งผู้จัดการรวมก็อีกเดือน
จากนั้นผ่านมาเกือบ 3 เดือน 17 นัด ก็ไม่มีใบแดงจากผู้รักษาประตูอีก
ให้มันดีแบบนี้ตลอดไปก็แล้วกัน...
ปีนี้เป็นปีที่ผมโวยใส่สมาคมฟุตบอลเรื่องการตัดสินของกรรมการบ่อยมากจนถึงขั้นถูกปรับ
และก็เป็นปีที่ลงโทษกับใบแดงโง่ๆอย่างแรงจนเกิดการไม่พอใจภายใน ซึ่งส่วนมากก็เป็นพวกเยาวชนห้าวๆที่อยากปกป้องเพื่อน โดยไม่มีดูอะไรเลย
ผมก็ลงโทษด้วยการขึ้นบัญชีขายมันให้หมด
ไม่มีใครใหญ่เกินทีม และอย่ามาโชว์ห้าวในเรื่องที่ทำผิดจริงกับผู้จัดการทีม
การได้แชมป์ติดกันจนระดับชื่อเสียงปีก่อนขึ้น World Class ทำให้นักกีฬาที่มืออาชีพพอ เลือกที่จะสงบเฉยและดูสถานการณ์
ในช่วงที่ผมลงโทษหนักๆนั้น ลูกรักอย่าง Skalidis ไม่ออกอาการอยากปกป้อง แม้แต่สตาร์เข้าทีมใหม่อย่าง Henry ก็เลือกที่จะสนใจแต่เกม
งานนี้จึงทำให้มีการคัดพวกไม่เชื่อฟัง หรือคิดว่าเก่งออก โดยจะขึ้นบัญชีขายด้วยราคาโหดๆ พอให้ได้สงบสติอารมณ์ แต่ถ้ายังดื้ออีกก็เตรียมนั่งยาว และลาทีมได้
เช่นคนนี้
MacDonald กองหลังที่ผมปั้นมาเองกับมือจนติดทีมชาติ และเป็นตัวหลักของทีม
แต่หมอนี่ก็มักเป็นตัวตั้งตัวตีปกป้องนักเตะที่โดนปรับเพราะใบแดงเสมอ ด้วยข้อโจมตีว่าลงโทษแรงไป
สุดท้ายพอตั้งราคาไว้สูงแล้วเกิดมีทีม Fluminense จากบลาซิลมาเสนอซื้อ ผมก็ขายไปโดยไม่อาวรณ์เลย
เป็นเด็กปั้นที่ซื้อมาแค่ราคา 110k แต่ตอนปล่อยได้ถึง 10m ก็คุ้มเหลือเกิน แต่ก็สะท้อนเหมือนกันว่าอนาคตอาจไปได้ไกลกว่านี้
แต่สถานการณ์ทีมตอนนี้ก็ไม่ใช่จุดที่ต้องง้อนักเตะที่ไม่เชื่อฟังผู้จัดการทีมเช่นกัน และสิ้นปีนี้ก็จะมีนักเตะที่หมดสัญญาและเป็นดาวดังมาร่วมอีกเพียบ
ฉะนั้นแล้วโต้แย้งน่ะทำได้ แต่ถ้าคิดก่อหวอด ล่ะก็ คิดอีกรอบให้ดีก็แล้วกัน
ในแง่ผลงานในลีคนั้น อย่างที่บอกตอนก่อนว่าเปิดตัวได้ค่อนข้างดี เพราะทีมนิ่งขึ้นเยอะ 5 นัดแรกชนะถึง 4 เสมอ 1 (เพราะใบแดงโง่ๆที่ว่านั่นล่ะ)
แต่ 5 นัดต่อมาก็เริ่มสะดุดหนักแล้ว โดยชนะ 3 เสมอ 1 (อาร์เซน่อล) และแพ้ 1 (แมนยู)
กลายเป็นแข่ง 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 23 แต้ม ซึ่งควรจะถือว่าเยอะ
แต่ว่าทีมคู่แข่งปีนี้ก็ออกตัวแรง และแรงต่อเนื่องได้น่ากลัวมาก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น Man Utd โดยการคุมทีมของ กุด ฮิดดิ้งนี่เอง
แมนยูแข่ง 10 นัด ผลลงานคือชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 22 แต้ม ขึ้นมาอันดับสองแล้ว
ปีก่อนขับเคี่ยวกันหลายทีมตั้งแต่ Northwich , Man Utd , Liverpool , Newcastel และ Arsenal
ปีนี้ทีมอื่นๆก็แรงอยู่ แต่เฉพาะเรากับแมนยูเท่านั้นล่ะที่แรงต่อเนื่องกว่าใคร
10 นัดต่อมาผลงานเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว
Northwich แข่ง 10 ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 25 แต้ม โกยไปเยอะมาก
แต่ทางด้าน Man Utd. นั้น แข่ง 10 ชนะ 9 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 28 แต้ม ผลงานเหลือเชื่อมาก
ไม่นึกว่าจะเป็นของทีมที่เพิ่งแพ้นัดชาลิตี้ถึง 2-6
อันดับจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงตอนนี้เอง โดยที่ Man Utd. ขึ้นเป็นทีมจ่าฝูงแทนไปแล้วโดยแต้มห่างไปถึง 2 แต้ม
จากนั้นอีก 5 นัดต่อมา Northwich ชนะ 4 แพ้ 1 (แพ้อาร์เซน่อล ด้วยใบแดงโง่ๆที่บ่นมาข้างต้น) ได้มา 12 แต้ม
แต่ว่าแมนยูก็มาแปลกที่สะดุดเป็นชุดๆ ตั้งแต่แพ้โบลตัน เสมอเชลซี เสมอเอฟเวอร์ตัน เสมอนิวคาสเซิ่ล ก่อนที่จะเก็บแต้มจากสเปอร์ กลายเป็นแข่ง 5 ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้มา 6 แต้ม
ไปๆมาๆ Northwich พลิกแซงขึ้นที่ 1 ทิ้งห่าง 4 แต้มแทนซะงั้น
เพราะฉะนั้นแล้วนัดต่อมาที่ Northwich จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ Man Utd จึงเป็นนัดที่สำคัญแห่งฤดูกาลเลย เพราะถ้าชนะได้แต้มจะขาดเป็น 7 แต้มและอาจทำให้แมนยูแกว่งได้
ส่วนถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาแต้มห่างจะเหลือแค่ 1 แต้มเท่านั้น และเราก็อาจแกว่งแทนก็เป็นได้
ผิดคาดสักเล็กน้อยที่แมนยูไม่ได้มาบุก แต่เล่นแผน 5-4-1 แบบรอสวน
รูปเกมจึงออกมาแบบเนือยๆ ทั้งเกมยิงกันไม่มากนัก เปอร์เซนต์ครองบอลก็อยู่ที่ 50-50
แต่กระนั้นเกมก็ไม่ได้จบชืด เพราะการยิงนำของ Dalla Bona ในนาทีที่ 30
ก่อนที่ Skalidis จะยิงฝังในนาทีที่ 65 จบเกม 2-0 และถ่างแต้มห่างเป็น 7 แต้มสำเร็จ
5 นัดต่อมาของ Man Utd. ก็สะดุดจริงๆ
โดยชนะ 3 แต่สะดุดไป 2 เก็บได้แค่ 6 แต้ม
ส่วน Northwich ก็แข่ง 5 ชนะ 5 เก็บ 15 แต้มเต็มๆ
ตอนนี้อยู่ที่นัด 31 ก็แต้มห่างไปเยอะแล้ว
11 แต้มกับ 7 นัดที่เหลือ ถ้าจะเอาชัวร์ก็ชนะสัก 4 นัดก็รักษาแชมป์ได้ล่ะ ถ้าแมนยูสะดุดงานก็เบาลง
เพราะทีมเราเองก็มีถ้วย UCL และ FA Cup ให้ต้องแข่งเช่นกัน
อนึ่งช่วงนี้ทีมได้อีก 4 นักเตะมาร่วมทีม แต่ที่เด่นๆก็มี 2 คนคือ
Joe Cole ซึ่งพลังดีมาก แต่ฟอร์มไม่ค่อยโดนในในหลายเซฟก่อน เซฟนี้ได้มาถูกแค่ 3.6m เท่านั้น
ก็มาลองแผนนี้ดูก่อนว่าจะเป็นยังไง แต่ก็ต้องให้เวลาปรับตัวหน่อยล่ะนะ
เพราะมาถึงก็ต้องส่งแพทย์เฉพาะทางกายภาพบำบัดเลยเพราะเจ็บเรื้อรังมา
ส่วนอีกคนก็ลูกรักคนหนึ่งครับ
Kieron Dyer เอามาอุดช่องโหว่โรเตชั่นแบ็กขวากัน หรืออาจจะลองดันไปเล่นกลางก็ยังได้ ได้มาถูกเช่นกันแค่ 3.3m เอง
จริงๆแล้วราคาต้องหนักกว่านี้ 2-3 เท่าเลย แต่น่าจะเป็นเพราะเจ็บบ่อยจึงไม่ได้โอกาสเล่น พอมีทีมอื่นมายื่นซื้อถูก เราก็ตามไปร่วมด้วย
แต่กว่าจะได้มานี่บอกได้เลยว่ายากมากๆ เพราะเจ้าตัวเจ็บอยู่ เซ็นต์แล้วไม่ผ่านการตรวจร่างกายซะงั้น พอไปซื้ออีกทีนิวคาสเซิ่ลก็ไม่ขายแล้ว ก็รอไปหลายเดือนจนวนลูปเดิมว่านักเตะเจ็บไม่ได้โอกาสลงทีมอื่นยื่น ตอนนั้นเราก็ตามไปยื่นด้วย และดึงจังหวะรอให้หายจริงๆก็เลยเซ็นต์มาได้สำเร็จ
แต่ได้มาแล้วก็ต้องส่งให้แพทย์เฉพาะทางดูเช่นเคย และก็ต้องบำบัด 3 อาทิตย์ตามคาด ตอนนี้ก็ยังรออยู่ครับ เร็ววันนี้อาจได้ส่งลงสนามสักนัดเรียกความฟิตก็ได้
จากนั้นแมนยูก็ยังสะดุดต่อเนื่องโดยไปเสมอวูลฟ์ 0-0 พลาด 2 แต้มสำคัญ ทำให้ช่องว่างห่างออกไปอีก
และในนัดที่ 34 เมื่อ Northwich บุกไปเยือนแบล็กเบิร์นถึงถิ่นอีวู้ดพาร์ค แล้วได้ประตูชัยจาก Brennan และจากนักเตะใหม่ที่ลงสนามนัดแรก Dyer ชนะ 2-0
เก็บชัยอีก 2 นัดรวดต่อกัน และเมื่อรวมกับแมนยูที่เพิ่งสะดุดเสมอลิเวอร์พูล แล้วมาสะดุดกับวูลฟ์อีก แต้มก็ขาดไปแล้ว
นั่นคือทีม Northwich คว้าแชมป์ไปแล้วตั้งแต่นัดที่ 34 นี่เอง!
แต่ข่าวร้ายคือทีมชาติเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2008 Skalidis บาดเจ็บในการแข่งขันกระชับมิตรระหว่าง กรีซ กับ สก็อตแลนด์...
เป็นอะไรที่น่าเสียใจและโมโหไปพร้อมๆกัน เข้าใจเลยว่าทำไมผู้จัดการทีมใหญ่ๆถึงไม่อยากปล่อยตัวนักเตะให้กับรายการแบบนี้นัก ถ้าเจ็บในการแข่งขันชิงอันดับไปบอลโลกหรือยุโรปยังพอว่า แต่นัดที่ไม่มีผลอะไรนอกจากค่าสัมประสิทธิ์สะสมนั้น การเจ็บยาวเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดที่สุด
และแน่นอนว่าสโมสรเสียหายมากทั้งจากการที่นักเตะไม่ได้ลง ช่วงนี้มีคิดบอลรอบลึกและรอบชิงบอลถ้วยรออยู่ด้วยแท้ๆ
ส่วนนัดที่เหลือจากนั้นก็ไม่พลาดแต่อย่างใด
อย่างว่าพอได้แชมป์แล้วอะไรก็ดูผ่อนคลายไปหมด เลยมีโรเตชั่นอีกชุดให้ได้แสดงฟอร์มบ้าง และก็เก็บแต้มได้เรียบ
สิริรวม 99 แต้มเลขกำลังดี
กราฟผลงานก็ลอยลำแต่ต้นฤดูกาล เห็นแบบนี้แต่ก็บดกับ Man Utd. หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
สถิติในพรีเมียร์ลีคก็ถูกเพิ่มเข้าอีก 2 ก็คือ
- ทีมที่มีแต้มสูงสุด (99 แต้ม)
- ทีมที่ทำประตูได้มากที่สุด (94 ลูก)
สถิติส่วนตัวก็ได้รับรางวัลผู้จัดการยอดเยี่้ยมแห่งปีอีกสมัยติดกัน ก็ได้เป็นหนที่ 3 ติดกันล่ะ
ผลงานในลีคก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าครับ ทีนี้ก็มีดูผลงานบอลถ้วยที่เหลืออยู่บ้าง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น